สวัสดีครับเพื่อน พี่ น้องชาวพันทิพทุกท่าน
วันนี้มีเรื่องราวดีๆอยากแบ่งปันให้รับชม รับฟังกันนะครับทุกอย่างที่พิมพ์ลงไปอาจใช้เวลานาน
ในการกรั่นกรองเป็นตัวหนังสือออกมาอยากให้เป็นแรงบัลดาลใจให้กับคนที่อยากออกกำลัง
และชื่นชอบในการออกกำลังด้วยจักรยานนะครับ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะครับ
ผมชื่อ คมสันนะครับเป็นอดีตนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทย ทีมสยามพารา ทีมราชนาวี
หลังจากที่ได้หยุดการปั่นไปประมาณ4 ปี เพราะต้องทำงานประจำเป็นพนักงานเงินเดือนเหมือนท่านอื่นๆ
เวลาในการปั่นก็ลดลงมีเวลาแค่วันอาทิตย์เท่านั้น แต่ก็ชื่นชอบกีฬาประเภทนี้ที่สุดปั่นมาตั้งแต่อายุ19ที่เป็นทีมชาติจนถึง25
เรียนจบมาก็ทำงานอยู่ที่ร้านของทางบ้านจึงมีเวลาในการปั่นมากกว่าทำงานประจำ แต่มีเหตุทำให้ต้อง
ออกจากทางร้านที่บ้านมาทำงานประจำอย่างที่ผมยัง งงกับตัวเองในปัจจุบัน ไม่ใช่ว่างานประจำไม่ดีนะครับ
คืองานกับวุฒิที่ผมจบมามันคนละเรื่องกันเลย ก็ขอขอบคุณท่านผู้ใหญ่ที่อุปการะผมมาด้วย
เข้าเรื่องเกี่ยวกับจักรยานกับ office กันเลย อย่างที่บอกว่ามีเวลาน้อยหลังจากเลิกงานปกติแล้ว
ผมก็ชอบเล่นบาสที่บริษัท เพราะกลับไปก็ไม่ได้ออกกำลังเลยเอาที่โรงงานที่ทำงานเนี่ยแหละ
เล่นกับเพื่อนที่ทำงาน หลังเลิกงานคือแบบว่าไม่จับจักรยานเลย แล้วไม่มีจักรยานด้วยเพราะคืน
บริษัทสปอนเซอร์ไปแล้วก็คิดว่าตั้งใจทำงานเก็บเงินซื้อเองก็ดีกว่าเป็นของตัวเอง จนทำงานมาเรื่อยๆแบบว่ามี
อยู่ช่วงนึงคือพอไม่ได้ขี่นานๆเข้าก็รู้สึกว่าไม่ได้อยากขี่มันอีกแล้ว ทำงานก็เหนื่อยอยู่กลับบ้านก็หมดแรงเป็นอย่างนี้
นานซัก 2ปีก็ประจวบเหมาะกับที่ทำงานมีการแข่งบาสแบบเชื่อมความสัมพันธ์กับบริษัทไกล้ๆกันเลยเล่นด้วย จน
เกิดอุบัติเหตุทำให้เหมือนเส้นเอ็นขาด เข่าบวม ปวดมาก ไปพบหมอบอกว่าหัวเข่ายังใช้ได้ดีอยู่แต่อาจไม่ร้อยเหมือนเดิม
งด การเล่นบาส เล่นบอล อะไรก็ได้ที่กระแทกกับหัวเข่า ในตอนนั้น" จักรยาน " ก็แว่บเข้ามาในหัวทันที
ด้วยความที่ไม่ได้จับมานานเลยทำให้ เอาไงดีฟ่ะ แต่อยากออกกำลังอยู่ก็เลยไปดูกับแฟน
ตอนนั้นมีน้อง1คนก็มีความคิดว่าเอามาแล้วไม่มีเวลาขี่แน่เลย ลูกยังเล็ก แต่ก็หมอแนะนำว่าการออกกำลังสำหรับคุณน่ะ
ขี่จักรยานมันดีสุดแล้วนะ หมอแนะนำ ก็นักกีฬาเก่าด้วยเลย จัดไป ก่อนหน้านั้นน้ำหนัดตัวขึ้นมาเยอะจากเมื่อก่อนเป็นนักกีฬานี่
64-65 ทำงานขึ้นมาเป็น 78 กิโล รู้สึกอึดอัดตัว เอาก็เอาว่ะคิดในใจ เอามาแล้วก็ต้องปั่น ก็ขี่มันมาจนวันนี้น้ำหนักก็อยู่70+/-2
ก็ยังดีกว่าไม่ได้ออกกำลังเลย พอขี่ก็อยากปั่นเยอะๆเข้าหาเวลาเท่าที่มี ออกโอทีบ้าง ไปปั่นลูกเริ่มโตด้วย ตอนนี้รู้สึกดีขึ้น
อยากบอกทุกคนว่า ควรหาเวลามาออกกำลังหลังจากการทำงานประจำบ้าง ดีจริงๆนะ ตอนนี้กำลังชวนแฟนผมปั่นจักรยาน
ด้วยกันเอาลูกไปด้วย มีเวลาก็ไปปั่นแข่งบ้างเท่าทีมีแรงกับเวลาจะเอิ้ออำนวย แนะนำพี่ที่รู้จักปั่น เทคนิคต่างๆที่เคยได้ ที่เคยทำมา
ถ่ายทอด กันไป งานประจำก็ทำควบคู่กัน ตอนนี้มีความสุขดี ว่าแต่อ่านจบแล้ว อยากให้หาเวลาให้กับตัวเองบ้างนะครับ
ถ้ามีเวลาอาจจะหาเทคนิคการปั่นต่างๆมาแบ่งปันกันครับ ไปก่อนนะครับ จุ๊บๆ
* ปล พิมพ์ผิดบ้าง ถูกบ้าง พิมพ์วกวนไปบ้าง ก็ขออภัยนะที่นี้ด้วยนะครับ บายๆ
*ในรูปนี้น้ำหนัก 78kg.
*สมัยเป็นนักกีฬา
*จะพาลูกสาวไปปั่นด้วย รออีกหน่อยให้เขาโตขึ้นอีกนิด
จากทีมชาติเสือหมอบสู่พนักงาน office
วันนี้มีเรื่องราวดีๆอยากแบ่งปันให้รับชม รับฟังกันนะครับทุกอย่างที่พิมพ์ลงไปอาจใช้เวลานาน
ในการกรั่นกรองเป็นตัวหนังสือออกมาอยากให้เป็นแรงบัลดาลใจให้กับคนที่อยากออกกำลัง
และชื่นชอบในการออกกำลังด้วยจักรยานนะครับ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะครับ
ผมชื่อ คมสันนะครับเป็นอดีตนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทย ทีมสยามพารา ทีมราชนาวี
หลังจากที่ได้หยุดการปั่นไปประมาณ4 ปี เพราะต้องทำงานประจำเป็นพนักงานเงินเดือนเหมือนท่านอื่นๆ
เวลาในการปั่นก็ลดลงมีเวลาแค่วันอาทิตย์เท่านั้น แต่ก็ชื่นชอบกีฬาประเภทนี้ที่สุดปั่นมาตั้งแต่อายุ19ที่เป็นทีมชาติจนถึง25
เรียนจบมาก็ทำงานอยู่ที่ร้านของทางบ้านจึงมีเวลาในการปั่นมากกว่าทำงานประจำ แต่มีเหตุทำให้ต้อง
ออกจากทางร้านที่บ้านมาทำงานประจำอย่างที่ผมยัง งงกับตัวเองในปัจจุบัน ไม่ใช่ว่างานประจำไม่ดีนะครับ
คืองานกับวุฒิที่ผมจบมามันคนละเรื่องกันเลย ก็ขอขอบคุณท่านผู้ใหญ่ที่อุปการะผมมาด้วย
เข้าเรื่องเกี่ยวกับจักรยานกับ office กันเลย อย่างที่บอกว่ามีเวลาน้อยหลังจากเลิกงานปกติแล้ว
ผมก็ชอบเล่นบาสที่บริษัท เพราะกลับไปก็ไม่ได้ออกกำลังเลยเอาที่โรงงานที่ทำงานเนี่ยแหละ
เล่นกับเพื่อนที่ทำงาน หลังเลิกงานคือแบบว่าไม่จับจักรยานเลย แล้วไม่มีจักรยานด้วยเพราะคืน
บริษัทสปอนเซอร์ไปแล้วก็คิดว่าตั้งใจทำงานเก็บเงินซื้อเองก็ดีกว่าเป็นของตัวเอง จนทำงานมาเรื่อยๆแบบว่ามี
อยู่ช่วงนึงคือพอไม่ได้ขี่นานๆเข้าก็รู้สึกว่าไม่ได้อยากขี่มันอีกแล้ว ทำงานก็เหนื่อยอยู่กลับบ้านก็หมดแรงเป็นอย่างนี้
นานซัก 2ปีก็ประจวบเหมาะกับที่ทำงานมีการแข่งบาสแบบเชื่อมความสัมพันธ์กับบริษัทไกล้ๆกันเลยเล่นด้วย จน
เกิดอุบัติเหตุทำให้เหมือนเส้นเอ็นขาด เข่าบวม ปวดมาก ไปพบหมอบอกว่าหัวเข่ายังใช้ได้ดีอยู่แต่อาจไม่ร้อยเหมือนเดิม
งด การเล่นบาส เล่นบอล อะไรก็ได้ที่กระแทกกับหัวเข่า ในตอนนั้น" จักรยาน " ก็แว่บเข้ามาในหัวทันที
ด้วยความที่ไม่ได้จับมานานเลยทำให้ เอาไงดีฟ่ะ แต่อยากออกกำลังอยู่ก็เลยไปดูกับแฟน
ตอนนั้นมีน้อง1คนก็มีความคิดว่าเอามาแล้วไม่มีเวลาขี่แน่เลย ลูกยังเล็ก แต่ก็หมอแนะนำว่าการออกกำลังสำหรับคุณน่ะ
ขี่จักรยานมันดีสุดแล้วนะ หมอแนะนำ ก็นักกีฬาเก่าด้วยเลย จัดไป ก่อนหน้านั้นน้ำหนัดตัวขึ้นมาเยอะจากเมื่อก่อนเป็นนักกีฬานี่
64-65 ทำงานขึ้นมาเป็น 78 กิโล รู้สึกอึดอัดตัว เอาก็เอาว่ะคิดในใจ เอามาแล้วก็ต้องปั่น ก็ขี่มันมาจนวันนี้น้ำหนักก็อยู่70+/-2
ก็ยังดีกว่าไม่ได้ออกกำลังเลย พอขี่ก็อยากปั่นเยอะๆเข้าหาเวลาเท่าที่มี ออกโอทีบ้าง ไปปั่นลูกเริ่มโตด้วย ตอนนี้รู้สึกดีขึ้น
อยากบอกทุกคนว่า ควรหาเวลามาออกกำลังหลังจากการทำงานประจำบ้าง ดีจริงๆนะ ตอนนี้กำลังชวนแฟนผมปั่นจักรยาน
ด้วยกันเอาลูกไปด้วย มีเวลาก็ไปปั่นแข่งบ้างเท่าทีมีแรงกับเวลาจะเอิ้ออำนวย แนะนำพี่ที่รู้จักปั่น เทคนิคต่างๆที่เคยได้ ที่เคยทำมา
ถ่ายทอด กันไป งานประจำก็ทำควบคู่กัน ตอนนี้มีความสุขดี ว่าแต่อ่านจบแล้ว อยากให้หาเวลาให้กับตัวเองบ้างนะครับ
ถ้ามีเวลาอาจจะหาเทคนิคการปั่นต่างๆมาแบ่งปันกันครับ ไปก่อนนะครับ จุ๊บๆ
* ปล พิมพ์ผิดบ้าง ถูกบ้าง พิมพ์วกวนไปบ้าง ก็ขออภัยนะที่นี้ด้วยนะครับ บายๆ
*ในรูปนี้น้ำหนัก 78kg.
*สมัยเป็นนักกีฬา
*จะพาลูกสาวไปปั่นด้วย รออีกหน่อยให้เขาโตขึ้นอีกนิด