http://www.autoblog.com/2014/05/25/japanese-automaker-engine-collaboration-fuel-economy/
แบบพิมพ์เขียว เรียกแบบนี้ไม่รู้ถูกต้องหรือเปล่า
โตโยต้า , ฮอนด้า , มาสด้า , นิสสัน , ซูบารุ , มิตซูบิชิ ซูซูกิ และ ไดฮัทสุ ได้ร่วมมือกันในการปรับปรุง
การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง จากเครื่องยนต์เบนซิลและดีเซล ให้ได้ร้อยละ 30 (จากปัจจุบัน)ให้ได้ก่อนสิ้นทศวรรษนี้
โดยสมาคมวิจัยเครื่องยนต์สันดาปภายใน จะใช้ทุนประมาณ $ 20 ล้านเหรียญ
โดยรัฐบาลญี่ปุ่นออกให้ครึ่งนึง ส่วนค่าใช้จ่ายที่เหลือจะเป็น 8 บริษัทผู้ผลิตรถเป็นผู้รับผิดชอบ
โดยความร่วมมือจะแบ่งปันการวิจัยพื้นฐานการสันดาปภายใน เพื่อลดค่าใช้จ่าย
โรดแมพระยะเวลา 10 ปี เป้าหมายในปี 2020
โดยมุ่งไปที่การปรับปรุงประสิทธิภาพความร้อน ของเครื่องยนต์สันดาปภายใน ให้ได้ถึง 50 %
(ปัจจุบันสูงสุด เบนซินอยู่ที่ 39,ดีเซลอยู่ที่ 42)
เพื่อให้การเผาไหม้สมบูรณ์และลดอาการเครื่องน็อก
ลดการปล่อย มลพิษ NOX และอนุภาคต่างๆ
ต่อไปจะมีเจ๋งกว่า sky-activ อีกนะเนี่ย
เป็นผลดีต่อผู้บริโภคจริงๆ
(เมื่อไหร่จะมีรถยนต์แห่งชาติไทยเสียที)
แบบพิมพ์เขียว เครื่องยนต์แห่งชาติญี่ปุ่น
http://www.autoblog.com/2014/05/25/japanese-automaker-engine-collaboration-fuel-economy/
แบบพิมพ์เขียว เรียกแบบนี้ไม่รู้ถูกต้องหรือเปล่า
โตโยต้า , ฮอนด้า , มาสด้า , นิสสัน , ซูบารุ , มิตซูบิชิ ซูซูกิ และ ไดฮัทสุ ได้ร่วมมือกันในการปรับปรุง
การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง จากเครื่องยนต์เบนซิลและดีเซล ให้ได้ร้อยละ 30 (จากปัจจุบัน)ให้ได้ก่อนสิ้นทศวรรษนี้
โดยสมาคมวิจัยเครื่องยนต์สันดาปภายใน จะใช้ทุนประมาณ $ 20 ล้านเหรียญ
โดยรัฐบาลญี่ปุ่นออกให้ครึ่งนึง ส่วนค่าใช้จ่ายที่เหลือจะเป็น 8 บริษัทผู้ผลิตรถเป็นผู้รับผิดชอบ
โดยความร่วมมือจะแบ่งปันการวิจัยพื้นฐานการสันดาปภายใน เพื่อลดค่าใช้จ่าย
โรดแมพระยะเวลา 10 ปี เป้าหมายในปี 2020
โดยมุ่งไปที่การปรับปรุงประสิทธิภาพความร้อน ของเครื่องยนต์สันดาปภายใน ให้ได้ถึง 50 %
(ปัจจุบันสูงสุด เบนซินอยู่ที่ 39,ดีเซลอยู่ที่ 42)
เพื่อให้การเผาไหม้สมบูรณ์และลดอาการเครื่องน็อก
ลดการปล่อย มลพิษ NOX และอนุภาคต่างๆ
ต่อไปจะมีเจ๋งกว่า sky-activ อีกนะเนี่ย
เป็นผลดีต่อผู้บริโภคจริงๆ
(เมื่อไหร่จะมีรถยนต์แห่งชาติไทยเสียที)