เป็นที่เข้าใจกันมานานแล้วว่า "เขมชาติ" เป็นผู้ชายยึดติด
ผู้ชายคนนี้ปรากฎทั้งความรักความแค้น แผนการกลั่นแกล้งที่ยกระดับเป็น suicide attack จนทำให้เจ้าตัว "งานเข้า" อยู่ในเวลานี้ จากวันที่ผ่านมาเราพอจะมองออกว่า "ทำไม" เขมชาติถึงฝังใจในความรักครั้งแรกไม่ลืมเลือน มันปรากฎออกมาในภาพย้อนหลังหลายฉาก ในทุก High and Low ของเขมชาติ ในวัยเรียนที่จะส่งผ่านไปสู่วัยผู้ใหญ่ ที่ตรงนั้นมีสุริยาวดีเสมอ สุริยาวดีไม่ใช่แค่เพียง puppy love หรือ college sweetheart ผู้หญิงคนนี้เป็นมากกว่านั้น เธอแข็งพอที่จะเป็นช้างเท้าหน้าเมื่อยามที่เขมชาติลำบากและล้มลง ยืดหยุ่นและมีอารมณ์ขันพอที่จะทำตัวง่าย ๆ ในสถานการณ์ที่ลำบากหรือไม่สะดวกสบาย แต่ก็ไม่ได้เงียบ และ ไม่ลังเลเช่นเดียวกันที่จะคัดค้านเมื่อไม่ถูกใจ หรือ บอกความต้องการให้อีกฝ่ายได้รับรู้ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่คุณสมบัติของคู่ควง แต่เป็นคุณสมบัติของผู้ที่เป็นคู่ชีวิต
ดังนั้นไม่น่าประหลาดใจถ้าเขมชาติจะยึดโยงสุริยาวดีเอาไว้ในความคิดยกผู้หญิงคนนี้ขึ้นเป็นดวงอาทิตย์ในชีวิต ไม่น่าประหลาดใจอีกเช่นกันที่เขาจะบอกว่าเขาเจอแล้วคนที่จะอยู่ด้วยกันไปตลอดกาล คนที่เขาพร้อมจะยกทุกสิ่ง ทั้งหัวใจและชีวิตไว้ในกำมือ ไว้ในการดูแล คนที่เราจะรู้สึกแบบนี้ไม่ใช่จะหาได้ง่าย หรือ ลืมได้ง่าย เพียงแต่เขานึกไม่ถึงว่าสรรพสิ่งเปลี่ยนแปลงได้ฉับไวจนทำให้จากกันด้วยไม่ดี สิ่งเหล่านี้ทำให้เขาไม่เปิดให้ใครง่าย ๆ หนึ่งเพราะเจ็บและจำ และอย่างที่สองยังหาใครที่เป็น somebody new ไม่ได้ ยังไม่ใกล้เคียงกับสิ่งที่ติดอยู่ในใจ เกนหลงอาจจะใกล้เคียงแต่ก็ไม่เหมือน เพราะ เกนหลงพบเขมชาติแต่เฉพาะในช่วง High ยังไม่ได้เจอช่วง Low ในชีวิตเขม แม้เขมจะชื่นชมในอัธยาศัย ในความสวย ในความดีของของเกนหลง จนอยากจะเลื่อนฐานะเพื่อ "ลืม" ใครบางคน มันก็ยังไม่สนิทใจ ยังเจาะไม่ถึงแกนกลางและเกนหลงก็รู้
แล้วสุริยาวดีล่ะ ? สรุปเธอลืมเขมจริงหรือเปล่า เขมโคจรรอบวดีอยู่ฝ่ายเดียวอย่างที่ตัวเองคิดมาตลอดไหม ?
จริง ๆ ถ้ามีสติสตังคิดนิดหน่อย .. จะเห็นว่าไม่ใช่เขมคนเดียวหรอกที่ดำเนินชีวิตด้วยการยึดโยยงสุริยาวดีเอาไว้ ไม่ใช่เพียงเขมหรอกที่ใช้ชีวิตโคจรรอบสุริยาวดี เพียงแต่ว่าเขมอ่านง่ายกว่า เพราะ เขาแสดงอารมณ์ การกระทำของเขม การแสดงออก ของคนที่เจ็บและเป็นฝ่ายถูกตีจาก คนที่ใช้พลังด้านลบมาหล่อเลี้ยงชีวิต มันเห็นชัดเพราะเขามาเต็ม ส่วนสุริยาวดีในเวอร์ชั่นสุริยง ปกติก็เป็นผู้หญิงหวานเย็นออมปากออมคำอยู่บ้างแล้วแต่ตอนที่ยังไม่แต่งงานไม่มีทุกข์ก็มีชีวิตชีวาอยู่ได้ พอทุกข์โถมเข้าใส่ยิ่งนิ่งยิ่งอ่านไม่ออกมากกว่าเดิม
แต่ทั้งนัทั้งนั้นถ้าเราเอาจิ๊กซอการกระทำหลาย ๆ อย่างมาต่อกันก็จะเห็นว่าสุริยาวดีเองก็เป็นดวงอาทิตย์ซึ่งแปลกอยู่ซักหน่อยที่โคจรรอบดวงดาวชื่อเขมชาติอยู่เหมือนกัน เพียงแต่ต้องสังเกตซักหน่อย ตรงกันข้ามกับเขมชาติ ... สุริยาวดีเลือกเอาพลังด้านบวกต่อชีวิตของตัวเอง รูปภาพ ดอกไม้ ถ้อยคำ ความทรงจำต่าง ๆ ยังอยู่ในใจ ยังระลึกถึง เปิดกล่องน้อยที่เก็บงำสิ่งของที่เขาให้มา ลูบ ๆ คลำ ๆ จด ๆ จ้อง ๆ ยิ้มบ้างเศร้าบ้างไปตามประสา คือยังเก็บอยู่กับตัวไม่ให้ใครรู้ แม้แต่พ่อแม่ ซึ่งถ้าทราบก็อาจจะไม่สบายใจและเป็นห่วง ซึ่งสุริยาวดีไม่อยากให้เป็นแบบนั้น สำหรับสุริยาดวีแล้ว ถึงจะสามารถหันหลังให้เขมชาติได้ในหลาย ๆ ครั้ง สามารถเอ่ยปากว่าตัดขาดได้ ก็หันหลังได้จริง ๆ น่ะแหละ ตัดได้จริง ๆ เพียงแต่บังคับให้ไปได้แต่ตัว ส่วนหัวใจ ... "ก็ไม่รู้สินะ"
เราเห็นชัดอยู่แล้วว่าเขมโฟกัสที่วดีอยู่ตลอดเวลาละไปไหนไม่ได้เลย อยากรู้ตลอดวดีไปไหน ไปกับใคร เป็นอะไร ลูกไม่สบาย รถเสีย ทุกจังหวะชีวิตพยายามจะรู้ให้หมด พยายามโบกไม้โบกมือให้สุริยาวดีมองเห็น ให้มีปฏิกิริยา อะไรก็ได้ โกรธ ดีใจ เสียใจ ฯลฯ เอาทุกอย่าง เหมือนเด็กเรียกร้องความสนใจ ใส่ใจแต่ใส่ใจแบบด้านลบ ... แล้ววดีล่ะ มักเห็นวดีไม่ใส่ใจใช่ไหมเวลาอยู่ต่อหน้าเขม แต่จริง ๆ แล้วจับสังเกตตลอด รู้หมดเหมือนกัน emotionally มาเช้าแล้วหงุดหงิดคือไม่ได้กินข้าว อารมณ์เสีย ต้องหากาแฟมะนาวฝานบาง ๆ บวกขนมให้ จัดแฟ้มเอกสารไฮไลต์ข้อความสำคัญให้ อันนี้เกินกว่าคำว่าทรงประสิทธิภาพ ไม่ใส่ใจจริง ๆ จะไม่รู้และไม่ทำให้ขนาดนี้ แล้ววดีโฟกัสเขมมากจริง ๆ อย่างเวลาเห็นเกนหลงเข้ามา สายตาวดีไม่ได้โฟกัสที่เกนหลงนะ วดีมองแต่เขมว่าเขมอยู่กับผู้หญิงคนนี้เป็นยังไง มีความสุขไหม แล้วสรุปรวบเลย ดังนั้นอารมณ์ของเขมมาก่อน ใส่ใจเหมือนกันแต่เป็นด้านบวก
ดังนั้นจริง ๆ แล้วมันจบตั้งแต่ยังไม่เริ่มแล้ว ละลายตาจากกันไม่ได้ ละหัวใจจากกันก็ไม่ได้ มันทำไม่ได้ตั้งแต่ต้น
เพียงแต่ติดที่การมอง แต่ละคนมอง .... ในมุมของตัวเอง ไม่พลิกมองในมุมของผู้อื่น เขมมองเห็นความเจ็บปวดของตัวเอง
วดีตัดสินใจเพื่อคนอื่น มองอารมณ์คนอื่น .... ใช่ แต่ภายใต้กรอบความคิดของตัวเองเช่นเดียวกัน
จะว่าไปสองคนนี้ต่างคนต่างโคจรรอบกันอยู่ตลอด วงโคจรแพ็คคู่ แต่มองไม่เห็นกันมันก็เท่านั้นเอง
I can't take my eyes off you.
I can't take my mind off you.
'Til I find somebody new.
ละสายตาก็ไม่ได้
ละหัวใจก็ไม่ได้
แล้วประโยชน์อะไรที่จะมองหาใครใหม่
เมื่อไม่คิดจะหาอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว
อย่าลืมฉัน(กึ่งรีวิว)ภาคพิเศษ : Double Orbit
ผู้ชายคนนี้ปรากฎทั้งความรักความแค้น แผนการกลั่นแกล้งที่ยกระดับเป็น suicide attack จนทำให้เจ้าตัว "งานเข้า" อยู่ในเวลานี้ จากวันที่ผ่านมาเราพอจะมองออกว่า "ทำไม" เขมชาติถึงฝังใจในความรักครั้งแรกไม่ลืมเลือน มันปรากฎออกมาในภาพย้อนหลังหลายฉาก ในทุก High and Low ของเขมชาติ ในวัยเรียนที่จะส่งผ่านไปสู่วัยผู้ใหญ่ ที่ตรงนั้นมีสุริยาวดีเสมอ สุริยาวดีไม่ใช่แค่เพียง puppy love หรือ college sweetheart ผู้หญิงคนนี้เป็นมากกว่านั้น เธอแข็งพอที่จะเป็นช้างเท้าหน้าเมื่อยามที่เขมชาติลำบากและล้มลง ยืดหยุ่นและมีอารมณ์ขันพอที่จะทำตัวง่าย ๆ ในสถานการณ์ที่ลำบากหรือไม่สะดวกสบาย แต่ก็ไม่ได้เงียบ และ ไม่ลังเลเช่นเดียวกันที่จะคัดค้านเมื่อไม่ถูกใจ หรือ บอกความต้องการให้อีกฝ่ายได้รับรู้ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่คุณสมบัติของคู่ควง แต่เป็นคุณสมบัติของผู้ที่เป็นคู่ชีวิต
ดังนั้นไม่น่าประหลาดใจถ้าเขมชาติจะยึดโยงสุริยาวดีเอาไว้ในความคิดยกผู้หญิงคนนี้ขึ้นเป็นดวงอาทิตย์ในชีวิต ไม่น่าประหลาดใจอีกเช่นกันที่เขาจะบอกว่าเขาเจอแล้วคนที่จะอยู่ด้วยกันไปตลอดกาล คนที่เขาพร้อมจะยกทุกสิ่ง ทั้งหัวใจและชีวิตไว้ในกำมือ ไว้ในการดูแล คนที่เราจะรู้สึกแบบนี้ไม่ใช่จะหาได้ง่าย หรือ ลืมได้ง่าย เพียงแต่เขานึกไม่ถึงว่าสรรพสิ่งเปลี่ยนแปลงได้ฉับไวจนทำให้จากกันด้วยไม่ดี สิ่งเหล่านี้ทำให้เขาไม่เปิดให้ใครง่าย ๆ หนึ่งเพราะเจ็บและจำ และอย่างที่สองยังหาใครที่เป็น somebody new ไม่ได้ ยังไม่ใกล้เคียงกับสิ่งที่ติดอยู่ในใจ เกนหลงอาจจะใกล้เคียงแต่ก็ไม่เหมือน เพราะ เกนหลงพบเขมชาติแต่เฉพาะในช่วง High ยังไม่ได้เจอช่วง Low ในชีวิตเขม แม้เขมจะชื่นชมในอัธยาศัย ในความสวย ในความดีของของเกนหลง จนอยากจะเลื่อนฐานะเพื่อ "ลืม" ใครบางคน มันก็ยังไม่สนิทใจ ยังเจาะไม่ถึงแกนกลางและเกนหลงก็รู้
จริง ๆ ถ้ามีสติสตังคิดนิดหน่อย .. จะเห็นว่าไม่ใช่เขมคนเดียวหรอกที่ดำเนินชีวิตด้วยการยึดโยยงสุริยาวดีเอาไว้ ไม่ใช่เพียงเขมหรอกที่ใช้ชีวิตโคจรรอบสุริยาวดี เพียงแต่ว่าเขมอ่านง่ายกว่า เพราะ เขาแสดงอารมณ์ การกระทำของเขม การแสดงออก ของคนที่เจ็บและเป็นฝ่ายถูกตีจาก คนที่ใช้พลังด้านลบมาหล่อเลี้ยงชีวิต มันเห็นชัดเพราะเขามาเต็ม ส่วนสุริยาวดีในเวอร์ชั่นสุริยง ปกติก็เป็นผู้หญิงหวานเย็นออมปากออมคำอยู่บ้างแล้วแต่ตอนที่ยังไม่แต่งงานไม่มีทุกข์ก็มีชีวิตชีวาอยู่ได้ พอทุกข์โถมเข้าใส่ยิ่งนิ่งยิ่งอ่านไม่ออกมากกว่าเดิม
แต่ทั้งนัทั้งนั้นถ้าเราเอาจิ๊กซอการกระทำหลาย ๆ อย่างมาต่อกันก็จะเห็นว่าสุริยาวดีเองก็เป็นดวงอาทิตย์ซึ่งแปลกอยู่ซักหน่อยที่โคจรรอบดวงดาวชื่อเขมชาติอยู่เหมือนกัน เพียงแต่ต้องสังเกตซักหน่อย ตรงกันข้ามกับเขมชาติ ... สุริยาวดีเลือกเอาพลังด้านบวกต่อชีวิตของตัวเอง รูปภาพ ดอกไม้ ถ้อยคำ ความทรงจำต่าง ๆ ยังอยู่ในใจ ยังระลึกถึง เปิดกล่องน้อยที่เก็บงำสิ่งของที่เขาให้มา ลูบ ๆ คลำ ๆ จด ๆ จ้อง ๆ ยิ้มบ้างเศร้าบ้างไปตามประสา คือยังเก็บอยู่กับตัวไม่ให้ใครรู้ แม้แต่พ่อแม่ ซึ่งถ้าทราบก็อาจจะไม่สบายใจและเป็นห่วง ซึ่งสุริยาวดีไม่อยากให้เป็นแบบนั้น สำหรับสุริยาดวีแล้ว ถึงจะสามารถหันหลังให้เขมชาติได้ในหลาย ๆ ครั้ง สามารถเอ่ยปากว่าตัดขาดได้ ก็หันหลังได้จริง ๆ น่ะแหละ ตัดได้จริง ๆ เพียงแต่บังคับให้ไปได้แต่ตัว ส่วนหัวใจ ... "ก็ไม่รู้สินะ"
เราเห็นชัดอยู่แล้วว่าเขมโฟกัสที่วดีอยู่ตลอดเวลาละไปไหนไม่ได้เลย อยากรู้ตลอดวดีไปไหน ไปกับใคร เป็นอะไร ลูกไม่สบาย รถเสีย ทุกจังหวะชีวิตพยายามจะรู้ให้หมด พยายามโบกไม้โบกมือให้สุริยาวดีมองเห็น ให้มีปฏิกิริยา อะไรก็ได้ โกรธ ดีใจ เสียใจ ฯลฯ เอาทุกอย่าง เหมือนเด็กเรียกร้องความสนใจ ใส่ใจแต่ใส่ใจแบบด้านลบ ... แล้ววดีล่ะ มักเห็นวดีไม่ใส่ใจใช่ไหมเวลาอยู่ต่อหน้าเขม แต่จริง ๆ แล้วจับสังเกตตลอด รู้หมดเหมือนกัน emotionally มาเช้าแล้วหงุดหงิดคือไม่ได้กินข้าว อารมณ์เสีย ต้องหากาแฟมะนาวฝานบาง ๆ บวกขนมให้ จัดแฟ้มเอกสารไฮไลต์ข้อความสำคัญให้ อันนี้เกินกว่าคำว่าทรงประสิทธิภาพ ไม่ใส่ใจจริง ๆ จะไม่รู้และไม่ทำให้ขนาดนี้ แล้ววดีโฟกัสเขมมากจริง ๆ อย่างเวลาเห็นเกนหลงเข้ามา สายตาวดีไม่ได้โฟกัสที่เกนหลงนะ วดีมองแต่เขมว่าเขมอยู่กับผู้หญิงคนนี้เป็นยังไง มีความสุขไหม แล้วสรุปรวบเลย ดังนั้นอารมณ์ของเขมมาก่อน ใส่ใจเหมือนกันแต่เป็นด้านบวก
เพียงแต่ติดที่การมอง แต่ละคนมอง .... ในมุมของตัวเอง ไม่พลิกมองในมุมของผู้อื่น เขมมองเห็นความเจ็บปวดของตัวเอง
วดีตัดสินใจเพื่อคนอื่น มองอารมณ์คนอื่น .... ใช่ แต่ภายใต้กรอบความคิดของตัวเองเช่นเดียวกัน
I can't take my mind off you.
'Til I find somebody new.
ละหัวใจก็ไม่ได้
แล้วประโยชน์อะไรที่จะมองหาใครใหม่
เมื่อไม่คิดจะหาอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว