เรื่องข้าวหาย 2.9 ล้านตัน

กระทู้สนทนา
อ่านข่าวไทยรัฐ เห็นมีสองข่าวไล่ ๆ กัน ข่าวแรก

'นายกฯ' ยันข้าว 2.9 ตันไม่สูญหาย วอน ป.ป.ช.ขอพิสูจน์ความจริง

http://www.thairath.co.th/content/418364




แล้วไล่ตามมาในเวลาไม่นาน ก็มีมาอีกข่าว

‘ยรรยง’ ยื่นหนังสือ ‘ป.ป.ช.’ โต้ข้าวหายเกือบ 3 ล้านตัน

http://www.thairath.co.th/content/418387






จากสองข่าวนี้ ก็อยากจะตั้งคำถาม ถึงนายกฯ และคุณยรรยง ดังนี้



1.ข้อมูลเรื่องข้าวหาย ที่เป็นข่าวกันนั้น เป็นข้อมูลจากการปิดบัญชี ของคณะกรรมการปิดบัญชีจำนำข้าว ที่นายกฯ เป็นคนตั้งขึ้นใช่หรือไม่ และการปิดบัญชีนี้ เป็นการปิดบัญชีเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2556 ใช่หรือไม่




2.ถ้าหากข้อมูลที่พูดนี้ ไม่ถูกต้อง เหตุใดหน่วยงานที่รับผิดชอบข้าวเหล่านี้ ถึงปล่อยเวลาล่วงเลยมาแล้วเกือบ 1 ปี โดยไม่มีการออกมาให้ข้อมูลใด ๆ เพื่อแย้งกับการปิดบัญชีนี้




3.รายงานการปิดบัญชีนี้ ได้รายงานให้กับนายกฯ ทราบ แล้วนายกฯ ได้อ่าน (หรือไม่เคยอ่าน) และได้เคยตั้งข้อสังเกต เกี่ยวกับข้าวที่หายไปนี้ แล้วได้มีการตั้งกรรมการเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลของคณะกรรมการปิดบัญชีหรือไม่




4.ในช่วงระยะเวลาเดียวกัน กับการปิดบัญชีวันที่ 31 พฤษภาคมนั้น นายกฯ ได้มีการสั่งให้ตรวจสต๊อกทั้งประเทศ ในช่วงสิ้นเดือน มิถุนายน และก่อนการตรวจสอบได้มีการให้ข่าวว่า จะมีการเปิดเผยข้อมูลให้สาธารณชนรับทราบ และเมื่อการตรวจนับเสร็จ ทางรองเลขาฯนายกฯ ได้มีการให้ข่าวว่า จะมีการนำเสนอ ครม.รับทราบผลโดยเร็ว แต่จากวันนั้นมาวันนี้ ก็เกือบปีแล้ว ผลการตรวจนับครั้งนั้น ได้มีการนำเสนอให้ครม.รับทราบแล้วหรือยัง ถ้ายัง เหตุใด ถึงมีการดึงเรื่องไว้ ไม่สรุปสักที

เพราะถ้าหากมีการนำข้อมูลนั้น มาแย้ง กับข้อมูลที่คณะกรรมการปิดบัญชีได้มา ก็จะมีน้ำหนักให้เชื่อว่า การปิดบัญชีมีความผิดพลาด

แต่พอทางรัฐบาลเก็บผลการนับสต็อกไว้ ไม่ยอมเปิดเผย และไม่มีการแย้งข้อมูลเรื่องข้าวหายเลย ในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา ก็แสดงว่า เป็นการยอมรับหรือป่าว ว่ามีข้าวหายจริง




5.การที่นายกฯ โพสต์เฟสบุ๊ค ในทำนองว่า ปปช.ไม่ควรเชื่อข้อมูลเรื่องข้าวหายนี้ ก็อยากถามนายกฯ สักนิดว่า แล้วที่นายกฯ ใช้เวลาเกือบปี ถึงออกมาปฏิเสธเรื่องข้าวหาย มีข้อมูลเชิงลึกมาจากแหล่งใด หรือมาจากเพียง รมช.ยรรยงเป็นหลักเท่านั้น

เพราะถ้าหากมาจากคนชื่อยรรยง ก็ไม่ควรเชื่อถือมา เพราะตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง รมช.นั้น แทบจะไม่มีครั้งใด ที่พูดแล้วเป็นจริง มีแต่การให้ข้อมูลมั่ว เพื่อให้ฟังดูดี เอาตัวรอดไปวัน ๆ แล้วสุดท้าย ก็เห็นชัดว่า ที่พูดนั้นไม่จริงทั้งนั้น





6.จากข่าวของคุณยรรยง สรุปว่าตอนนี้ มีตัวเลขชัดเจนตัวนึงเกิดขึ้น คือ ถึงสิ้นเดือน มีนาคม รัฐบาลมีสต๊อกข้าวทั้งหมด 19.91 ล้านตัน (ขอปัดเป็น 20 ล้านตัน เพื่อจำง่าย)

รัฐบาลรับจำนำข้าวมา 5 รอบการผลิต ใช้เงินในการรับจำนำข้าว (เฉพาะค่าข้าว) ไปจำนวน 870,000 ล้านบาท (รวมหนี้ที่ยังค้างชาวนาอยู่ด้วย)

ได้ข้าวมาทั้งหมด (คิดเป็นข้าวสาร) 36 ล้านตัน

หมายความว่า ถึงสิ้นเดือนมีนาคม รัฐบาลระบายข้าวไปได้แล้วทั้งสิ้น 16 ล้านตัน

โดยที่ตอนนี้รัฐบาลใช้เงินสดไปแล้วทั้งสิ้น 500,000 ล้านบาท บวกกับงบประมาณแผ่นดิน ที่ตั้งไว้ใช้หนี้ (แต่ยังไม่ใช่ เอามาหมุนจ่ายค่าข้าวก่อน) ประมาณ 50,000 ล้านบาท รวมกับที่ยังเป็นหนี้ชาวนาอยู่ 100,000 ล้านบาท (คิดถึงสิ้นเดือนมีนาคม) รวมแล้ว รัฐบาลจ่ายเงินไปทั้งสิ้น 650,000 ล้านบาท

ดังนั้นส่วนต่าง 220,000 ล้านบาท จึงเป็นเงินที่รัฐบาลได้จากการระบายข้าวและผลผลิตทางการเกษตรอื่น

ซึ่งเท่าที่พอจำได้ จะมีค่าข้าวค้างเก่า(มาจากรัฐบาลก่อน ๆ แต่รับเงินรัฐบาลนี้) ประมาณ 20,000 ล้าน เงินจากการรับจำนำมันสำปะหลัง อีกเกือบ 20,000 ล้านบาท

ดังนั้น ค่าข้าวที่รัฐได้คืนจากการขายข้าวจำนวน 16 ล้านตันนั้น จะมีมูลค่าไม่เกิน 190,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยตันละไม่ถึง 12,000 บาท

ตรงนี้ ถ้าให้ดี ทางคุณยรรยง จะนำเสนอข้อมูลแย้ง ปปช. ก็น่าจะลองสรุปตัวเลขให้ชัด ๆ ว่า ข้าว 16 ล้านตัน ที่ขายไปนั้น ขายไปที่ไหนอย่างไรบ้าง เป็นมูลค่าเท่าไหร่

เพราะไหน ๆ ที่ผ่านมา ก็ไม่มี G to G ที่แท้จริงสักอันอยู่แล้ว ดังนั้น ข้ออ้าง ที่ว่าขายแบบ g to g ต้องเป็นความลับนั้น ก็ไม่น่าจะใช้ได้อีกแล้ว




สรุปประเด็นคือ ผมมองว่า เรื่องข้าวหายนั้น อาจจะไม่หายจริงก็ได้ แต่อยากตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมรัฐบาลถึงปล่อยข้อมูลนี้ อยู่แบบนี้มาเป็นปี โดยไม่กระตือรือล้น ในการหาข้อเท็จจริง

และถ้าวันนี้ รัฐบาลมั่นใจจริงว่า ข้าวที่บอกว่ามีเหลืออยู่ 20 ล้านตัน นั้นมีจริงทั้งหมด ก็น่าจะนำข้อมูลทั้งหมด เปิดเผยต่อสาธารณชนเลย แล้วนัดสื่อมวลชน ไปตรวจโกดังที่ฝ่ายค้านอยากรู้ เป็นรายวันเลยก็ดี สงสัยโกดังไหน ก็ไปโกดังนั้น เปิดเข้าไปนับ ตรวจสอบคุณภาพข้าว จะได้แก้ข้อสงสัย และยืนยันความบริสุทธิ์ของรัฐบาลด้วย

ไม่ใช่ว่า ปล่อยเวลาผ่านไป แล้วค่อยแก้ตัวแบบน้ำขุ่น ๆ ไปวัน ๆ แบบนี้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่