จับแก๊งสกิมเมอร์จ้างพนักงานร้านฉกข้อมูลลูกค้า
http://bit.ly/1howsYX
จับแก๊งสกิมเมอร์รายใหญ่จ้างพนักงานร้านค้าลอบฉกข้อมูลลูกค้า พบก่อเหตุมามากกว่า 4-5ปี มีผู้เสียหายหลายร้อยราย
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รองผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) แถลงผลจับกุม นายสมเกียรติ หรือตั้ม ขันติแก้ว อายุ 35 ปี, นายธีทัต หรือทศ หรือปู ศรีอ่อน อายุ 38 ปี และ นายอาทิตย์ หรืออาร์ต เครือแสง อายุ 32 ปี พร้อมอุปกรณ์คัดลอกข้อมูลบัตรเครดิต อาทิ เครื่องสกิมเมอร์ซึ่งมีไว้สำหรับคัดลอกข้อมูลบัตรเครดิต จำนวน 2 เครื่อง โดยภายในเครื่องมีข้อมูลบัตรเครดิตรวมกว่า 100 ข้อมูล) เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ซึ่งมีโปรแกรมข้อมูลสำหรับบันทึกข้อมูลลงแถบแม่เหล็ก และโปรแกรมถอดข้อมูลออกจากเครื่องสกิมเมอร์ เครื่องบันทึกข้อมูลลงแถบแม่เหล็กและบัตรอิเลคทรอนิกส์ปลอมจำนวนหนึ่ง
พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากธนาคารพาณิชย์ในประเทศกว่า 7 ธนาคาร และธนาคารต่างประเทศอีกหลายประเทศ อาทิ เกาหลี สิงคโปร์ อเมริกา จีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และอื่นๆ ว่าตรวจพบการทุจริตเกี่ยวกับขบวนการคัดลอกข้อมูลบัตรอิเลคทรอนิกส์ในประเทศไทยและกำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ รวมมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท และทำลายชื่อเสียงของประเทศด้านการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
จากการสอบสวนผู้ต้องหาสารภาพว่า จะใช้วิธีเข้าไปติดต่อกับพนักงานแคชเชียร์ หรือพนักงานบริการตามร้านค้าต่างๆ โดยจะมอบเครื่องสกิมเมอร์ขนาดเล็กไว้ให้กับพนักงานเพื่อแอบคัดลอกข้อมูลบัตรเครดิต ที่ลูกค้าใช้ชำระค่าสินค้า ซึ่งใช้เวลาคัดลอกข้อมูลลงเครื่องสกิมเมอร์ไม่เกิน 3 วินาที และสกิมเมอร์ 1 เครื่อง สามารถบันทึกข้อมูลได้กว่า 100 บัตร โดยจะจ่ายค่าจ้างให้พนักงานในราคา 1 ถึง 3 พันบาท ซึ่งคนร้ายมักเลือกสถานที่เป็นย่านร้านค้าย่านธุรกิจในการก่อเหตุ อาทิ อารีย์ ทองหล่อ และสุขุมวิท
ทั้งนี้ขบวนการดังกล่าวก่อเหตุมากว่า 4-5 ปี มีผู้เสียหายหลายร้อยราย ถือว่าเป็นขบวนการใหญ่ ส่วนพนักงานที่ร่วมขบวนการสามารถจับกุมได้กว่า 10 คนแล้วอยู่ระหว่างสอบปากคำ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร พร้อมฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังในการใช้บัตรเครดิต
จับแก๊งสกิมเมอร์จ้างพนักงานร้านฉกข้อมูลลูกค้า
http://bit.ly/1howsYX
จับแก๊งสกิมเมอร์รายใหญ่จ้างพนักงานร้านค้าลอบฉกข้อมูลลูกค้า พบก่อเหตุมามากกว่า 4-5ปี มีผู้เสียหายหลายร้อยราย
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รองผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) แถลงผลจับกุม นายสมเกียรติ หรือตั้ม ขันติแก้ว อายุ 35 ปี, นายธีทัต หรือทศ หรือปู ศรีอ่อน อายุ 38 ปี และ นายอาทิตย์ หรืออาร์ต เครือแสง อายุ 32 ปี พร้อมอุปกรณ์คัดลอกข้อมูลบัตรเครดิต อาทิ เครื่องสกิมเมอร์ซึ่งมีไว้สำหรับคัดลอกข้อมูลบัตรเครดิต จำนวน 2 เครื่อง โดยภายในเครื่องมีข้อมูลบัตรเครดิตรวมกว่า 100 ข้อมูล) เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ซึ่งมีโปรแกรมข้อมูลสำหรับบันทึกข้อมูลลงแถบแม่เหล็ก และโปรแกรมถอดข้อมูลออกจากเครื่องสกิมเมอร์ เครื่องบันทึกข้อมูลลงแถบแม่เหล็กและบัตรอิเลคทรอนิกส์ปลอมจำนวนหนึ่ง
พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากธนาคารพาณิชย์ในประเทศกว่า 7 ธนาคาร และธนาคารต่างประเทศอีกหลายประเทศ อาทิ เกาหลี สิงคโปร์ อเมริกา จีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และอื่นๆ ว่าตรวจพบการทุจริตเกี่ยวกับขบวนการคัดลอกข้อมูลบัตรอิเลคทรอนิกส์ในประเทศไทยและกำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ รวมมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท และทำลายชื่อเสียงของประเทศด้านการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
จากการสอบสวนผู้ต้องหาสารภาพว่า จะใช้วิธีเข้าไปติดต่อกับพนักงานแคชเชียร์ หรือพนักงานบริการตามร้านค้าต่างๆ โดยจะมอบเครื่องสกิมเมอร์ขนาดเล็กไว้ให้กับพนักงานเพื่อแอบคัดลอกข้อมูลบัตรเครดิต ที่ลูกค้าใช้ชำระค่าสินค้า ซึ่งใช้เวลาคัดลอกข้อมูลลงเครื่องสกิมเมอร์ไม่เกิน 3 วินาที และสกิมเมอร์ 1 เครื่อง สามารถบันทึกข้อมูลได้กว่า 100 บัตร โดยจะจ่ายค่าจ้างให้พนักงานในราคา 1 ถึง 3 พันบาท ซึ่งคนร้ายมักเลือกสถานที่เป็นย่านร้านค้าย่านธุรกิจในการก่อเหตุ อาทิ อารีย์ ทองหล่อ และสุขุมวิท
ทั้งนี้ขบวนการดังกล่าวก่อเหตุมากว่า 4-5 ปี มีผู้เสียหายหลายร้อยราย ถือว่าเป็นขบวนการใหญ่ ส่วนพนักงานที่ร่วมขบวนการสามารถจับกุมได้กว่า 10 คนแล้วอยู่ระหว่างสอบปากคำ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร พร้อมฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังในการใช้บัตรเครดิต