หรานหมิน ฮิตเลอร์แห่งประวัติศาสตร์จีน

คราวก่อนได้นำเรื่องราวของจางเสียนจงมาเล่าสู่กันฟังไปแล้ว วันนี้จึงขออนุญาตนำเรื่องราวของจอมเผด็จการอีกคนในประวัติศาสตร์จีน ที่มักจะได้รับการขนานนามว่า ฮิตเลอร์แห่งเมืองจีน มาเล่าสู่กันฟังอีกทีครับ

บุคคลคนนี้มีชื่อว่า หรานหมิน 冉闵 หรือ ชื่อดั้งเดิมคือ สือหมิน 石闵 ครับ เขาเกิดเมื่อใดไม่ปรากฎเวลาชัดแจ้ง แต่น่าจะเป็นราวๆปี ค.ศ. 328-330 ในช่วงต้นยุคราชวงศ์จิ้นตะวันออกครับ

ในตอนนั้นชนชาติอู่หู หรือชาวหูทั้ง 5 ได้แก่ ซงหนู, เจี๋ย, ตี, เซียง และเซียนเปย ได้อพยพเข้ามาอาศัยในจงหยวน อาศัยช่วงที่ราชสำนักจิ้นอ่อนแอจากศึกสงครามกลางเมือง พวกอู่หูก็ก่อการกบฏขึ้นต่อต้านราชสำนัก และเข้ายึดครองดินแดนต่างๆทั่วภาคกลางของจีนเอาไว้ สร้างรัฐเอกราชกระจัดกระจายอยู่เต็มแผ่นดินไปหมด

หนึ่งในรัฐของชนชาติอู่หูที่ทรงอำนาจมากก็คือ รัฐโฮ่วจ้าว ของชนชาติเจี๋ย ซึ่งมีผู้นำคือ สือเล่อ 石勒



สือเล่อเนั้นพื้นเพป็นชนชาติเจี๋ย 羯 หนึ่งในพวกชนป่าเถื่อนที่อาศัยอยู่ในภาคเหนือของจีนครับ เชื่อกันว่าชาวเจี๋ยนั้นสืบเชื้อสายมาจากพวกเย่ว์จื่อ 月氏 แห่งอาณาจักต้าเซี่ยในเอเชียกลาง ภายหลังอาณาจักรต้าเซี่ยถูกพวกทู่ฝานรุกรานจนพินาศไป พวกชาวเย่ว์จื่อ เลยอพยพหนีภัยสงครามมาทางตะวันออก และกลายเป็นชนชาติเจี๋ยในที่สุด

สือเล่อเกิดในปีไท่สือที่ 8 ตรงกับ ค.ศ.274 ในรัชกาลของจักรพรรดิจิ้นหวู่ตี้ (สุมาเอี๋ยน) ครับ ในตอนนั้นโลกเกิดปรากฏการณ์ LIA ที่ทำให้ดินแดนทางตอนเหนือของหวงเหอมีอากาศหนาวจัดยาวนานและแห้งแล้ง ส่งผลให้ชนป่าเถื่อนที่เคยอาศัยในทุ่งหญ้านั้นต้องอพยพลงใต้เข้ามาในเขตจงหยวนกันเพื่อหลบหนีภัยหนาว ประกอบกับการที่ภาคเหนือของจีนตกอยู่ในสภาวะสงครามอันยาวนาน ทำให้ประชากรชาวหัวเซี่ยลดลงมาก ราชสำนักจิ้นเลยอนุญาตให้พวกชนป่าเถื่อนเผ่าต่างๆมาอาศัยในดินแดนรอบนอกได้อย่างเสรี  ซึ่งชาวเจี๋ยก็เป็นหนึ่งในชนเผ่าที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในเขตเจี๋ยซื่อ ในมณฑลซานซีด้วยครับ

สือเล่อในวัยเด็กนั้นก็น่าจะดำรงชีพด้วยการเลี้ยงแกะเลี้ยงแพะไปเรื่อยเปื่อยตามประสาชนเผ่าเร่ร่อน แต่เมื่อเขาโตเป็นหนุ่มก็เกิดเหตุภัยพิบัติครั้งใหญ่ในซานซี ภัยแล้งติดต่อกันหลายปี ทำให้ชาวเจี๋ยจำนวนมากอดตายหรือไม่ก็ต้องยอมขายตัวเป็นทาสเพื่อให้อิ่มท้อง นอกจากนี้กองทหารซีจิ้นยังมักมาไล่จับชาวเจี๋ยไปขายเป็นทาสอยู่เนื่องๆ

ปีหย่งหนิงที่ 3 รัชกาลจักรพรรดิจิ้นฮุ่ยตี้ (สุมาจ่ง) ตรงกับ ค.ศ. 303 สือเล่อก็ถูกพวกทหารจิ้นจับไปขายเป็นทาสครับ เขาถูกเศรษฐีท้องที่ที่ชื่อว่า สื่อหวน 師懽 ซื้อตัวไปเป็นทาสอยู่ประมาณเกือบปี จนตอนหลังสือหวนเห็นว่า สือเล่อ เป็นทาสที่ขยันขันแข็งทำงาน มีโหงวเฮ้งดี และมีสติปัญญา สือหวนเลยปลดปล่อยสือเล่อให้เป็นไทแก่ตัวในปี หย่งซิ่งที่ 1 รัชกาลจักรพรรดิจิ้นฮุ่ยตี้ (คือจักรพรรดิฮุ่ยตี้แกเปลี่ยนศักราชเป็นว่าเล่น ตลอดรัชกาลมีปีศักราช 10 ชื่อได้)

หลังจากเป็นไทแล้ว สือเล่อก็ขึ้นเขาไปเป็นโจรป่าตามสมัยนิยมที่ตอนนั้นหากไม่อยากโดนราชสำนักขูดรีด ก็หนีไปเป็นโจรสบายกว่า ด้วยความที่สือเล่อเป็นคนมีฝีมือครับ ตอนหลังก็ลงเขาเลิกเป็นโจรไปติดตาม จีซาง หนึ่งในขุนศึกของราชสำนักจิ้น และเป็นขุนศึกคนสนิมของ สุมาอิ๋ง เฉิงตูอ๋อง 成都王

ทีนี้เฉิงตูอ๋อง สุมาอิ๋ง ดัดโดน เหอเจียนอ๋อง สุมาหยง สังหารครับ ทำให้จีซางแค้นมาก เขาเลยก่อการกบฏต่อต้านอำนาจของสุมาหยง โดยชูธงว่าจะช่วยจักรพรรดิฮุ่ยตี้ปราบกบฏสุมาหยง การก่อกบฏของจีซางนี้เอง เป็นโอกาสให้สือเล่อมีอำนาจทหาร เขากลายเป็นขุนพลในสังกัดของจีซาง และร่วมก่อกบฏต่อต้านเหอเจียงอ๋องไปด้วย

กองทัพกบฏของจีซางอาละวาดได้แค่ปีเศษๆ ก็โดนราชสำนักปราบปรามไปครับ จีซางตายตาเหลือก ส่วนสือเล่อหลบหนีไปพึ่งเจ้านายใหม่คือ หลิวหยวน ขุนศึกชาวซงหนูแห่งซานซีแทนในหย่งเจี๋ยที่ 1 รัชกาลจักรพรรดิจิ้นไหว๋ตี้ (สุมาชี่) ตรงกับ ค.ศ. 307

สือเล่อก็ติดตามหลิวหยวน และกองทัพซงหนู แห่งอาณาจักรฮั่นจ้าว (คือหลิวหยวนแก้ตั้งตนเป็น ฮั่นอ๋อง ครับ และเรียกชื่อประเทศว่าฮั่น แต่มันจะไปซ้ำซากกับราชวงศ์ฮั่น นักประวัติศาสตร์ยุคต่อมาเลยเรียกว่า ฮั่นจ้าวแทน) รุกรบไปทั่วครับ จนสกุลหลิวสามารถโค่นล้มจักรพรรดิไหว๋ตี้ได้ในปีหย่งเจี๋ยที่ 6 (ค.ศ. 313) สือเล่อและกองทัพซงหนูบุกเข้ายึดนครลั่วหลางได้ จับจักรพรรดิไหว๋ตี้สำเร็จโทษ

หลังจากกองทัพซงหนูตีลั่วหยางแตกแล้ว สือเล่อแกก็พากองทัพส่วนตัวแยกวงออกมาครับ ตอนแรกๆจะยกลงใต้ไปโจมตีนครเจี้ยนเยี่ยะของสุมารุ่ย แต่ทำไมทำมาเห็นว่าคงจะตีเจี้ยนเยี่ยะลำบาก และสือเล่อเองก็รบทางน้ำไม่เป็น เขาเลยทำตามคำแนะนำของจางปิน ยกทัพขึ้นเหนือไปพิชิตเหอเป่ยแทน กองท้พของสือเล่อเข้ายึดเมือง เซี่ยงกั๋ว 襄國 ได้ และใช้ที่นี่เป็นฐานทัพในการขยายอำนาจต่อ

สือเล่อตั้งมั่นที่เซียงกั๋วตั้งแต่ปี 314 จนถึง 318 ครับ ก่อนจะยกทัพไปช่วยหลิวเหยา เชื้อพระวงศ์คนหนึ่งของฮั่นจ้าวในการชิงราชสมบัติจาก หลิวจุ้น ซึ่งพอหลิวเหยาตั้งตนเป็นจักรพรรดิที่ฉางอันแล้ว เขาก็พระราชทานรางวัลจำนวนมากให้สือเล่อเป็นทุนรอน รวมถึงตั้งสือเล่อเป็น จ้าวอ๋อง ด้วย

ปีไท่ซิงที่ 2 รัชกาลจักรพรรดิจิ้นหยวนตี้ (สุมารุ่ย) ตรงกับปี 319 จักรพรรดิหลิวเหยาเห็นสือเล่อเติบใหญ่ทางอำนาจที่เซี่ยงกั๋วมากเกินไป ก็เกรงว่าเขาจะก่อการกบฏครับ พอสือเล่อส่งทูตมาถวายบรรณาการ หลิวเหยาก็จับทูตฆ่าเสียเพื่อเป็นการบีบให้สือเล่อก่อกบฏ ซึ่งสือเล่อก็ทำจริง โดยการจัดการกวาดล้างขุนนางของฮั่นจ้าวในเซี่ยงกั๋วจนหมด และตั้งตนแข็งเมืองไม่ยอมอ่อนน้อยต่อจักรพรรดิซงหนูอีก

ระหว่างปี คศ 320-328 สือเล่อก็ขยายอำนาจไปทั่วครับ บุกซานตงปราบเฉาหนี บุกเหอเป่ยปราบต้วนปี้ตี้ และท้ายสุดก็ยกทัพต่อสู้กับอาณาจักรฮั่นจ้าว กองทัพของสือเล่อตีฉางอันแตกในปี 328 และจับตัวหลิวสี จักรพรรดิฮั่นจ้าวได้ในปี 329 ก่อนจะสำเร็จโทษเขาทิ้งไป อาณาจักรฮั่นจ้าวของชาวซงหนูก็ล่มสลายลง

ตกถึงปี 330 ตรงกับปีเซียนเหอที่ 4 รัชกาลจักรพรรดิจิ้นเฉิงตี้ (สุมาเหยียน) สือเล่อสามารถควบคุมดินแดน 2 ใน 3 ของจีนเหนือเอาไว้ได้ครับ เขาเลยสถาปนาตัวเป็นจักรพรรดิสวรรค์ หรือ เทียนอ๋อง แห่งอาณาจักรโฮ่วจ้าว (หรืออาณาจักรจ้าวยุคหลัง)

สือเล่อครองราชย์เป็นจักรพรรดิอยู่ได้ 3 ปี ก็ป่วยตายในฤดูใบไม้ร่วงปี เซียนเหอที่ 7 ตรงกับปี คศ 333
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่