สวัสดีครับ ครึ่งทางแล้วนะครับ สำหรับทริปญี่ปุ่นลุยเดี่ยวคนเดียว สี่ภูมิภาคนี้
วันนี้ขอพาไปเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศหนีความจำเจของเมืองใหญ่ ๆ ออกมาพักผ่อนหย่อนใจตามต่างจังหวัดบ้าง 日光 : にっこう อ่านว่า นิกโก้ ซึ่งสถานที่นี้อยู่ในเขตจังหวัดโทะชิกิ ( 栃木県 : とちぎけん ) ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของโตเกียวโดยรถไฟประมาณ 2 ชั่วโมง
มีคำขวัญของญี่ปุ่นเป็นภาษาอังกฤษว่า NIKKO is NIPPON หรือแปลเป็นไทยว่า “เมืองนิกโก้ คือ ประเทศญี่ปุ่น” เมืองนิกโก้ (Nikko) เป็นเมืองมรดกโลก ที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยเอโดะ โชกุนตระกูลโทคุกาวา (Tokugawa) ได้วาง Nikko ให้เป็นเมืองฝ่ายเหนือ มีการสร้างวัดและศาลเจ้าสวยงามหลายแห่ง โชกุนก็ได้อาศัยอยู่ในเมือง Nikko หลังจากโชกุนได้เสียชีวิตมีการสร้างสุสานโชกุนที่ Nikko ซึ่งเป็น 1 ในสุสานที่สวยงามของญี่ปุ่น นอกจากเป็นเมืองมรดกโลกแล้ว Nikko ยังมีที่เที่ยวอีกมากมาย เช่น อุทยานแห่งชาติ Nikko ออนเซ็น สวนสนุกเอโด
พอถึงสถานี JR Utsunomiya ก็เดินตามป้าย Transfer Nikko Line ----> JR Nikko Line
ภายในรถไฟ JR Nikko Line รถไฟค่อนข้างโล่ง อาจเป็นเพราะว่าเป็นวันธรรมดาด้วยมั้งครับ เลยนั่งฟังเพลงสบายๆชิลๆๆ
สถานีรถไฟ JR Nikko เป็นสถานีเก่าแก่ แบบอาคารไม้ รถไฟสาย Nikko Line ก็เป็นเส้นทางรถไฟเก่าแก่เหมือนกัน เปิดให้บริการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980 การเดินทางด้วยรถไฟในญี่ปุ่นฝังรากมายาวนาน ชีวิตคนญี่ปุ่นจึงผูกพันกับรถไฟ
มาถึงสถานีรถไฟ JR Nikko 10.25 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
สถานีรถไฟ Tobu Nikko ภายในนี้จะมี Nikko Tourist information และที่ขายตั๋วรถใน Nikko แบบต่างๆ
การเดินทางใน Nikko
มีรถเมล์สาย World Heritage bus (รถสีแดง) วิ่งวนในเส้นทางมรดกโลก แต่ถ้าต้องการจะออกไปไกลที่ทะเลสาบซูเซ็นจิ, น้ำตกเคง่อนต้องนั่งรถ Tobu bus รถเมล์สาย World Heritage bus จะจอดที่ป้ายรถเมล์หน้าสถานี JR Nikko และสถานี Tobu-Nikko ไม่ว่าจะเดินทางมาด้วยรถไฟสายไหนก็ขึ้นรถเมล์ World Heritage bus ได้สะดวก
เนื่องจากว่าค่าโดยสารของ World Heritage bus เริ่มต้นที่ประมาณ 250 เยน ส่วนบัตรโดยสารแบบ One day pass ราคา 500 เยน ในกรณีนี้บัตร One day pass คุ้มกว่าแน่นอนดังนั้นเราจะต้องไปซื้อ One day pass ก่อนขึ้นรถ
ป้ายรถเมล์ที่จะไปพื้นที่ Nikko World Heritage จะเป็นป้าย 2C อยู่ฝั่งเดียวกับสถานี Tobu Nikko รถก็จะจอดตรงสะพานชินเชียวครับ
สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge) มีความหมายว่าสะพานศักดิ์สิทธิ์ สะพานแห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของเมืองมรดกโลกนิกโก้ จากสะพานนี้สามารถเดินไปยังวัดรินโนจิ, ศาลเจ้าโทโชกุ, ศาลเจ้าฟุตะระซัง และวัดไทยุอิน รูปแบบของสะพานชินเคียวเป็นสะพานไม้โค้งแบบโบราณ ทาด้วยสีแดงด้านหลังสะพานเป็นวิวภูเขาอีกฝั่งของสะพานติดถนน ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในเดือนตุลาคมจะเห็นต้นไม้สีแดง เหลือง เขียวสลับกับเป็นฉากหลังของสะพานชินเคียว นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปที่สะพานนี้
วัดรินโนจิ (Rinnoji Temple) เป็นวัดพุทธที่สำคัญที่สุดใน Nikko สร้างขึ้นโดยพระ Shodo Shonin ผู้ที่นำศาสนาพุทธมาเผยแพร่ใน Nikko ในช่วงปี ค.ศ. 800 ภายในวัดมีประพุทธรูปที่ทำจากไม้ปิดด้านนอกด้วยทอง และรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม
ผมทำรูปด้านหน้าหายไปเสียดายมากๆครับ เลยได้แต่รูปถ่ายด้านหลังวัดแทน (ไว้จะกลับไปซ่อมใหม่)
หลังจากวัดเรนโนจิเราก็เดินเข้าไปอีกนะครับ
ก่อนที่จะเข้าศาลเจ้าโทโชกุ จะเจอกับเจดีย์สีแดง 5 ชั้น มีลวดลายสวยงาม เป็นเจดีย์เก่าแก่สร้างขึ้นใน ค.ศ. 1650
ศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine) เป็นสถานที่ไม่ควรพลาดเมื่อมา Nikko ศาลเจ้านี้สร้างขึ้นตามหลักศาสนาชินโตและศาสนาพุทธ อาคารแต่ละหลังจะสร้างมาจากไม้ลงลายสีทอง แกะสลักอย่างสวยงามตามแบบญี่ปุ่น บรรยากาศรอบๆ ศาลเจ้าเป็นป่าสนอากาศเย็นสบาย
ที่ทางเข้าของศาลเจ้าโทโชกุจะเป็นซุ้มประตูโยเมมง (Yomeimon) เป็นซุ้มประตูที่สวยงาม มีขนาดใหญ่ แต่น่าเสียดายว่าอยู่ในระหว่างซ่อมแซมเลยไม่มีโอกาสได้เห็นด้านใน
อาคารไม้ในรูปด้านล่างมีรูปลิงแกะสลัก 3 ตัวอยู่ในท่า ปิดหู ปิดปาก ปิดตา (see no evil, hear no evil, speak no evil) หมายถึงการไม่ดู ไม่ฟัง ไม่พูดในสิ่งไม่ดี ลิงแกะสลัก 3 ตัวนี้แกะสลักโดย Hidari Jingoro
นิกโก-สุสานท่านโชกุน
.อลังการด้วยผลงานศิลปะแกะสลักไม้อันวิจิตรและหลากหลายประดับไว้บนซุ้มประตูแทบทุกระเบียดนิ้ว ทั้งรูปสัตว์ อาทีนกกระเรียน ไก่ฟ้า นกน้ำ เป็ดป่า ช้าง เต่า กระต่าย มังกร เสือ สิงโต เป็นต้น รูปแกะสลักอย่างอื่นก็มี เช่น ต้นไผ่ ต้นสน ต้นโบตั๋น ก้อนเมฆ และรูปเด็ก โดยมีเสาที่รองรับน้ำหนักหลังคาที่ดูหนักอึ่งนี้จำนวน 12 ต้น กำแพงด้านข้างของประตูทั้งสองก็มีผลงานแกะสลักทีวิจิตรอลังการไม่แพ้กัน
ที่บริเวณซุ้มประตูก่อนขึ้นบันไดไปสุสานฯ มีรูปแกะสลักไม้ที่มีชื่อเสียง เป็นรูปแมวหลับ เป็นผลงานของ Hidari Jingoro คนเดียวกับที่แกะสลักลิงปิดหู ปิดปาก ปิดตา
คนญี่ปุ่นเองก็มาเที่ยวศาลเจ้าโทโชกุกันมาก
ทางขึ้นไปยังสุสานโชกุนอิเอะยาสุ เป็นบันไดหิน 200 ขั้นล้อมรอบด้วยป่าสน
สุสานโชกุนอิเอะยาสุ จะอยู่บนพื้นที่สูงของศาลเจ้าโทโชกุ
อาคารในรูปด้านล่างเป็นที่เก็บของที่ใช้ในงานพิธีสำคัญ
แล้วที่ด้านล่างของซุ้ม ประตูโยเมมง ลงไปทางด้านขวา ที่นั่นจะมีหอพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า (薬師) อยู่ เป็นหอพระในศาสนาพุทธ ภายในนั้นจะประดิษฐานองพระไภษัชยคุรุเป็นประธาน แต่ก็ปิดบานประตูเอาไว้ ประดับด้วยทวยเทพผู้ดูแลปีนักษัตรอีก 12 องค์ แต่ที่สำคัญ ที่เพดานของหอพระแห่งนี้ จะมีรูปมังกรที่วาดโดยศิลปินที่มีชื่อเสียงในยุคต้นเอโดะ และที่ตำแหน่งหัวมังกรจะมีการออกแบบพิเศษ เมื่อนำกรับไปตีในจุดที่ตรงกับตำแหน่งหัวมังกรก็จะเกิดเสียงสะท้อน ซึ่งเชื่อกันว่า นั่นเป็นเสียงมังกรร้อง หอพระนี้จึงมีอีกชื่อว่า เป็นหอมังกรร้องนั่นเอง (แต่ห้ามถ่ายรุปครับ )
จากศาลเจ้าโทโชกุ เราจะไปเที่ยวต่อที่วัดไทยูอิน, ศาลเจ้าฟุตาระซัง สามารถไปได้ 2 วิธีครับ 1. นั่งรถบัสไป จากป้าย 83 ไปป้าย 85 2. เดินไปประมาณ 20 นาที ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรกว่าๆ แต่ผมเดินไปครับ
เสียดายผมทำรูปหายไปนะครับ เดี่ยวหาเจอจะเอามาเพิ่มให้ครับ
การเข้าชมในวัดไทยูอินต้องซื้อบัตรเข้าที่หน้าวัด ผู้ใหญ่ 550 เยน, เด็ก 250 เยน
ด้านในจะพบบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ โดยสร้างศาลาครอบเอาไว้ น้ำจากน้ำพุ ใช้สำหรับดื่ม ล้างมือ ล้างหน้า ชำระล้างร่างกายให้สะอาดก่อนเข้าวัด น้ำเย็น ใส สะอาดมาก
แล้วก็เข้ามายังประตูที่สอง ประตู Kaminarimon Gate
ด้านหน้ามีเทพสายฟ้าและเทพสายลมเฝ้าอยู่
จะถึงประตู Yashamon Gate หรือเรียกอีกอย่างว่า ประตูดอกโบตั๋น
มีปีศาจทั้ง 4 ตนเฝ้าอยู่โดยรอบ
ผ่านเข้าไปยังวิหารด้านใน ถัดเข้าไปอีก ถึงศาลาหลักของสุสานแห่งนี้ สร้างได้สวยงามอลังการมาก
_______________________________________________________________________
การท่องเที่ยวในวันอื่นๆสามารถรับชมได้ตามนี้ครับ
ค่าใช้จ่ายและการเดินทาง
http://ppantip.com/topic/32074161
อุเอะโนะ
http://ppantip.com/topic/32077308
อะเมลโยโกะ+โอไดบะ
http://ppantip.com/topic/32079816
ชิบุยา,ชินจุกุ,ศาลเจ้าเมจิ,ฮาราจุกุ
http://ppantip.com/topic/32085133
วัดเซนโซจิ,โตเกียวสกายทรี,อกิฮาบาร่า
http://ppantip.com/topic/32090439
ศาลเจ้าสึรุงะโอกะฮะจิมังกุ,พระใหญ่ไดบุตซึ,วัดฮาเสะเดระ
http://ppantip.com/topic/32095986
ใช้บัตรแบ่ง JR PASS วันแรก,ชินกังเซน
http://ppantip.com/topic/32098223
[CR] เที่ยวญี่ปุ่นลุยเดี่ยวคนเดียว สี่ภูมิภาค คันโต-ชุบุ-คันไซ-ชูโกคุ (เมืองมรดกโลก นิกโก้)
สวัสดีครับ ครึ่งทางแล้วนะครับ สำหรับทริปญี่ปุ่นลุยเดี่ยวคนเดียว สี่ภูมิภาคนี้
วันนี้ขอพาไปเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศหนีความจำเจของเมืองใหญ่ ๆ ออกมาพักผ่อนหย่อนใจตามต่างจังหวัดบ้าง 日光 : にっこう อ่านว่า นิกโก้ ซึ่งสถานที่นี้อยู่ในเขตจังหวัดโทะชิกิ ( 栃木県 : とちぎけん ) ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของโตเกียวโดยรถไฟประมาณ 2 ชั่วโมง
มีคำขวัญของญี่ปุ่นเป็นภาษาอังกฤษว่า NIKKO is NIPPON หรือแปลเป็นไทยว่า “เมืองนิกโก้ คือ ประเทศญี่ปุ่น” เมืองนิกโก้ (Nikko) เป็นเมืองมรดกโลก ที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยเอโดะ โชกุนตระกูลโทคุกาวา (Tokugawa) ได้วาง Nikko ให้เป็นเมืองฝ่ายเหนือ มีการสร้างวัดและศาลเจ้าสวยงามหลายแห่ง โชกุนก็ได้อาศัยอยู่ในเมือง Nikko หลังจากโชกุนได้เสียชีวิตมีการสร้างสุสานโชกุนที่ Nikko ซึ่งเป็น 1 ในสุสานที่สวยงามของญี่ปุ่น นอกจากเป็นเมืองมรดกโลกแล้ว Nikko ยังมีที่เที่ยวอีกมากมาย เช่น อุทยานแห่งชาติ Nikko ออนเซ็น สวนสนุกเอโด
พอถึงสถานี JR Utsunomiya ก็เดินตามป้าย Transfer Nikko Line ----> JR Nikko Line
ภายในรถไฟ JR Nikko Line รถไฟค่อนข้างโล่ง อาจเป็นเพราะว่าเป็นวันธรรมดาด้วยมั้งครับ เลยนั่งฟังเพลงสบายๆชิลๆๆ
สถานีรถไฟ JR Nikko เป็นสถานีเก่าแก่ แบบอาคารไม้ รถไฟสาย Nikko Line ก็เป็นเส้นทางรถไฟเก่าแก่เหมือนกัน เปิดให้บริการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980 การเดินทางด้วยรถไฟในญี่ปุ่นฝังรากมายาวนาน ชีวิตคนญี่ปุ่นจึงผูกพันกับรถไฟ
มาถึงสถานีรถไฟ JR Nikko 10.25 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
สถานีรถไฟ Tobu Nikko ภายในนี้จะมี Nikko Tourist information และที่ขายตั๋วรถใน Nikko แบบต่างๆ
การเดินทางใน Nikko
มีรถเมล์สาย World Heritage bus (รถสีแดง) วิ่งวนในเส้นทางมรดกโลก แต่ถ้าต้องการจะออกไปไกลที่ทะเลสาบซูเซ็นจิ, น้ำตกเคง่อนต้องนั่งรถ Tobu bus รถเมล์สาย World Heritage bus จะจอดที่ป้ายรถเมล์หน้าสถานี JR Nikko และสถานี Tobu-Nikko ไม่ว่าจะเดินทางมาด้วยรถไฟสายไหนก็ขึ้นรถเมล์ World Heritage bus ได้สะดวก
เนื่องจากว่าค่าโดยสารของ World Heritage bus เริ่มต้นที่ประมาณ 250 เยน ส่วนบัตรโดยสารแบบ One day pass ราคา 500 เยน ในกรณีนี้บัตร One day pass คุ้มกว่าแน่นอนดังนั้นเราจะต้องไปซื้อ One day pass ก่อนขึ้นรถ
ป้ายรถเมล์ที่จะไปพื้นที่ Nikko World Heritage จะเป็นป้าย 2C อยู่ฝั่งเดียวกับสถานี Tobu Nikko รถก็จะจอดตรงสะพานชินเชียวครับ
สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge) มีความหมายว่าสะพานศักดิ์สิทธิ์ สะพานแห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของเมืองมรดกโลกนิกโก้ จากสะพานนี้สามารถเดินไปยังวัดรินโนจิ, ศาลเจ้าโทโชกุ, ศาลเจ้าฟุตะระซัง และวัดไทยุอิน รูปแบบของสะพานชินเคียวเป็นสะพานไม้โค้งแบบโบราณ ทาด้วยสีแดงด้านหลังสะพานเป็นวิวภูเขาอีกฝั่งของสะพานติดถนน ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในเดือนตุลาคมจะเห็นต้นไม้สีแดง เหลือง เขียวสลับกับเป็นฉากหลังของสะพานชินเคียว นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปที่สะพานนี้
วัดรินโนจิ (Rinnoji Temple) เป็นวัดพุทธที่สำคัญที่สุดใน Nikko สร้างขึ้นโดยพระ Shodo Shonin ผู้ที่นำศาสนาพุทธมาเผยแพร่ใน Nikko ในช่วงปี ค.ศ. 800 ภายในวัดมีประพุทธรูปที่ทำจากไม้ปิดด้านนอกด้วยทอง และรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม
ผมทำรูปด้านหน้าหายไปเสียดายมากๆครับ เลยได้แต่รูปถ่ายด้านหลังวัดแทน (ไว้จะกลับไปซ่อมใหม่)
หลังจากวัดเรนโนจิเราก็เดินเข้าไปอีกนะครับ
ก่อนที่จะเข้าศาลเจ้าโทโชกุ จะเจอกับเจดีย์สีแดง 5 ชั้น มีลวดลายสวยงาม เป็นเจดีย์เก่าแก่สร้างขึ้นใน ค.ศ. 1650
ศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine) เป็นสถานที่ไม่ควรพลาดเมื่อมา Nikko ศาลเจ้านี้สร้างขึ้นตามหลักศาสนาชินโตและศาสนาพุทธ อาคารแต่ละหลังจะสร้างมาจากไม้ลงลายสีทอง แกะสลักอย่างสวยงามตามแบบญี่ปุ่น บรรยากาศรอบๆ ศาลเจ้าเป็นป่าสนอากาศเย็นสบาย
ที่ทางเข้าของศาลเจ้าโทโชกุจะเป็นซุ้มประตูโยเมมง (Yomeimon) เป็นซุ้มประตูที่สวยงาม มีขนาดใหญ่ แต่น่าเสียดายว่าอยู่ในระหว่างซ่อมแซมเลยไม่มีโอกาสได้เห็นด้านใน
อาคารไม้ในรูปด้านล่างมีรูปลิงแกะสลัก 3 ตัวอยู่ในท่า ปิดหู ปิดปาก ปิดตา (see no evil, hear no evil, speak no evil) หมายถึงการไม่ดู ไม่ฟัง ไม่พูดในสิ่งไม่ดี ลิงแกะสลัก 3 ตัวนี้แกะสลักโดย Hidari Jingoro
นิกโก-สุสานท่านโชกุน
.อลังการด้วยผลงานศิลปะแกะสลักไม้อันวิจิตรและหลากหลายประดับไว้บนซุ้มประตูแทบทุกระเบียดนิ้ว ทั้งรูปสัตว์ อาทีนกกระเรียน ไก่ฟ้า นกน้ำ เป็ดป่า ช้าง เต่า กระต่าย มังกร เสือ สิงโต เป็นต้น รูปแกะสลักอย่างอื่นก็มี เช่น ต้นไผ่ ต้นสน ต้นโบตั๋น ก้อนเมฆ และรูปเด็ก โดยมีเสาที่รองรับน้ำหนักหลังคาที่ดูหนักอึ่งนี้จำนวน 12 ต้น กำแพงด้านข้างของประตูทั้งสองก็มีผลงานแกะสลักทีวิจิตรอลังการไม่แพ้กัน
ที่บริเวณซุ้มประตูก่อนขึ้นบันไดไปสุสานฯ มีรูปแกะสลักไม้ที่มีชื่อเสียง เป็นรูปแมวหลับ เป็นผลงานของ Hidari Jingoro คนเดียวกับที่แกะสลักลิงปิดหู ปิดปาก ปิดตา
คนญี่ปุ่นเองก็มาเที่ยวศาลเจ้าโทโชกุกันมาก
ทางขึ้นไปยังสุสานโชกุนอิเอะยาสุ เป็นบันไดหิน 200 ขั้นล้อมรอบด้วยป่าสน
สุสานโชกุนอิเอะยาสุ จะอยู่บนพื้นที่สูงของศาลเจ้าโทโชกุ
อาคารในรูปด้านล่างเป็นที่เก็บของที่ใช้ในงานพิธีสำคัญ
แล้วที่ด้านล่างของซุ้ม ประตูโยเมมง ลงไปทางด้านขวา ที่นั่นจะมีหอพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า (薬師) อยู่ เป็นหอพระในศาสนาพุทธ ภายในนั้นจะประดิษฐานองพระไภษัชยคุรุเป็นประธาน แต่ก็ปิดบานประตูเอาไว้ ประดับด้วยทวยเทพผู้ดูแลปีนักษัตรอีก 12 องค์ แต่ที่สำคัญ ที่เพดานของหอพระแห่งนี้ จะมีรูปมังกรที่วาดโดยศิลปินที่มีชื่อเสียงในยุคต้นเอโดะ และที่ตำแหน่งหัวมังกรจะมีการออกแบบพิเศษ เมื่อนำกรับไปตีในจุดที่ตรงกับตำแหน่งหัวมังกรก็จะเกิดเสียงสะท้อน ซึ่งเชื่อกันว่า นั่นเป็นเสียงมังกรร้อง หอพระนี้จึงมีอีกชื่อว่า เป็นหอมังกรร้องนั่นเอง (แต่ห้ามถ่ายรุปครับ )
จากศาลเจ้าโทโชกุ เราจะไปเที่ยวต่อที่วัดไทยูอิน, ศาลเจ้าฟุตาระซัง สามารถไปได้ 2 วิธีครับ 1. นั่งรถบัสไป จากป้าย 83 ไปป้าย 85 2. เดินไปประมาณ 20 นาที ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรกว่าๆ แต่ผมเดินไปครับ
เสียดายผมทำรูปหายไปนะครับ เดี่ยวหาเจอจะเอามาเพิ่มให้ครับ
การเข้าชมในวัดไทยูอินต้องซื้อบัตรเข้าที่หน้าวัด ผู้ใหญ่ 550 เยน, เด็ก 250 เยน
ด้านในจะพบบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ โดยสร้างศาลาครอบเอาไว้ น้ำจากน้ำพุ ใช้สำหรับดื่ม ล้างมือ ล้างหน้า ชำระล้างร่างกายให้สะอาดก่อนเข้าวัด น้ำเย็น ใส สะอาดมาก
แล้วก็เข้ามายังประตูที่สอง ประตู Kaminarimon Gate
ด้านหน้ามีเทพสายฟ้าและเทพสายลมเฝ้าอยู่
จะถึงประตู Yashamon Gate หรือเรียกอีกอย่างว่า ประตูดอกโบตั๋น
มีปีศาจทั้ง 4 ตนเฝ้าอยู่โดยรอบ
ผ่านเข้าไปยังวิหารด้านใน ถัดเข้าไปอีก ถึงศาลาหลักของสุสานแห่งนี้ สร้างได้สวยงามอลังการมาก
_______________________________________________________________________
การท่องเที่ยวในวันอื่นๆสามารถรับชมได้ตามนี้ครับ
ค่าใช้จ่ายและการเดินทาง http://ppantip.com/topic/32074161
อุเอะโนะ http://ppantip.com/topic/32077308
อะเมลโยโกะ+โอไดบะ http://ppantip.com/topic/32079816
ชิบุยา,ชินจุกุ,ศาลเจ้าเมจิ,ฮาราจุกุ http://ppantip.com/topic/32085133
วัดเซนโซจิ,โตเกียวสกายทรี,อกิฮาบาร่า http://ppantip.com/topic/32090439
ศาลเจ้าสึรุงะโอกะฮะจิมังกุ,พระใหญ่ไดบุตซึ,วัดฮาเสะเดระ http://ppantip.com/topic/32095986
ใช้บัตรแบ่ง JR PASS วันแรก,ชินกังเซน http://ppantip.com/topic/32098223