เพลงประกอบ นวนิยาย เรื่อง คฤหาสน์ดำ (แมวผี) แต่งโดย ผู้ประพันธ์
คฤหาสน์ดำ (แมวผี) ตอนที่1 http://ppantip.com/topic/32017235
คฤหาสน์ดำ (แมวผี) ตอนที่2 http://ppantip.com/topic/32021512
คฤหาสน์ดำ (แมวผี) ตอนที่3 http://ppantip.com/topic/32025215
คฤหาสน์ดำ (แมวผี) ตอนที่4 http://ppantip.com/topic/32028446
คฤหาสน์ดำ (แมวผี) ตอนที่5 http://ppantip.com/topic/32036401
คฤหาสน์ดำ (แมวผี) ตอนที่6 http://ppantip.com/topic/32041574
....ตอนที่ 5...
"ลูก....ลูกพ่อ....ลูกต้องกลับมาช่วยน้อง...ลูก...กลับมาช่วยน้อง"
"คุณพ่อ เดี๋ยวอย่าเพิ่งไป คุณพ่อ!" ร่างของชายหนุ่มสะดุ้งตื่นจากภวังค์ เหงื่อของเขาไหลออกมาเต็มใบหน้า...เขาฝัน!....ฝันอีกแล้ว...นี่เขาฝันถึงสิ่งเดียวกัน ติดต่อกันมาเป็นวันที่สามแล้ว เขาฝันเห็นบิดา...บิดาผู้ล่วงลับตั้งแต่เขามีอายุเพียงเจ็ดขวบเศษเท่านั้น....
แต่เขายังจำใบหน้าของผู้เป็นบิดาได้เป็นอย่างดี เขาหันไปหยิบรูปภาพในกรอบใบเล็กที่เขาวางไว้บนหัวเตียงนอน...เขามองดูรูปภาพของพ่อตนเองที่ถ่ายเคียงคู่กับเขา...เขานั่งบนตักของบิดาและทั้งคู่มีใบหน้าที่ยิ้มแย้มและดูมีความสุข
เขารู้สึกสนิทสนมกับบิดาเป็นอย่างมาก...เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวบิดาเลย รู้เพียงแต่ว่าบิดาเป็นคนดี...และถูกฆาตกรรมภายในบ้านของตนเอง...แต่เขาไม่รู้อะไรไปมากกว่านั้น...ตั้งแต่บิดาเสียชีวิตเขามีท่าทีซึมเศร้า...มารดาของเขาเลยส่งให้เขาเรียนที่ต่างประเทศตั้งแต่เขามีอายุเพียงแค่ สิบสองปี...
เขาได้มาอยู่กับญาติฝ่ายบิดาที่มาทำธุรกิจอยู่ที่นี่...เขาจิงสามารถพูดภาษาไทยได้เป็นอย่างดี...เพราะเมื่อเขากลับมาที่บ้านพัก...ผู้มีศักดิ์เป็นอาของเขา ก็พูดภาษาไทยกันตลอด...
ชานนท์จะกลับไปเยี่ยมมารดาเพียงแค่ปีละครั้งหรือบางปีก็ไม่ได้กลับไป...เขารู้สึกถึงความแปลกประหลาดของบ้าน...บ้านที่ดูไม่เหมือนบ้านไปทุกที...เขาเคยขอร้องมารดาให้เอาตุ๊กตาแมวออกไป...และทาสีบ้านให้กลับมาเป็นสีขาว...แต่มารดาของเขาไม่ยอมและต่อว่าเขา...
เพราะเหตุนี้ชายหนุ่มจึงไม่คิดที่จะกลับไปบ้านเกิด....แต่...เมื่อยิ่งเขาคิดที่จะไม่กลับ...ก็ฝันถึงแต่บิดาผู้ล่วงลับ...ยิ่งคิดที่จะไม่กลับ...ก็ยิ่งฝันถึง...
หรือว่าบิดาของเขามีบางสิ่งที่จะให้เขาช่วยเหลืออย่างนั้นหรือ?
ชายหนุ่มมองดูนาฬิกา ขนาดนี้เวลาบ่ายโมงกว่า...ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเตียงนอน และมีเสียงเคาะประตูมาจากด้านนอก
"ตานนท์ลูก...ตื่นหรือยังนี่บ่ายโมงแล้วนะลูก...ตื่นมาทานอะไรก่อน..." ผู้ที่ขานเรียกก็คือ คุณรินชิสา...ผู้เป็นอาเจ้าระเบียบของชายหนุ่มที่ถูกขานเรียก...รินชิสา ได้สามีเป็นชาวอเมริกัน และย้ายมาทำธุรกิจกับสามีที่นี่...หล่อนมีลูกชายและลูกสาวเพียงสองคน คนโตเป็นผู้ชายอายุสิบแปดปี ชื่อว่า เดเนียล และลูกสาวคนเล็กชื่อว่า มาเรีย...อายุสิบหกปี
ชายหนุ่มเปิดประตูออกมา..."คุณอา...ผมตื่นพอดีเลยครับ...พอดีว่าเมื่อคืนกว่าจะกลับมาก็เกือบเช้าแล้ว เลยนอนหลับยาวไปหน่อย" ชายหนุ่มหัวเราะแก้เก้อ...เมื่อคืนเขาออกไปปาร์ตี้วันเกิดของเพื่อนสาวดึกมากไปหน่อยเลยตื่นสาย แต่ดีที่ว่าวันนี้เป็นวันอาทิตย์พอดี
"ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะตานนท์ อาก็รู้ว่าวันนี้วันอาทิตย์ แต่อาเป็นห่วงกลัวว่าจะนอนหลับนานแล้วหิวไม่มาทานข้าวน่ะจ๊ะ" อาสาวยิ้มอย่างโอบอ้อมอารีย์
"คุณอาครับเดี๋ยวผมขออาบน้ำและมีเรื่องจะปรึกษาคุณอาสักหน่อย" อาสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย...ก่อนจะยิ้มให้อีกครั้ง...
"เรื่องอะไรหรือจ๊ะ?" อาสาวถาม
"เรื่องที่ผมจะกลับเมืองไทยครับ!"
"คุณแม่...คุณพ่อ กรี๊ดดดดดดดดดดดด" ศิริมา กรีดร้องลั่นห้องนอนของเธอ...หล่อนสะดุ้งตื่น...มองดูรอบๆห้องอย่างกับไม่เชื่อสายตัวเอง หล่อนมองไปที่กระเป๋า....สิ่งที่เห็นคือทุกอย่างเป็นปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วเมื่อคืนนี้...มันคืออะไร...หล่อนถือกระเป๋าพยายามจะหนีกลับ...แต่หลังจากนั้นหล่อนก็ไม่รู้อะไรอีกเลย จนเวลานี้...หล่อนกลับมานอนที่เตียงนอนในห้องนี้อีกครั้ง...
"มันเกิดอะไรขึ้น....เป็นไปได้ยังไง? ใครมาช่วยฉัน ฉันกลับมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?" หล่อนหันมามองเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ในขณะนี้ กระโปรงยาวสีขาว...มันเปื้อนไปด้วย ดินและโคลนสีดำ...เหมือนกับว่าหล่อนไปเดินลุยป่ามาอย่างนั้น!...
ศิริมารู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก...
ขณะนั้นหล่อนนึกขึ้นได้ว่า...กำลังจะกลับไปหามารดา...หล่อนโทรหาผู้เป็นแม่เมื่อคืน...แม่บอกกับหล่อนว่าไม่ได้ให้มาที่นี่...ให้รีบออกมาจากที่นี่...หล่อนได้ยินเสียงกรีดร้องของมารดาก่อนที่สายโทรศัพท์จะตัดไป...และหล่อนไม่สามารถติดต่อมารดาได้อีก
ศิริมาตัดสินใจโทรหามารดาอีกครั้ง...เมื่อหล่อนเปิดโทรศัพท์พบว่ามีเบอร์โทรฯจากป้าของเธอผู้เป็นพี่สาวของแม่มากกว่ายี่สิบสายที่ไม่ได้รับ...ศิริมารีบโทรกลับไปที่เบอร์นั้นทันทีด้วยใจที่ระทึก...
"ยายศิ...แกรู้ไหมว่าแม่แกตายแล้วนะ! มีโจรมารื้อของในบ้านเต็มไปหมด แล้วแม่แก้วก็โดนมีดปาดคอ...หูยจิตใจคนทำไม่รู้มันทำด้วยอะไร..." ป้าผู้นั้นทำเสียงสยองขวัญ
"ไม่จริงใช่มั๊ยจ๊ะป้า...ไม่จริง..." ศิริมาเสียงสั่น ไม่เชื่อที่ป้าของตนเองบอก...ศิริมารู้สึกเสียใจที่ต้องสูญเสียผู้เป็นมารดา นี่มันเกิดอะไรขึ้น...เหตุการณ์นี้มันจะเกี่ยวข้องกับบ้านมณีนิลหรือเปล่า...ทำไมเหตุการณ์ร้ายๆถึงเกิดขึ้นในวันเดียวกัน...
เพียงแค่ข้ามคืน หล่อนต้องเสียผู้เป็นแม่ไปอย่างนั้นหรือ?
"ตอนนี้อยู่ไหนน่ะ รีบกลับมาบ้านนะมาช่วยกันจัดงานศพ คืนนี้จะเป็นคืนแรกนะลูก รีบๆมา...ที่บ้านเขาก็คอยหนูกันอยู่" ผู้เป็นป้ากำชับ ก่อนที่จะวางสายไป
โทรศัพท์มือถือในมือของศิริมา หล่นลงกระแทกพื้น...น้ำตาแห่งความเสียใจหลั่งออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างของหล่อน...ไม่นึกเลยว่าผู้เป็นแม่จะต้องมาจบชีวิตลงอย่างน่าอนาถขนาดนี้...
"ไม่จริงอ่ะ...แม่ยังไม่ตายใช่มั๊ย?...ทำไมเรื่องร้ายๆต้องมาเกิดกับชีวิตของฉันด้วย..." หล่อนสูญเสียแม่ไปจริงๆหรือ แม่ผู้ที่เลี้ยงดูหล่อนมาเป็นอย่างดี...ตั้งแต่จำความได้...หล่อนก็อยู่กับแม่มาตั้งแต่เกิด ไม่เคยเห็นหน้าพ่อจริงๆ เห็นเพียงแค่รูปภาพใบเล็ก...
ศิริมาไม่นึกเลยว่าแม่จะมาจากหล่อนไปเร็วขนาดนี้...ศิริมาเสียใจเป็นอย่างมาก...พลางนึกอะไรขึ้นมาได้ว่าตอนที่คุยกับมารดาเมื่อคืนนี้...หล่อนได้ยินเสียงกรีดร้องของแม่ก่อนจะวางสายไป...มันจะเกี่ยวกันกับบ้านหลังนี้หรือเปล่า...หล่อนสงสัยเป็นอย่างมาก...เพราะเมื่อแม่ได้ยินว่าหล่อนอยู่ที่นี่...ก็ทำเสียงตกใจเป็นอย่างมาก เหมือนกับไม่รู้มาก่อนว่าหล่อนมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ในเมื่อสิ่งที่หล่อนทราบคือแม่ให้มาอยู่ในบ้านแห่งนี้เอง....?
ศิริมาตัดปาดน้ำตา พยายามหึดสู้กับความเจ็บปวดในการที่ต้องสูญเสียผู้เป็นแม่ไป...หล่อนตัดสินใจว่าหลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ หล่อนจะออกจากคฤหาสน์พิศวงแห่งนี้ให้ได้...ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรหล่อนก็จะต้องออกไป!
นิลอุบลตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น หล่อนรู้สึกว่าเมื่อคืนเป็นการนอนหลับที่สบายมากที่สุด...หล่อนเดินไปที่ริมระเบียง...เพื่อสูดกับบรรยากาศที่สดชื่นในยามเช้า...รอบบ้านถึงแม้จะดูน่ากลัวในยามค่ำคืน แต่ในเวลาเช้าๆแบบนี้ มันดูสวยและร่มรื่นเป็นอย่างมาก...
นิลอุบลนุ่งชุดนอนเบาหวิว ซีทรูแนบเนื้อสุดวาบหวิว เนินอกของหล่อนอวบอิ่มและดูยิ่งใหญ่เกินวัยของสาวยี่สิบต้นๆ...หล่อนภาคภูมิใจในสรีระร่างกายของตนเองเป็นอย่างมาก...ทุกคนชื่นชมในความงามของหล่อน หลายคนในมหาวิทยาลัยยังคิดว่าหล่อนน่าจะไปเป็นดารานักแสดง...
นิลอุบลนึกถึงเพื่อนสาวที่พามาที่นี่ด้วย...หล่อนแบะปาก...เมื่อนึกถึงเพื่อนสาวคนนี้... "นังมิลค์ คืนนี้แล้วซีนะที่แกจะ....ฮึฮึฮึ ไม่เอาไม่พูดดีกว่า..." นิลอุบลยิ้มกับตนเองเหมือนกับพึงพอใจอะไรสักอย่าง
หล่อนหยิบชุดคลุมสีขาวตัวใหญ่...เพื่อปกปิดร่างกายในชุดนอนอันวาบหวิวของหล่อน...นิลอุบลเดินไปเคาะประตูห้องของชญามินญ์เพื่อนสาว...
ก็อก! ก็อก! "ยัยมิลค์ มิลค์ แกตื่นหรือยังอ่ะ ลงไปทานข้าวเช้าด้วยกันก่อนสิ...มิลค์..." นิลอุบลเรียกอยู่หลายครั้งจนหล่อนรู้สึกรำคาญและสบถออกมาเบาๆว่า...
"นังนี่ตื่นช้ากว่าเจ้าของบ้านอีกหรือเนี่ย!" นิลอุบลทำหน้าหงุดหงิดใจขึ้นมา หล่อนถือวิสาสะเปิดประตูด้วยตัวเอง...ประตูห้องนอนไม่ได้ล็อก....
นิลอุบลเปิดประตูออกมา สายตามองไปที่เตียงนอนของเพื่อนสาว...หล่อนมองเห็นชญามินญ์นอนหลับอยู่บนเตียง...นอนตัวตรงขาเหยียดยาว...เหมือนไม่ใช่คนนอนหลับปกติ...
"คนอะไร..นอนตัวตรงแข็งทื่อขนาดนั้น..." นิลอุบลคิดในใจพร้อมกับเดินเข้าไปดูใกล้ๆร่างของเพื่อน...นิลอุบลตะโกนเรียก...
"มิลค์...ยายมิลค์...มิลค์..." หล่อนเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีปฎิกริยาตอบรับ...หล่อนเริ่มสงสัยขึ้นมาบ้าง...จึงเอามือของหล่อนเองจับไปที่มือของเพื่อนสาวที่นอนแน่นิ่ง
มือของชญามินญ์เย็นเฉียบ...นิลอุบลรีบชักมือกลับออกมา...หล่อนรู้สึกถึงความผิดปกติ...นิลอุบลจ้องไปที่หน้าของชญามินญ์...
ใบหน้าของชญามินญ์ดูขาวซีด ริมฝีปากที่เคยเป็นสีชมพู...กลับกลายเป็นสีเขียวช้ำ...
นิลอุบลรวบรวมความกล้า...นำมือไปอังไว้กับจมูกของชญามินญ์ เพียงครู่เดียวหล่อนก็ชักมือกลับออกมา...ใบหน้าของนิลอุบลในตอนนี้...มีแต่ความหวาดกลัวและตื่นตระหนก
"อะไรกัน...นี่...นี่ แกตายแล้วเหรอ!...ทำไมแกตายตอนนี้ล่ะ?" นิลอุบลหน้าซีด...หล่อนรีบวิ่งออกไปเปิดประตู คนแรกที่หล่อนนึกถึงคือคุณหญิงมณีนิลผู้เป็นมารดาของหล่อนเอง... "คุณแม่รู้เรื่องนี้หรือยัง? "
นิลอุบลรีบวิ่งไปที่ห้องนอนใหญ่ของผู้เป็นมารดา...หล่อนเปิดประตูเข้าไปอย่างรวดเร็ว...เข้าไปแล้วเห็นมารดากำลังนั่งหวีผมอยู่หน้ากระจกตรงโต๊ะเครื่องแป้งสุดหรู...
มารดายิ้มหวานให้กับบุตรสาว..."คุณแม่คะ!" หล่อนพูดเสียงสั่น
"แม่รู้แล้ว!" คุณหญิงมณีนิลยิ้มเยือกเย็น...หล่อนหวีผมไปด้วยอย่างช้าๆ... "แม่คนทำเองแหละ...แม่ฆ่ามันเอง..." คุณหญิงพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน เธอทำเหมือนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย
"แต่ไหนคุณแม่บอกว่าจะจัดการมันวันนี้อย่างไรล่ะคะ?" นิลอุบลทหน้าตาสงสัย
"จะจัดการวันนี้ หรือวันไหนๆมันก็เหมือนกันนั่นแหละ..." คุณหญิงจ้องมองบุตรสาวผู้ที่ยืนอยู่เบื้องหลังผ่านทองกระจกเงาใบใหญ่
"ถ้าอย่างนั้น...เรื่องที่หนูจะให้คุณแม่ช่วย...มันก็จะเป็นความจริงใช่ไหมคะ?" หล่อนเข้าไปใกล้มารดามากยิ่งขึ้น สีหน้าเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้ยิน...ดวงตาของหญิงสาวกลับมาแวววาวอีกครั้ง
"ใช่! ลูกต้องการให้แม่ทำอะไร แม่สามารถช่วยลูกได้ทุกอย่าง" คุณหญิงตอบอย่างหนักแน่นต่อบุตรสาว...นิลอุบลเข้าโอบกอกคุณหญิงจากด้านหลัง...
"คุณแม่คะ...หนูขอบคุณมากๆเลยค่ะ คุณแม่...หนูรักคุณแม่มากที่สุดในโลกเลยค่ะ" นิลอุบลพูดอย่างดีใจ...ดูเหมือนในตอนนี้หล่อนจะมีความสุขมาก
คุณหญิงมณีนิลมองกระจกอีกครั้ง...สายตาริษยาและโกรธเคืองยังคงฉายแววอยู่ในดวงตาคู่สวยนั้น...
คฤหาสน์ดำ (แมวผี) ตอนที่ 5
เพลงประกอบ นวนิยาย เรื่อง คฤหาสน์ดำ (แมวผี) แต่งโดย ผู้ประพันธ์
คฤหาสน์ดำ (แมวผี) ตอนที่1 http://ppantip.com/topic/32017235
คฤหาสน์ดำ (แมวผี) ตอนที่2 http://ppantip.com/topic/32021512
คฤหาสน์ดำ (แมวผี) ตอนที่3 http://ppantip.com/topic/32025215
คฤหาสน์ดำ (แมวผี) ตอนที่4 http://ppantip.com/topic/32028446
คฤหาสน์ดำ (แมวผี) ตอนที่5 http://ppantip.com/topic/32036401
คฤหาสน์ดำ (แมวผี) ตอนที่6 http://ppantip.com/topic/32041574
....ตอนที่ 5...
"ลูก....ลูกพ่อ....ลูกต้องกลับมาช่วยน้อง...ลูก...กลับมาช่วยน้อง"
"คุณพ่อ เดี๋ยวอย่าเพิ่งไป คุณพ่อ!" ร่างของชายหนุ่มสะดุ้งตื่นจากภวังค์ เหงื่อของเขาไหลออกมาเต็มใบหน้า...เขาฝัน!....ฝันอีกแล้ว...นี่เขาฝันถึงสิ่งเดียวกัน ติดต่อกันมาเป็นวันที่สามแล้ว เขาฝันเห็นบิดา...บิดาผู้ล่วงลับตั้งแต่เขามีอายุเพียงเจ็ดขวบเศษเท่านั้น....
แต่เขายังจำใบหน้าของผู้เป็นบิดาได้เป็นอย่างดี เขาหันไปหยิบรูปภาพในกรอบใบเล็กที่เขาวางไว้บนหัวเตียงนอน...เขามองดูรูปภาพของพ่อตนเองที่ถ่ายเคียงคู่กับเขา...เขานั่งบนตักของบิดาและทั้งคู่มีใบหน้าที่ยิ้มแย้มและดูมีความสุข
เขารู้สึกสนิทสนมกับบิดาเป็นอย่างมาก...เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวบิดาเลย รู้เพียงแต่ว่าบิดาเป็นคนดี...และถูกฆาตกรรมภายในบ้านของตนเอง...แต่เขาไม่รู้อะไรไปมากกว่านั้น...ตั้งแต่บิดาเสียชีวิตเขามีท่าทีซึมเศร้า...มารดาของเขาเลยส่งให้เขาเรียนที่ต่างประเทศตั้งแต่เขามีอายุเพียงแค่ สิบสองปี...
เขาได้มาอยู่กับญาติฝ่ายบิดาที่มาทำธุรกิจอยู่ที่นี่...เขาจิงสามารถพูดภาษาไทยได้เป็นอย่างดี...เพราะเมื่อเขากลับมาที่บ้านพัก...ผู้มีศักดิ์เป็นอาของเขา ก็พูดภาษาไทยกันตลอด...
ชานนท์จะกลับไปเยี่ยมมารดาเพียงแค่ปีละครั้งหรือบางปีก็ไม่ได้กลับไป...เขารู้สึกถึงความแปลกประหลาดของบ้าน...บ้านที่ดูไม่เหมือนบ้านไปทุกที...เขาเคยขอร้องมารดาให้เอาตุ๊กตาแมวออกไป...และทาสีบ้านให้กลับมาเป็นสีขาว...แต่มารดาของเขาไม่ยอมและต่อว่าเขา...
เพราะเหตุนี้ชายหนุ่มจึงไม่คิดที่จะกลับไปบ้านเกิด....แต่...เมื่อยิ่งเขาคิดที่จะไม่กลับ...ก็ฝันถึงแต่บิดาผู้ล่วงลับ...ยิ่งคิดที่จะไม่กลับ...ก็ยิ่งฝันถึง...
หรือว่าบิดาของเขามีบางสิ่งที่จะให้เขาช่วยเหลืออย่างนั้นหรือ?
ชายหนุ่มมองดูนาฬิกา ขนาดนี้เวลาบ่ายโมงกว่า...ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเตียงนอน และมีเสียงเคาะประตูมาจากด้านนอก
"ตานนท์ลูก...ตื่นหรือยังนี่บ่ายโมงแล้วนะลูก...ตื่นมาทานอะไรก่อน..." ผู้ที่ขานเรียกก็คือ คุณรินชิสา...ผู้เป็นอาเจ้าระเบียบของชายหนุ่มที่ถูกขานเรียก...รินชิสา ได้สามีเป็นชาวอเมริกัน และย้ายมาทำธุรกิจกับสามีที่นี่...หล่อนมีลูกชายและลูกสาวเพียงสองคน คนโตเป็นผู้ชายอายุสิบแปดปี ชื่อว่า เดเนียล และลูกสาวคนเล็กชื่อว่า มาเรีย...อายุสิบหกปี
ชายหนุ่มเปิดประตูออกมา..."คุณอา...ผมตื่นพอดีเลยครับ...พอดีว่าเมื่อคืนกว่าจะกลับมาก็เกือบเช้าแล้ว เลยนอนหลับยาวไปหน่อย" ชายหนุ่มหัวเราะแก้เก้อ...เมื่อคืนเขาออกไปปาร์ตี้วันเกิดของเพื่อนสาวดึกมากไปหน่อยเลยตื่นสาย แต่ดีที่ว่าวันนี้เป็นวันอาทิตย์พอดี
"ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะตานนท์ อาก็รู้ว่าวันนี้วันอาทิตย์ แต่อาเป็นห่วงกลัวว่าจะนอนหลับนานแล้วหิวไม่มาทานข้าวน่ะจ๊ะ" อาสาวยิ้มอย่างโอบอ้อมอารีย์
"คุณอาครับเดี๋ยวผมขออาบน้ำและมีเรื่องจะปรึกษาคุณอาสักหน่อย" อาสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย...ก่อนจะยิ้มให้อีกครั้ง...
"เรื่องอะไรหรือจ๊ะ?" อาสาวถาม
"เรื่องที่ผมจะกลับเมืองไทยครับ!"
"คุณแม่...คุณพ่อ กรี๊ดดดดดดดดดดดด" ศิริมา กรีดร้องลั่นห้องนอนของเธอ...หล่อนสะดุ้งตื่น...มองดูรอบๆห้องอย่างกับไม่เชื่อสายตัวเอง หล่อนมองไปที่กระเป๋า....สิ่งที่เห็นคือทุกอย่างเป็นปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วเมื่อคืนนี้...มันคืออะไร...หล่อนถือกระเป๋าพยายามจะหนีกลับ...แต่หลังจากนั้นหล่อนก็ไม่รู้อะไรอีกเลย จนเวลานี้...หล่อนกลับมานอนที่เตียงนอนในห้องนี้อีกครั้ง...
"มันเกิดอะไรขึ้น....เป็นไปได้ยังไง? ใครมาช่วยฉัน ฉันกลับมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?" หล่อนหันมามองเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ในขณะนี้ กระโปรงยาวสีขาว...มันเปื้อนไปด้วย ดินและโคลนสีดำ...เหมือนกับว่าหล่อนไปเดินลุยป่ามาอย่างนั้น!...
ศิริมารู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก...
ขณะนั้นหล่อนนึกขึ้นได้ว่า...กำลังจะกลับไปหามารดา...หล่อนโทรหาผู้เป็นแม่เมื่อคืน...แม่บอกกับหล่อนว่าไม่ได้ให้มาที่นี่...ให้รีบออกมาจากที่นี่...หล่อนได้ยินเสียงกรีดร้องของมารดาก่อนที่สายโทรศัพท์จะตัดไป...และหล่อนไม่สามารถติดต่อมารดาได้อีก
ศิริมาตัดสินใจโทรหามารดาอีกครั้ง...เมื่อหล่อนเปิดโทรศัพท์พบว่ามีเบอร์โทรฯจากป้าของเธอผู้เป็นพี่สาวของแม่มากกว่ายี่สิบสายที่ไม่ได้รับ...ศิริมารีบโทรกลับไปที่เบอร์นั้นทันทีด้วยใจที่ระทึก...
"ยายศิ...แกรู้ไหมว่าแม่แกตายแล้วนะ! มีโจรมารื้อของในบ้านเต็มไปหมด แล้วแม่แก้วก็โดนมีดปาดคอ...หูยจิตใจคนทำไม่รู้มันทำด้วยอะไร..." ป้าผู้นั้นทำเสียงสยองขวัญ
"ไม่จริงใช่มั๊ยจ๊ะป้า...ไม่จริง..." ศิริมาเสียงสั่น ไม่เชื่อที่ป้าของตนเองบอก...ศิริมารู้สึกเสียใจที่ต้องสูญเสียผู้เป็นมารดา นี่มันเกิดอะไรขึ้น...เหตุการณ์นี้มันจะเกี่ยวข้องกับบ้านมณีนิลหรือเปล่า...ทำไมเหตุการณ์ร้ายๆถึงเกิดขึ้นในวันเดียวกัน...
เพียงแค่ข้ามคืน หล่อนต้องเสียผู้เป็นแม่ไปอย่างนั้นหรือ?
"ตอนนี้อยู่ไหนน่ะ รีบกลับมาบ้านนะมาช่วยกันจัดงานศพ คืนนี้จะเป็นคืนแรกนะลูก รีบๆมา...ที่บ้านเขาก็คอยหนูกันอยู่" ผู้เป็นป้ากำชับ ก่อนที่จะวางสายไป
โทรศัพท์มือถือในมือของศิริมา หล่นลงกระแทกพื้น...น้ำตาแห่งความเสียใจหลั่งออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างของหล่อน...ไม่นึกเลยว่าผู้เป็นแม่จะต้องมาจบชีวิตลงอย่างน่าอนาถขนาดนี้...
"ไม่จริงอ่ะ...แม่ยังไม่ตายใช่มั๊ย?...ทำไมเรื่องร้ายๆต้องมาเกิดกับชีวิตของฉันด้วย..." หล่อนสูญเสียแม่ไปจริงๆหรือ แม่ผู้ที่เลี้ยงดูหล่อนมาเป็นอย่างดี...ตั้งแต่จำความได้...หล่อนก็อยู่กับแม่มาตั้งแต่เกิด ไม่เคยเห็นหน้าพ่อจริงๆ เห็นเพียงแค่รูปภาพใบเล็ก...
ศิริมาไม่นึกเลยว่าแม่จะมาจากหล่อนไปเร็วขนาดนี้...ศิริมาเสียใจเป็นอย่างมาก...พลางนึกอะไรขึ้นมาได้ว่าตอนที่คุยกับมารดาเมื่อคืนนี้...หล่อนได้ยินเสียงกรีดร้องของแม่ก่อนจะวางสายไป...มันจะเกี่ยวกันกับบ้านหลังนี้หรือเปล่า...หล่อนสงสัยเป็นอย่างมาก...เพราะเมื่อแม่ได้ยินว่าหล่อนอยู่ที่นี่...ก็ทำเสียงตกใจเป็นอย่างมาก เหมือนกับไม่รู้มาก่อนว่าหล่อนมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ในเมื่อสิ่งที่หล่อนทราบคือแม่ให้มาอยู่ในบ้านแห่งนี้เอง....?
ศิริมาตัดปาดน้ำตา พยายามหึดสู้กับความเจ็บปวดในการที่ต้องสูญเสียผู้เป็นแม่ไป...หล่อนตัดสินใจว่าหลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ หล่อนจะออกจากคฤหาสน์พิศวงแห่งนี้ให้ได้...ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรหล่อนก็จะต้องออกไป!
นิลอุบลตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น หล่อนรู้สึกว่าเมื่อคืนเป็นการนอนหลับที่สบายมากที่สุด...หล่อนเดินไปที่ริมระเบียง...เพื่อสูดกับบรรยากาศที่สดชื่นในยามเช้า...รอบบ้านถึงแม้จะดูน่ากลัวในยามค่ำคืน แต่ในเวลาเช้าๆแบบนี้ มันดูสวยและร่มรื่นเป็นอย่างมาก...
นิลอุบลนุ่งชุดนอนเบาหวิว ซีทรูแนบเนื้อสุดวาบหวิว เนินอกของหล่อนอวบอิ่มและดูยิ่งใหญ่เกินวัยของสาวยี่สิบต้นๆ...หล่อนภาคภูมิใจในสรีระร่างกายของตนเองเป็นอย่างมาก...ทุกคนชื่นชมในความงามของหล่อน หลายคนในมหาวิทยาลัยยังคิดว่าหล่อนน่าจะไปเป็นดารานักแสดง...
นิลอุบลนึกถึงเพื่อนสาวที่พามาที่นี่ด้วย...หล่อนแบะปาก...เมื่อนึกถึงเพื่อนสาวคนนี้... "นังมิลค์ คืนนี้แล้วซีนะที่แกจะ....ฮึฮึฮึ ไม่เอาไม่พูดดีกว่า..." นิลอุบลยิ้มกับตนเองเหมือนกับพึงพอใจอะไรสักอย่าง
หล่อนหยิบชุดคลุมสีขาวตัวใหญ่...เพื่อปกปิดร่างกายในชุดนอนอันวาบหวิวของหล่อน...นิลอุบลเดินไปเคาะประตูห้องของชญามินญ์เพื่อนสาว...
ก็อก! ก็อก! "ยัยมิลค์ มิลค์ แกตื่นหรือยังอ่ะ ลงไปทานข้าวเช้าด้วยกันก่อนสิ...มิลค์..." นิลอุบลเรียกอยู่หลายครั้งจนหล่อนรู้สึกรำคาญและสบถออกมาเบาๆว่า...
"นังนี่ตื่นช้ากว่าเจ้าของบ้านอีกหรือเนี่ย!" นิลอุบลทำหน้าหงุดหงิดใจขึ้นมา หล่อนถือวิสาสะเปิดประตูด้วยตัวเอง...ประตูห้องนอนไม่ได้ล็อก....
นิลอุบลเปิดประตูออกมา สายตามองไปที่เตียงนอนของเพื่อนสาว...หล่อนมองเห็นชญามินญ์นอนหลับอยู่บนเตียง...นอนตัวตรงขาเหยียดยาว...เหมือนไม่ใช่คนนอนหลับปกติ...
"คนอะไร..นอนตัวตรงแข็งทื่อขนาดนั้น..." นิลอุบลคิดในใจพร้อมกับเดินเข้าไปดูใกล้ๆร่างของเพื่อน...นิลอุบลตะโกนเรียก...
"มิลค์...ยายมิลค์...มิลค์..." หล่อนเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีปฎิกริยาตอบรับ...หล่อนเริ่มสงสัยขึ้นมาบ้าง...จึงเอามือของหล่อนเองจับไปที่มือของเพื่อนสาวที่นอนแน่นิ่ง
มือของชญามินญ์เย็นเฉียบ...นิลอุบลรีบชักมือกลับออกมา...หล่อนรู้สึกถึงความผิดปกติ...นิลอุบลจ้องไปที่หน้าของชญามินญ์...
ใบหน้าของชญามินญ์ดูขาวซีด ริมฝีปากที่เคยเป็นสีชมพู...กลับกลายเป็นสีเขียวช้ำ...
นิลอุบลรวบรวมความกล้า...นำมือไปอังไว้กับจมูกของชญามินญ์ เพียงครู่เดียวหล่อนก็ชักมือกลับออกมา...ใบหน้าของนิลอุบลในตอนนี้...มีแต่ความหวาดกลัวและตื่นตระหนก
"อะไรกัน...นี่...นี่ แกตายแล้วเหรอ!...ทำไมแกตายตอนนี้ล่ะ?" นิลอุบลหน้าซีด...หล่อนรีบวิ่งออกไปเปิดประตู คนแรกที่หล่อนนึกถึงคือคุณหญิงมณีนิลผู้เป็นมารดาของหล่อนเอง... "คุณแม่รู้เรื่องนี้หรือยัง? "
นิลอุบลรีบวิ่งไปที่ห้องนอนใหญ่ของผู้เป็นมารดา...หล่อนเปิดประตูเข้าไปอย่างรวดเร็ว...เข้าไปแล้วเห็นมารดากำลังนั่งหวีผมอยู่หน้ากระจกตรงโต๊ะเครื่องแป้งสุดหรู...
มารดายิ้มหวานให้กับบุตรสาว..."คุณแม่คะ!" หล่อนพูดเสียงสั่น
"แม่รู้แล้ว!" คุณหญิงมณีนิลยิ้มเยือกเย็น...หล่อนหวีผมไปด้วยอย่างช้าๆ... "แม่คนทำเองแหละ...แม่ฆ่ามันเอง..." คุณหญิงพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน เธอทำเหมือนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย
"แต่ไหนคุณแม่บอกว่าจะจัดการมันวันนี้อย่างไรล่ะคะ?" นิลอุบลทหน้าตาสงสัย
"จะจัดการวันนี้ หรือวันไหนๆมันก็เหมือนกันนั่นแหละ..." คุณหญิงจ้องมองบุตรสาวผู้ที่ยืนอยู่เบื้องหลังผ่านทองกระจกเงาใบใหญ่
"ถ้าอย่างนั้น...เรื่องที่หนูจะให้คุณแม่ช่วย...มันก็จะเป็นความจริงใช่ไหมคะ?" หล่อนเข้าไปใกล้มารดามากยิ่งขึ้น สีหน้าเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้ยิน...ดวงตาของหญิงสาวกลับมาแวววาวอีกครั้ง
"ใช่! ลูกต้องการให้แม่ทำอะไร แม่สามารถช่วยลูกได้ทุกอย่าง" คุณหญิงตอบอย่างหนักแน่นต่อบุตรสาว...นิลอุบลเข้าโอบกอกคุณหญิงจากด้านหลัง...
"คุณแม่คะ...หนูขอบคุณมากๆเลยค่ะ คุณแม่...หนูรักคุณแม่มากที่สุดในโลกเลยค่ะ" นิลอุบลพูดอย่างดีใจ...ดูเหมือนในตอนนี้หล่อนจะมีความสุขมาก
คุณหญิงมณีนิลมองกระจกอีกครั้ง...สายตาริษยาและโกรธเคืองยังคงฉายแววอยู่ในดวงตาคู่สวยนั้น...