ท่านธูลประทับนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ ถัดมาคือโลลิต้า ชองปอล ถัดมาอีกเป็นเสนาบดีชั้นผู้ใหญ่ ไผท แนวหน้า นาย นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ส่วนจีจี้นั่งอยู่ไกลกว่าใครอื่นๆ นายเหลือบมองจีจี้ที่อยู่ปลายโต๊ะเป็นระยะ
ไผทกับโลลิต้า ต่างแอบชำเลืองมองกันระยะ แล้วบังเอิญสบตากันจังๆ ต่างคนต่างหลบตากันอย่างเขินๆ ชองปอลเห็นอาการไผทกับโลลิต้าก็ยิ่งฉุน
ตรงหน้าทุกคนมีอาหารทีมีฝาครอบวางอยู่ มหาดเล็กเปิดฝาครอบให้ทุกคน
เมนูอาหารเป็นสลัดผักต้ม ราดน้ำสลัดสไตล์อาหารแขก
ท่านธูลเอ่ยขึ้น “จานแรกจะเป็นอาหารพิเศษของฮวาซาใต้ สลัดผักต้ม”
ไผทหน้าเจื่อนไปนิด ก่อนจะรีบปรับให้เป็นปกติ
ท่านธูลถามไผท “เป็นไงคุณไผท พอทานได้มั้ย”
ไผทอึ้งไปนิดหนึ่งแล้วรีบตอบ “ได้สิพะย่ะค่ะ กระหม่อมชอบกินผักมากที่สุดพะย่ะค่ะ”
พลางไผทก้มหน้าก้มตาตักผักเข้าปากชิ้นโตๆ ท่านธูลยิ้มพอใจ โลลิต้าปลาบปลื้ม
แนวหน้ามองไผทสุดทึ่ง นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ไปตอนไผทบอกเปอร์ตีว่าไม่ชอบกินผัก
ท่านธูลภูมิใจนำเสนอ “ผักที่นี่เราปลูกกันเอง ปลอดสารพิษ และใช้วิธีปลูกตามวิถีดั้งเดิมของคนฮวาซา เดี๋ยวตอนถ่ายสารคดีคุณคงจะได้เห็น”
ชองปอลถามขึ้น “ตอนอยู่ประเทศไทย คุณเคยเล่นสารคดีบ้างมั้ย คุณไผท”
“ไม่เคยพะย่ะค่ะ”
ชองปอลคิดจะหักหน้าไผทให้อาย “ถ้าไม่เคยแล้วคุณจะทำได้เหรอ ท่าทางคุณไม่ใช่คนชอบลุยหรือชอบท่องเที่ยวอะไรนี่นา”
ไผทอึ้ง แนวหน้ากับนายมองหน้ากัน ทำท่าจะเข้าช่วยเหลือ
โลลิต้าแทรกขึ้นก่อน “แต่หญิงมั่นใจว่าคุณไผททำได้ หญิงถึงได้เลือกเค้า”
“น้องหญิงมั่นใจได้ยังไง” ชองปอลไม่พอใจนัก
“เพราะจากที่หญิงศึกษาประวัติของคุณไผท หญิงเห็นว่าเขามีบุคลิกที่เหมาะสมกับประเทศของเรา...คือ เค้าเป็นคนเรียบง่าย ติดดิน ลุยๆ ชอบใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ”
แนวหน้าคิดตามคำพูดของโลลิต้า
นึกไปถึงเหตุการณ์ตอนตัวเองยืนอยู่ที่เตา น้ำในหม้อเดือดปุดๆ แนวหน้าใช้ผ้ายกหม้อใส่น้ำเดินเอาไปเทลงในถังให้ไผท
“น้ำอุ่นพอรึยัง?”
ไผทเอามือแตะน้ำยิ้มร่าดีใจ “โอเคแล้วพี่” พูดอ้อนสุดๆ “ขอบคุณนะครับพี่แนว...”
ไผทเอาผ้าชุบน้ำอุ่นที่แนวหน้าผสมให้มาเช็ดตัว แนวหน้ามองไผทแล้วเซ็ง
คิดขึ้นมาแล้วแนวหน้ายิ้มเครียดๆ แต่โลลิต้ายังคงชื่นชมไผทต่อ
“เค้าเป็นคนกินง่ายอยู่ง่าย”
แนวหน้าคิดค้าน ไม่เห็นด้วยตามที่โลลิต้า ภาพไผททำท่าจะอาเจียนตอนกินอาหารที่กระท่อมเปอร์ตีผุดขึ้นมา
โลลิต้าบอกอีก “รักการเขียนอ่าน...และบทกวี”
แนวหน้าตาถลนนึกถึงคำพูดไผททันที
“พี่เก่งเนอะ ผมไม่ค่อยถูกกับตัวหนังสือเลย หนังสือที่ผมอ่านมากที่สุดก็บทละครนี่แหละ”
สีหน้าแนวหน้ายิ่งซีดลงเรื่อยๆ
“คุณสมบัติเหล่านี้เป็นหัวใจของคนฮวาซาใต้ หญิงจึงมั่นใจว่าคุณไผทเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นแขกรับเชิญที่จะสนุกสนานกับการใช้ชีวิตแบบฮวาซาใต้ของเราเพคะเสด็จพ่อ”
ท่านธูลมองโลลิต้าอย่างภาคภูมิใจ
ท่านธูลและข้าราชการชั้นสูงเหลียวมามองไผทอย่างชื่นชม ไผทยิ้มกว้างแล้วมองโลลิต้าอย่างขอบคุณ
แนวหน้ากลืนน้ำลายลงคอ เหลือบมองไผทอย่างหนักใจ เพราะรู้ว่าความจริงแล้วไผทไม่ใช่เฟอร์เพ็คท์แมนคนที่เจ้าหญิงเข้าใจ
ไผทยังไม่รู้ชะตา กระซิบบอกแนวหน้าท่าทีกรุ้มกริ่ม “พี่...องค์หญิงทรงน่ารักดีเนอะ”
“เดี๋ยว หลังอาหาร ชั้นมีเรื่องต้องคุยกับแก”
แนวหน้าบอกเสียงเข้ม
ในขณะที่คนอื่นๆ เอ็นจอยอีตติ้ง ทว่านายยังคงจดสายตามองจีจี้ที่นั่งอยู่ปลายโต๊ะไม่วางตา
ท่านธูลหันมาคุยกับนาย “แล้วตอนนี้การเตรียมงานสารคดีไปถึงไหนแล้วครับ...ต้องการให้ทางเราช่วยเหลืออะไรไหม?” นายนิ่งอยู่ไม่ตอบ ท่านธูลเสียงดังขึ้น “คุณนายนายครับ”
แนวหน้าสะกิดพี่ชายนายได้สติรู้สึกตัว “ครับ... เอ้อ พะย่ะค่ะ ตอนนี้ทุกอย่างราบรื่นดีพะย่ะค่ะ”
“แต่ผมยังไม่เห็นคุณมีทีมงานมาเลยสักคน จะทำงานกัน 3-4 คนแค่นี้เองเหรอคุณนายนาย”
“อ๋อ ครับเรื่องทีมงาน อีกสองวันเราจะให้ทีมงานของเราบินตามมาพะย่ะค่ะ รอแต่ว่าถ้าที่วังนี่มีอินเตอร์เน็ตกับโทรศัพท์ที่สามารถใช้ติดต่อได้ตลอดเวลา การทำงานคงจะราบรื่นขึ้นมากพะย่ะค่ะ”
ท่านธูลหนักใจ “อินเตอร์เน็ตเหรอ” พลางหันไปมองราอูล
“มันจะไม่คุ้มกับการลงทุนกระมังคุณนายนาย” ราอูลว่า
ชองปอลสวนขึ้นมาอย่างโอ้อวด “เรื่องอินเตอร์เน็ต ชองปอลสามารถช่วยได้นะท่านอา ฮวาซาเหนือของเราเพิ่งจะติดตั้ง 4G เสร็จ เดี๋ยวเราจะให้คนมาติดตั้งเสาส่งสัญญาณให้เอง” แล้วหันไปคุยกับโลลิต้า “ดีไหมจ๊ะน้องหญิง เราจะได้สไกป์หากันได้ง่ายขึ้น”
ไผทหน้าเสียลงเล็กน้อย
โลลิต้ายิ้มรับตามมารยาท “ค่ะ”
“เป็นพระกรุณาพะย่ะค่ะ” นายเหลือบตามองจีจี้ “เอ่อ...แล้วก็มีอีกเรื่องนึงครับ คือตอนนี้เป็นช่วงพรีโพรดัคชั่น ผมต้องติดต่อประสานงานหลายอย่างค่อนข้างวุ่นวายมาก ถ้าได้ผู้ช่วยมาช่วยสักคนก็คงจะดีครับ”
แนวหน้างง เพราะไม่เคยคุยเรื่องนี้กับนายมาก่อน
“ผู้ช่วย ใครเหรอพี่นาย พี่จะให้ใครในบริษัทมาก่อนหรือไง”
“ไม่ใช่หรอก พวกนั้นคงไม่มีใครมาทัน”
“ได้สิ เราไม่ขัดข้อง เดี่ยวเราจะจัดการหาคนให้”
“ถ้าท่านจะทรงอนุญาต ผมอยากได้ คุณจีจี้ มาช่วยงานครับ”
แนวหน้าเหวอ จีจี้มองหน้าอดีตคนรักอึ้งๆ นายมองหน้าจีจี้ ทอดยิ้มให้อยากจะคืนดี
ท่านธูลฉงน “หมายความว่าคุณสองคนตกลงกันได้แล้วเหรอครับ ผมดีใจจริงๆ ผมเชื่อมาตลอดนะครับว่าถ้าคุณสองคนร่วมมือกัน งานจะต้องออกมาดีแน่ จริงไหมครับคุณจีจี้”
จีจี้รู้สึกดีที่นายนึกถึงตน แต่ทำฟอร์ม เพราะงอนนายอยู่
“จีจี้ยังไม่แน่ใจค่ะ ว่าจะร่วมงานกับคุณนายนายได้รึเปล่า จีจี้ขอคิดดูก่อนนะคะ”
นายมองหน้าจีจี้อย่างอึ้งๆ ใจแป้วที่จีจี้ยังไม่ยอมดีด้วย
แนวหน้าลากนายออกมาที่มุมหนึ่ง ด้านนอกงานเลี้ยง ถามพี่ชายอย่างฉุนฉียว
“พี่นาย! พี่คิดอะไรถึงจะเอาเจ๊มาทำงานด้วย กว่าผมจะสลัดเจ๊แกหลุดได้เหนื่อยแทบตาย!”
“ไอ้แนว... ฉันรู้นะว่าแกไม่พอใจ แต่แกก็ต้องเห็นใจจี้ด้วยนะเว้ย อย่างน้อยบริษัทนี้ฉันกับเค้าก็สร้างมาด้วยกัน ถ้าไม่ให้เค้ามีส่วนด้วย มันจะไม่ใจดำไปหน่อยเหรอวะ”
อีกด้านหนึ่ง จีจี้กำลังเดินเข้ามา เพื่อจะคุยกับนาย
“พูดแบบนี้...อยากง้อเค้าว่างั้น ยังรักเค้าอยู่ล่ะสิ” แนวหน้าต่อว่านาย
จีจี้ชะงัก รอฟังคำตอบของนายเช่นกัน นายอึ้งสักครู่แล้วบอกปัดไปอย่างเขินๆ
“รักเริกอะไร๊ ก็แค่สงสารเท่านั้นแหละ”
จีจี้ตะลึง เสียใจไม่ใช่น้อย
“สงสารอะไร สงสารคนอย่างพี่จี้เนี่ยนะ”
“นายอย่าลืมสิว่าจีจี้เค้าไม่มีใคร พ่อแม่ก็เสียหมดแล้ว ชีวิตเค้ามีแต่ชั้นกับงาน ถ้าเค้าโกรธชั้นแล้วยังไม่มีงานอีก เค้าจะทำยังไง น่าสงสารจะตาย จริงมั้ย”
จีจี้น้ำตาคลอ น้อยใจสุดขีดก่อนจะหันตัวกลับเดินออกไป
แนวหน้ากลับปลื้ม “เฮียนี่พ่อพระจริงๆ ว่ะ เท่สุดๆ”
นายมีสีหน้าไม่สบายใจเอาเลย
เรื่องเต็มน่ารักตอนที่ 7/3 วันพฤหัสบดี 15/05/2557
ท่านธูลประทับนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ ถัดมาคือโลลิต้า ชองปอล ถัดมาอีกเป็นเสนาบดีชั้นผู้ใหญ่ ไผท แนวหน้า นาย นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ส่วนจีจี้นั่งอยู่ไกลกว่าใครอื่นๆ นายเหลือบมองจีจี้ที่อยู่ปลายโต๊ะเป็นระยะ
ไผทกับโลลิต้า ต่างแอบชำเลืองมองกันระยะ แล้วบังเอิญสบตากันจังๆ ต่างคนต่างหลบตากันอย่างเขินๆ ชองปอลเห็นอาการไผทกับโลลิต้าก็ยิ่งฉุน
ตรงหน้าทุกคนมีอาหารทีมีฝาครอบวางอยู่ มหาดเล็กเปิดฝาครอบให้ทุกคน
เมนูอาหารเป็นสลัดผักต้ม ราดน้ำสลัดสไตล์อาหารแขก
ท่านธูลเอ่ยขึ้น “จานแรกจะเป็นอาหารพิเศษของฮวาซาใต้ สลัดผักต้ม”
ไผทหน้าเจื่อนไปนิด ก่อนจะรีบปรับให้เป็นปกติ
ท่านธูลถามไผท “เป็นไงคุณไผท พอทานได้มั้ย”
ไผทอึ้งไปนิดหนึ่งแล้วรีบตอบ “ได้สิพะย่ะค่ะ กระหม่อมชอบกินผักมากที่สุดพะย่ะค่ะ”
พลางไผทก้มหน้าก้มตาตักผักเข้าปากชิ้นโตๆ ท่านธูลยิ้มพอใจ โลลิต้าปลาบปลื้ม
แนวหน้ามองไผทสุดทึ่ง นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ไปตอนไผทบอกเปอร์ตีว่าไม่ชอบกินผัก
ท่านธูลภูมิใจนำเสนอ “ผักที่นี่เราปลูกกันเอง ปลอดสารพิษ และใช้วิธีปลูกตามวิถีดั้งเดิมของคนฮวาซา เดี๋ยวตอนถ่ายสารคดีคุณคงจะได้เห็น”
ชองปอลถามขึ้น “ตอนอยู่ประเทศไทย คุณเคยเล่นสารคดีบ้างมั้ย คุณไผท”
“ไม่เคยพะย่ะค่ะ”
ชองปอลคิดจะหักหน้าไผทให้อาย “ถ้าไม่เคยแล้วคุณจะทำได้เหรอ ท่าทางคุณไม่ใช่คนชอบลุยหรือชอบท่องเที่ยวอะไรนี่นา”
ไผทอึ้ง แนวหน้ากับนายมองหน้ากัน ทำท่าจะเข้าช่วยเหลือ
โลลิต้าแทรกขึ้นก่อน “แต่หญิงมั่นใจว่าคุณไผททำได้ หญิงถึงได้เลือกเค้า”
“น้องหญิงมั่นใจได้ยังไง” ชองปอลไม่พอใจนัก
“เพราะจากที่หญิงศึกษาประวัติของคุณไผท หญิงเห็นว่าเขามีบุคลิกที่เหมาะสมกับประเทศของเรา...คือ เค้าเป็นคนเรียบง่าย ติดดิน ลุยๆ ชอบใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ”
แนวหน้าคิดตามคำพูดของโลลิต้า
นึกไปถึงเหตุการณ์ตอนตัวเองยืนอยู่ที่เตา น้ำในหม้อเดือดปุดๆ แนวหน้าใช้ผ้ายกหม้อใส่น้ำเดินเอาไปเทลงในถังให้ไผท
“น้ำอุ่นพอรึยัง?”
ไผทเอามือแตะน้ำยิ้มร่าดีใจ “โอเคแล้วพี่” พูดอ้อนสุดๆ “ขอบคุณนะครับพี่แนว...”
ไผทเอาผ้าชุบน้ำอุ่นที่แนวหน้าผสมให้มาเช็ดตัว แนวหน้ามองไผทแล้วเซ็ง
คิดขึ้นมาแล้วแนวหน้ายิ้มเครียดๆ แต่โลลิต้ายังคงชื่นชมไผทต่อ
“เค้าเป็นคนกินง่ายอยู่ง่าย”
แนวหน้าคิดค้าน ไม่เห็นด้วยตามที่โลลิต้า ภาพไผททำท่าจะอาเจียนตอนกินอาหารที่กระท่อมเปอร์ตีผุดขึ้นมา
โลลิต้าบอกอีก “รักการเขียนอ่าน...และบทกวี”
แนวหน้าตาถลนนึกถึงคำพูดไผททันที
“พี่เก่งเนอะ ผมไม่ค่อยถูกกับตัวหนังสือเลย หนังสือที่ผมอ่านมากที่สุดก็บทละครนี่แหละ”
สีหน้าแนวหน้ายิ่งซีดลงเรื่อยๆ
“คุณสมบัติเหล่านี้เป็นหัวใจของคนฮวาซาใต้ หญิงจึงมั่นใจว่าคุณไผทเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นแขกรับเชิญที่จะสนุกสนานกับการใช้ชีวิตแบบฮวาซาใต้ของเราเพคะเสด็จพ่อ”
ท่านธูลมองโลลิต้าอย่างภาคภูมิใจ
ท่านธูลและข้าราชการชั้นสูงเหลียวมามองไผทอย่างชื่นชม ไผทยิ้มกว้างแล้วมองโลลิต้าอย่างขอบคุณ
แนวหน้ากลืนน้ำลายลงคอ เหลือบมองไผทอย่างหนักใจ เพราะรู้ว่าความจริงแล้วไผทไม่ใช่เฟอร์เพ็คท์แมนคนที่เจ้าหญิงเข้าใจ
ไผทยังไม่รู้ชะตา กระซิบบอกแนวหน้าท่าทีกรุ้มกริ่ม “พี่...องค์หญิงทรงน่ารักดีเนอะ”
“เดี๋ยว หลังอาหาร ชั้นมีเรื่องต้องคุยกับแก”
แนวหน้าบอกเสียงเข้ม
ในขณะที่คนอื่นๆ เอ็นจอยอีตติ้ง ทว่านายยังคงจดสายตามองจีจี้ที่นั่งอยู่ปลายโต๊ะไม่วางตา
ท่านธูลหันมาคุยกับนาย “แล้วตอนนี้การเตรียมงานสารคดีไปถึงไหนแล้วครับ...ต้องการให้ทางเราช่วยเหลืออะไรไหม?” นายนิ่งอยู่ไม่ตอบ ท่านธูลเสียงดังขึ้น “คุณนายนายครับ”
แนวหน้าสะกิดพี่ชายนายได้สติรู้สึกตัว “ครับ... เอ้อ พะย่ะค่ะ ตอนนี้ทุกอย่างราบรื่นดีพะย่ะค่ะ”
“แต่ผมยังไม่เห็นคุณมีทีมงานมาเลยสักคน จะทำงานกัน 3-4 คนแค่นี้เองเหรอคุณนายนาย”
“อ๋อ ครับเรื่องทีมงาน อีกสองวันเราจะให้ทีมงานของเราบินตามมาพะย่ะค่ะ รอแต่ว่าถ้าที่วังนี่มีอินเตอร์เน็ตกับโทรศัพท์ที่สามารถใช้ติดต่อได้ตลอดเวลา การทำงานคงจะราบรื่นขึ้นมากพะย่ะค่ะ”
ท่านธูลหนักใจ “อินเตอร์เน็ตเหรอ” พลางหันไปมองราอูล
“มันจะไม่คุ้มกับการลงทุนกระมังคุณนายนาย” ราอูลว่า
ชองปอลสวนขึ้นมาอย่างโอ้อวด “เรื่องอินเตอร์เน็ต ชองปอลสามารถช่วยได้นะท่านอา ฮวาซาเหนือของเราเพิ่งจะติดตั้ง 4G เสร็จ เดี๋ยวเราจะให้คนมาติดตั้งเสาส่งสัญญาณให้เอง” แล้วหันไปคุยกับโลลิต้า “ดีไหมจ๊ะน้องหญิง เราจะได้สไกป์หากันได้ง่ายขึ้น”
ไผทหน้าเสียลงเล็กน้อย
โลลิต้ายิ้มรับตามมารยาท “ค่ะ”
“เป็นพระกรุณาพะย่ะค่ะ” นายเหลือบตามองจีจี้ “เอ่อ...แล้วก็มีอีกเรื่องนึงครับ คือตอนนี้เป็นช่วงพรีโพรดัคชั่น ผมต้องติดต่อประสานงานหลายอย่างค่อนข้างวุ่นวายมาก ถ้าได้ผู้ช่วยมาช่วยสักคนก็คงจะดีครับ”
แนวหน้างง เพราะไม่เคยคุยเรื่องนี้กับนายมาก่อน
“ผู้ช่วย ใครเหรอพี่นาย พี่จะให้ใครในบริษัทมาก่อนหรือไง”
“ไม่ใช่หรอก พวกนั้นคงไม่มีใครมาทัน”
“ได้สิ เราไม่ขัดข้อง เดี่ยวเราจะจัดการหาคนให้”
“ถ้าท่านจะทรงอนุญาต ผมอยากได้ คุณจีจี้ มาช่วยงานครับ”
แนวหน้าเหวอ จีจี้มองหน้าอดีตคนรักอึ้งๆ นายมองหน้าจีจี้ ทอดยิ้มให้อยากจะคืนดี
ท่านธูลฉงน “หมายความว่าคุณสองคนตกลงกันได้แล้วเหรอครับ ผมดีใจจริงๆ ผมเชื่อมาตลอดนะครับว่าถ้าคุณสองคนร่วมมือกัน งานจะต้องออกมาดีแน่ จริงไหมครับคุณจีจี้”
จีจี้รู้สึกดีที่นายนึกถึงตน แต่ทำฟอร์ม เพราะงอนนายอยู่
“จีจี้ยังไม่แน่ใจค่ะ ว่าจะร่วมงานกับคุณนายนายได้รึเปล่า จีจี้ขอคิดดูก่อนนะคะ”
นายมองหน้าจีจี้อย่างอึ้งๆ ใจแป้วที่จีจี้ยังไม่ยอมดีด้วย
แนวหน้าลากนายออกมาที่มุมหนึ่ง ด้านนอกงานเลี้ยง ถามพี่ชายอย่างฉุนฉียว
“พี่นาย! พี่คิดอะไรถึงจะเอาเจ๊มาทำงานด้วย กว่าผมจะสลัดเจ๊แกหลุดได้เหนื่อยแทบตาย!”
“ไอ้แนว... ฉันรู้นะว่าแกไม่พอใจ แต่แกก็ต้องเห็นใจจี้ด้วยนะเว้ย อย่างน้อยบริษัทนี้ฉันกับเค้าก็สร้างมาด้วยกัน ถ้าไม่ให้เค้ามีส่วนด้วย มันจะไม่ใจดำไปหน่อยเหรอวะ”
อีกด้านหนึ่ง จีจี้กำลังเดินเข้ามา เพื่อจะคุยกับนาย
“พูดแบบนี้...อยากง้อเค้าว่างั้น ยังรักเค้าอยู่ล่ะสิ” แนวหน้าต่อว่านาย
จีจี้ชะงัก รอฟังคำตอบของนายเช่นกัน นายอึ้งสักครู่แล้วบอกปัดไปอย่างเขินๆ
“รักเริกอะไร๊ ก็แค่สงสารเท่านั้นแหละ”
จีจี้ตะลึง เสียใจไม่ใช่น้อย
“สงสารอะไร สงสารคนอย่างพี่จี้เนี่ยนะ”
“นายอย่าลืมสิว่าจีจี้เค้าไม่มีใคร พ่อแม่ก็เสียหมดแล้ว ชีวิตเค้ามีแต่ชั้นกับงาน ถ้าเค้าโกรธชั้นแล้วยังไม่มีงานอีก เค้าจะทำยังไง น่าสงสารจะตาย จริงมั้ย”
จีจี้น้ำตาคลอ น้อยใจสุดขีดก่อนจะหันตัวกลับเดินออกไป
แนวหน้ากลับปลื้ม “เฮียนี่พ่อพระจริงๆ ว่ะ เท่สุดๆ”
นายมีสีหน้าไม่สบายใจเอาเลย