รีวิวน้อยๆ X-Men: Apocalypse
- เหมือนได้รับความ "เนิร์ด" ของ BvS มาส่วนหนึ่ง ผสมกับความเข้าถึงคนดูในวงกว้างของ Civil War มาส่วนหนึ่ง ออกมาเป็นจานอร่อยในนามของ X-Men: Apocalypse
- จะว่าไปแล้วสองภาคแรก (First Class และ Days of the Future Past) นั้นเหมือนกับจะพยายามดึงคนดูเข้ามา โดยการจับเอาเนื้อหาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ มา "เนียน" ว่าเป็นฝีมือของมนุษย์กลายพันธุ์ (ที่เค้าเรียกว่ายำประวัติศาสตร์เสียใหม่) อีกทั้งภาคสองยังได้ดาราจากไตรภาคแรกมานำเรื่องเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย แถมยังได้รับคำชมในแง่ของการ "แก้ไขสิ่งผิดพลาด" ที่เคยมีอยู่ในไตรภาคแรกได้อย่างลงตัว ฉะนั้น ใน Apocalypse นี้ก็กล่าวได้ว่า บอกเล่าโลกของเหล่า X-Men แบบเต็มๆ แล้ว ไม่ได้มีประวัติศาสตร์จริงอะไรเข้ามาเกี่ยวข้อง (นอกจากเรื่องที่กล่าวไว้ในไบเบิ้ล)
- สิ่งที่ค่อนข้างห่วงก่อนไปดูก็คือ พล็อตมันไม่ได้มีอะไรเลย เล่าย่อๆ ก็คือ "มนุษย์กลายพันธุ์ตัวแรกนามว่า อะโพคาลิปส์ ซึ่งปรากฏอยู่ในตำนานว่าแข็งแกร่งที่สุด ตื่นขึ้นจากการหลับไหล และต้องการทำลายมนุษยชาติให้หมดเพื่อครองโลก" จบ แค่นั้นเองจริงๆ
- แต่ปรากฏว่ามีการเล่าเรื่องที่ทำได้ดีเกินคาด พูดง่ายๆ คือถึงพล็อตมันจะไม่ได้ซับซ้อน แต่มันดูสนุก ว่างั้นเหอะ
- ข้อเสียของหนังเราว่ามีอยู่อย่างเดียวที่ชัดเจนมากๆ คือความไม่สมเหตุสมผลของตัวละครบางตัว มันไม่ใช่ว่าน่าเบื่อนะ แต่มันขัดใจเพราะมันดูแล้วช่างเชยเหลือเกิน หรือบางตอนก็ดูลิเกมากๆ บางอย่างไม่ค่อยปะติดปะต่อกัน เช่นตอนที่ตัวละครตัวอื่นกำลังสู้กัน ตัวละครบางตัวมายืนกล่อมอีกตัวให้กลับใจ หรือการกระทำของอะโพคาลิปส์ ที่หลายอย่างดูแล้วขัดใจว่าพลังเอ็งก็สูงนะ แต่หลับนานไปรึไงไม่ทราบ ทำตัวงี่เง่าจนดูโง่ไปเลย (อาจจะยังตามโลกไม่ทัน)
- เรื่อง Plot Hole เราว่ามองข้ามได้ เพราะมันไม่ได้เน้นจริงจังหรืออ้างอิงอะไรเป็นเหตุเป็นผลมากมายอยู่แล้ว ก็แค่ตัวเอกรวมพลังปราบตัวร้ายที่ยึดครองโลกแค่นั้นแหละ หนังเอ็กซ์เมนนะโว้ย ไม่ใช่เจสัน บอร์น
- ควิกซิลเวอร์ คือขโมยซีนอีกแล้ว! จำฉากสโลว์โมชั่นโชว์พาวของตะแกใน DOFP ได้ใช่มั้ย? นั่นแหละ ภาคนี้เหมือนเลเวลอัพขึ้นอีก เทพเหลือหลาย แถมยังได้เพลงดังยุค 70-80 อย่าง Sweet Dreams (Are Made Of This) มาประกอบซีนอีก นี่ยังไม่นับความทะเล้นและหน้าตานักแสดงที่ดูแล้วหมั่นเขี้ยวอีกนะ 555
- สรุป เราว่าเป็นการปิดท้ายหนังฮีโร่สู้กันเองของปีนี้ได้ดีมาก หลังจากที่เสพย์กันเดือนละเรื่องตั้งแต่ BvS, Civil War แล้ว ตบท้ายด้วย Apocalypse เป็นของหวานจบคอร์สได้ไม่เลว
เราให้ 7/10 ลดลงจากภาคที่แล้วนะ แต่ยังดูสนุกเหมือนเดิม อย่าไปเชื่อคะแนนในเว็บนู้นเว็บนี้เลย หนังมันสนุกจริง!
จากนี้คือชวนคุยเรื่องนู้นเรื่องนี้ในหนัง มีสปอยล์นะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- อะโพคาลิปส์ ถ้าไปเอาควิกซิลเวอร์มาเป็นลูกน้อง ก็คงครองโลกไปแล้ว ดั๊นนนน ไปเอามาแต่พวกตัวที่จะสร้างปัญหา สตอรมก็เด็กวัยรุ่นบ้านแตก นังไซล็อกก็ดูเป็นอาชญากรเชื่อถือไม่ค่อยได้ แม็กนีโต้นี่พอได้อยู่ ไปเอามาตอนเค้ามีปม มีความแค้น แต่ดันไม่รู้ว่าเขากับศํตรูเป็นเพื่อนกันมาก่อน (ฮา) แต่ที่บ้าบอสุดคือแองเจิ้ลนี่ล่ะ มิวแตนท์พลังเจ๋งๆ มีตั้งมากมาย ไปเอาคนบินได้เฉยๆ มาเป็นจตุรเทพเนี่ยนะ (ความสามารถสะบัดปีกมีดใส่ศัตรูนี่คือแบบ...เห้อ)
- เท่านั้นไม่พอ แทนที่จะปลุกพลังให้ลูกน้องสูงๆ ดันเอาเวลาไปสร้างคอสตูมกับแต่งหน้าให้ ผมกับแฟนดูในโรงฮาก๊ากเลยตอนนั่งสักให้แองเจิ้ล กับตัดชุดเกราะให้แม็กนีโต้ 55
- เอาเถอะ แต่แองเจิ้ลภาคนี้ก็ดูดีไม่เบา ทวงท่าตอนกระพือปีกลอยตัวขึ้นฟ้าก็ดูสง่าสมฉายาเทวดา ไม่ใช่แบบใน X-Men The Last Stand ที่ไม่ทำอะไรเลย ออกมาบินๆๆๆๆ โฉบๆๆๆ นั่นนกกระจอกก็ทำได้
- สตอร์ม ภาคหน้าเธอคงสกินเฮดจริงๆ แล้วใช่ไหม
- จูบิลลี่ หนูได้ออกมาอีกครั้งหลังจากไตรภาคแรก แต่หนูก็ยังไม่ได้เกิดอยู่ดี ออกมาเป็นวัยรุ่นยุค 80 ประกอบฉากแค่นั้นเอง
- วูล์ฟเวอรีน โผล่มา Cameo ตั้งหนึ่งช่วงแน่ะ แต่รู้สึกท่าทางแกแปลกๆ ไม่ค่อยเหมือนที่เราเห็นกันมาทุกภาคเท่าไหร่ เอาเถอะ อภัยให้ ในหนังบอกว่าเพิ่งผ่านการฉีดอันดามันเทียมมา สงสัยยังมึนฤทธิ์ยา
- จีน เกรย์ เธอจิ้มลิ้มเหลือหลาย แอร๊ย
จบล่ะครับ 55
[รีวิวน้อยๆ] X-Men: Apocalypse ของหวานปิดท้ายหนังฮีโร่สู้กันเองของปีนี้
- เหมือนได้รับความ "เนิร์ด" ของ BvS มาส่วนหนึ่ง ผสมกับความเข้าถึงคนดูในวงกว้างของ Civil War มาส่วนหนึ่ง ออกมาเป็นจานอร่อยในนามของ X-Men: Apocalypse
- จะว่าไปแล้วสองภาคแรก (First Class และ Days of the Future Past) นั้นเหมือนกับจะพยายามดึงคนดูเข้ามา โดยการจับเอาเนื้อหาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ มา "เนียน" ว่าเป็นฝีมือของมนุษย์กลายพันธุ์ (ที่เค้าเรียกว่ายำประวัติศาสตร์เสียใหม่) อีกทั้งภาคสองยังได้ดาราจากไตรภาคแรกมานำเรื่องเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย แถมยังได้รับคำชมในแง่ของการ "แก้ไขสิ่งผิดพลาด" ที่เคยมีอยู่ในไตรภาคแรกได้อย่างลงตัว ฉะนั้น ใน Apocalypse นี้ก็กล่าวได้ว่า บอกเล่าโลกของเหล่า X-Men แบบเต็มๆ แล้ว ไม่ได้มีประวัติศาสตร์จริงอะไรเข้ามาเกี่ยวข้อง (นอกจากเรื่องที่กล่าวไว้ในไบเบิ้ล)
- สิ่งที่ค่อนข้างห่วงก่อนไปดูก็คือ พล็อตมันไม่ได้มีอะไรเลย เล่าย่อๆ ก็คือ "มนุษย์กลายพันธุ์ตัวแรกนามว่า อะโพคาลิปส์ ซึ่งปรากฏอยู่ในตำนานว่าแข็งแกร่งที่สุด ตื่นขึ้นจากการหลับไหล และต้องการทำลายมนุษยชาติให้หมดเพื่อครองโลก" จบ แค่นั้นเองจริงๆ
- แต่ปรากฏว่ามีการเล่าเรื่องที่ทำได้ดีเกินคาด พูดง่ายๆ คือถึงพล็อตมันจะไม่ได้ซับซ้อน แต่มันดูสนุก ว่างั้นเหอะ
- ข้อเสียของหนังเราว่ามีอยู่อย่างเดียวที่ชัดเจนมากๆ คือความไม่สมเหตุสมผลของตัวละครบางตัว มันไม่ใช่ว่าน่าเบื่อนะ แต่มันขัดใจเพราะมันดูแล้วช่างเชยเหลือเกิน หรือบางตอนก็ดูลิเกมากๆ บางอย่างไม่ค่อยปะติดปะต่อกัน เช่นตอนที่ตัวละครตัวอื่นกำลังสู้กัน ตัวละครบางตัวมายืนกล่อมอีกตัวให้กลับใจ หรือการกระทำของอะโพคาลิปส์ ที่หลายอย่างดูแล้วขัดใจว่าพลังเอ็งก็สูงนะ แต่หลับนานไปรึไงไม่ทราบ ทำตัวงี่เง่าจนดูโง่ไปเลย (อาจจะยังตามโลกไม่ทัน)
- เรื่อง Plot Hole เราว่ามองข้ามได้ เพราะมันไม่ได้เน้นจริงจังหรืออ้างอิงอะไรเป็นเหตุเป็นผลมากมายอยู่แล้ว ก็แค่ตัวเอกรวมพลังปราบตัวร้ายที่ยึดครองโลกแค่นั้นแหละ หนังเอ็กซ์เมนนะโว้ย ไม่ใช่เจสัน บอร์น
- ควิกซิลเวอร์ คือขโมยซีนอีกแล้ว! จำฉากสโลว์โมชั่นโชว์พาวของตะแกใน DOFP ได้ใช่มั้ย? นั่นแหละ ภาคนี้เหมือนเลเวลอัพขึ้นอีก เทพเหลือหลาย แถมยังได้เพลงดังยุค 70-80 อย่าง Sweet Dreams (Are Made Of This) มาประกอบซีนอีก นี่ยังไม่นับความทะเล้นและหน้าตานักแสดงที่ดูแล้วหมั่นเขี้ยวอีกนะ 555
- สรุป เราว่าเป็นการปิดท้ายหนังฮีโร่สู้กันเองของปีนี้ได้ดีมาก หลังจากที่เสพย์กันเดือนละเรื่องตั้งแต่ BvS, Civil War แล้ว ตบท้ายด้วย Apocalypse เป็นของหวานจบคอร์สได้ไม่เลว
เราให้ 7/10 ลดลงจากภาคที่แล้วนะ แต่ยังดูสนุกเหมือนเดิม อย่าไปเชื่อคะแนนในเว็บนู้นเว็บนี้เลย หนังมันสนุกจริง!
จากนี้คือชวนคุยเรื่องนู้นเรื่องนี้ในหนัง มีสปอยล์นะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้