ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน นายกสมาคมวิจัยสถาบันและพัฒนาอุดมศึกษา กล่าวถึงการที่สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.)
มีมติให้ยกเลิกการจัดสอบยูเน็ตออกไปโดยไม่มีกำหนดว่า
ไม่ได้หมายความว่าสทศ.จะยกเลิกจัดสอบยูเน็ตไปเลย เพราะในกฎหมายกำหนดไว้ว่าจะต้องมีการประเมินมาตรฐานบัณฑิต โดยยึดกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ หรือทีคิวเอฟ ซึ่งหลายฝ่ายเห็นว่าจำเป็นต้องสอบ แต่ที่ยังไม่สอบตอนนี้ เนื่องจากหน่วยงานที่จะใช้ยูเน็ตยังไม่ยอมใช้ อาจเป็นเพราะยังมีความเข้าใจไม่ตรง แต่ตนเชื่อว่ายูเน็ตจะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากกว่าการวัดผลด้วยการประเมินคุณภาพภายนอกของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) เพราะยูเน็ตจะดูจากตัวชี้วัดภาวะการมีงานทำ หรือความพึงพอใจของนายจ้าง ซึ่งจะสะท้อนข้อมูลกลับไปที่สถาบันอุดมศึกษา เพื่อให้ทราบถึงคุณภาพที่แท้จริงในการจัดการศึกษาด้วย
ศ.ดร.วิจิตร กล่าวต่อไปว่า ในการวัดและประเมินมาตรฐานบัณฑิตนั้น นอกจากดูคุณภาพบัณฑิตแล้วยังต้องดูที่การมีงานทำ ดูสมาคมวิชาชีพพอใจหรือไม่ การศึกษาต่อจะมีปัญหาหรือไม่ และถ้าจะดูเส้นทางความก้าวหน้าในอนาคตที่ตัวบัณฑิตก็ต้องดูลึกลงไปอีก เช่น เมื่อเข้าศึกษาระดับปริญญาตรีจะมีวิชารวมจำนวนหนึ่งที่ไม่ว่าจะไปสู่วิชาชีพไหนก็ต้องเรียน เช่น วิชาภาษาอังกฤษ ภาษาไทย จะสามารถนำมาวัดตรงนี้ได้ว่าในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เป็นอย่างไร แต่ถ้าแตกต่างกันมากในระหว่างวิชาชีพ หากจะมาวัดรวมคงเป็นไปไม่ได้
ผู้สร้างแบบทดสอบไม่จำเป็นต้องทำเองทั้งหมด บางเรื่องอาจจะขอให้สภาวิชาชีพทดสอบแล้วนำมาใช้ประโยชน์ร่วมกัน เช่น แพทย์ อาจจะให้แพทยสภาเป็นผู้วัดผล หรือเรื่องครูก็ให้คุรุสภาทำ เป็นต้น จากนี้ สทศ.ต้องเร่งประชาสัมพันธ์เรื่องการจัดสอบยูเน็ตให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าใจให้ตรงกันโดยเร็ว เพื่อยูเน็ตจะได้เดินหน้าต่อไป ศ.ดร.วิจิตร กล่าว
ด้าน นายศักรินทร์ ไกรสิทธิ์ นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) กล่าวว่า กลุ่มเครือข่ายผู้นำนิสิตนักศึกษา 27 มหาวิทยาลัย ภายใต้ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) มีการประชุมหารือกันตลอดเกี่ยวกับโครงการบัณฑิตไทยไม่โกง โดยหยิบเรื่องยูเน็ตมาหารือทุกครั้ง และจับตามอง สทศ.จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร โดยมั่นใจว่าสทศ.จะนำยูเน็ตกลับมา.
จากเว็ป
http://edunews.thaischool.in.th/28262.html
มั่นใจสอบ U-NET ต้องกลับมาแน่ แนะ สทศ. เร่งสร้างความเข้าใจทุกฝ่าย
ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน นายกสมาคมวิจัยสถาบันและพัฒนาอุดมศึกษา กล่าวถึงการที่สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) มีมติให้ยกเลิกการจัดสอบยูเน็ตออกไปโดยไม่มีกำหนดว่า ไม่ได้หมายความว่าสทศ.จะยกเลิกจัดสอบยูเน็ตไปเลย เพราะในกฎหมายกำหนดไว้ว่าจะต้องมีการประเมินมาตรฐานบัณฑิต โดยยึดกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ หรือทีคิวเอฟ ซึ่งหลายฝ่ายเห็นว่าจำเป็นต้องสอบ แต่ที่ยังไม่สอบตอนนี้ เนื่องจากหน่วยงานที่จะใช้ยูเน็ตยังไม่ยอมใช้ อาจเป็นเพราะยังมีความเข้าใจไม่ตรง แต่ตนเชื่อว่ายูเน็ตจะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากกว่าการวัดผลด้วยการประเมินคุณภาพภายนอกของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) เพราะยูเน็ตจะดูจากตัวชี้วัดภาวะการมีงานทำ หรือความพึงพอใจของนายจ้าง ซึ่งจะสะท้อนข้อมูลกลับไปที่สถาบันอุดมศึกษา เพื่อให้ทราบถึงคุณภาพที่แท้จริงในการจัดการศึกษาด้วย
ศ.ดร.วิจิตร กล่าวต่อไปว่า ในการวัดและประเมินมาตรฐานบัณฑิตนั้น นอกจากดูคุณภาพบัณฑิตแล้วยังต้องดูที่การมีงานทำ ดูสมาคมวิชาชีพพอใจหรือไม่ การศึกษาต่อจะมีปัญหาหรือไม่ และถ้าจะดูเส้นทางความก้าวหน้าในอนาคตที่ตัวบัณฑิตก็ต้องดูลึกลงไปอีก เช่น เมื่อเข้าศึกษาระดับปริญญาตรีจะมีวิชารวมจำนวนหนึ่งที่ไม่ว่าจะไปสู่วิชาชีพไหนก็ต้องเรียน เช่น วิชาภาษาอังกฤษ ภาษาไทย จะสามารถนำมาวัดตรงนี้ได้ว่าในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เป็นอย่างไร แต่ถ้าแตกต่างกันมากในระหว่างวิชาชีพ หากจะมาวัดรวมคงเป็นไปไม่ได้
ผู้สร้างแบบทดสอบไม่จำเป็นต้องทำเองทั้งหมด บางเรื่องอาจจะขอให้สภาวิชาชีพทดสอบแล้วนำมาใช้ประโยชน์ร่วมกัน เช่น แพทย์ อาจจะให้แพทยสภาเป็นผู้วัดผล หรือเรื่องครูก็ให้คุรุสภาทำ เป็นต้น จากนี้ สทศ.ต้องเร่งประชาสัมพันธ์เรื่องการจัดสอบยูเน็ตให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าใจให้ตรงกันโดยเร็ว เพื่อยูเน็ตจะได้เดินหน้าต่อไป ศ.ดร.วิจิตร กล่าว
ด้าน นายศักรินทร์ ไกรสิทธิ์ นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) กล่าวว่า กลุ่มเครือข่ายผู้นำนิสิตนักศึกษา 27 มหาวิทยาลัย ภายใต้ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) มีการประชุมหารือกันตลอดเกี่ยวกับโครงการบัณฑิตไทยไม่โกง โดยหยิบเรื่องยูเน็ตมาหารือทุกครั้ง และจับตามอง สทศ.จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร โดยมั่นใจว่าสทศ.จะนำยูเน็ตกลับมา.
จากเว็ป http://edunews.thaischool.in.th/28262.html