สวัสดียามเช้าวันพฤหัสบดีครับ พี่ๆ น้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call Option ทุกๆท่าน

เมื่อวานนี้ SET index เริ่มเห็นการฟื้นตัวขึ้นมา หลังจากที่วันก่อนร่วงลงไปอย่างรุนแรง เนื่องจาก นักลงทุนต่างชาติเทขายทำกำไร
ออกมา หลังจาก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ  (คสช)   เข้ายึดอำนาจการปกครอง  อย่างไรก็ตาม ได้มีประกาศจาก คสช ว่า ยังไม่ละทิ้ง
การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน "Infrastructure" จึงทำให้วันนี้มี นักลงทุนบางกลุ่มเข้ามา ไล่ซื้อหุ้นกลุ่ม ธนาคาร เป็นหลัก
ดันให้ ดัชนี กลับขึ้นมายืน 1400 จุด อีกครั้ง  และปิดไปที่ระดับ 1402 จุด +10.06 จุด  วันนี้มาติดตามกันต่อว่า จะสามารถพุ่งทะยานขึ้นไป
ได้อีกไกลแค่ไหน

Fundamental

"เอเชียเช้านี้" ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดลดลง 85.31 จุด หรือ -0.58% แตะที่ 14,585.64 จุดในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุน
เทขายทำกำไรหลังจากนิกเกอิพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวันทำการก่อนหน้านี้

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปรับตัวขึ้นราว 4.5% ในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมา นอกจากนี้ การที่เงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์
ยังได้ฉุดหุ้นกลุ่มที่ต้องพึ่งพาการส่งออกร่วงลงด้วย รวมถึงหุ้นผู้ผลิตเครื่องจักรไฟฟ้า


ฝั่งสหรัฐ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีทะยานขึ้นแตะระดับ
สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจีดีพีไตรมาสแรก

ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,633.18 จุด ลดลง 42.32 จุด หรือ -0.25%
ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,225.07 จุด ลดลง 12.00 จุด หรือ -0.28%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,909.78 จุด ลดลง 2.13 จุด หรือ -0.11%

นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันหลายวันทำการก่อนหน้านี้ โดยดัชนี S&P ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
ซึ่งมีการเปิดเผยในวันดังกล่าว

ขณะเดียวกันนักลงทุนจำนวนหนึ่งได้พากันปลีกตัวออกนอกตลาด ก่อนที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยการประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวม
ภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาสแรกในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากที่การประมาณการครั้งแรกระบุว่า จีดีพีไตรมาสแรกขยายตัวเพียง 0.1%
ซึ่งต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4/2555 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัวราว 1.1% เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นผิดปกติเป็นอุปสรรค
ต่อการลงทุนทางธุรกิจ

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวนเมื่อคืนนี้ เนื่องจากไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ มีแต่เพียงรายงาน
ของบรรษัทประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) ที่ระบุว่า ภาคธนาคารของสหรัฐมีรายได้ลดลงมาแตะที่ 3.72 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส
แรกของปี 2557 ลดลง 7.6% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการปรับตัวลงอย่างมากของรายได้จากการอนุมัติสินเชื่อจำนองและรายได้
จากการซื้อขาย

- หุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลง โดยหุ้นดอลลาร์ เจนเนอรัล ผู้ประกอบการร้านดิสเคาท์สโตร์รายใหญ่ ร่วงลง 3% หลังจากนักวิเคราะห์ของดอยช์ แบงก์
ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว ขณะที่หุ้น Lowe's ดิ่งลง 2.2% หลังจากถูกนักวิเคราะห์ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนเช่นกัน

- หุ้นทวิตเตอร์ ทะยานขึ้น 11% หลังจากนักวิเคราะห์ของโนมูระแนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้นทวิตเตอร์ หลังจากราคาหุ้นดังกล่าวดิ่งลงไปถึง 50% ในปีนี้


"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดเกือบทรงตัวเมื่อคืนนี้ (28 พ.ค.) ขณะที่บรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้น
กลุ่มเวชภัณฑ์ โดยหุ้นแกล็คโซสมิธไคลน์ร่วงลงอย่างหนัก

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลงเกือบ 0.1% ปิดที่ 344.29 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,531.63 จุด เพิ่มขึ้น 1.88 จุด หรือ +0.04%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,939.17 จุด ลดลง 1.65 จุด หรือ -0.02%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,851.22 จุด เพิ่มขึ้น 6.28 จุด หรือ +0.09%

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจของยูโรโซนที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ คณะกรรมาธิการยุโรปรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้บริหารและผู้บริโภคที่มีต่อเศรษฐกิจยูโรโซน เพิ่มขึ้นแตะ 102.7 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 102 ในเดือนเม.ย พร้อมระบุว่าธนาคารกลางยุโรปกำลังพิจารณาที่จะดำเนินการ
เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเงินฝืด และเพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ

- หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ร่วงลง โดยหุ้นแกล็คโซสมิธไคลน์ดิ่งลง 1.6% หลังจากสำนักงานปราบอาชญากรเศรษฐกิจของอังกฤษ (SFO) เริ่มดำเนินการ
ตรวจสอบแกล็คโซสมิธไคลน์ในคดีอาญา อันเนื่องมาจากข่าวที่เกิดขึ้นในประเทศจีนว่า พนักงานของแกล็คโซสมิธไคลน์ได้ให้สินบนแพทย์
โรงพยาบาล และองค์กรทางการแพทย์ เพื่อต้องการเพิ่มยอดขาย

- หุ้นเทเลคอม อิตาเลีย พุ่งขึ้น 4% เพราะได้แรงหนุนจากการที่โกลด์แมน แซคส์ แนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้นดังกล่าว

Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์




Technical Analysis

SET index TF Day : หลังจากที่วันอังคารก่อน ปิดไปในรูปแบบ "Harami in Downtrend" บน EMA200 วัน ทำให้เช้าวานนี้
ดัชนีสามรถพุ่งทะยานขึ้นไปได้อย่างรุนแรง และในระหว่างพุ่งขึ้นไปกว่า 17 จุด จนสามารถปิด Gap ที่เปิดไว้ เมื่อวันก่อนได้ สำเร็จ  
อย่างไรก็ตามช่วงบ่ายแก่ๆ เริ่มเจอแรงเทขายออกมา  จนทำให้ย่อตัวลงมาปิดแท่งเทียนไปแบบ "Shoothing Star" เป็นลางไม่ดีซะแล้ว


S50M14 TF Day : หลังจากที่วันอังคารก่อน ปิดตัวไปในรูปแบบ "Harami in Downtrend" ทำให้เช้าวานนี้ ดัชนีสามารถพุ่ง
ทะยานขึ้นไปได้อย่างรุนแรง  พร้อมปิดแท่งเทียน ยืนเหนือ EMA25 วัน ได้ทำให้ภาพสัญญาณกลับมาดูดีอีกครั้ง
ดังนั้นจึงทำให้ วันนี้มีโอกาสที่จะพุ่งทะยานขึ้นไปได้อีก

TF60 : เมื่อวานนี้สามารถพุ่งทะยานขึ้นมาได้อย่างรุนแรง และกลับมายืนเหนือ EMA ทั้ง 3 เส้น ได้อย่างแข็งแกร่ง  พร้อมกับคลาย
สัญญาณ Dead Cross ได้สำเร็จ ช่างเป็นภาพสัญญาณที่สวยงามยิ่งนัก จึงคาดว่า แนวโน้มวันนี้ มีโอกาสพุ่งทะยานขึ้นไปได้ต่อ
อย่างไรก็ตามอย่าให้หลุด Support line เพราะถ้าหลุดแล้ว มีโอกาสไหลลงไป แรงๆ ก็เป็นได้

Resistance 950 955 960 / 1410 1420 1426
Support 940 935 930 / 1390 1380 1375

*EOD End of day

ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ

*สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ  ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ  เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ