สิ่งที่เราไม่เข้าใจกัน “เรื่องเล่าพี่สาวคนเหนือที่แสนดี ถึงพี่สาวคนใต้ที่จริงใจ ในที่ทำงานของผม”

สิ่งที่เราไม่เข้าใจกัน “เรื่องเล่าพี่สาวคนเหนือที่แสนดี ถึงพี่สาวคนใต้ที่จริงใจ ในที่ทำงานของผม”
วันนี้ผมของนำเสนอเรื่องราวของพี่ดอกเอื้อง กับพี่กาหลา บรรจุรับราชการรุ่นเดียวกับผม
ทั้งสองคนเป็นกรณีศึกษาที่สะท้อนมุมมอง ได้สองแบบ แล้วแต่คนจะมองอย่างไร แต่ละคนมีจุดดีจุดเสีย

พี่สาวทั้งสองทำงานห้องเดียวกัน ต้องทำงานร่วมกัน เมื่อก่อนสนิทกันมาก แต่วันหนึ่งก็มีเหตุการณ์กระทบกระทั่ง
ซึ่งปัจจุบันได้ปรับความเข้าใจกันแล้ว แต่ความรู้สึกก็ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้
ต้องรอให้เวลาและสถานการณ์สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสองคนให้เกิดขึ้นใหม่

ดอกเอื้อง เป็นสาวเหนือ มีอุดมการณ์ “ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี” เป็นเจ้าหน้าที่การเงิน
มีนิสัยขี้เกรงใจ รักสงบ พูดช้า หน้าตาและบุคลิกสไตล์สาวเหนือ ยิ้มแย้มแจ่มใส
ดอกเอื้องจะไม่กระทบกระทั่งกับใคร จะยอมคนตลอด แม้มีเรื่องอะไรก็จะไม่พูด เพื่อรักษาบรรยากาศในการทำงาน  

กาหลา เป็นสาวใต้ มีอุดมการณ์ “ตรงไปตรงมา” เป็นเจ้าหน้าที่พัสดุ เป็นคนพูดตรงๆ จริงใจ
นิสัยเป็นคนคล่องตัวในการทำงาน กระฉับกระเฉง สไตล์สาวใต้ ด้วยนิสัยเป็นคนตรงๆ ของกาหลา
เมื่อต้องการอะไร หรือมีอะไรในใจ ก็จะพูดออกมาตรงๆ ทำให้เพื่อนร่วมงานบางคนไม่ชอบกาหลา
บางคนก็มองว่ากาหลาจริงใจ ไม่มีพิษมีภัย เพราะเป็นคนชอบพูดตรงๆ
สิ่งที่กาหลาเกลียดที่สุดคือการนินทา กาหลาไม่เคยพูดถึงใครลับหลัง

จุดเริ่มต้นทั้งหมด เริ่มจากวันหนึ่งกาหลา ไปทักว่าชุดทำงานที่ดอกเอื้องใส่ลายลูกไม้เหมือนผ้าปูโต๊ะ ที่ห้องรับแขก
ตอนนี้ดอกเอื้อง เริ่มอ้วนขึ้น ขาใหญ่ แก้มป่องแล้ว ให้ไปออกกำลังกายเล่นฟิตเนตบ้างนะ
ดอกเอื้องเสียใจมากที่กาหลาพูดแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้แสดงความไม่พอใจออกมาตามนิสัยรักสงบ

เมื่อทั้งสองอยู่ด้วยกันเรื่อยๆ กาหลาจะเปิดเพลงในห้อง ก็ขออนุญาตดอกเอื้องขอเปิดเพลง
ดอกเอื้องบอกตามสบาย แม้จะไม่ชอบฟังเพลงที่กาหลาเปิดเลย บางวันกาหลาเปิดเพลงเสียงดัง
ดอกเอื้องหงุดหงิดมากประกอบกับเป็นช่วงวันนั้นของเดือนด้วย แต่ก็ต้องข่มใจไว้ไม่พูด

กาหลาเป็นคนที่ทำอะไรรวดเร็ว บ่อยครั้งที่รีบเร่ง ไม่ได้ปิดประตูห้อง เพราะต้องรีบนำงานไปเสนอ
ทำให้ดอกเอื้องที่อยู่ใกล้ประตู เป็นคนเดินไปปิดตลอด กาหลาจะใช้พื้นที่ในการทำงาน ในการเรียงเอกสารเยอะ
เอกสารของกาหลาจะรกรุงรัง บ่อยครั้งได้รุกล้ำพื้นที่ของดอกเอื้อง บางครั้งก็ขออนุญาต บางครั้งก็ถือวิสาสะ
กาหลาจะจัดเก็บสิ่งของและเอกสารทีเดียวให้เป็นระเบียบก่อนเลิกงานเสมอ ผิดกับนิสัยดอกเอื้องที่ใช้สอยอะไรแล้วจะต้องเก็บทันที

สิ่งที่ดอกเอื้องได้พบเจอทุกวันๆ ทำให้ดอกเอื้องเริ่มไม่มีความสุขในการทำงาน แต่ต้องฝืนใจทำตัวปกติ
ดอกเอื้องไม่ได้แสดงให้กาหลารู้ว่าไม่ชอบหรือไม่พอใจ กาหลาชอบแนะนำสิ่งต่างๆ ที่ดอกเอื้องไม่อยากได้ยิน
รุกล้ำพื้นที่ทำงาน เปิดเพลงที่ไม่ชอบ เปิดประตูไม่ปิดบ่อยๆ ดอกเอื้องอัดอั้นตันใจสุดๆ
จึงไประบายให้รุ่นพี่และเพื่อนในที่ทำงานในเรื่องราวของกาหลา พร้อมกับร้องไห้เสียใจ
เพื่อนๆ จึงเห็นใจและบอกดอกเอื้องว่า หากมีอะไรก็มาระบายให้กันฟังได้ ทำให้ดอกเอื้องไประบายเรื่องราวต่างๆ บ่อยขึ้น

เมื่อระยะเวลาผ่านไป เรื่องราวต่างๆ ของกาหลา ก็ปากต่อปาก คนที่ไม่ชอบกาหลาอยู่แล้วพอรู้เรื่องก็วิพากษ์วิจารณ์
แล้วแสดงความคิดเห็นโดยอ้างอิงเรื่องราวพาดพิงดอกเอื้อง ซึ่งเป็นที่มาของเรื่อง จนระยะเวลาผ่านไปไม่นานก็รู้กันทั่วสำนักงาน
จนกระทั่งวันหนึ่งเรื่องราวนี้ ไปทราบไปถึงหูของกาหลา โดยเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งไม่ชอบดอกเอื้องอยู่แล้วเป็นการส่วนตัว

ความตรงไปตรงมา ของกาหลา ซึ่งเวลามีอะไรแล้วจะต้องเข้าไปเคลียร์ และพูดตรงๆ กาหลาจึงไปถามดอกเอื้องตรงๆ
ว่าทำไมต้องเอาเรื่องของกาหลา ไปนินทาให้คนอื่นฟัง มีอะไรไม่พอใจทำไมไม่พูดกับเขาตรงๆ มือถือสากปากถือศีล
ทำตัวเป็นคนดีเป็นนางเอก แต่ก็เอาเรื่องของคนอื่นไปนินทา ตอนนั้นกาหลาโมโหด้วย ประกอบกับกาหลาเป็นคนพูดเสียงดังอยู่แล้ว
ทำให้มีคนในสำนักงานได้บทสนทนา ดอกเอื้องหน้าชา พูดอะไรไม่ออก เกิดมาไม่เคยมีใครมาพูดตรงๆ แบบนี้ ทำให้น้ำตาไหลออกมาทันที

เรื่องราวการกระทบกระทั่งของทั้งสอง ได้แพร่สะพัดไปทั้งสำนักงานภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว
กาหลา กลายเป็นนางร้าย เป็นผู้หญิงแรงๆ ชอบเหวี่ยงชอบวีน ชอบตำหนิคนอื่น ไม่รักษาน้ำใจคน
ทุกคนระมัดระวังตัวอย่าไปใกล้นางเพราะอาจโดนเหวี่ยงเข้าให้ แต่กาหลาไม่สนใจเพราะคบเพื่อนที่เป็นคนที่ตรงๆ เหมือนกัน
ส่วนดอกเอื้อง ก็บอบช้ำไม่น้อยไปกว่ากาหลา เพราะดอกเอื้องถูกตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงขี้นินทา ชอบนินทาคนอื่นลับหลัง

เมื่อคนตรงไปตรงมา ถูกจำกัดคำนิยามว่า “แรง!!!”
เมื่อการพูดระบายความในใจให้คนอื่นฟัง ถูกจำกัดคำนิยามว่า “นินทา”
คุณเคยมองไปที่พื้นฐานนิสัย และความเป็นมาของคนนั้นหรือไม่ ว่าเขาเป็นคนเช่นไร

กาหลาคิดว่าตัวเองทำถูก ด้วยทัศนคติว่าการพูดตรงๆ ทำอะไรตรงๆ คือ คนจริงใจ
โดยที่กาหลาลืมคิดไปว่า บ่อยครั้งการพูดตรงๆ ของกาหลงไม่ได้พูดรักษาน้ำใจคนอื่น
และทำให้คนอื่นต้องเสียใจ กาหลาไม่แคร์เพราะความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย คนรับความจริงไม่ได้ต่างหากที่ผิด

ดอกเอื้อง ก็คิดว่าตัวเองทำถูกเช่นกัน เพราะการที่ไม่บอกตรงๆ เพื่อรักษาน้ำใจของกาหลา
การไประบายกับเพื่อนๆ เป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะพูดความจริง ไม่ได้ตั้งใจนินทา
โดยลืมนึกไปว่า การพูดของตัวเองไม่ได้เปิดโอกาสให้กาหลาบุคคลที่สาม ตัวเองได้มีโอกาสแก้ตัว

หากจะวิพากษ์วิจารณ์เรื่อง คนตรงไปตรงมา กับคนรักษาน้ำใจ อันไหนดีกว่า
นิสัยคนเหนือกับนิสัยคนใต้ พูดต่อหน้ากับพูดลับหลัง เจตนากับไม่เจตนา คงเป็นประเด็นโต้วาทีกันไม่จบแน่ๆ
ทุกสังคม ทุกพื้นที่ คงเจอบุคคลที่มีนิสัย แบบดอกเอื้อง และกาหลา มากมายเลยทีเดียว

บางคนบอกว่าดอกเอื้องผิดที่ไม่พูดกลัวดอกพิกุลจะร่วงออกจะปากเหรอ คนอื่นจะตรัสรู้ได้อย่างไรว่าหล่อนคิดอะไร
บางคนบอกว่ากาหลา เห็นแก่ตัว เอาเปรียบเพื่อน ไม่มีความเกรงใจ แต่ผมว่าเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ประเด็นเช่นกัน

สำหรับผมแล้ว ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่แต่ละคนนิสัยอย่างไร ข้อดีข้อเสียอย่างไรครับ เรื่องนี้ไม่มีใครผิดไม่มีใครถูก
แต่มันอยู่ที่ทั้งสองคนไม่รู้จักใส่ใจในรายละเอียดซึ่งกันและกันมากกว่านะครับ และไม่รู้จักปรับตัวเข้าหากันครับ
วัฒนธรรมไม่ใช่สิ่งที่กีดกั้นในการอยู่ร่วมกันครับ แต่วัฒนธรรมเป็นสิ่งที่คุณควรจะเรียนรู้และศึกษาไว้บ้างนะครับ
ใครเป็นอย่างไร มาจากไหน พื้นฐานเป็นอย่างไร ใช้ใจคุยกัน ใช้ความเมตตาคุยกัน เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นหรอกครับ

ผมอยู่ในสังคมหนึ่ง (ไม่ได้บอกว่าเป็นสังคมชาวเหนือนะ เดี๋ยวจะเถียงกันอีก) ซึ่งเวลามีอะไรเขาจะไม่บอกกันตรงๆ
แต่จะบอกกันเป็นอ้อมๆ เรียนรู้ซึ่งกันและกันโดยใช้ความรู้สึก มากกว่าที่จะมานั่งคุยกันตรงๆ เพราะเป็นการถนอมน้ำใจ
ไม่พอใจอะไรกัน ก็จะไประบายกับคนอื่นแทนที่จะบอกกันตรงๆ บ่อยครั้งผมหงุดหงิดนะ จนกระทั่งมีเพื่อนที่เป็นคนตรงๆ จึงคบหากันได้

ต่อมา ผมก็ได้มาอยู่ในอีกสังคมหนึ่ง คบหาเป็นเพื่อนกันตอนมาอยู่กรุงเทพตอนเรียนกฎหมาย (ไม่ได้บอกว่าเป็นคนใต้อีกเช่นกัน)
ตอนใหม่ๆ รู้สึกว่า เป็นตัวของตัวเองมากๆ เพราะได้ทำและได้พูดในสิ่งที่คิด ได้แสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมา
แต่พอคบหาไปสักพักก็รู้สึกได้ว่า เรื่องบางเรื่องแม้จะเป็นเรื่องจริง ควรจะถนอมน้ำใจ และรักษาน้ำใจกันบ้างก็ได้ครับ

สำหรับผมแล้ว พี่กาหลา เป็นพี่สาวที่ดีมากๆ คอยให้คำปรึกษาผมทุกอย่าง อย่างตรงไปตรงมาและจริงใจ เป็นคนน่าคบ
ส่วนพี่ดอกเอื้อง ก็เป็นพี่สาวที่น่ารัก รู้จักแบ่งปัน มีน้ำใจ และเป็นคนบ้านเดียวกันอีกด้วย ผมจึงเข้าใจพี่ดอกเอื้องเช่นกัน
ดังนั้นจึงอยากจะฝากให้เพื่อนๆ ลองพิจารณาคนรอบข้างคุณบ้าง อย่ามองแต่ข้อเสีย อย่าเอาแค่เหตุและเหตุผลมาตัดสินคน
ถ้าคุณใช้ใจและความเมตตา แล้วคุณจะเห็นว่าทุกอย่างล้วนมีคำตอบ โดยไม่ต้องตัดสินเลยว่าใครผิดใครถูก

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่