http://www.thannews.th.com/index.php?option=com_content&view=article&id=188698:-3-&catid=94:2009-02-08-11-26-28&Itemid=417#.U4Uk1toaySM

จากบทความนี้ เป็นของเมื่อเกือบหนึ่งปีก่อน

ขอตัดมาบางส่วน



จะเห็นว่า ตอนคุณวราเทพ เข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบบัญชี ที่ได้ทำการปิดไปแล้วงวด มกราคม 56 ในเดือนมิถุนายน ยังไม่สามารถหาข้อมูลมาแก้ไขตัวเลขข้าวที่ไม่ครบจำนวน 2.5 ล้านตันข้าวสารได้

แล้วเมื่อมีการปิดบัญชี ในงวดพฤษภาคม 56 ก็ยังต้องนืนยันตัวเลขว่าข้าวขาดไป 2.977 ล้านตัน ตามที่เป็นข่าวช่วงนี้


ประเด็นนี้จึงอยู่ที่ว่า หน่วยงานที่มีหน้าที่ในการบริหารสินทรัพย์ของรัฐ ที่มีมูลค่ารวมหลายแสนล้าน ทำไมถึงมีระบบการทำบัญชีการรับจ่าย ที่ไร้ประสิทธิภาพขนาดนี้ ปิดบัญชีรอบแรกเสร็จไปน่าจะเสร็จก่อนสงกรานต์ แต่เดือนมิถุนายน ยังไม่สามารถแก้ตัว เอาหลักฐานไปยืนยันกับคณะกรรมการปิดบัญชี ให้เชื่อได้ว่า ข้าวไม่ได้หาย แต่เกิดกาีผิดพลาดตรงไนอย่างไร

ทำได้แค่ขอเพิ่มยอดคงเหลือเท่านั้น

ซึ่งก็ลามไปถึงการปิดบัญชีครั้งต่อมา หลักฐานข้อมูลก็ยังไม่ชัดเจนทำให้ต้องลงว่าข้าวหายอีก

ซึ่งจริงๆ ถ้าข้าว 2.5 ล้านตัน ที่บอกว่าหายตั้งแต่ปิดบัญชีครั้งแรก ไม่ได้หายจริงแต่มีอยู่จริง ในการนับสต็อกทั่วประเทศ ในวันที่ 26 มิถุนายน ก็ควรจะมียอดตัวนี้ เพิ่มขึ้นมาอย่างชัดเจน

แต่ผลการนับก็ไม่กล้าเปิดเผยออกมา ก็แสดงว่า นับแล้วยอดต้องผิดพลาดมาก จนไม่กล้าบอกให้สาธารณชนรับทราบ


แบบนี้ต้องบอกว่า ทำงานแบบมั่วๆ ผลเลยออกมามั่วๆ แล้วพยายามให้คนดูคิดแบบมั่วๆตามไปด้วย เพื่อยอมรับว่าไม่มีข้อผิดพลาด



อคส. บอกว่าข้าวไม่หายจริง โดยที่ไม่ต้องมีการแสดงหลักฐานอะไร ผมว่าไม่น่าจะมีคนยอมเชื่อแน่ๆ