เอกสารปลอม..เอกสารเท็จ...และเรื่องเดิม ๆ ที่เคยได้ยินกับคำว่า "ติ๊กผิด!"

เรื่องที่สนุกกว่า การลุ้นเที่ยงวันนี้ก็คือ  ..ดันมีเรื่องของ  เอกสารตุ๊แหม่งๆ  ออกมา

หลังจากที่ศาลรัฐฯ ท่านเกิดหยิบเอกสารสองใบออกมาด้วยความงุนงง...ว่าเหตุไฉน เอกสารเดียวกัน เนื้อความเหมือนกัน แต่ดันเซ็นชื่อ ท้ายเอกสารผิดวัน

ฉบับหนึ่งเซ็น 4 กันยายน 2554  อีกฉบับ เซ็น 5 กันยายน 2554   จึงเป็นคำถามข้อกฎหมายฝากมายังท่านผู้รู้ kuru แดงในนี้ว่า  ท่านคิดว่า เอกสารสองใบนั้น คืออะไร เป็นเอกสารปลอม หรือเอกสารเท็จ  หรือ ไม่ปลอม ไม่เท็จ แต่แค่ "ติ๊กผิด!"

หลักกฎหมายเรื่องนี้ ต้องไปดูตาม ป.อาญา ม.264 เพราะแยกความหมายระหว่าง "ปลอม" กับ "เท็จ" ไว้น่าสนใจ

คำว่า “ปลอม” ในความผิดฐานปลอมเอกสาร มาตรา 264 ไม่จำเป็นต้องมีเอกสารที่แท้จริงอยู่ก่อนเลย ก็สามารถปลอมขึ้นได้ และไม่ต้องทำให้เหมือนจริง สามารถปลอมได้โดย ศ.จิตติ ติงศภัทิย์ ท่านอธิบายว่า

1.      ทำปลอมขึ้นทั้งฉบับ คือ ทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับ เพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง โดยที่อาจจะมี หรือ ไม่มีเอกสารอันแท้จริงนั้นอยู่เลยก็ได้ หรือ

2.      ปลอมเอกสารแต่เพียงส่วนหนึ่งส่วนใด คือ ได้มีการทำเอกสารที่แท้จริงขึ้น แต่ยังไม่เสร็จครบถ้วน ถ้าผู้ใดปลอมข้อความต่อไปจนครบถ้วน หรือ แม้จะยังไม่เสร็จครบถ้วนก็ตาม (ถ้าส่วนที่ทำขึ้นมีลักษณะเป็นเอกสารแล้ว) ก็เป็นการปลอมแต่บางส่วนแล้ว

ส่วน เท็จ นั้น  ท่านอธิบายว่า

เอกสารเท็จ” หรือ “เอกสารซึ่งมีข้อความอันเป็นเท็จ” เป็นเอกสารที่ทำขึ้นมีข้อความเป็นเท็จ หรือไม่ตรงต่อความเป็นจริง ซึ่งผู้ทำเอกสารเท็จจะกระทำโดยมีอำนาจหน้าที่หรือไม่ก็ได้ แต่สาระสำคัญคือ ไม่มีการกล่าวอ้างว่าผู้อื่นทำเอกสารนั้น หรือเป็นเอกสารของผู้ทำเอกสารเอง ไม่ใช่เอกสารของผู้อื่น

แค่เอกสารเท็จ..หลอกกันเอง แล้วมีคนไปฟ้องศาล ...ข้อหาก็ยังหนาวไข้แล้ว
นี่เล่นหลอกศาลฯ ท่านตรง ๆ  ...จนศาลท่านต้องถามเองว่า "อันไหนของจริงของปลอม?"  แบบนี้ น่าสนใจแฮะ

แต่สาระสำคัญ..มันอยู่ทีว่า ไม่ว่าเอกสารนี้ มัน ปลอม หรือ เท็จ  คนคิด..คนทำ หรือร่วมกันทำ ล้วน  ...ต้องมีอาการแน่นอก...คล้ายคนเป็นหวัด  เช้า..สาย..บ่าย..ค่ำ  อาจต้องทนกับอาการไอ  คุก คุก คุก วันละสามเวลา

อนิจจา........ การเมืองไทย ว่ามั้ยท่าน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่