การรอคอยที่สุดแสนจะยาวนาน สุดท้ายก็สิ้นสุดลงแล้ว ในที่สุด X-Men: Days of Future Past ภาพยนตร์ที่สาวกเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์รอคอยมานานก็ขึ้นฉายแล้ว และหนังก็ทำออกมาได้สุดยอดจนแฟนๆน้ำตาแทบไหล แก้ไขความผิดพลาดและประคองเฟรนไชร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่เจ๋งที่สุดขึ้นมาจากหลุมได้สำเร็จจนได้ และในวันนี้ เราจะมาพูดถึง 10 สุดยอดโมเมนต์จากในหนัง ที่แฟน X-Men ต้องกรี๊ดกัน มีอะไรบ้าง คลิกเข้ามาอ่านด้านในเลย
10. ฉากต่อสู้เปิดเรื่อง
เป็นฉากเปิดเรื่องที่สุดยอดมาก อัดแน่นไปด้วยแอ็คชั่นที่ใครๆก็ต้องร้องว้าว เป็นการนำเสนอเนื้อหาและคาแร็คเตอร์ที่เจ๋งจริง เปิดตัวมิวแทนต์ตัวใหม่ๆ และยังแสดงพลังของศัตรูผู้หน้ากลัวอย่างหุ่น Sentinel ได้ดีมากด้วย
9. มิวแทนต์หน้าใหม่
ไม่ใช่เรื่องยากที่จะยัดตัวละครกว่า 20 ตัวลงไปในหนังที่ยาว 130 นาที แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกระจายบทให้กับตัวละครทุกตัวได้อย่างเพียงพอและไม่มากจนชาชเกินไป Bryan Singer ผู้กำกับของเราก็ได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งกับ X-men ภาคใหม่นี้ โดยการเกลี่ยบทอย่างดีเยี่ยม วูล์ฟเวอรีนไม่ใช่ตัวละครที่เด่นอยู่ตัวเดียว คาแร็คเตอร์จาก First Class มีบทที่เด่นพอๆกัน มิวแทนต์หน้าใหม่ที่ได้เปิดตัวในภาคนี้ ถึงแม้บทจะไม่ได้เยอะอะไร แต่ว่าแต่ละคนก็ได้มีฉากต่อสู้เท่ๆ โมเมนต์แจ่มๆเป็นของตัวเองทุกราย
โดยเฉพาะ Blink ที่เป็นตัวขโมยซีนอีกตัวเลยก็ว่าได้ ฟ่าน ปิงปิงเองก็ได้เซ็นสัญญาหนังเอ็กซ์เมนไว้ตั้ง 5 เรื่อง อนาคตของบลิ๊งค์ในจักรวาลมนุษย์กลายพันธุ์ยังไปได้อีกไกล
8. John F. Kennedy เป็นมิวแทนต์
หนึ่งในหลายๆอย่างที่ฟังแล้วช็อคที่สุดจากเรื่อง เป็นการเปิดเผยจากปากของแม็กนีโต้เอง ที่พึ่งถูกช่วยออกมาจากคุกใต้เพนตากอน ซึ่งหลังจากออกมาได้ ชาร์ลส์ก็สวดเอริคซะยับ ว่าที่เขาต้องไปอยู่ในคุกนั่นก็เพราะเขาทำตัวของเขาเอง ที่ไปลอบสังหารท่านประธานาธิบดี แต่เอริคก็เถียงกลับไปว่าเขาไม่ได้ฆ่าเคนเนดี้ แต่เขาพยายามช่วยต่างหาก เพราะเคนเนดี้ก็เป็นหนึ่งในพวกเขา เหล่ามิวแทนต์นั่นเอง
เป็นอะไรที่ผมว่าเจ๋งมากๆเลยนะ การนำเหตุการณ์จริงในประวัติศาสตร์เข้ามาเล่าและผสมผสานเข้ากับเหตุการณ์ในหนังได้อย่างลงตัว ทำมาได้ดีตั้งแต่ในภาค First Class แล้ว
7. การหายตัวไปของตัวละครเก่าๆที่ฟังดูดีมีเหตุผล
หนึ่งในคำถามแรกๆที่ผู้คนเริ่มสงสัยนับตั้งแต่มีการปล่อยรายละเอียดของหนังและเทรลเลอร์ออกมา คือตัวละครจาก First Class หายไปไหนกันหมด? ไบรอัน ซิงเกอร์ก็จัดการตอบคำถามนี้ให้ในหนังเป็นที่เรียบร้อย ว่าพวกเขาเสียชีวิตไประหว่างรอยต่อของภาค First Class และ DOFP นี้ ไม่ว่าจะเป็น Banshee, Angel, Azazel หรือแม้แต่ Emma Frost ขวัญใจชายหนุ่ม มิหนำซ้ำบางส่วนยังถูกนำไปทดลองโดย Bolivar Trask ตัวร้ายของเรื่องอีกด้วย
ผมแอบเสียดายและเสียใจนิดๆนะ ที่ตัวละครสำคัญๆในภาคก่อนที่ผมกล่าวมามันตายจากไป อย่าง Banshee นี่ก็เป็นเอ็กซ์แมนที่ผมชอบมากที่สุดตัวนึงเลย แต่การเขี่ยตัวละครทิ้งไปในบางครั้งมันก็เพื่อสิ่งที่ดีกว่า เพื่อให้เรื่องขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ง่ายขึ้น และการเล่า backstory ว่าตัวละครของเขาตายไป มันก็ยังดีซะกว่าการที่ให้ตัวละครของเขาหายไปดื้อๆ อย่าง Nightcrawler หรือตายไปอย่างโง่ๆแบบ Cyclop
6. Quicksilver
พอรูปของตัวละคร Quicksilver หลุดออกมาสู่สายตาของสาธารณชนเท่านั้นแหละ ผมยังจำภาพหน้าวอลบนเฟซบุ๊กและไทม์ไลน์บนทวิตเตอร์ของผมได้ดี ถ้าควิกซิลเวอร์มีจริงและได้อ่านกระแสตอบรับจากทุกๆคน (รวมถึงจากผมด้วย) ป่านนี้คงวิ่งร้องไห้กลับบ้านไปฟ้องแม่แล้ว เพราะเขาโดนจวกซะยับไม่มีชิ้นดี ทั้งเครื่องแต่งกายสุดเฉิ่ม ฉากวิ่งที่ดูหน่อมแน้ม แต่เมื่อเราได้ดูเขาออกวิ่งในหนังตัวเต็มเท่านั้นแหละ ทั้ังโลกแทบจะถอนคำพูดกันแทบไม่ทัน เพราะความกวน ความเท่ ความเจ๋งของฉากเขา บอกได้เลยว่าหมอนี่แหละ ตัวขโมยซีนของ X-men ภาคนี้เลยล่ะ
5. Magneto คือพ่อของ Quicksilver
เป็นข้อที่แฟนคอมิคทุกคนต้องรู้ดี ว่าควิกซิลเวอร์คนนี้คือลูกชายของแม็กนีโต้ ตอนแรกก็คิดว่าในหนังนี่ก็อาจจะไม่แหละมั้ง เพราะทั้งคู่ในหนัง อายุมันดูไม่ค่อยห่างกันพอที่จะเป็นพ่อลูกกันได้นะ (ไม่รู้เพราะลุงฟาสเบนเดอร์เขาหน้าไม่แก่มากรึเปล่า) แต่ก็มีประโยคนึงในหนัง ที่ควิกซิลเวอร์พูดกับเอริคว่า “คุณควบคุมโลหะได้หรอ? แม่ผมก็เคยคบกับผู้ชายที่ทำอย่างนั้นได้นะ” มีข้อสันนิษฐานสองข้อ คือ 1.มีมิวแทนต์อีกคนที่ควบคุมโลหะได้ 2. เอริคไปฟันแม่ของควิกซิลเวอร์ไว้ตั้งแต่ก่อนเหตุกาณ์ภาค First Class แล้ว ซึ่งผมว่าข้อหลังเป็นไปได้มากกว่า เพราะในจักรวาลเอ็กซ์เมนมันไม่มีใครควบคุมโลหะได้แบบแม็กนีโต้แล้วล่ะ
4. Magneto ยกสนามลอย
เป็นอีกฉากที่ต้องร้องว้าวออกมาดังๆ เป็นฉากที่ยิ่งใหญ่มาก แสดงให้เห็นถึงพลังอันมากมายมหาศาลของแม็กนีโต้ ไม่ใช่แค่หันหน้าจานดาวเทียมหรือยกเรือดำน้ำ แต่ในคราวนี้ แม็กนีโต้ยกสนามอเมริกันฟุตบอล Robert F. Kennedy Stadium ลอยขึ้นฟ้ากันเลย คิดดูสิครับ ทั้งสนามฟุตบอล ลากยาวๆจนเอาไปครอบถึงอาคารทำเนียบขางได้เลย ตั้งแต่ภาค Last Stand ที่ยกสะพานโกลเด้นเกตแล้ว ในหนังภาคหน้า เราจะได้ดูเขายกอะไรใหญ่ๆอีกนะ…
3. ฉากต่อสู้ท้ายเรื่อง
เป็นอะไรที่อลังการดาวล้านดวงมาก การต่อสู้โดยมีอนาคตเป็นเดิมพัน การพยายามโน้มน้าวมิสทีคให้เลือกหนทางสว่าง ตัดสลับกับการต่อสู้ของเหล่าเอ็กซ์เมนในอนาคต เข้มข้นมันส์หยดติ๋งจนอธิบายเป็นคำพูดลำบาก การต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของเหล่าเอ็กซ์เมนกับเหล่าเซนติเนลที่แข็งแกร่ง เป็นการยืนหยัดครั้งสุดท้ายที่ทำให้เราได้เห็นความพยายามอย่างเหลือล้นของตัวละครทุกตัว ได้เห็นความตายที่โหดเหี้ยมโดยฝีมือของพวกเซนติเนลที่ดูสุดจะน่าสะพรึงกลัว สตอร์มถูกแทงแล้วถูกเขวี้ยงทิ้งตกเหว บลิ๊งค์ถูกแทงจากรอบทิศทาง บิชอปถูกเผาด้วยเลเซอร์ทั้งเป็น โคลอสซัสโดนฉีกร่างเป็นชิ้นๆ เซนติเนลบุกเข้าประชิดถึงตัววูล์ฟเวอรีนและทุกๆคนที่ยังอยู่เหลือ แต่ก่อนที่จะสังหารพวกเขาลงได้สำเร็จ อดีตก็ถูกเปลี่ยนแปลง อนาคตก็เปลี่ยนไป เหล่าผู้เสียชีวิตก็ไม่ได้ถูกฆ่าตายอีกต่อไป ทำเอาผมหายใจแทบไม่ทัน โล่งไปทั้งอกเลย
2. การกลับมาของเหล่าเอ็กซ์เมนหน้าเก่า
หลังจากที่วูล์ฟเวอรีนหยุดยั้งมิสทีคได้สำเร็จ ไทม์ไลน์ก็ถูกซ่อมแซมเป็นที่เรียบร้อบ โลแกนตื่นขึ้นมาบนเตียงนุ่มสบาย และพบว่าโรงเรียนเซเวียร์และเหล่าเอ็กซ์เมนทุกคนยังอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ผองเพื่อนที่ตายไปในอดีตก็ยังอยู่สุขสบายดี ไม่ว่าจะเป็น Iceman, Rogue (ที่ได้ปรากฎตัวแค่ 5 วินาที), Kitty, Colossus, Beast (ซึ่งในไวรัล บอกว่าถูกม็อบต่อต้านมิวแทนต์ลากออกไปกระทืบตายแล้ว) และ Storm และทันใดนั้นโแกนก็สังเกตเห็นผู้หญิงผมแดง ผู้หญิงที่เขารัก Jean Grey นั่นเอง เธอก็เป็นอีกคนที่ยังไม่ตาย แต่ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้น ยังมี Cyclop อีกด้วย ถึงแม้โลแกนจะเขม่นหน้าสก็อตต์มานานเพราะต้องการแย่งสาวเขา แต่โลแกนก็อดไม่ได้ที่จะดีใจที่ได้เจอหน้าเพื่อนเก่าของเขาอีกครั้ง หลังจากนั้นโลแกนก็เดินเข้าไปคุยกับศาสตราจารย์ ซึ่งเขาก็ได้รับการต้อนรับกลับจากอดีต สู่อนาคตที่สดใส…
เป็นเหมือนการรีบูทจักรวาล X-Men ใหม่เลย ตัวละครที่โดนเขี่ยทิ้งและตายไปในภาค Last Stand เนื้อเรื่องที่มั่วไปหมดของ X-Men Origins: Wolverine ก็ถูกลบทิ้งไปซะ เป็นการล้างกระดานใหม่ให้กับเฟรนไชร์ ที่จะไปต่อได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ให้แฟนคอมิคได้ปลาบปลื้มน้ำตาไหลพรากๆ กันเลยก็ว่าได้
1. Apocalypse กำลังมาเยือน
เป็นฉากเอนด์เครดิตอีกฉากนึง ที่อาจเรียกขนแขนของคุณให้สแตนด์อัพได้เลย หลังจากนั่งรอเครดิตให้สไลด์ไปจนจบอยู่นานหลายนาที เราก็ตัดไปที่อียิปต์ เราได้เห็นภาพของมิวแทนต์คนนึง ที่กำลังใช้พลังจิตของเขาประกอบพีระมิดขึ้นมาโดยไม่ต้องอาศัยแรงงานหรือกำลังคนใดๆทั้งสิ้น มีเสียงโห่ร้องสรรเสริญ “En Sabah Nur” ดังกึกก้องไปทั่ว กล้องค่อยๆเคลื่อนมาอยู่ตรงหน้าของมิวแทนต์ปริศนา เผยให้เห็นริมฝีปากสีฟ้าและผิวสีขาวซีด เขาก็คือ Apocalypse มิวแทนต์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ผู้ปกครองดินแดนอียิปต์โบราณดุจเทพเจ้านั่นเอง ด้านข้างของเขา เป็นภาพของชายสี่คนบนหลังม้า ซึ่งพวกเขาก็คือ จตุรอาชาแห่งความหายนะ สี่ขุนพลม้า ข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของ Apocalypse อันประกอบไปด้วย Death (ความตาย), Famine (ความอดอยาก), War (สงคราม) และ Pestilence (โรคระบาด) นั่นเอง ซึ่ง Apocalypse นี่ก็คือวายร้ายหลักในหนัง X-Men ภาคต่อไป ในชื่อว่า X-Men: Apocalypse ที่จะเข้าฉายในปี 2016 ครับ
เครดิต
http://baamzs.wordpress.com/2014/05/23/10-awesome-moment-of-x-men-days-of-future-past/
http://whatculture.com/film/x-men-days-future-past-review-10-awesome-moments.php
ปล. จริงๆ บทความนี้ เห็นมาเมื่อ 2-3 วันที่แล้ว เนื่องจากกลัวตั้งกระทู้ซ้ำก็เลย รอ ให้มีคนมาตั้ง แต่จนแล้วจนเล่าก็ไม่มีใครตั้ง (หรือมีคนตั้งไปแล้ว แต่ผมไม่เห็นเอง) ก็เลยตั้งกระทู้เองซะเลย
10 สุดยอดโมเมนต์จาก X-Men: Days of Future Past (มีสปอลย์)
10. ฉากต่อสู้เปิดเรื่อง
เป็นฉากเปิดเรื่องที่สุดยอดมาก อัดแน่นไปด้วยแอ็คชั่นที่ใครๆก็ต้องร้องว้าว เป็นการนำเสนอเนื้อหาและคาแร็คเตอร์ที่เจ๋งจริง เปิดตัวมิวแทนต์ตัวใหม่ๆ และยังแสดงพลังของศัตรูผู้หน้ากลัวอย่างหุ่น Sentinel ได้ดีมากด้วย
9. มิวแทนต์หน้าใหม่
ไม่ใช่เรื่องยากที่จะยัดตัวละครกว่า 20 ตัวลงไปในหนังที่ยาว 130 นาที แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกระจายบทให้กับตัวละครทุกตัวได้อย่างเพียงพอและไม่มากจนชาชเกินไป Bryan Singer ผู้กำกับของเราก็ได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งกับ X-men ภาคใหม่นี้ โดยการเกลี่ยบทอย่างดีเยี่ยม วูล์ฟเวอรีนไม่ใช่ตัวละครที่เด่นอยู่ตัวเดียว คาแร็คเตอร์จาก First Class มีบทที่เด่นพอๆกัน มิวแทนต์หน้าใหม่ที่ได้เปิดตัวในภาคนี้ ถึงแม้บทจะไม่ได้เยอะอะไร แต่ว่าแต่ละคนก็ได้มีฉากต่อสู้เท่ๆ โมเมนต์แจ่มๆเป็นของตัวเองทุกราย โดยเฉพาะ Blink ที่เป็นตัวขโมยซีนอีกตัวเลยก็ว่าได้ ฟ่าน ปิงปิงเองก็ได้เซ็นสัญญาหนังเอ็กซ์เมนไว้ตั้ง 5 เรื่อง อนาคตของบลิ๊งค์ในจักรวาลมนุษย์กลายพันธุ์ยังไปได้อีกไกล
8. John F. Kennedy เป็นมิวแทนต์
หนึ่งในหลายๆอย่างที่ฟังแล้วช็อคที่สุดจากเรื่อง เป็นการเปิดเผยจากปากของแม็กนีโต้เอง ที่พึ่งถูกช่วยออกมาจากคุกใต้เพนตากอน ซึ่งหลังจากออกมาได้ ชาร์ลส์ก็สวดเอริคซะยับ ว่าที่เขาต้องไปอยู่ในคุกนั่นก็เพราะเขาทำตัวของเขาเอง ที่ไปลอบสังหารท่านประธานาธิบดี แต่เอริคก็เถียงกลับไปว่าเขาไม่ได้ฆ่าเคนเนดี้ แต่เขาพยายามช่วยต่างหาก เพราะเคนเนดี้ก็เป็นหนึ่งในพวกเขา เหล่ามิวแทนต์นั่นเอง
เป็นอะไรที่ผมว่าเจ๋งมากๆเลยนะ การนำเหตุการณ์จริงในประวัติศาสตร์เข้ามาเล่าและผสมผสานเข้ากับเหตุการณ์ในหนังได้อย่างลงตัว ทำมาได้ดีตั้งแต่ในภาค First Class แล้ว
7. การหายตัวไปของตัวละครเก่าๆที่ฟังดูดีมีเหตุผล
หนึ่งในคำถามแรกๆที่ผู้คนเริ่มสงสัยนับตั้งแต่มีการปล่อยรายละเอียดของหนังและเทรลเลอร์ออกมา คือตัวละครจาก First Class หายไปไหนกันหมด? ไบรอัน ซิงเกอร์ก็จัดการตอบคำถามนี้ให้ในหนังเป็นที่เรียบร้อย ว่าพวกเขาเสียชีวิตไประหว่างรอยต่อของภาค First Class และ DOFP นี้ ไม่ว่าจะเป็น Banshee, Angel, Azazel หรือแม้แต่ Emma Frost ขวัญใจชายหนุ่ม มิหนำซ้ำบางส่วนยังถูกนำไปทดลองโดย Bolivar Trask ตัวร้ายของเรื่องอีกด้วย
ผมแอบเสียดายและเสียใจนิดๆนะ ที่ตัวละครสำคัญๆในภาคก่อนที่ผมกล่าวมามันตายจากไป อย่าง Banshee นี่ก็เป็นเอ็กซ์แมนที่ผมชอบมากที่สุดตัวนึงเลย แต่การเขี่ยตัวละครทิ้งไปในบางครั้งมันก็เพื่อสิ่งที่ดีกว่า เพื่อให้เรื่องขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ง่ายขึ้น และการเล่า backstory ว่าตัวละครของเขาตายไป มันก็ยังดีซะกว่าการที่ให้ตัวละครของเขาหายไปดื้อๆ อย่าง Nightcrawler หรือตายไปอย่างโง่ๆแบบ Cyclop
6. Quicksilver
พอรูปของตัวละคร Quicksilver หลุดออกมาสู่สายตาของสาธารณชนเท่านั้นแหละ ผมยังจำภาพหน้าวอลบนเฟซบุ๊กและไทม์ไลน์บนทวิตเตอร์ของผมได้ดี ถ้าควิกซิลเวอร์มีจริงและได้อ่านกระแสตอบรับจากทุกๆคน (รวมถึงจากผมด้วย) ป่านนี้คงวิ่งร้องไห้กลับบ้านไปฟ้องแม่แล้ว เพราะเขาโดนจวกซะยับไม่มีชิ้นดี ทั้งเครื่องแต่งกายสุดเฉิ่ม ฉากวิ่งที่ดูหน่อมแน้ม แต่เมื่อเราได้ดูเขาออกวิ่งในหนังตัวเต็มเท่านั้นแหละ ทั้ังโลกแทบจะถอนคำพูดกันแทบไม่ทัน เพราะความกวน ความเท่ ความเจ๋งของฉากเขา บอกได้เลยว่าหมอนี่แหละ ตัวขโมยซีนของ X-men ภาคนี้เลยล่ะ
5. Magneto คือพ่อของ Quicksilver
เป็นข้อที่แฟนคอมิคทุกคนต้องรู้ดี ว่าควิกซิลเวอร์คนนี้คือลูกชายของแม็กนีโต้ ตอนแรกก็คิดว่าในหนังนี่ก็อาจจะไม่แหละมั้ง เพราะทั้งคู่ในหนัง อายุมันดูไม่ค่อยห่างกันพอที่จะเป็นพ่อลูกกันได้นะ (ไม่รู้เพราะลุงฟาสเบนเดอร์เขาหน้าไม่แก่มากรึเปล่า) แต่ก็มีประโยคนึงในหนัง ที่ควิกซิลเวอร์พูดกับเอริคว่า “คุณควบคุมโลหะได้หรอ? แม่ผมก็เคยคบกับผู้ชายที่ทำอย่างนั้นได้นะ” มีข้อสันนิษฐานสองข้อ คือ 1.มีมิวแทนต์อีกคนที่ควบคุมโลหะได้ 2. เอริคไปฟันแม่ของควิกซิลเวอร์ไว้ตั้งแต่ก่อนเหตุกาณ์ภาค First Class แล้ว ซึ่งผมว่าข้อหลังเป็นไปได้มากกว่า เพราะในจักรวาลเอ็กซ์เมนมันไม่มีใครควบคุมโลหะได้แบบแม็กนีโต้แล้วล่ะ
4. Magneto ยกสนามลอย
เป็นอีกฉากที่ต้องร้องว้าวออกมาดังๆ เป็นฉากที่ยิ่งใหญ่มาก แสดงให้เห็นถึงพลังอันมากมายมหาศาลของแม็กนีโต้ ไม่ใช่แค่หันหน้าจานดาวเทียมหรือยกเรือดำน้ำ แต่ในคราวนี้ แม็กนีโต้ยกสนามอเมริกันฟุตบอล Robert F. Kennedy Stadium ลอยขึ้นฟ้ากันเลย คิดดูสิครับ ทั้งสนามฟุตบอล ลากยาวๆจนเอาไปครอบถึงอาคารทำเนียบขางได้เลย ตั้งแต่ภาค Last Stand ที่ยกสะพานโกลเด้นเกตแล้ว ในหนังภาคหน้า เราจะได้ดูเขายกอะไรใหญ่ๆอีกนะ…
3. ฉากต่อสู้ท้ายเรื่อง
เป็นอะไรที่อลังการดาวล้านดวงมาก การต่อสู้โดยมีอนาคตเป็นเดิมพัน การพยายามโน้มน้าวมิสทีคให้เลือกหนทางสว่าง ตัดสลับกับการต่อสู้ของเหล่าเอ็กซ์เมนในอนาคต เข้มข้นมันส์หยดติ๋งจนอธิบายเป็นคำพูดลำบาก การต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของเหล่าเอ็กซ์เมนกับเหล่าเซนติเนลที่แข็งแกร่ง เป็นการยืนหยัดครั้งสุดท้ายที่ทำให้เราได้เห็นความพยายามอย่างเหลือล้นของตัวละครทุกตัว ได้เห็นความตายที่โหดเหี้ยมโดยฝีมือของพวกเซนติเนลที่ดูสุดจะน่าสะพรึงกลัว สตอร์มถูกแทงแล้วถูกเขวี้ยงทิ้งตกเหว บลิ๊งค์ถูกแทงจากรอบทิศทาง บิชอปถูกเผาด้วยเลเซอร์ทั้งเป็น โคลอสซัสโดนฉีกร่างเป็นชิ้นๆ เซนติเนลบุกเข้าประชิดถึงตัววูล์ฟเวอรีนและทุกๆคนที่ยังอยู่เหลือ แต่ก่อนที่จะสังหารพวกเขาลงได้สำเร็จ อดีตก็ถูกเปลี่ยนแปลง อนาคตก็เปลี่ยนไป เหล่าผู้เสียชีวิตก็ไม่ได้ถูกฆ่าตายอีกต่อไป ทำเอาผมหายใจแทบไม่ทัน โล่งไปทั้งอกเลย
2. การกลับมาของเหล่าเอ็กซ์เมนหน้าเก่า
หลังจากที่วูล์ฟเวอรีนหยุดยั้งมิสทีคได้สำเร็จ ไทม์ไลน์ก็ถูกซ่อมแซมเป็นที่เรียบร้อบ โลแกนตื่นขึ้นมาบนเตียงนุ่มสบาย และพบว่าโรงเรียนเซเวียร์และเหล่าเอ็กซ์เมนทุกคนยังอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ผองเพื่อนที่ตายไปในอดีตก็ยังอยู่สุขสบายดี ไม่ว่าจะเป็น Iceman, Rogue (ที่ได้ปรากฎตัวแค่ 5 วินาที), Kitty, Colossus, Beast (ซึ่งในไวรัล บอกว่าถูกม็อบต่อต้านมิวแทนต์ลากออกไปกระทืบตายแล้ว) และ Storm และทันใดนั้นโแกนก็สังเกตเห็นผู้หญิงผมแดง ผู้หญิงที่เขารัก Jean Grey นั่นเอง เธอก็เป็นอีกคนที่ยังไม่ตาย แต่ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้น ยังมี Cyclop อีกด้วย ถึงแม้โลแกนจะเขม่นหน้าสก็อตต์มานานเพราะต้องการแย่งสาวเขา แต่โลแกนก็อดไม่ได้ที่จะดีใจที่ได้เจอหน้าเพื่อนเก่าของเขาอีกครั้ง หลังจากนั้นโลแกนก็เดินเข้าไปคุยกับศาสตราจารย์ ซึ่งเขาก็ได้รับการต้อนรับกลับจากอดีต สู่อนาคตที่สดใส…
เป็นเหมือนการรีบูทจักรวาล X-Men ใหม่เลย ตัวละครที่โดนเขี่ยทิ้งและตายไปในภาค Last Stand เนื้อเรื่องที่มั่วไปหมดของ X-Men Origins: Wolverine ก็ถูกลบทิ้งไปซะ เป็นการล้างกระดานใหม่ให้กับเฟรนไชร์ ที่จะไปต่อได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ให้แฟนคอมิคได้ปลาบปลื้มน้ำตาไหลพรากๆ กันเลยก็ว่าได้
1. Apocalypse กำลังมาเยือน
เป็นฉากเอนด์เครดิตอีกฉากนึง ที่อาจเรียกขนแขนของคุณให้สแตนด์อัพได้เลย หลังจากนั่งรอเครดิตให้สไลด์ไปจนจบอยู่นานหลายนาที เราก็ตัดไปที่อียิปต์ เราได้เห็นภาพของมิวแทนต์คนนึง ที่กำลังใช้พลังจิตของเขาประกอบพีระมิดขึ้นมาโดยไม่ต้องอาศัยแรงงานหรือกำลังคนใดๆทั้งสิ้น มีเสียงโห่ร้องสรรเสริญ “En Sabah Nur” ดังกึกก้องไปทั่ว กล้องค่อยๆเคลื่อนมาอยู่ตรงหน้าของมิวแทนต์ปริศนา เผยให้เห็นริมฝีปากสีฟ้าและผิวสีขาวซีด เขาก็คือ Apocalypse มิวแทนต์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ผู้ปกครองดินแดนอียิปต์โบราณดุจเทพเจ้านั่นเอง ด้านข้างของเขา เป็นภาพของชายสี่คนบนหลังม้า ซึ่งพวกเขาก็คือ จตุรอาชาแห่งความหายนะ สี่ขุนพลม้า ข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของ Apocalypse อันประกอบไปด้วย Death (ความตาย), Famine (ความอดอยาก), War (สงคราม) และ Pestilence (โรคระบาด) นั่นเอง ซึ่ง Apocalypse นี่ก็คือวายร้ายหลักในหนัง X-Men ภาคต่อไป ในชื่อว่า X-Men: Apocalypse ที่จะเข้าฉายในปี 2016 ครับ
เครดิต
http://baamzs.wordpress.com/2014/05/23/10-awesome-moment-of-x-men-days-of-future-past/
http://whatculture.com/film/x-men-days-future-past-review-10-awesome-moments.php
ปล. จริงๆ บทความนี้ เห็นมาเมื่อ 2-3 วันที่แล้ว เนื่องจากกลัวตั้งกระทู้ซ้ำก็เลย รอ ให้มีคนมาตั้ง แต่จนแล้วจนเล่าก็ไม่มีใครตั้ง (หรือมีคนตั้งไปแล้ว แต่ผมไม่เห็นเอง) ก็เลยตั้งกระทู้เองซะเลย