..

บันทึกสั้นๆ ผ่านภาพถ่ายจากเมืองสองทวีป “อิสตันบูล” ตุรกี



001


ความแออัดของย่านเมืองเก่าอิสตันบูล เมื่อมองจากฝั่งตรงข้าม แต่ก็ยังดูมีเสน่ห์ และมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น

เสน่ห์ของเมืองที่ผสมผสานในความเก่ากับใหม่ ทำให้ในปี 2012 ที่ผ่านมา
ดินแดนจุดเชื่อมระหว่างสองทวีปนี้ กลายเป็นโลเคชั่นสุดฮอต ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์ดังจากฮอลลีวู้ดถึง 3 เรื่อง ได้แก่

Argo (มีฉากสั้นๆอ้างอิงถึงอิสตันบูล แต่ใช้โลเคชั่นบางส่วนจำลองเป็นประเทศอิหร่าน)

Skyfall (ฉากแอ็คชั่นไล่ล่าในช่วงเปิดเรื่อง)

Taken ภาค 2 (ปฏิบัติการภารกิจสุดระทึกในอิสตันบูลเกือบทั้งเรื่อง)

สังเกตดีๆ ภาพยนตร์ทั้ง 3 เรื่อง .. ล้วนมีตัวเอกเป็นสายลับ


ดังนั้น ควรยกให้อิสตันบูลเป็น “เมืองแห่งสายลับ” ไปด้วยอีกตำแหน่ง



002


หากกล่าวถึงสัญลักษณ์คู่เมืองอิสตันบูลได้เพียงแค่สถานที่เดียว

ปฏิเสธไม่ได้ว่า วิหารเซนต์โซเฟีย หรือ อยา โซเฟีย (Aya Sofya)
คงเป็นตัวแทนที่คนทั่วโลกรู้จักมากที่สุด เพราะสถานที่แห่งนี้ ได้รับการยกให้เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกของยุคกลาง

แม้ว่าหากเดินผ่าน แล้วมองอย่างผิวเผินเพียงภายนอก ... คงไม่ดูอึ้งทึ่งหรือดึงดูดใจมากนัก


แต่ ... บางสิ่งบางอย่าง ความงาม มักซุกซ่อนอยู่ภายใน



003


ความวิจิตรอลังการภายในมหาวิหารเซนต์โซเฟีย เริ่นต้นขึ้นเมื่อกว่า 1,500 ปีที่แล้ว ในสมัยจักรวรรดิไบแซนไทน์ เป็นศาสนสถานของชาวคริสต์

ในยุคที่จักวรรดิออตโตมัน เข้ามาครอบครอง การสู้รบอันเข้มข้น ทำให้ดินแดนอิสตันบูล เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

... โชคดีเหลือเกิน ที่องค์สุลต่านเมห์เม็ตที่ 2 มองเห็นความงดงามของโบสถ์แห่งนี้
ทรงไม่ทำลายทิ้ง แต่เปลี่ยนให้เป็นสุเหร่าแทน

เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนผ่าน ชาวคริสต์กับชาวมุสลิม มีความเห็นต่างกันพอสมควรในการดำรงสถานะของศาสนสถานทางศาสนา

แต่สุดท้าย รัฐบาลตุรกีก็หาทางออกได้ด้วยการให้มหาวิหารแห่งนี้
เป็นพิพิธภัณฑ์ และเป็นมรดกของชาติ ไม่ว่าใครที่ไหนก็สามารถเข้าเยี่ยมชมได้


สงคราม และความขัดแย้ง มักทำให้เกิดการทำลาย ... แต่ความงดงามของศิลปะ สามารถสะกดให้เรื่องเหล่านั้นยุติ



004


ห่างจากวิหารเซนต์ โซเฟีย ไม่กี่ร้อยเมตร ความยิ่งใหญ่อลังการที่เผชิญหน้ากัน คือ
สถาปัตยกรรมอันวิจิตรของ Blue Mosque มัสยิดสีฟ้า หรือ มัสยิดสุลต่านอาห์เมต

มัสยิดที่ใหญ่ที่สุด สวยที่สุด และท้าทายความวิจิตรของวิหารเซนต์ โซเฟีย ได้อย่างไม่เป็นรอง


มีแชมป์ .. ก็ต้องมีผู้ท้าชิง .. เป็นเรื่องธรรมดา



005



เป็นความโชคดีอีกแล้ว ที่สุลต่านแห่งอาณาจักรออตโตมัน ทรงมีแนวคิดสร้างสรรค์มากกว่าทำลาย

เมื่อพระองค์ทรงเห็นว่า วิหารเซนต์โซเฟียนั้นงามวิจิตรติดท็อปฮิตระดับโลก
ดังนั้น มัสยิดสีฟ้า ต้องงามไม่ด้อยไปกว่ากัน ... แล้วพระองค์ก็ทรงทำสำเร็จเสียด้วย


... เป็นการแข่งสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ... โดยไม่ต้องทำลายสิ่งเดิมๆ



006


การเที่ยวชมมัสยิดสุลต่านอาห์เมต ก็มีรูปแบบคล้ายคลึงกับการไปเยือนสถานที่สำคัญทางศาสนาทั่วไป

คนไทยคงไม่ค่อยมีปัญหานัก ... เราคุ้นเคยกับการเข้าวัดวาอารามอยู่แล้ว
การชมมัสยิดจึงไม่ต่างกันในแง่ของการแต่งกายที่ต้องสุภาพ รัดกุม รวมถึงการสำรวมความสงบ เมื่อเข้าไปชมภายใน

ส่วนการเข้าชม จะงดเฉพาะเวลามีการละหมาด นอกเหนือจากเวลาดังกล่าว
ไม่ว่าคุณจะนับถือศาสนาอะไร ก็สามารถเข้าไปบันทึกความยิ่งใหญ่ของสถานที่แห่งนี้


... ความวิจิตรตระการตาของอารยธรรม สมควรเปิดกว้างให้คนทุกศาสนามีโอกาสร่วมกันชื่นชม



007


อิสตันบูล น่าจะเป็นเมืองที่ถูกโฉลกกับสายลับระดับโลกอย่างเจมส์ บอนด์ พอสมควร

ไม่เพียงแต่ภาคล่าสุดอย่าง Skyfall ที่คุณน้าแดเนียล เครก ทำเอา อิสตันบูล เละเทะไปทั่วเมือง

แต่ย้อนกลับไปที่ต้นตำรับอย่างคุณปู่ ฌอน คอนเนอรี ก็เคยมาเยือนอิสตันบูลตั้งแต่สมัยปี 1963 ในภาค From Russia with Love
ซึ่งในภาคนี้ มีฉากหนึ่งสร้างความตื่นเต้นให้ผู้ชมทั่วโลกพอสมควร
เพราะมันคล้ายกับเป็นวิหารโบราณใต้ผืนพิภพ ... ซึ่งไม่ใช่ฉากจำลอง แต่ทว่ามีอยู่จริง

สถานที่แห่งนั้น คือ อุโมงค์ส่งน้ำเยเรบาทัน ซึ่งนับเป็นระบบชลประทานที่เก่าแก่อายุกว่าพันปี
แต่ระบบนี้ กลับมีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม ในการส่งน้ำเพื่อใช้ในภาวะสงคราม หรือในช่วงฤดูแล้ง


ความล้ำสมัย จึงไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องของอนาคต



008


จัสตุรัส Taksim (อ่านว่า ทักซิม นะครับ .. ไม่ใช่ ทักษิณ .. อิอิ)
เป็นพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจสำคัญ ในเขตเมืองใหม่ ของอิสตันบูล

ย่าน Taksim มีโรงแรม ห้างสรรพสินค้า สถานีรถโดยสาร ...
คลาคล่ำไปด้วยผู้คน ทั้งยังเป็น จุดที่ประชาชนชาวอิสตันบูล มักใช้เป็นพื้นที่แสดงออกทางการเมือง
(เหตุประท้วงกันดุเดือดเมื่อปีก่อน ก็จัดหนักกันบริเวณนี้ล่ะ)


บางค่ำคืน ใครผ่านไปแถวจัตุรัสแห่งนี้ ... คงเห็นภาพแผงขายดอกไม้ริมถนน
... ซึ่งเป็นภาพที่ดูน่ารักดี

พ่อค้าผู้ชายมากเข้มๆ สีหน้านิ่ง ยากจะบอกอารมณ์
มองผู้คนเดินผ่านไปมา สลับกับอ่านหนังสือเป็นพักๆ
ท่ามกลางดอกไม้หลากสีสันสดใส บนแผงข้างกาย

...แม้บรรยากาศค่ำคืนนั้น ค่อนข้างวุ่นวาย แสงไฟสลัว ผู้คนเร่งรีบ เพียงใด


แต่คงเพราะ ‘ดอกไม้’ คือ ตัวแทนของความงาม ความรัก ความสดใส ... มันจึงโดดเด่นสะดุดสายตาเราได้เสมอ



009


ระบบขนส่งภายในเมืองอิสตันบูล ถือว่าเดินทางสะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยว
เพราะสถานที่สำคัญๆ มีทั้งรถราง รถไฟ และรถไฟใต้ดิน ให้บริการอย่างครอบคลุม

รถไฟใต้ดินของอิสตันบูล ก็คล้ายๆกับกรุงเทพฯ ในแง่ของการดูแลรักษาความสะอาด ระบบการจัดการทั่วๆไป
... แต่สีสันที่แตกต่างกัน ก็คงเป็นวันดีคืนดี เรามักได้เจอกับศิลปินมาบรรเลงเพลงให้ฟังอย่างเป็นเรื่องเป็นราว

ไม่แน่ใจเรื่องการจัดการพื้นที่ ว่าต้องขออนุญาตไหม อย่างไร
... แต่ดูเหมือนกับว่า ผู้โดยสารที่เดินผ่านไปมา จะมองเป็นเรื่องปกติ
บ้างยืนฟัง บ้างให้เงิน จนถึงบางคนชื่นชอบมากหน่อย ก็อาจจะแวะเข้าไปพูดคุยเพิ่มเติม


ศิลปินเหล่านี้ เราคงเรียกว่า “ศิลปินใต้ดิน” ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ



010


ตุรกี เป็นหนึ่งในประเทศที่เคยไปโชว์ฝีเท้าในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาแล้ว

ครั้งแรก ย้อนกลับไปตั้งแต่ยุค 1954
... แต่ครั้งที่สองเมื่อปี 2002 นี่สิ ทำเอาชาวเตอร์กิซแทบคลั่งกันทั้งประเทศ
เพราะฟอร์มฮอตทะลุไปจนถึงรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะคว้าตำแหน่ง อันดับ 3 กลับมา

แต่ด้วยมาตรฐานทีม ที่ยังไม่เสมอต้นเสมอปลายเพียงพอ
แถมเป็นทีมที่ต้องคัดเลือกในฐานะโซนยุโรปที่มีคู่แข่งระดับพระกาฬจำนวนมาก
... ผลงานถัดจากนั้น จึงลุ่มๆดอนๆ และไม่เคยผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายได้อีก

อย่างไรก็ดี ฟุตบอลลีกภายในประเทศตุรกี ก็นับเป็นลีกมาตรฐานในระดับยุโรปอีกประเทศหนึ่งที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว
... ความสนใจที่มีต่อกีฬาฟุตบอล จึงไม่น้อยไปกว่าประเทศใดนัก

และนักท่องเที่ยวก็สามารถเห็นกลิ่นอายความคลั่งไคล้ฟุตบอลของแฟนบอลตุรกีได้ไม่ยาก
โดยเฉพาะในเมืองอิสตันบูล ซึ่งมีทีมฟุตบอลระดับแนวหน้า เช่น กาลาตาซาราย , เฟเนบาห์เช่


พัฒนาภายในประเทศให้แข็งแกร่งเสียก่อน ... อีกไม่นานก็คงได้โกอินเตอร์อีกครั้ง

..