ขอเกริ่นนำนิดนึง.
เราย้ายมาทำงานที่อ.เล็กๆอำเภอนึงที่ห่างไกลความเจริญ หอพักมีให้เลือกน้อยมาก หรือเลือกไม่ได้เลย
แล้วก็ได้มาพักหอนี้ที่เป็นหอที่ดีที่สุดในอำเภอ ใครๆก็อยากมาอยู่ เต็มตลอดไม่เคยว่าง เจ้าของหอป้าแกอัธยาศัยดีมาก เป็นมิตร
มีปัญหาอะไรบอกแกจัดการให้ ดูแกใจดีมาก แกชอบต่อเติมนู้นนี้ในหอตลอด ทำให้หอมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

เข้าเรื่อง.
ปกติเราไม่ค่อยได้อยู่หอออกไปทำงานแต่เช้ากลับเย็นๆ เสาร์อาทิตย์ก็กลับบ้านที่อยู่อีกจังหวัดนึงอยู่บ่อยๆ เลยใช้ไฟไม่เปลือง ค่าไฟปกติ 100-200 บ./ด.
เรื่องค่าไฟค่าน้ำไม่เป็นปัญหาสำหรับเรา ป้าแกเขียนใส่เท่าไร ไม่เคยดูเคยถาม ถึงแม้จะเขียนแต่จำนวนเงินมาให้ก็ตาม ก็ไม่เคยสงสัย
เพราะความที่เราไว้ใจป้าแก ดูป้าแกใจดูมาก แฟร์ๆ แล้วเราก็สนิทกับป้าแก สนิทกับลูกแกด้วย และไม่มีท่าทีจะโกงเราได้แน่นอน จนมาค่าไฟเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเป็น 200-300 เราก็ยังไม่สนใจ

พอมาเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ค่าไฟฟุ้งกระฉูดเป็น 920 บ. ทีแรกก็ตกใจ แต่ไม่คิดไรมาก อาจจะเป็นเพราะเราเปิดแอร์เยอะมากไปมั่ง
แล้วเดือนนั้นก็ไม่ค่อยได้กลับบ้าน แถมป้าแกก็ดูเป็นกังวลกับค่าไฟของเราที่แพงขึ้น แล้วยังบอกเราอีกว่าไปดูมิเตอร์หน้าห้องได้เลย
แถมในใบเสร็จยังเขียนเลขมาตรไว้อีกว่า 649 ใช้ไป 186 หน่วย (ไม่เขียนเลขว่าเริ่มใช้มาเท่าไร ถ้าคิดตามแกจด จะเริ่มนับไฟที่ 649-186 = 463)
ไอ้เราก็เชื่อสนิทเลย มิเตอร์ติดอยู่หน้าห้องบนหัว ไม่เคยดูเลย "ไว้ใจ" คำนี้คำเดียวที่ทำให้ไม่เคยมองขึ้นไปดูมิเตอร์หน้าห้องบนหัว

พอมาเดือน พ.ค. ใบเสร็จมาแหละ รู้แน่ๆค่าไฟยังไงก็ไม่ถึงเก้าร้อยแน่นอน เพราะแทบไม่อยู่ห้องกลับบ้านตลอด เปิดบิลใบเสร็จมา ช็อคเลย!! ค่าไฟ 850 บ. เฮ้ยมันไม่ใช่แล้ว คราวนี้ป้าแกเขียนเลขมาตรมา 479-649 ใช้ไป 170 หน่วย
อ้าววว เลขมาตรมันเดินย้อนหลังได้ด้วยเหรอ แล้วไงมาลงที่ 649 อีกแล้ว งงมาก เลยออกไปดูมิเตอร์หน้าห้องเป็นเลข 484 จ้าา !!! โอ้ยช็อคกว่าเดิม

วันถัดไปเลยเข้าไปถามป้าแกพร้อมหลักฐาน แกก็บอกไม่ได้จดเลขเอง ลูกเป็นคนจด พอลูกมาก็พากันอืมๆอำๆๆกันสองคน แล้วก็บอกว่าตัวเองจดเลขมาถูก จดมาเลขนี้จริงๆ เราก็เถียงว่ามิเตอร์ตอนนี้เรามันเป็น 484 นะ 649 มาจากไหนจดเลขผิดหรือป่าว สองแม่ลูกก็ยังพรึมพำ เรารอดูท่าทีว่าจะตอบยังไง เลขที่จดมันมั่วมากทั้งเดือนเม.ย. พ.ค. แกก็ยังยืนยันกระต่ายขาเดียว แล้วบอกให้เรากลับไปห้องก่อนขอคุยกับลูกก่อน

พอเรากลับห้อง แกก็เรียกออกมา บอกว่ามิเตอร์อาจจะเสีย ไฟอาจจะไม่วิ่ง เดี่ยวจะให้ช่างมาดูว่าอะไรยังไง (อ้อเหรอ มิเตอร์เสีย ไฟไม่วิ่ง ค่าไฟต้องถูกลงจริงมั้ย แล้วถ้ามิเตอร์เสีย มันจะเดินย้อนหลังกลับไปมาได้ด้วยเหรอ.. คิดในใจ TT)  แล้วแกก็เรียกเก็บค่าไฟเป็น 250 บ.
เพราะแกไม่สามารถบอกได้ว่าเราใช้ไปเท่าไร แกระบุให้จ่ายเป็น 250 บ.เลย (ถ้าให้ยึดเลขมาตร พ.ค.ที่แกจดเริ่มต้น 479 ลบ 484 เลขมาตรปัจจุบัน = 5 หน่วยเอง)
เราแบบอึ้ง อึ้งกับคำตอบของแก ไม่คิดว่าแกจะดริฟลงเขาอากิระได้ถึงขนาดนี้ เราไม่สามารถพูดอะไรได้เลย ณ ตอนนั้น ข้อมูลที่เตรียมมาเพื่อเถียงแกทั้งหมดมันหายไปเลย ความรู้สึกรู้ว่าตัวเองถูกโกง แต่ยอมให้เค้าโกงอ่ะ เพราะไม่อยากมีเรื่องมีปัญหากัน ก็เลยยอมๆแกไป แต่ในใจโคตรช้ำ

มันเสียความรู้สึกมาก ไม่มีคำพูดขอโทษออกจากปาก ไม่มีคำอธิบายแหล่งที่มาของเลข 649 ไม่มีคำยอมรับผิด ไม่มีการพูดถึงค่าไฟเม.ย. 920 บ.ว่ามันไม่ถูกต้อง มีแต่คำแก้ตัวยืนยันว่าตัวเองจดเลขมาถูก โทษแต่มิเตอร์เสีย แล้วดริฟลงคลอง...
ไม่เคยคิดเลยว่าแกจะเป็นคนแบบนี้ ความรู้สึกดีๆที่มีให้กัน มิตรภาพที่เคยหยิบยื่นให้ตลอด เหมือนโดนหักหลัง
ถึงแม้จะเป็นจำนวนเงินไม่เยอะ แต่เราเคยคิดเสมอว่าแกเป็นคนดี ไว้ใจได้ เชื่อใจได้ ต่อไปเราคงต้องระวังให้มากขึ้น
ถือว่าเป็นบทเรียนอย่างนึงในชีวิต คงจะยอมให้ได้แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ต่อไปอย่าหวังจะมีอีกเลย หมดแล้วความเชื่อใจไว้ใจไม่มีอีกแล้ว !!!