จะทำยังไงให้น้องสาวสามีเลิกเบียดเบียนครอบครัวเรา
ทั้งที่เค้าก็มีเงินเดือนสองหมื่นกว่าบาทเท่ากับเรา เลิกงานถึงบ้านห้าโมง เรากับสามีถึงบ้านเกือบสองทุ่ม
แต่ไม่ช่วยแบ่งเบาภาระในบ้านเลย ไม่ช่วยเลี้ยงหลาน ไม่ช่วยแม่เราเตรียมกับข้าวเย็น
ด้วยความเป็นพี่ชายคนโต ด้วยความเห็นแก่หน้าแม่ ทำให้สามีต้องรับน้องสาวเข้ามาพักอาศัยที่บ้านของเราด้วย
ตลอดเวลาที่เรียนหนังสือ แฟนเราทำงานเก็บเงินส่งน้องเรียนมาตลอด
จนปัจจุบัน น้องมีงานทำแล้ว ไม่มีภาระหนี้อื่นๆ ไม่ได้ผ่อนบ้าน ไม่ได้ผ่อนรถ มีส่งเงินให้แม่บ้างแต่ไม่กี่พันบาท
เพราะหลักๆเงินที่ส่งให้แม่จะเป็นเงินที่แฟนเราหา
น้องเอาเงินเดือนที่ได้มา เพื่อเที่ยว เพื่อค่าตั๋วเครื่องบิน เพื่อค่าเครื่องสำอางค์
ตอนนี้เรายกห้องให้น้องอยู่ 1 ห้อง พร้อมติดแอร์ให้ตัวใหม่เอี่ยม มีห้องน้ำส่วนตัวให้ พร้อมติดเครื่องทำน้ำอุ่น
น้องช่วยเรามาเดือนละ 2,000 บาท
เบ็ดเสร็จในสองพัน ได้แก่ น้ำ ไฟ ค่ากับข้าว ค่าอินเทอร์เน็ต
วัตถุทำอาหารน้องไม่ต้องซื้อ เราเป็นคนซื้อทั้งหมด
บางทีให้เงินน้องไปซื้อผักน้องไม่เคยทอนส่วนต่างเลย เช่น ให้ไป100บาท ซื้อของ 20 บาท น้องไม่เคยเอาตังทอนมาคืนเรา
เสาร์อาทิตย์อากาศร้อนมาก เราก็ลูกเปิดพัดลมเอา แต่น้องสามีขึ้นห้องนอนเปิดแอร์เกือบทั้งวัน
ที่เลิกงานกลับบ้านมีแม่เราทำกับข้าวไว้รอ
แต่แทนที่แบ่งเบาอะไรได้จะแบ่งเบา ก็ไม่มีเลย ไม่เกรงใจเลย
ไปเที่ยวมาวันเสาร์ วันอาทิตย์กลับถึงบ้าน รีบขึ้นห้องเปิดแอร์
ปล่อยแม่เราที่ต้องทำหน้าที่เลี้ยงหลานไปทำกับข้าวไป
ถึงเวลากินข้าว ต้องให้แม่เราตะโกนเรียก ลงมาทานเสร็จ ไม่เก็บสำรับอาหารนะคะ ล้างเฉพาะจานตัวเอง แล้วก็ขึ้นห้องไปนอน
แล้วระหว่างมื้ออาหารนั้นก็กินไม่เผื่อแผ่ใคร โกยเนื้อหมูตักใส่จานตัวเองแบบเร็วๆ รัวๆ บางวันนะคะแม่ทอดปลาไว้ 1 ตัว
น้องสาวกินคนเดียวครึ่งตัว (ปลาตัวใหญ่) เหลืออีกครึ่งตัวสำหรับ 4 คน คือ เรา แม่เรา ลูกสาว และสามี
ประเด็นที่กล่าวมาทั้งหมด คือน้องไม่ได้จน น้องมีเงินมาก แต่ใช้มันหมดไปกับสิ่งฟุ่มเฟือย
แล้วมาประหยัดค่ากินค่าอยู่ด้วยการเบียดเบียนครอบครัวของเรา
เอาเปรียบเราทั้งเรื่องงานบ้าน และอาหารการกิน
นิ่งดูดายไม่ช่วยดูแลหลานในใส้ แล้งน้ำใจกับเราหลายครั้ง
ไม่เคยแสดงน้ำใจอะไรในบ้านหลังนี้
น้องสาวสามีเบียดเบียนครอบครัวเรา
ทั้งที่เค้าก็มีเงินเดือนสองหมื่นกว่าบาทเท่ากับเรา เลิกงานถึงบ้านห้าโมง เรากับสามีถึงบ้านเกือบสองทุ่ม
แต่ไม่ช่วยแบ่งเบาภาระในบ้านเลย ไม่ช่วยเลี้ยงหลาน ไม่ช่วยแม่เราเตรียมกับข้าวเย็น
ด้วยความเป็นพี่ชายคนโต ด้วยความเห็นแก่หน้าแม่ ทำให้สามีต้องรับน้องสาวเข้ามาพักอาศัยที่บ้านของเราด้วย
ตลอดเวลาที่เรียนหนังสือ แฟนเราทำงานเก็บเงินส่งน้องเรียนมาตลอด
จนปัจจุบัน น้องมีงานทำแล้ว ไม่มีภาระหนี้อื่นๆ ไม่ได้ผ่อนบ้าน ไม่ได้ผ่อนรถ มีส่งเงินให้แม่บ้างแต่ไม่กี่พันบาท
เพราะหลักๆเงินที่ส่งให้แม่จะเป็นเงินที่แฟนเราหา
น้องเอาเงินเดือนที่ได้มา เพื่อเที่ยว เพื่อค่าตั๋วเครื่องบิน เพื่อค่าเครื่องสำอางค์
ตอนนี้เรายกห้องให้น้องอยู่ 1 ห้อง พร้อมติดแอร์ให้ตัวใหม่เอี่ยม มีห้องน้ำส่วนตัวให้ พร้อมติดเครื่องทำน้ำอุ่น
น้องช่วยเรามาเดือนละ 2,000 บาท
เบ็ดเสร็จในสองพัน ได้แก่ น้ำ ไฟ ค่ากับข้าว ค่าอินเทอร์เน็ต
วัตถุทำอาหารน้องไม่ต้องซื้อ เราเป็นคนซื้อทั้งหมด
บางทีให้เงินน้องไปซื้อผักน้องไม่เคยทอนส่วนต่างเลย เช่น ให้ไป100บาท ซื้อของ 20 บาท น้องไม่เคยเอาตังทอนมาคืนเรา
เสาร์อาทิตย์อากาศร้อนมาก เราก็ลูกเปิดพัดลมเอา แต่น้องสามีขึ้นห้องนอนเปิดแอร์เกือบทั้งวัน
ที่เลิกงานกลับบ้านมีแม่เราทำกับข้าวไว้รอ
แต่แทนที่แบ่งเบาอะไรได้จะแบ่งเบา ก็ไม่มีเลย ไม่เกรงใจเลย
ไปเที่ยวมาวันเสาร์ วันอาทิตย์กลับถึงบ้าน รีบขึ้นห้องเปิดแอร์
ปล่อยแม่เราที่ต้องทำหน้าที่เลี้ยงหลานไปทำกับข้าวไป
ถึงเวลากินข้าว ต้องให้แม่เราตะโกนเรียก ลงมาทานเสร็จ ไม่เก็บสำรับอาหารนะคะ ล้างเฉพาะจานตัวเอง แล้วก็ขึ้นห้องไปนอน
แล้วระหว่างมื้ออาหารนั้นก็กินไม่เผื่อแผ่ใคร โกยเนื้อหมูตักใส่จานตัวเองแบบเร็วๆ รัวๆ บางวันนะคะแม่ทอดปลาไว้ 1 ตัว
น้องสาวกินคนเดียวครึ่งตัว (ปลาตัวใหญ่) เหลืออีกครึ่งตัวสำหรับ 4 คน คือ เรา แม่เรา ลูกสาว และสามี
ประเด็นที่กล่าวมาทั้งหมด คือน้องไม่ได้จน น้องมีเงินมาก แต่ใช้มันหมดไปกับสิ่งฟุ่มเฟือย
แล้วมาประหยัดค่ากินค่าอยู่ด้วยการเบียดเบียนครอบครัวของเรา
เอาเปรียบเราทั้งเรื่องงานบ้าน และอาหารการกิน
นิ่งดูดายไม่ช่วยดูแลหลานในใส้ แล้งน้ำใจกับเราหลายครั้ง
ไม่เคยแสดงน้ำใจอะไรในบ้านหลังนี้