เขาเป็นคนตุรกีนะคะ เจอกันครั้งแรกตอนเราอายุ 23 ปี และเรากำลังไปฝึกงานที่อเมริกา คบกันได้ระยะสั้นๆแต่ก็มากพอที่เราจะรักเขา แต่ว่าตอนนั้นเค้าซึ่งเด็กกว่าเรา 1 ปี บอกว่ายังอยากใช้ขีวิต เขาเบื่อ ไม่อยากจริงจังกับใคร
ซึ่งความต้องการของเราคือการคบใครจริงๆจังๆ ก็เลยแยกกันไป เขายังไปเจอและนอนกับผู้หญิงคนใหม่ได้ภายใน 3 วันหลัฃจากเลิกกับเราด้วย
ต่อมาทราบว่าเค้าประสบปัญหาชีวิตไม่น้อยในเรื่องความสัมพันธ์ เหมือนจะไปทิ้งผู้หญิงคนนึง แต่ผู้หญิงคนนั้นแอบจิตๆอยู่บ้างไม่ยอมจบดีๆ และตามราวีให้เขาอยู่ไม่ได้ จนทำให้เค้ารีบหนีกลับตุรกีก่อนกำหนด และปิดบัญชีโซเชียลของตัวเองทิ้งหมดเลยค่ะ
เป็นเวลา 4 เดือนกว่าที่เหมือนเขาจะหายไปจากชีวิตเราเฉยๆ เราใช้เวลานั้นฮีลใจตัวเอง รวมถึงใช้เวลาเดือนสุดท้ายในอเมริกาท่องเที่ยวคนเดียว รู้สึกสบายใจมาก คิดว่าลืมเขาไปจากใจได้เด็ดขาดแล้ว
ต่อมาในปี 2023 ระหว่างทางบินกลับไทย อะไรไม่รู้ดลใจเรา เราตัดสินใจแวะเปลี่ยนเครื่องที่ตุรกีค่ะ เราใช้เวลาเที่ยว 2 สัปดาห์ ไปอิสตันบูล>อันตัลยา(เมืองที่เขาอยู่) >คัปปาโดเซีย
โดยคืนวันสุดท้ายของเราก่อนจะบินออกจากอันตัลยาตอนเช้าเพื่อไปคัปปาโดเซีย เขาได้ส่งข้อความ Whatsapp มาให้เราค่ะ
แต่! เราไม่ทันเห็นค่ะ เพราะเรามีมือถือสองเครื่อง เครื่องที่เขาส่งข้อความมาคือเครื่องรอง ซึ่งเราไม่ค่อยได้ใช้
มาเห็นข้อความอีกทีก็หลังจาก check-in โรงแรมที่คัปปาโดเซียแล้ว
แต่ตอนนั้นเราไม่รู้ เช้าวันที่บินออกจากอันตัลยาก็แอบน้ำตาไหลเงียบๆบนเครื่องบินค่ะ แอบคิดว่าถ่อมาถึงเมืองที่เค้าอยู่แล้ว ไปตามที่สาธารณะมากเท่าที่จะไปได้แล้ว แต่ก็ไม่มีโอกาสบังเอิญเจอเขาเลย บาฃทีโชคชะตาของพวกเราคงมีแค่นี้
ตอนนั้นอารมณ์เราค่อนข้างซับซ้อนค่ะ เราอยากหลอกตัวเองว่าฉันแค่อยากมาเที่ยว แต่จริงๆเราคงอยากเจอเค้านั่นแหละ จะว่าเราโง่และยึดติดก็ได้นะคะ
พอเราชาร์จแบตมือถือ ข้อความแจ้งเตือนจากเขาก็ขึ้นมาในหน้า Notification เราอ่านทันแค่เขาบอกว่า "เฮ้ ฉันได้ยินว่าเธออยู่ในอันตัลยา......." แล้วก็อีกยาวตามหลังมา เราก็ใจระทึก รีบกดเข้าไปอ่าน แต่พอเข้าแอพไป ปรทกฎว่าเขาลบข้อความทิ้งไปแล้วค่ะ
คาดว่าเขานึกว่าเราเมินข้อความเขา ก็เลยนอยด์ลบทิ้งซะเลย ล่ะมั้ง5555555
แต่ถึงจะอ่านทันแค่ประโยคแรก แต่เราก็รู้แน่ๆว่าเป็นเขา เราเลยทักเขาไปว่า
หวัดดี เราไม่ได้เจตนาจะเมินข้อความเขานะ แต่อันนั้นเป็นเครื่องที่เราไม่ค่อยได้ใช้ และตอนนี้เราก็บินมาถึงคัปปาโดเซียแล้ว เสียดายที่ไม่ได้เจอกันเนอะ
คุยกันไปมานิดหน่อย เค้าก็บอกว่าจะขับรถมาคัปปาโดเซียค่ะ ตอนนั้นเราใจเต้นแรงมาก ไม่สามารถหลอกตัวเองได้แล้วว่าเราไม่ดีใจ
ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง เค้าก็ขับรถมาถึงโรงแรมที่เราอยู่ ตอนเที่ยงคืนพอดี
เดี๋ยวมาต่อนะคะ
เราสามารถใจสลายจากคนๆเดิมได้กี่ครั้งคะ?
ซึ่งความต้องการของเราคือการคบใครจริงๆจังๆ ก็เลยแยกกันไป เขายังไปเจอและนอนกับผู้หญิงคนใหม่ได้ภายใน 3 วันหลัฃจากเลิกกับเราด้วย
ต่อมาทราบว่าเค้าประสบปัญหาชีวิตไม่น้อยในเรื่องความสัมพันธ์ เหมือนจะไปทิ้งผู้หญิงคนนึง แต่ผู้หญิงคนนั้นแอบจิตๆอยู่บ้างไม่ยอมจบดีๆ และตามราวีให้เขาอยู่ไม่ได้ จนทำให้เค้ารีบหนีกลับตุรกีก่อนกำหนด และปิดบัญชีโซเชียลของตัวเองทิ้งหมดเลยค่ะ
เป็นเวลา 4 เดือนกว่าที่เหมือนเขาจะหายไปจากชีวิตเราเฉยๆ เราใช้เวลานั้นฮีลใจตัวเอง รวมถึงใช้เวลาเดือนสุดท้ายในอเมริกาท่องเที่ยวคนเดียว รู้สึกสบายใจมาก คิดว่าลืมเขาไปจากใจได้เด็ดขาดแล้ว
ต่อมาในปี 2023 ระหว่างทางบินกลับไทย อะไรไม่รู้ดลใจเรา เราตัดสินใจแวะเปลี่ยนเครื่องที่ตุรกีค่ะ เราใช้เวลาเที่ยว 2 สัปดาห์ ไปอิสตันบูล>อันตัลยา(เมืองที่เขาอยู่) >คัปปาโดเซีย
โดยคืนวันสุดท้ายของเราก่อนจะบินออกจากอันตัลยาตอนเช้าเพื่อไปคัปปาโดเซีย เขาได้ส่งข้อความ Whatsapp มาให้เราค่ะ
แต่! เราไม่ทันเห็นค่ะ เพราะเรามีมือถือสองเครื่อง เครื่องที่เขาส่งข้อความมาคือเครื่องรอง ซึ่งเราไม่ค่อยได้ใช้
มาเห็นข้อความอีกทีก็หลังจาก check-in โรงแรมที่คัปปาโดเซียแล้ว
แต่ตอนนั้นเราไม่รู้ เช้าวันที่บินออกจากอันตัลยาก็แอบน้ำตาไหลเงียบๆบนเครื่องบินค่ะ แอบคิดว่าถ่อมาถึงเมืองที่เค้าอยู่แล้ว ไปตามที่สาธารณะมากเท่าที่จะไปได้แล้ว แต่ก็ไม่มีโอกาสบังเอิญเจอเขาเลย บาฃทีโชคชะตาของพวกเราคงมีแค่นี้
ตอนนั้นอารมณ์เราค่อนข้างซับซ้อนค่ะ เราอยากหลอกตัวเองว่าฉันแค่อยากมาเที่ยว แต่จริงๆเราคงอยากเจอเค้านั่นแหละ จะว่าเราโง่และยึดติดก็ได้นะคะ
พอเราชาร์จแบตมือถือ ข้อความแจ้งเตือนจากเขาก็ขึ้นมาในหน้า Notification เราอ่านทันแค่เขาบอกว่า "เฮ้ ฉันได้ยินว่าเธออยู่ในอันตัลยา......." แล้วก็อีกยาวตามหลังมา เราก็ใจระทึก รีบกดเข้าไปอ่าน แต่พอเข้าแอพไป ปรทกฎว่าเขาลบข้อความทิ้งไปแล้วค่ะ
คาดว่าเขานึกว่าเราเมินข้อความเขา ก็เลยนอยด์ลบทิ้งซะเลย ล่ะมั้ง5555555
แต่ถึงจะอ่านทันแค่ประโยคแรก แต่เราก็รู้แน่ๆว่าเป็นเขา เราเลยทักเขาไปว่า
หวัดดี เราไม่ได้เจตนาจะเมินข้อความเขานะ แต่อันนั้นเป็นเครื่องที่เราไม่ค่อยได้ใช้ และตอนนี้เราก็บินมาถึงคัปปาโดเซียแล้ว เสียดายที่ไม่ได้เจอกันเนอะ
คุยกันไปมานิดหน่อย เค้าก็บอกว่าจะขับรถมาคัปปาโดเซียค่ะ ตอนนั้นเราใจเต้นแรงมาก ไม่สามารถหลอกตัวเองได้แล้วว่าเราไม่ดีใจ
ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง เค้าก็ขับรถมาถึงโรงแรมที่เราอยู่ ตอนเที่ยงคืนพอดี
เดี๋ยวมาต่อนะคะ