ภาค 1 : http://ppantip.com/topic/31544926

ยังจำบทความอันเก่าเรื่องนี้ของผมกันได้หรือเปล่าครับ ซึ่งผมเชื่อว่าหลายคนเองก็คงยังงงกับเหตุการณ์ที่ผมเผยแพร่อยู่แน่ๆเลยใช่ไหม ถ้างั้นพวกเรามาเพิ่มความงงยกกำลังสองกันดีกว่า ^ _^ คราวนี้อาจจะมีเหตุการณ์หลายเรื่องที่คิดว่าเราเองก็คงประหลาดใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน โลกของเราเองมันก็ช่างมีเรื่องน่าค้นหากันต่อไป แต่ยังไงเรามาเพิ่มความงงและประหลาดใจกับเหตุการณ์ 10 อันดับดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

10. alaska monster fish (ปลาปีศาจ ค.ศ.1942-1988)

ปลาปีศาจพบได้ทางรัฐ Alaska ของประเทศอเมริกาที่ถือเป็นปลาในตำนานที่สร้างความหลอกหลอนให้กับผู้คนที่อยู่ระแวงนั้นที่แห่กันจับปลา พวกเขาพบว่ามีสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งบางครั้งก็มีการรายงานว่า ปลาปีศาจมีการหายใจขึ้นมาบริเวณเหนือน้ำ ซึ่งปลานั้นมีขนาดยาวมากถึง 10-30 ฟุต ซึ่งมีขนาดยาวพอๆกับเรือขนาดเล็ก ผู้คนที่พบไม่ใช่แค่พบทางตอนเดินเรือเท่านั้น แต่ยังมีทางนักบินได้พบเห็นเหนืออากาศอีกด้วย  เราสามารถหาดูได้ทางพวกสารคดีได้ไม่ยากที่มีการอธิบายเกี่ยวกับปลาปีศาจนี้ ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีการระบุว่ามีปลาตัวนี้จริงหรือไม่

9. shag habour incident (UFO ตกลงกลางทะเล? ค.ศ.1967)

เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศแคนาดา เมื่อมีผู้คนประมาณ 11 คนที่อยู่ในบริเวณนั้น ต่างก็พูดเสียงเดียวกันว่า มีวัตถุขนาดใหญ่ตกลงกลางทะเล ซึ่งเรื่องนี้ก็มีการประสานงานกับทางรัฐบาลและกองทัพได้ต่างพากันช่วยค้นหาวัตถุดังกล่าว โดยให้นักประดาน้ำทำการค้นหา แต่ก็ไม่พบอะไร แต่ยังไม่จบนะครับ ทางรัฐบาลและกองทัพเองก็ยังสืบค้นเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องว่ามันคือวัตถุอะไรกันแน่ แต่ก็แน่นอนหลายฝ่ายก็พูดเสียงเดียวกันว่าจะต้องเป็น UFO แน่ๆ และจากนั้นก็มีการดำน้ำลงไปอีก แต่คราวนี้แตกต่างกันก็คือ เมื่อทางนักประดาน้ำได้ทำการสำรวจแล้ว ต่างก็พากันเงียบกริบ เหมือนกับไม่ยอมบอกลักษณะวัตถุขนาดใหญ่ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นความลับไปซะแล้วล่ะ อาจจะมองได้ว่าเป็นการกระทบกับความมั่งคงก็ได้ล่ะมั้ง

8.dancing plague (เต้นกันสนั่นโลก ค.ศ.1518)

เป็นโรคฮิทีเรียอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในเมือง Strasbourng ที่อยู่ดีๆผู้คนต่างพากันเต้นกันโดยไร้สาเหตุโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ไม่รู้จักพักผ่อน เต้นไปแบบนี้ทั้งวัน ทั้งคืน เป็นเวลาเดือนกว่าๆ ที่ต่อมาผู้คนต่างพากันเจ็บล้มตายด้วยอาการต่างๆไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ หอบหืด เหตุการณ์ในตอนแรกๆนั้นจะเป็นพวกผู้หญิงพากันออกมาเต้นโดยใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์ถึงจะได้ และสัปดาห์ต่อมาผู้คนเป็นร้อยต่างพากันเข้ามาสมทบเต้นด้วย เดือนต่อมาก็พาเต้นกันเกือบเป็นร้อยเป็นพันคน และสุดท้ายก็พากันเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งโรคนี้ เหตุการณ์นี้ยังไม่มีใครทราบที่มาแน่ชัดว่า ทำไมพวกเขาถึงออกมาเต้นกันเป็นจำนวนมากและยังไม่สามารถหาคำตอบอธิบายได้ แต่ผมคิดเอาเองว่าคงจะเต้นเพื่อความเชื่ออะไรสักอย่างหนึ่งหรือเปล่า?

7. the buzzer (เสียงประหลาดบนเครื่องวิทยุ ค.ศ.1970-ปัจจุบัน)

เป็นสัญญาณความถี่ประหลาดจากคลื่นวิทยุของประเทศรัสเซียคลื่น UVB-76 เป็นสถานีวิทยุเก่าแก่ในช่วงยุคสงครามเย็นที่เหลือแต่ซากแล้ว ซึ่งชื่อ The Buzzer นี้มาจากผู้ฟังวิทยุที่มีสัญญาณความถี่ประหลาดเข้ามารบกวนเป็นระยะๆ ซึ่งแรกๆดูเหมือนจะเป็นสัญญาณรบกวนธรรมดาๆ เหมือนเป็นเสียงรบกวนปกติทางคลื่นวิทยุ  แต่ไปๆมาๆทางนั้นทางสถานีก็บอกว่า มันไม่ใช่สัญญาณที่รบกวนจากสถานี แต่มันเป็นสัญญาณที่ไม่สามารถหาแหล่งที่มาได้ว่ามันมาจากไหน ก็เลยมีการเพ่งเล็งก่อนเลยว่า เป็นทางด้านรัฐบาลรัสเซียแน่ๆ หรือทางกองทัพที่มีการส่งสัญญาณรบกวนเป็นระยะๆเพื่อเป็นการส่งสัญญาณบอกรหัสลับอะไรสักอย่างหนึ่ง ทว่าสถานีนี้มันก็พังไปแล้ว แล้วทำไมยังมีคลื่นความถี่นี้อยู่ ซึ่งไม่สามารถพิสูจน์ยืนยันแน่ชัดนักว่ามีแหล่งที่มาจากไหน ก็มีหลายทฤษฎีด้วยกันที่อธิบายเรื่องนี้ ซึ่งยังหาคำตอบไม่ได้แน่ชัด ทุกวันนี้เสียงประหลาดก็ยังปรากฏอยู่บ้างครั้งคราว

ฟังเสียงได้ที่นี่ครับ

6. ourang medan (การตายปริศนาของลูกเรือบนเรือคลังสินค้า ค.ศ.1947)

คนที่ชอบเรื่องลึกลับก็อาจจะรู้จักเหตุการณ์นี้เป็นอย่างดี แต่อีกหลายคนก็อาจจะยังไม่รู้ก็ได้ ผมก็อธิบายคร่าวๆแล้วกันนะครับว่า ลูกเรือได้เสียชีวิตบนเรือ S.S Ourang Medan ซึ่งเป็นการตายที่ผิดแปลกไปจากการตายทั่วๆไปก็คือ ลูกเรือล้วนมีการตายแบบไม่ทราบสาเหตุได้ อยู่ๆดีเหมือนกับเป็นการตายแบบแข็งไปทั้งตัว ไม่มีร่องรอยอาการบาดเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว (เหมือนกับกรณี Lead Mask Case จากบทความก่อนหน้านี้) อย่างกับโดนยิงปืนแช่แข็งยังไงยังงั้น ซึ่งก่อนที่จะตายพวกลูกเรือได้ให้ข้อความสุดท้ายว่า “ฉันตาย” จากนั้นเสียงก็เงียบไป เหมือนกับว่าโดนมนต์สะกดอะไรสักอย่างที่ต้องพูดออกมาแบบนั้น แต่เราก็ไม่ต้องตกใจหรอก บางฝ่ายก็มีการแย้งอยู่เหมือนกันว่า เรือนี้อาจจะไม่ได้มีอยู่จริง แต่มันอาจจะเป็นเพียงแค่ตำนานเท่านั้น แต่จะเป็นตำนาน ไม่นานก็ชั่งเถอะ ยังไงซะก็เป็นเหตุการณ์ที่หาคำตอบไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ

5. the battle of los angles (กองทัพสหรัฐอเมริกา VS. กองทัพยูเอฟโอ ค.ศ.1942)

เป็นเหตุการณ์ที่ถือว่าแปลกประหลาดอีกเหตุการณ์หนึ่ง ที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างที่ประเทศอเมริกากำลังตั้งฐานรกรากอยู่ จู่ๆก็มีกองทัพข้าศึกเข้ามามาในอาณาเขตจากทางด้านอากาศ ก็ส่งสัญญาณเตือนภัย ทางอเมริกาก็เลยทำการตั้งรับด้วยการจู่โจมโดยปืนต่อต้านอากาศยาน ซึ่งทางกองทัพอเมริกาเองก็งงๆอยู่เหมือนกันว่า ทำไมมันถึงไม่เป็นอะไรเลยวะ ยิงไปแล้วเหมือนกับไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไรเลย  กองทัพญี่ปุ่นมันมีอะไรตุกติกหรือเปล่า ซึ่งตอนแรกทางอเมริกาคิดว่าเป็นอากาศยานของประเทศญี่ปุ่น แต่พอสังเกตดีๆมันไม่น่าจะใช่อากาศยานของฝ่ายญี่ปุ่น แต่มันเป็นอะไรวงๆสักอย่างที่เกาะกลุ่มกันเหมือนเป็นกองทัพ ทางด้านนักยูเอฟโอศาสตร์เองก็ได้ทำการวิเคราะห์เรื่องนี้น่าสนใจเหมือนกันว่า มันอาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตอยู่นอกโลกที่เราไม่สามารถใช้เครื่องมือต่อกรอะไรได้ และการที่กองทัพระดมยิงแล้วไม่เป็นไรนั้น มันก็อาจจะมีระบบการป้องกันของมันเองอยู่แล้ว หรืออีกทฤษฎีหนึ่งก็คือ มันก็อาจจะเป็นแค่ลูกบอนลูนธรรมดาที่มีแสงสว่างก็แค่นั้น

4. cando event (ปริศนาระเบิดอุกาบาตรตกลงมา? ค.ศ.1994)

เป็นเหตุการณ์แถวๆย่านชานเมืองของประเทศสเปน ที่ชาวบ้านต่างก็พูดเสียงเดียวกันว่าได้พบลูกไฟยักษ์ตกลงมาบนท้องฟ้า แต่ก็ยังไม่ได้มีการพิสูจน์หลักฐานแน่ชัดว่าเป็นอย่างที่พูดไว้หรือไม่ ซึ่งดูเหมือนว่ามีวัตถุขนาดใหญ่สักอย่างหนึ่งที่ทำลายพวกต้นไม้ ผืนป่าบริเวณบนหุบเขาจนไม่เหลือซากอะไรให้เห็น หลายฝ่ายเองก็สงสัยเหมือนกันว่ามันเหมือนกับเหตุการณ์ประหลาดระดับโลกอย่าง Tunguska หรือเปล่าที่เหตุการณ์นั้นก็ใช้เรื่องทฤษฎีอุกาบาตรตกลงมา แต่ยังไงก็ตามแต่ก็ยังมีทฤษฎีให้เห็นอยู่ไม่ว่าจะเป็นฝีมือของกองทัพหรือมนุษย์ต่างดาว

3.Olympia Springs Meat Shower (ปรากฎการณ์เนื้อตกลงมาฟากฟ้า ค.ศ.1876)

เหตุการณ์นี้ถือว่าประหลาดมากเหมือนกัน ที่ผู้คนพบว่ามีเนื้อขนาดใหญ่ได้ตกลงมาบนฟ้าโดยไม่รู้สาเหตุว่ามันตกลงมาดื้อๆได้ยังไง บริเวณที่ตกนั้นก็อยู่ใกล้ๆกับ Olympia Springs ตกอยู่นานเป็นเวลาหลายนาที ก็พบก้อนเนื้อเป็นจำนวนมาก ที่ทางนิตยสารขนาด New York Time ลงตีพิมพ์เหตุการณ์นี้ว่าเป็นปรากฏการณ์แปลกประหลาดมากอย่างหนึ่ง ซึ่งเนื้อนั้นก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเนื้อวัว ก็มีทฤษฎีอยู่เหมือนกันว่าอาจจะมีสัตว์ปีกชนิดหนึ่งคาบก้อนเนื้อแล้วปล่อยตกลงมาหรือเปล่า

2. the dyatlov pass incident (การตายปริศนาของนักเล่นสกีทั้ง 9 คน ค.ศ.1959)

เชื่อว่าหลายคนที่ชอบเรื่องลึกลับอาจจะรู้จักเหตุการณ์นี้ดี และหากใครไมรู้และหากใครดูเรื่องหนังสยองขวัญแล้ว รับรองได้เลยว่าเหตุการณ์ยิ่งกว่าหนังสยองขวัญขนหัวลุกหลายร้อยเท่ายิ่งกว่านิยายเสียอีก  เป็นเหตุการณ์ที่นักเล่นสกีทั้ง 9 คนต่างก็นัดมาเล่นสกีบริเวณภูเขา Ural ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไร ก็พากันกางเต้นท์กันตามปกติ

ซึ่งก็อีกนั่นแหละ ต่อมาพวกเขาก็เสียชีวิตโดยไร้สาเหตุ ตอนแรกก็พบเต้นท์อยู่ในสภาพยับเหยินเหมือนถูกเอามีดมากีด ซึ่งทางหน่วยกู้ภัยก็ค่อยๆพบศพทีละคนจนครบ เนื่องจากหิมะได้ปกคลุมพวกเขาเอาไว้ ซึ่งแต่ละศพก็ต้องบอกว่าตายแบบชนิดที่เล่นเอาเจ้าหน้าที่งงจริงๆ เพราะมีหลายอย่างที่น่าสงสัยทั้งศพแต่ละศพมีความแตกต่างกันออกไป มีทั้งสารกักมัมภาพตรังสี ไร้ร่องรอยการบาดเจ็บ โดนของกระแทกอย่างหนัก เหลือแต่กางเกงในบ้าง ลิ้นหายไปอีกคนหนึ่ง กระโหลกแตกบ้าง ทางด้านแพทย์เองก็ลงความเห็นว่าคนที่ตายจากแรงกระแทกมันจะต้องถูกรถชนเท่านั้นถึงจะเป็นอย่างนี้ได้ แต่ก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมอีกคนหนึ่งลิ้นถึงหายไป

ซึ่งคดีนี้ดูเหมือนจะสิ้นสุดลง แต่ในช่วงปี 1990 ก็ได้มีนักหนังสือพิมพ์คนหนึ่งมาแฉว่า เสื้อคลุมของนักเล่นสกีล้วนแล้วมีแต่กักมัมภาพรังสี และพวกเขาต่างก็เห็นดวงไฟประหลาดๆ และที่สำคัญยังมีภาพปริศนาที่ดูเหมือนจะเป็นภาพถ่ายสุดท้ายของนักเล่นสกีให้ชวนสงสัยทิ้งท้ายด้วยว่า มันคือภาพอะไรกันแน่ แต่ก็มีการเปิดโปงอีกว่า หลักฐานส่วนใหญ่ล้วนถูกทำลายไปมาก ก็อาจจะคิดได้เหมือนกันว่า นักเล่นสกีเหล่านี้ได้เข้าไปเขตต้องห้ามหรือเขตที่มีการทดลองลับๆอะไรสักอย่างอยู่หรือเปล่า แต่ตอนนี้ก็มีหนังเรื่องนี้ออกมาแล้ว พวกเราก็สามารถหาดูได้ตามสบาย ชื่อหนังก็เหมือนกับชื่อเหตุการณ์นี้แหละ

สภาพศพก็มีลักษณะเช่นนี้

ส่วนภาพสุดท้ายที่ถูกถ่ายไว้โดยนักเล่นสกีก็ยังถือเป็นภาพปริศนาที่ยังตั้งข้อสงสัยทุกวันนี้

เดี๋ยวมีต่อครับ