เราไม่มีใครในชีวิตเลย จะทำอย่างไร มีแต่รูปธรรม แต่เวลาทุกข์ ทุกข์คนเดียวจริงๆ ลองอ่านสักนิดนะคะ

กระทู้คำถาม
ตอนนี้เราเหมือนคนหัวเดียวกระเทียมลีบค่ะ เริ่มตั้งแต่คนในบ้านเดียวกันคือพ่อแม่ น้องอีก 2 แฟน หรือสามีเคยมีแบบถูกต้องตามประเพณี แต่ต้องเลิกราไปเนื่องด้วยผู้ใหญ่ จะเล่าหลักๆนะคะ มีน้องก็สร้างหนี้สินไว้ให้ น่าจะหกหลักได้ รวมดอกเบี้ย คือไม่จ่ายแล้วเงินทบต้น ในจำนวนที่เป็นเจ้าหนี้กองนี้คือธนาคารทั้ง 4 แห่งแล้วก็ออกจากบ้านไปอยู่กินกับผู้หญิงคนนึง บ้านไม่ส่ง ค่าใช้จ่ายจากที่เคยช่วย ก็ไม่ช่วย และที่เลวร้ายคือหนี้ที่ติดดิฉันไม่จ่ายเลย ต้องมาทำงานรับใช้หนี้ขั้นต่ำของธนาคารทั้ง 4 ที่ รวมแล้วเหมือนจ่ายฟรีๆ ปรึกษาใครก็ไม่มีใครช่วย และแม่ยังเข้าข้าง บอกว่าจะให้ทำยังไง และไม่เอาจริงกับเขาเลย ตอนนี้ก็ต้องก้มหน้าก้มตารับใช้ไปอีกเป็นปีๆๆกว่าจะหมด และได้ร่วมค้าขายกับน้องอีกคนเป็นการขายของเล็กน้อย แต่งานชิ้นแรกที่ขายได้ต้องใช้เงินทุน เขาเลยเอาของมีค่าไปเอามาเป็นทุน แต่เก็บเงินได้ครบก็คืนให้หมดแล้ว ได้กำไรมาพอควรเพื่อไว้เป็นทุน แต่เขาก็ขายได้เล็กๆน้อยๆ เรื่อยๆ วันนึงก็วาดิฉันไม่ขาย ดิฉันไม่ใช่ว่าไม่ขาย แต่ยังไม่ได้ เขาเลยย้อนมาว่าตอนนี้นลงทุนกันเท่าไร ดิฉันคิดแล้วว่าถามแบบนี้หมายความว่าไง ซึ่งดิฉันบอกไม่มีทุน เขาก็เลยมาย้อนว่าเขาลงทุนคนเดียว คุณผู้อ่านคิดว่าอย่างไรคะ กับคำเปรยๆแบบนี้ นี่ขนาดแค่เล็กๆน้อยๆ เรื่องวิ่งทำของประดับตกแต่งสินค้า ต้องไปนั่งรอจนดึกๆดิฉันคนเดียวเลย แพ็คของก็คนเดียวแต่พอมีคนสั่ง เขาจะได้จากคนรู้จัก ที่ละ5-10 ชิ้น แต่ดิฉันเคยได้ครั้งแรกมาเป็นร้อยๆชิ้น เขาก็ว่าดิฉันไม่เห็นขายได้อย่างเค้า มัวแต่จะรอชุดใหญทีละร้อยเหรอ และยังมาย้อนอีกว่าลงทุนคนเดียว แต่นั่นก็คืนทุกบาททุกสตางค์ไปล้แล้ว เขาถามแบบนี้หมายถึงยังไง จนมีปากเสียงกัน เขาบอกถ้าคราวหน้ามาอีกเป็นร้อยๆๆชิ้นเขาก็ไม่ให้แล้วนะ ให้ดิฉันไปกดจากบัตรเครดิตมา ซึ่งถ้าเทียบแล้วดอกก็แพงกว่ามาก คุณคิดว่าเป็นอย่างไร เอาของมาดิฉันต้องมาตกแต่งเอง ทำให้ดูดี ซึ่งเป็นอะไรที่ง่ายๆแต่เขาก็ต้องเรียกให้ดิฉันมานั่งทำ รับรู้ แต่ตัวเองก็ไม่ค่อยจะทำ ทุกอย่างคือมีงานเข้ามา ฉันไม่ทำคนเดียว ฉันจะรอจนกว่าแกจะกลับมาแล้วมานั่งทำด้วยกัน อะไรทำนองนี้ แต่ถ้าเป็นเขา ดิฉันทำเองได้โดยไม่ต้องรอ ไม่รู้จะรอมานั่งพร้อมกันทำไมให้เสีย้เวลาคุณๆผู้อ่านคะ แบบนี้เขาเรียกว่าอะไร เรียกว่าไม่สามัคคีหรือเปล่า หรือยังไง ดิฉันก็บอกไม่ถูก ก็เลยบอกไปว่าถ้า ไม่ลงทุน ในเมื่อตัวเองมีก็ออกไปก่อน เพราะได้มาก็คือทุนบวกกำไร แต่เขาไม่ยอมแล้วล่ะสิ เขาบอกต้องให้ดิฉันไปกู้ยืม แต่มันไม่ง่ายแล้ว เพราะเครดิตดิฉันเสีย เพราะน้องคนที่ว่าให้อ่าน ข้างต้นนั้นทำเสีย พีอแม่ก็ให้คำปรึกษาอะไรไม่ได้เลย พอบ่นมากคุณแม่ก็เหมือนจะเข้าข้างน้อง  ดิฉันว่าดิฉันก็ไม่ได้เป็นคนชั่วช้านะคะ คิดว่าตรงกันข้ามมากๆด้วยค่ะ ดิฉันจะทำอย่างไรดีกับชีวิต ทุกวันนี้ก็อยู่กับงานประจำพอมีรายได้ที่ใช้หนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อ แถมมาทำค้าขายอะไรเล็กน้อยเพื่อมีรายได้เพิ่มกลับกลายเป็นแบบนี้ ก่อนหน้านี้เขาก็ชวนดิฉันเปิดร้าน ทำอะไรที่ใหญ่โตกว่านี้อีก ดิฉันมาคิด แค่นี้ยังคิดเล็กคิดน้อยแบบนี้ถ้าร่วมกันใหญ่กว่านี้ไม่แย่หรือคะ คุณๆผู้อ่านช่วยหาทางออกให้ดิฉันทีว่าดิฉันควรจะทำอย่างไร เป็นชีวิตที่เศร้ามากค่ะ พี่ป้าน้าอาจะชวนลาออกไปทำธุรกิจกับเขา ดิฉันก็ไม่กล้า เกิดมีปัญหาจะมองหน้ากันไม่ติดอีก เห็นหลายๆคนพูดกันมาค่ะ และถ้าลาออกทีนี้หางานใหม่ดิฉันจะทำอย่างไร ใครจะรับผิดชอบชีวิตให้ ขอความเห็นด้วยนะคะ หรือดิฉันมีรอยรั่วตรงไหนจากที่เล่ามาช่วยบอกด้วยค่ะ เผิ่อจะได้รู้ในสิ่งที่ไม่รู้ค่ะ
พฟุ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่