รบกวนสอบถามผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์ คุณหมอหรือ นักจิตวิทยาหน่อยค่ะ...

เล่าเรื่องสักเล็กน้อยนะคะ...
ตอนนี้กำลังเลี้ยงหลานสาว กำลังเข้าป.1 ค่ะ พ่อกับแม่ของหลานแยกทางกัน ทีนี้แม่ของหลานก็มีสามีใหม่อีก แล้วแม่ของหลานก็มีลูกอีกคน...
ซึ่งสามีใหม่ก็ดูแลและรักหลานดี แต่ ณ ปัจจุบัน พ่อกับแม่เค้าทะเลาะกันต่างคนต่างไป...
(แต่ทราบข่าวมาว่าดีกันแล้วไปอยู่ด้วยกันที่บ้านย่า แต่ไม่มารับหลานสาวคนนี้ไปด้วย)

ตอนนี้หลานอยู่กับยายค่ะ (เรายังไม่แต่งงานไม่เคยมีลูก) แต่เด็กคนนี้เราก็เคยเลี้ยงเค้ามา ตั้งแต่สามเดือนถึงหกเดือน..แล้วแม่เค้าก็เอาไปเลี้ยง...

ประเด็นคือตอนนี้สงสารหลานมาก ไม่อยากให้เค้าคิดมากค่ะ จะบอกเค้ายังไงดี ให้เค้าดำรงชีวิตอยู่โดยไม่เป็นภาระสังคม...โดยไม่เอามาเป็นปมด้อย
ตอนนี้เราพยายามสอนเค้า ให้ช่วยเหลือตัวเอง ตอนเย็นจะให้หลานมาช่วยล้างจาน รดน้ำต้นไม้ ฝึกทำกับข้าว...
โดยที่มีเราเป็นคนสอน โดยไม่ได้ยัดเยียดมาก แต่จะบอกว่านี่คือหน้าที่ที่หนูต้องทำนะคะ
ก็จะถามเค้าด้วยว่าหนูอยากทำมั๊ย อยากฝึกอะไรอีก...เค้าบอกอยากเจียวไข่ ก็สอนเค้า ...

คือเมื่อก่อนแม่เค้าไม่เคยสอนเรื่องเหล่านี้เลย ...ก็บอกเค้าว่าหนูรู้มั๊ยทำไมยายให้มาช่วยล้างจาน ช่วยทำกับข้าว เพราะโตขึ้นหนูจะได้ทำเป็น...
ตอนนี้ก็สังเกตุเค้า เค้าเป็นคนที่สมาธิสั้น ...เวลาสั่งต้องทวนหลายรอบถึงจะจำได้และเข้าใจ...

อยากสอบถามว่า เราควรจะทำยังไงต่อไป ถ้าเกิดเค้าถามความจริงขึ้นมา ว่าทำไม แม่กะพ่อไม่อยู่บ้าน น้องหายไปไหน...

แต่ที่แน่ๆเราไม่ทอดทิ้งหลานแน่นอน ขอแค่หลานเป็นเด็กดีไม่เป็นภาระสังคม แค่นี้เราก็ชื่นใจแล้ว...
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ผมชื่นชมนะครับที่คุณรักหลานแล้วเลี้ยงดูได้ดีขนาดนี้ เด็ก ๆ เป็นวัยที่อยากเรียนรู้นั้นนี้อยู่แล้ว โดยเฉพาะการช่วยเหลือตนเองเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน ก็สอนไปตามวัยที่เขาควรทำได้อ่ะครับ เขาจำไม่ได้แต่อยากรู้ก็บอกใหม่เดี๋ยวก็จำได้เอง

ส่วนเรื่องปมด้อย เป็นภาระสังคมนั้น มันจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าเด็กได้ความรักจากคนรอบข้างแบบที่ควรจะได้ (ผมเน้นว่าคนขอบข้างนะครับ) คือมองเห็นเขา ปฏิบัติกับเขาแบบที่ทำกับเด็กคนอื่น ๆ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว การซ้ำเติมโดยคำถาม เช่น พ่อแม่ไปไหน ไม่ได้อยู้กับพ่อแม่เหรอ แม่ทิ้งแล้ว หรือพูดถึงจุดด้อยของเด็ก แม้จะเป็นการแซวแต่ทำบ่อย ๆ ถึงจะมีพ่อแม่อยู่ครบ โตมาก็มีปมด้อยได้

ส่วนเรื่องคำถามขอเด็ก แนะนำให้พูดตามความจริงครับ แต่ปรับเนื้อหาให้เด็กเข้าใจได้ตามวัยของเขา เช่น แม่ไปไหน ก็ตอบว่าไปอยู่บ้านย่า จะกลับมาไหม ถ้าไม่กลับก็บอกว่าไม่รู้ก็ได้ครับ แล้วซ้ำกับเด็กเสมอว่า จขกท รักเขานะแล้วโอบกอด การแสดงความรักทางการสัมผัสเด็กเข้าใจได้ดีที่สุดครับ เมื่อเขาโตขึ้นรับรู้เรื่องราวต่าง ๆ ได้ดีขึ้น เขาจะเข้าใจเอง แต่เขาก็ไม่คิดมากเหรอเพราะมี จขกท เป็นทั้งพ่อทั้งแม่แล้วนี้นา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่