สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ไปดูหนังคนที่อาศัยอยู่แถวทะเลทราย......เห็นชีวิตเขา.....แล้วจะใช้ชีวิตประหยัดได้โดยทันที.....
เราโชคดีกว่าเขามากมายนัก......เราบ่นกว่าร้อน......แต่ยังมีต้นไม้ให้เห็น.....พวกเขาไม่มีต้นไม้.....ไม่มีน้ำ....
เห็นแล้วจะคิดได้เลย........ไม่มีพัดลม ไม่มีที่หลบแดด......ไม่ต้องพูดถึงขนม......ไม่มีห้าง......ไม่มีอะไรเลย
ดูแล้ว.....เราโชคดีเหมือนถูกรางวัลที่ 1 เหมือนขึ้นสวรรค์........
แต่เราเป็นปรกติ.....เรานึกไม่ได้ ......ลองไม่ได้อาบน้ำ สัก วันซิ......ก็จะแย่แล้ว
เราไม่รู้ว่าเรานี้โชคดี.......พวกเขาเดินทางไปหาน้ำ........แต่เรามีน้ำอยู่เต็มไปหมด ใช้อย่างฟุ่มเฟือย
พวกเขายิ้ม.....สู้ชีวิต.....พวกเขาพอใจ ในความสุขที่เขามี......
เราไม่พอใจ.....เราจึงทุกข์.......
สรุปแล้ว.......สุข กับ ทุกข์ อยู่ที่ความพอใจ......ให้มีมากแค่ไหนไม่พอใจ ก็ยากที่จะมีความสุข.....
สาวพม่า.....ออกทีวีตอนสงกรานต์ มีเงินเดือน ห้าพันกว่า กินอยู่กับที่ทำงาน กลับบ้าน มาทำงาน 4 เดือน
เอาเงินกลับไปให้บ้าน 20000 เนี่ย.....เห็นแล้วอึ้ง......คนไทยยังไม่รู้ตัวเอง ว่าโชคดี ได้อยู่เมืองสวรรค์แล้ว.....
เราโชคดีกว่าเขามากมายนัก......เราบ่นกว่าร้อน......แต่ยังมีต้นไม้ให้เห็น.....พวกเขาไม่มีต้นไม้.....ไม่มีน้ำ....
เห็นแล้วจะคิดได้เลย........ไม่มีพัดลม ไม่มีที่หลบแดด......ไม่ต้องพูดถึงขนม......ไม่มีห้าง......ไม่มีอะไรเลย
ดูแล้ว.....เราโชคดีเหมือนถูกรางวัลที่ 1 เหมือนขึ้นสวรรค์........
แต่เราเป็นปรกติ.....เรานึกไม่ได้ ......ลองไม่ได้อาบน้ำ สัก วันซิ......ก็จะแย่แล้ว
เราไม่รู้ว่าเรานี้โชคดี.......พวกเขาเดินทางไปหาน้ำ........แต่เรามีน้ำอยู่เต็มไปหมด ใช้อย่างฟุ่มเฟือย
พวกเขายิ้ม.....สู้ชีวิต.....พวกเขาพอใจ ในความสุขที่เขามี......
เราไม่พอใจ.....เราจึงทุกข์.......
สรุปแล้ว.......สุข กับ ทุกข์ อยู่ที่ความพอใจ......ให้มีมากแค่ไหนไม่พอใจ ก็ยากที่จะมีความสุข.....
สาวพม่า.....ออกทีวีตอนสงกรานต์ มีเงินเดือน ห้าพันกว่า กินอยู่กับที่ทำงาน กลับบ้าน มาทำงาน 4 เดือน
เอาเงินกลับไปให้บ้าน 20000 เนี่ย.....เห็นแล้วอึ้ง......คนไทยยังไม่รู้ตัวเอง ว่าโชคดี ได้อยู่เมืองสวรรค์แล้ว.....
ความคิดเห็นที่ 30
ทำไมต้องสรรหาวิธีต่าง ๆ นา ๆ ให้ตัวเองเดือดร้อนยิ่งขึ้นไปเพราะคนอื่นด้วยเล่า ..ไม่เห็นจำเป็นต้องพกแซนวิชแล้วอ้างว่าเจ้านี้อร่อย ไม่จำเป็นต้องแอบกินข้าวไปให้อิ่ม ๆ ก่อนเพื่อไปนั่งร้านหรูตามเพื่อน ฯลฯ น้องไม่ต้องอายเพราะความจริงคือความจริงอยู่วันยังค่ำ ให้บอกพวกเขาไปเลยตรง ๆ ดีกว่ามานั่งโกหกคนอื่นเพื่อให้เราดูดี ถ้าเพื่อนเข้าใจและหาวิธีช่วยน้องเช่นนัดเจอกันในสวนสาธารณะ เจอกันตามบ้านเพื่อน(สมมตินะ)นั่นคือเพื่อนที่มีน้ำใจ แต่ถ้าพวกเขาคิดว่าไม่ใช่ปัญหาของพวกเขาแต่เป็นปัญหาของน้องเองก็ให้น้องคิดว่าช่างหัวแมร่มมันเพื่อนแบบนี้ไม่มีดีกว่า และให้รีบมองหางานใหม่หนีไปให้ไกลจากคนกลุ่มนี้
ป้าอยากบอกว่าคนเราถ้ามัวแต่รักษาหน้า ทำหน้าใหญ่ตามเขา(เพราะสังคมบ้านเรามันเป็นแบบนี้) อีกหน่อยก็ดิ้นไม่ออกต้องไปกู้หนี้ยืมสินเขา ต่อมาก็ติดนิสัยโกหกโน่นนี่ไปวัน ๆ เพราะดินพอกหางหมูไม่มีจ่ายเจ้าหนี้ สุดท้ายคือจะเสียศักดิ์ศรีและเกียรติของความเป็นคนมากกว่าที่เป็นอยู่ขณะนี้ค่ะ
ป้าอยากบอกว่าคนเราถ้ามัวแต่รักษาหน้า ทำหน้าใหญ่ตามเขา(เพราะสังคมบ้านเรามันเป็นแบบนี้) อีกหน่อยก็ดิ้นไม่ออกต้องไปกู้หนี้ยืมสินเขา ต่อมาก็ติดนิสัยโกหกโน่นนี่ไปวัน ๆ เพราะดินพอกหางหมูไม่มีจ่ายเจ้าหนี้ สุดท้ายคือจะเสียศักดิ์ศรีและเกียรติของความเป็นคนมากกว่าที่เป็นอยู่ขณะนี้ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 11
เป็นผมจะบอกตรงๆเลยว่าไม่มีเงินที่จะมานั่งทำงานแบบนี้ ไม่ต้องประดิษฐ์คำอะไรมากมายหรอก คิดว่าเพื่อนร่วมงานเข้าใจเพราะเขาก็เคยได้เงินเดือนน้อยมาก่อน ....เขาต้องรู้ว่าเราได้เงินเดือนเท่าไหร่ ...เขาต้องรั้ว่าเราควรจะใช้อย่างไร ....และคนที่เป็นหัวหน้างานที่พาไปนั่ง
ทำงาน ควรจะช่วยเหลือลูกน้องอย่างไร ..ในช่วงที่เงินเดือนน้องยังนิดเดียว พาไปทำงานแบบนี้ มันควรจะเลี้ยงน้องไหม ....จะมาทำงานแบบนี้ พามาแบบนี้ ถ้าหัวหน้างานเป็นคนพามา ควรมีเงินกองกลาง ในการจ่าย ...
ทำงาน ควรจะช่วยเหลือลูกน้องอย่างไร ..ในช่วงที่เงินเดือนน้องยังนิดเดียว พาไปทำงานแบบนี้ มันควรจะเลี้ยงน้องไหม ....จะมาทำงานแบบนี้ พามาแบบนี้ ถ้าหัวหน้างานเป็นคนพามา ควรมีเงินกองกลาง ในการจ่าย ...
แสดงความคิดเห็น
จะใช้ชีวิตในเมืองกรุงยังไงให้ประหยัดที่สุดคะ
แต่ตอนนี้ได้งานใหม่ เงินเดือนน้อยกว่าเดิมมากๆๆๆๆๆ แต่ยอมเพื่อแลกกับประสบการณ์ ยังอยู่ในฐานะคนทดลองงานด้วยซ้ำ
ที่ทำงานใหม่อยู่กลางใจเมือง แต่ทีมที่ร่วมงานด้วยไม่ค่อยทำงานเข้าออฟฟิศกัน
มักจะนัดทำงานในร้านกาแฟ หรือร้านแนวๆนั้นที่สามารถนั่งทำได้นานๆทั้งวัน และมักจะเริ่มงานกันเวลาบ่ายหรือไม่ก็เกือบเย็น เลยลากยาวไปดึกดื่น
คือค่าเดินทางก็เพิ่มขึ้น เพราะว่าขากลับก็ต้อง taxi แล้วค่าอาหารก็เพิ่มขึ้น เพราะร้านแบบนี้ค่าอาหารก็มักจะอยู่ที่หลักร้อย ค่าน้ำขวดหนึ่งเท่ากับค่าข้าวที่แต่ก่อนเราเคยจ่าย
คือเราไม่สามารถไปบอกเขาให้ไปทำงานในออฟฟิศเถอะ เพื่อที่จะได้เอาข้าวกล่องไปนั่งกินตอนทำงานได้ ถ้าหิวมากๆจริงก็เลยจำใจต้องสั่งข้าวมานั่งทำระหว่างทำงาน แต่คนอื่นๆเขาสั่งปกตินะคะทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ไม่ได้คิดเยอะอะไรมากมายเท่าเรา (เท่าที่สังเกตดู)
ถ้าชีวิตต้องเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ เราควรจะใช้ชีวิตยังไงดีคะให้ประหยัดที่สุดๆๆๆๆๆๆๆๆ เพื่อที่จะรอดตายไปแต่ละวันได้
ปล. เราต้องอดทนทำงานนี้ต่อไป เพื่อประสบการณ์ในอนาคตภายหน้าจริงๆค่ะ จึงยังไม่สามารถออกจากที่ทำงานนี้