อสัสสตทิฐิ นั้นแหล่ะครับ.......ตองเก้า

"กล่าวฝ่ายพระมุณีฤษีศีล   ข้าวปลาไม่กิน"  .......เพราะต้องวุ่นวายว่าทำไงหนอ  จึงจะทำให้คนที่ไม่เข้าใจ
คำพูดของท่านพุทธทาส  จะมีความเข้าใจเหมือนเรา  ว่าแล้วก็ลองเอาเรื่องอสัสสตทิฐิมาอธิบาย   ลองดูว่าจะเกิดมรรคผลอะไรมั้ย

ที่ท่านพุทธทาสพูดว่า     ปุพเพนิวาสานุสสติญาณที่แท้จริง ( ซึ่งไม่เป็นสัสสตทิฎฐิ)........
นี่ก็หมายถึง  ปุพเพนิวาสานุสสติญาณที่แท้จริง  ก็คือ  อสัสสตทิฐิ   
แท้จริงหมายถึงอะไร  แท้จริงมันไม่ได้หมายความว่า  ของท่านพุทธทาสจริง  ของคนอื่นเที่ยม
แท้จริงที่ว่า   คือจริงในความเป็น อสัสสตทิฐิ   ไม่ใช่จริงในความเป็น  ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ

ความเป็นปุพเพนิวาสานุสสติญาณ    มีทั้งเป็นสัสสตทิฐิและอสัสสตทิฐิ
ผู้ที่จะเจริญองค์อริยมรรค๘   จะต้องเป็นไปแต่อสัสสตทิฐิ  เท่านั้น
.......



พระอริยสาวก  จะบอกว่า  เมื่อชาติก่อนตนเคยเป็นอะไรมา  อาจเป็นเทพบุตรแบบพี่เหลิม  เป็นนกแก้วแบบคันโทน่า
เป็นกรวดหินดินทรายแบบพระเตช......การพูดแบบนี้ย่อมได้  แต่จะบอกว่าพระอริยสาวกตั้งแต่พระโสดาบัน  มีทิฐิเช่นนี้ไม่ได้
เพราะการมีทิฐิเช่นนี้มันเป็นสัสสตทิฐิ   พระโสดาบันมีแต่อสสัสสตทิฐิ.....ตามพระสูตร

และพระสูตรก็เป็นไปในทำนองเดียวกับสิ่งที่ท่านพุทธกล่าวอ้าง
หัวเราะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่