สวัสดียามเช้าวันจันทร์ วันแรก ของสัปดาห์การทำงาน ครับ พี่ๆ น้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call Option
เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนี SET index ยังคงทะยานใต่ระดับขึ้นมาอย่างต่อ และ แข็งแกร่ง ภายหลังจากมีเม็ดเงินจาก
นักลงทุนต่างชาติ (Fund Flow) ไหลกลับเข้ามา ซื้อหุ้น "Big Cap"อย่างต่อเนื่อง สังเกตุได้จากค่าเงินบาท
ที่เเข็งค่าติดต่อกันหลายวัน เนื่องจากรายงาน ผลการประชุมธนาคารกลางสัหรัฐFOMC Minute เปิดเผยออกมาว่า FED
จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย เร็วๆนี้ เพราะยังคงกังวลเศรษฐกิจโลก ที่ชะลอตัวอยู่ ดังนั้น จึงทำให้ดัชนี SET index พุ่งขึ้นไปปิด
ตัวที่ระดับ 1411 จุด +19.18 จุด วันนี้มาติดตามกันต่อ ว่าดัชนี ตะทะยานขึ้นไปอย่างร้อนแรง ได้อีกวัน หรือไม่
Fundamental
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (9 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับรายงานการประชุมนโยบาย
การเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 33.74 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 17,084.49 จุด
ดัชนี S&P 500 บวก 1.46 จุด หรือ 0.07% ปิดที่ 2,014.89 จุด
ดัชนี Nasdaq ปรับขึ้น 19.68 จุด หรือ 0.41% ปิดที่ 4,830.47 จุด
ตลาดปรับตัวแข็งแกร่งต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนจำนวนมากมองว่าเฟดอาจจะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากรายงานการประชุม
นโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 16-17 ก.ย. ระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ยังคงค่อนข้างต่ำ และเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะ
ยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดอาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ออกไปเป็นปีหน้า
นอกจากนี้ นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก ยังออกมาแสดงความเห็นว่า สถานการณ์ในต่างประเทศและภาวการณ์ทางการเงิน
เมื่อเร็วๆนี้ ทำให้เกิดความไม่แน่ใจเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของแนวโน้มเศรษฐกิจโลก
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคานำเข้าร่วงลง 0.1% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน
โดยเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ดัชนีราคานำเข้าปรับตัวลงจากผลกระทบของดอลลาร์ที่แข็งค่า และการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
ในต่างประเทศ
ราคานำเข้าอาหารและสินค้าทุนต่างปรับตัวลงในเดือนก.ย. ขณะที่ราคาสินค้าเพื่อผู้บริโภค และพลังงานดีดตัวขึ้น
หุ้นแอปเปิล ปรับตัวขึ้น 2.4% ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี แต่หุ้นอัลโค ร่วง 6.8% หลังบริษัทเปิดเผยว่า กำไรในไตรมาส 3/2558
อยู่ที่ 44 ล้านดอลลาร์ หรือ 2 เซนต์ต่อหุ้น ซึ่งลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 149 ล้านดอลลาร์ หรือ 12 เซนต์ต่อหุ้น
รายงานระบุว่า สาเหตุที่ทำให้กำไรของอัลโคลดลงอย่างมากในไตรมาส 3 นั้น มาจากการที่บริษัทปิดเหมืองหลายแห่ง และปรับลดกำลังการ
ถลุงแร่เหล็ก หลังจากราคาอลูมินัมอ่อนแรงลง
"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมือง และรายงานการประชุม
ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แสดงให้เห็นว่าเฟดยังคงลังเลที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 1.21 จุด หรือ 0.33% ปิดที่ 362.82 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส บวก 25.48 จุด หรือ 0.54% ปิดที่ 4,701.39 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี พุ่ง 103.53 จุด หรือ 1.04% ปิดที่ 10,096.60 จุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปรับขึ้น 41.34 จุด หรือ 0.65% ปิดที่ 6,416.16 จุด
ตลาดพุ่งขึ้น ขานรับรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดเมื่อวันที่ 16-17 ก.ย. ที่แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ
ที่ยังค่อนข้างต่ำ และเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า
เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของเฟดคาดว่าสถานการณ์ในตลาดโลกในช่วงที่ผ่านมามีแนวโน้มจะกดดันเงินเฟ้อต่อไปในระยะใกล้นี้
และจะก่อให้เกิดความเสี่ยงช่วงขาลงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
นักวิเคราะห์ระบุว่า มีนักลงทุนจำนวนมากขึ้นที่เชื่อว่าเฟดจะไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงต้นปี 2559
ความหวังที่ว่าเฟดจะเลื่อนการปรับขึ้นดอกเบี้ยออกไปเป็นปีหน้าได้ช่วยหนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ นำโดยหุ้นกลุ่มเหมือง
หุ้นแองโกล อเมริกัน ทะยานขึ้น 7.2% ส่วนหุ้นเฟรสนิลโล และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ต่างดีดตัวขึ้น 4.3%
หุ้นเกลนคอร์ ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ พุ่ง 7% เนื่องจากบริษัทประกาศว่าจะลดการผลิตสังกะสีลง 1 ใน 3 หลังราคาสังกะสี
ตกต่ำลง ซึ่งส่งผลให้ราคาสังกะสีทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์
Technical Analysis
SET index TF Day : เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีได้เปิด Gap(Exhaustion Gap) พุ่งกระโดด
ข้าม High เดิม ขึ้นไปได้อย่างสบายๆ และได้ปิดตัวยืนเหนือ EMA75 วัน ได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมกับลากสัญญาณ MACD
ขึ้นมาเหนือระดับ 0 ได้อีกด้วย ซึ่งเป็นการยืนยัน "Strong Buy Signal" แนวโน้มวันนี้ ดัชนีน่าจะทะยานผ่าน 1420 จุด
ได้สบายๆ แน่นอน
S50Z15 TF Day : เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีได้เปิด Gap (Exhaustion Gap) พุ่งกระโดด
ข้าม "กรอบบน" ของ "Downtrend Channel" ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เริ่มเทรด Series Z
ซึ่งเป็นนิมิตหมายอันดี และการการันตีว่า รูปแบบขาลงนั้น กำลังจะจางหายไป และสัญญาณ "Strong Buy Signal"
กำลังจะเข้ามาแทนที่ แนวโน้มวันนี้คาดว่า น่าจะได้เห็นดัชนีขึ้นไปที่ระดับ 930 ก็เป็นได้
TF60 : พุ่งทะยานขึ้นไปไม่หยุดยั้ง และ ยังคงพุ่งทะยานขึ้นไปต่อเนื่อง ตลอดทั้งสัปดาห์ 5 วันทำการ ณ ตอนนี้ ได้เปิด Gap
ขึ้นไปจนถึงขั้น "Island Reversal" แต่ก็ยังไม่มี วี่แวว ที่จะพักตัวลงมา เนื่องจากมีเม็ดเงินเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
แต่อย่างไรก็ตาม ให้ระวัง แรงเทขายทำกำไรออกมาระหว่างวัน เพราะว่าดัชนีได้ขึ้นมามาก และ Indicator หลายตัว
ลอยค้าง ที่ระดับ Over Bought มานานหลายวัน //
Resistance 923 927 930 933 / 1415 1420 1424 1430
Support 911 907 903 900 / 1404 1400 1395 1390
*EOD End of day
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ
กู๊ดมอนิ่ง ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call (12 Oct 15)
สวัสดียามเช้าวันจันทร์ วันแรก ของสัปดาห์การทำงาน ครับ พี่ๆ น้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call Option
เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนี SET index ยังคงทะยานใต่ระดับขึ้นมาอย่างต่อ และ แข็งแกร่ง ภายหลังจากมีเม็ดเงินจาก
นักลงทุนต่างชาติ (Fund Flow) ไหลกลับเข้ามา ซื้อหุ้น "Big Cap"อย่างต่อเนื่อง สังเกตุได้จากค่าเงินบาท
ที่เเข็งค่าติดต่อกันหลายวัน เนื่องจากรายงาน ผลการประชุมธนาคารกลางสัหรัฐFOMC Minute เปิดเผยออกมาว่า FED
จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย เร็วๆนี้ เพราะยังคงกังวลเศรษฐกิจโลก ที่ชะลอตัวอยู่ ดังนั้น จึงทำให้ดัชนี SET index พุ่งขึ้นไปปิด
ตัวที่ระดับ 1411 จุด +19.18 จุด วันนี้มาติดตามกันต่อ ว่าดัชนี ตะทะยานขึ้นไปอย่างร้อนแรง ได้อีกวัน หรือไม่
Fundamental
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (9 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับรายงานการประชุมนโยบาย
การเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 33.74 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 17,084.49 จุด
ดัชนี S&P 500 บวก 1.46 จุด หรือ 0.07% ปิดที่ 2,014.89 จุด
ดัชนี Nasdaq ปรับขึ้น 19.68 จุด หรือ 0.41% ปิดที่ 4,830.47 จุด
ตลาดปรับตัวแข็งแกร่งต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนจำนวนมากมองว่าเฟดอาจจะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากรายงานการประชุม
นโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 16-17 ก.ย. ระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ยังคงค่อนข้างต่ำ และเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะ
ยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดอาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ออกไปเป็นปีหน้า
นอกจากนี้ นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก ยังออกมาแสดงความเห็นว่า สถานการณ์ในต่างประเทศและภาวการณ์ทางการเงิน
เมื่อเร็วๆนี้ ทำให้เกิดความไม่แน่ใจเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของแนวโน้มเศรษฐกิจโลก
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคานำเข้าร่วงลง 0.1% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน
โดยเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ดัชนีราคานำเข้าปรับตัวลงจากผลกระทบของดอลลาร์ที่แข็งค่า และการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
ในต่างประเทศ
ราคานำเข้าอาหารและสินค้าทุนต่างปรับตัวลงในเดือนก.ย. ขณะที่ราคาสินค้าเพื่อผู้บริโภค และพลังงานดีดตัวขึ้น
หุ้นแอปเปิล ปรับตัวขึ้น 2.4% ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี แต่หุ้นอัลโค ร่วง 6.8% หลังบริษัทเปิดเผยว่า กำไรในไตรมาส 3/2558
อยู่ที่ 44 ล้านดอลลาร์ หรือ 2 เซนต์ต่อหุ้น ซึ่งลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 149 ล้านดอลลาร์ หรือ 12 เซนต์ต่อหุ้น
รายงานระบุว่า สาเหตุที่ทำให้กำไรของอัลโคลดลงอย่างมากในไตรมาส 3 นั้น มาจากการที่บริษัทปิดเหมืองหลายแห่ง และปรับลดกำลังการ
ถลุงแร่เหล็ก หลังจากราคาอลูมินัมอ่อนแรงลง
"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมือง และรายงานการประชุม
ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แสดงให้เห็นว่าเฟดยังคงลังเลที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 1.21 จุด หรือ 0.33% ปิดที่ 362.82 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส บวก 25.48 จุด หรือ 0.54% ปิดที่ 4,701.39 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี พุ่ง 103.53 จุด หรือ 1.04% ปิดที่ 10,096.60 จุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปรับขึ้น 41.34 จุด หรือ 0.65% ปิดที่ 6,416.16 จุด
ตลาดพุ่งขึ้น ขานรับรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดเมื่อวันที่ 16-17 ก.ย. ที่แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ
ที่ยังค่อนข้างต่ำ และเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า
เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของเฟดคาดว่าสถานการณ์ในตลาดโลกในช่วงที่ผ่านมามีแนวโน้มจะกดดันเงินเฟ้อต่อไปในระยะใกล้นี้
และจะก่อให้เกิดความเสี่ยงช่วงขาลงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
นักวิเคราะห์ระบุว่า มีนักลงทุนจำนวนมากขึ้นที่เชื่อว่าเฟดจะไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงต้นปี 2559
ความหวังที่ว่าเฟดจะเลื่อนการปรับขึ้นดอกเบี้ยออกไปเป็นปีหน้าได้ช่วยหนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ นำโดยหุ้นกลุ่มเหมือง
หุ้นแองโกล อเมริกัน ทะยานขึ้น 7.2% ส่วนหุ้นเฟรสนิลโล และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ต่างดีดตัวขึ้น 4.3%
หุ้นเกลนคอร์ ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ พุ่ง 7% เนื่องจากบริษัทประกาศว่าจะลดการผลิตสังกะสีลง 1 ใน 3 หลังราคาสังกะสี
ตกต่ำลง ซึ่งส่งผลให้ราคาสังกะสีทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์
Technical Analysis
SET index TF Day : เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีได้เปิด Gap(Exhaustion Gap) พุ่งกระโดด
ข้าม High เดิม ขึ้นไปได้อย่างสบายๆ และได้ปิดตัวยืนเหนือ EMA75 วัน ได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมกับลากสัญญาณ MACD
ขึ้นมาเหนือระดับ 0 ได้อีกด้วย ซึ่งเป็นการยืนยัน "Strong Buy Signal" แนวโน้มวันนี้ ดัชนีน่าจะทะยานผ่าน 1420 จุด
ได้สบายๆ แน่นอน
S50Z15 TF Day : เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีได้เปิด Gap (Exhaustion Gap) พุ่งกระโดด
ข้าม "กรอบบน" ของ "Downtrend Channel" ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เริ่มเทรด Series Z
ซึ่งเป็นนิมิตหมายอันดี และการการันตีว่า รูปแบบขาลงนั้น กำลังจะจางหายไป และสัญญาณ "Strong Buy Signal"
กำลังจะเข้ามาแทนที่ แนวโน้มวันนี้คาดว่า น่าจะได้เห็นดัชนีขึ้นไปที่ระดับ 930 ก็เป็นได้
TF60 : พุ่งทะยานขึ้นไปไม่หยุดยั้ง และ ยังคงพุ่งทะยานขึ้นไปต่อเนื่อง ตลอดทั้งสัปดาห์ 5 วันทำการ ณ ตอนนี้ ได้เปิด Gap
ขึ้นไปจนถึงขั้น "Island Reversal" แต่ก็ยังไม่มี วี่แวว ที่จะพักตัวลงมา เนื่องจากมีเม็ดเงินเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
แต่อย่างไรก็ตาม ให้ระวัง แรงเทขายทำกำไรออกมาระหว่างวัน เพราะว่าดัชนีได้ขึ้นมามาก และ Indicator หลายตัว
ลอยค้าง ที่ระดับ Over Bought มานานหลายวัน //
Resistance 923 927 930 933 / 1415 1420 1424 1430
Support 911 907 903 900 / 1404 1400 1395 1390
*EOD End of day
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ