สวัสดีคะ เพื่อน ๆ ลุงป้าน้าอา ห้องบีพีทั้งหลาย หลังจากที่ห่างหายไปนาน (พร้อมกับทริปอียิปต์ในตำนานที่ไปลำบากตรากตรำติดสนามบิน) ด้วยภาระกิจเป็นคุณแม่มือใหม่ ทำให้โอกาสในการเขียนรีวิวหลังไปเที่ยวนั้นน้อยลง แต่ว่าคนมันชอบ ทำเพื่อความมันส์และสนุกสนาน และเพื่อแชร์ประสบการณ์กับเพื่อน ๆ ทริปนี้ได้มีโอกาสไปเที่ยวกับสายการบินแอร์เอเชีย การท่องเที่ยวมาเลเซีย พี่ ๆ น้อง ๆ จากนิตยสารท่องเที่ยวชั้นน้ำของประเทศหลายฉบับ เช่น เพื่อนเดินทาง แพรวสุดสัปดาห์ พี่ ๆ จากเว็บแนะนำที่เที่ยวดัง ๆ เช่นเว็บเอ็มไทย และ พี่ ๆ น้อง ๆ จากรายการโทรทัศน์ทั้งรายการแจ๋ว และรายการเจาะเกาะติด ซึ่งต้องขอขอบพระคุณเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ร่วมทริปทุกท่านที่ทำให้การไปทริปธรรมดา ๆ ครั้งนี้เป็นทริปที่ไม่ธรรมดา
ทริปคราวนี้นะคะ มีกำหนดการเดินทาง 4 วัน 3 คืน เป็นทริปที่เหมาะกับการไปเที่ยวแบบชิลด์ ชิลด์ สามารถไปได้ในช่วงที่เป็นวันหยุดยาวก็ได้ จริง ๆ แล้วการไปมาเลเซียครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของเป้ แต่ส่วนใหญ่เป้มักไปมาเลเซียเพื่อไปทำงาน หรือไปประชุมกับสาขาที่นี่ ทำให้ไม่มีโอกาสได้เที่ยวมากนั้น พอมาคราวนี้เลยได้มุมมองเกี่ยวกับประเทศมาเลเซียเพิ่มขึ้น
รายละเอียดทริป
23 Feb 2014 - เที่ยวชมสถานที่น่าสนใจในกัวลาลัมเปอร์
24 Feb 2014 - เก็บตกที่เที่ยวต่าง ๆ ปิดท้ายกับเมือง KL ด้วยอาหารเที่ยงสุดหรูบน Jalan Pucak หรือหอคอยเมืองกัวลาลัมเปอร์ แล้วเดินทางต่อไปยังเมืองมะละกา เมืองท่าที่โด่งดังในอดีต
25 Feb 2014 - มะละกา และเมืองยะโฮร์ หรือ Johor Baru เมืองท่า เมืองท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ Malaysia
26 Feb 2014 - พลาดไม่ได้กับการกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งที่ Logo Land และ Kitty Land
เนื่องจากเป็นแม่ลูกอ่อน เลยอาจจะไม่สามารถเขียนกระทู้ได้จบในตอนเดียว แต่จะพยายามมาเขียนให้ครบให้เพื่อน ๆ ได้อ่านและได้ข้อมูลไว้ไปเที่ยวกันคะ
---------------------
23 Feb 2014
พวกเรานัดเจอกันที่ดอนเมืองตั้งแต่แปดโมงเช้า เนื่องจากคณะของเราเป็นคณะใหญ่เลยอาจต้องนัดหมายกันล่วงหน้า และเราก็เดินทางไปมาเลเซีย โดยเที่ยวบินของเราออกจาก กรุงเทพฯ ประมาณ 10.00 น. และไปถึง KL ประมาณ 12.30 น.
TIP : หากต้องการเดินทางเที่ยวได้เยอะ ๆ แนะนำเพื่อน ๆ จองไฟล์ทแรกของวัน FD 311 ซึ่งจะออกจากดอนเมืองตอน 7.05 น. ไปถึง KL ประมาณ 10.30 น. นั่งรถเข้าไปกินข้าวเที่ยง ๆ สวย ๆ ในใจกลางเมือง KL ได้เลยจ้า
เมื่อเรามาถึงทางการท่องเที่ยวมาเลเซียก็ดูแลต้อนรับเราเป็นอย่างดีและพาเราไปประเดิมอาหารมื้อแรกในร้านกาแฟชื่อดังของมาเลเซีย ร้าน Old Town แต่ร้านที่เราไปนี่อยู่ที่ Putra Jaya ซึ่งเป็นทางผ่านไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวของวันนี้ด้วย อาหารที่ทางไกด์สั่งมาให้เป็นอาหารประจำชาติของคนมาเลเลยก็ว่าได้ ชื่อว่า Nasi Lemak ซึ่งเป็นอาหารที่นิยมกินกันเป็นอาหารเช้า คำว่า Nasi Lemak หมายถึงข้าวมัน โดยเอาไปแช่กับกะทิก่อนนำไปหุง บางครั้งจะเติมใบเตยหอมลงบนข้าวขณะนึ่งเพื่อให้เกิดกลิ่นหอม อาจเพิ่มเครื่องเทศบางชนิด ได้แก่ ขิงและตะไคร้ เพื่อเพิ่มความหอม การรับประทานแบบพื้นบ้านจะห่อด้วยใบตอง ใส่แตงกวาหั่น ปลาทอด (ikan bilis) ถั่วลิสงอบ ไข่ต้มแข็ง และซัมบัลซึ่งเป็นซอสมีลักษณะคล้ายน้ำพริก รสเผ็ด นาซีเลอมะก์นี้อาจจะรับประทานคู่กับไก่ทอด (ayam goreng) ผักบุ้งผัด หมึกผัดพริก (sambal sotong) หอยแครง แตงกวาดอง (acar) เรินดังเนื้อ (แกงเนื้อกับกะทิและเครื่องเทศ) หรือปอดวัว (paru) ซึ่งเป็นอาหารที่มีรสเผ็ดเพื่อตัดเลี่ยนกับความมันของข้าว นอกจากนาซีเลอมะก์แล้ว ไกด์ก็ยังสั่งเครื่องเคียงอื่น ๆ มาให้เราอีกด้วย
ไหน ๆ ไปกินข้าวที่ร้าน Old Town ก็อยากจะขอพูดถึงประวัติความเป็นมา เพราะ กาแฟ Old Town ไม่ใช่เป็นแค่ร้านกาแฟเล็ก ๆ เหมือนเมื่อแรกก่อตั้งในปี 1999 หากแต่ปัจจุบัน กาแฟ Old Town เป็นเหมือนกรณีศึกษาให้กับ SME ใหม่ ๆ หลายรายในมาเลเซีย เพราะท้ายสุด ปัจจุบัน ด้วยการวางแผนการตลาดที่ชัดเจน และได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐของมาเลเซีย Old Town White Coffee ได้เข้าไปอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ที่มีเป้าหมายจะขยายสาขาไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่ว AEC ตอนที่ไปนั่งกินกาแฟในร้านอดคิดเปรียบเทียบรัฐบาลเค้ากับรัฐบาลเราไม่ได้จริง ๆ
หลังจากที่เรากินกันอิ่มหนำสำราญแล้ว ไกด์ก็พาเราไปแวะเยี่ยมชมสถานที่แห่งแรก ซึ่งก็คือ Istana Negara ซึ่งเป็นพระราชวังของสุลต่าน Yang di-Pertuan Agong (Supreme King) of Malaysia จริง ๆ สถานที่นี้ก็เป็นหนึ่งในสถานที่แนะนำ เป็นสถานที่ที่ต้องมาเมื่อมาเยือน KL แต่ความเห็นส่วนตัวคิดว่ามันไม่ค่อยมีอะไรเมื่อเทียบกับระยะทางและเวลาที่เสียไปกับการนั่งรถ อาจจะด้วยโดยส่วนตัวแล้วไม่ได้สนใจศิลปะแนวนี้มากนัก
หลังจากนั้นพวกเราก็เดินทางเข้าสู่ใจกลางเมือง KL เพื่อไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ Kuala Lumpur City Gallery ซึ่งอยู่บริเวณ จัตุรัสเมอร์เดกา หรือ Dataran Merdeka พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมของตึกต่าง ๆ ใน KL ลักษณะการจัดวาง และการแสดงของพิพิธภัณฑ์นั้นคล้าย ๆ กับ Museum Siam บ้านเรา ต่างกันแค่เนื้อหาที่นำเสนอ
สภาพถนนหนทางในใจกลางเมือง KL
ภายในพิพิธภัณฑ์ Kuala Lumpur City Gallery
[SR] รีวิวทริปมาเลเซีย ชิลด์ ชิลด์ สบาย ๆ กับประเทศเพื่อนบ้าน (ตอนที่ 1 รำลึกความหลังกับ KL)
ทริปคราวนี้นะคะ มีกำหนดการเดินทาง 4 วัน 3 คืน เป็นทริปที่เหมาะกับการไปเที่ยวแบบชิลด์ ชิลด์ สามารถไปได้ในช่วงที่เป็นวันหยุดยาวก็ได้ จริง ๆ แล้วการไปมาเลเซียครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของเป้ แต่ส่วนใหญ่เป้มักไปมาเลเซียเพื่อไปทำงาน หรือไปประชุมกับสาขาที่นี่ ทำให้ไม่มีโอกาสได้เที่ยวมากนั้น พอมาคราวนี้เลยได้มุมมองเกี่ยวกับประเทศมาเลเซียเพิ่มขึ้น
รายละเอียดทริป
23 Feb 2014 - เที่ยวชมสถานที่น่าสนใจในกัวลาลัมเปอร์
24 Feb 2014 - เก็บตกที่เที่ยวต่าง ๆ ปิดท้ายกับเมือง KL ด้วยอาหารเที่ยงสุดหรูบน Jalan Pucak หรือหอคอยเมืองกัวลาลัมเปอร์ แล้วเดินทางต่อไปยังเมืองมะละกา เมืองท่าที่โด่งดังในอดีต
25 Feb 2014 - มะละกา และเมืองยะโฮร์ หรือ Johor Baru เมืองท่า เมืองท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ Malaysia
26 Feb 2014 - พลาดไม่ได้กับการกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งที่ Logo Land และ Kitty Land
เนื่องจากเป็นแม่ลูกอ่อน เลยอาจจะไม่สามารถเขียนกระทู้ได้จบในตอนเดียว แต่จะพยายามมาเขียนให้ครบให้เพื่อน ๆ ได้อ่านและได้ข้อมูลไว้ไปเที่ยวกันคะ
---------------------
23 Feb 2014
พวกเรานัดเจอกันที่ดอนเมืองตั้งแต่แปดโมงเช้า เนื่องจากคณะของเราเป็นคณะใหญ่เลยอาจต้องนัดหมายกันล่วงหน้า และเราก็เดินทางไปมาเลเซีย โดยเที่ยวบินของเราออกจาก กรุงเทพฯ ประมาณ 10.00 น. และไปถึง KL ประมาณ 12.30 น.
TIP : หากต้องการเดินทางเที่ยวได้เยอะ ๆ แนะนำเพื่อน ๆ จองไฟล์ทแรกของวัน FD 311 ซึ่งจะออกจากดอนเมืองตอน 7.05 น. ไปถึง KL ประมาณ 10.30 น. นั่งรถเข้าไปกินข้าวเที่ยง ๆ สวย ๆ ในใจกลางเมือง KL ได้เลยจ้า
เมื่อเรามาถึงทางการท่องเที่ยวมาเลเซียก็ดูแลต้อนรับเราเป็นอย่างดีและพาเราไปประเดิมอาหารมื้อแรกในร้านกาแฟชื่อดังของมาเลเซีย ร้าน Old Town แต่ร้านที่เราไปนี่อยู่ที่ Putra Jaya ซึ่งเป็นทางผ่านไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวของวันนี้ด้วย อาหารที่ทางไกด์สั่งมาให้เป็นอาหารประจำชาติของคนมาเลเลยก็ว่าได้ ชื่อว่า Nasi Lemak ซึ่งเป็นอาหารที่นิยมกินกันเป็นอาหารเช้า คำว่า Nasi Lemak หมายถึงข้าวมัน โดยเอาไปแช่กับกะทิก่อนนำไปหุง บางครั้งจะเติมใบเตยหอมลงบนข้าวขณะนึ่งเพื่อให้เกิดกลิ่นหอม อาจเพิ่มเครื่องเทศบางชนิด ได้แก่ ขิงและตะไคร้ เพื่อเพิ่มความหอม การรับประทานแบบพื้นบ้านจะห่อด้วยใบตอง ใส่แตงกวาหั่น ปลาทอด (ikan bilis) ถั่วลิสงอบ ไข่ต้มแข็ง และซัมบัลซึ่งเป็นซอสมีลักษณะคล้ายน้ำพริก รสเผ็ด นาซีเลอมะก์นี้อาจจะรับประทานคู่กับไก่ทอด (ayam goreng) ผักบุ้งผัด หมึกผัดพริก (sambal sotong) หอยแครง แตงกวาดอง (acar) เรินดังเนื้อ (แกงเนื้อกับกะทิและเครื่องเทศ) หรือปอดวัว (paru) ซึ่งเป็นอาหารที่มีรสเผ็ดเพื่อตัดเลี่ยนกับความมันของข้าว นอกจากนาซีเลอมะก์แล้ว ไกด์ก็ยังสั่งเครื่องเคียงอื่น ๆ มาให้เราอีกด้วย
ไหน ๆ ไปกินข้าวที่ร้าน Old Town ก็อยากจะขอพูดถึงประวัติความเป็นมา เพราะ กาแฟ Old Town ไม่ใช่เป็นแค่ร้านกาแฟเล็ก ๆ เหมือนเมื่อแรกก่อตั้งในปี 1999 หากแต่ปัจจุบัน กาแฟ Old Town เป็นเหมือนกรณีศึกษาให้กับ SME ใหม่ ๆ หลายรายในมาเลเซีย เพราะท้ายสุด ปัจจุบัน ด้วยการวางแผนการตลาดที่ชัดเจน และได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐของมาเลเซีย Old Town White Coffee ได้เข้าไปอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ที่มีเป้าหมายจะขยายสาขาไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่ว AEC ตอนที่ไปนั่งกินกาแฟในร้านอดคิดเปรียบเทียบรัฐบาลเค้ากับรัฐบาลเราไม่ได้จริง ๆ
หลังจากที่เรากินกันอิ่มหนำสำราญแล้ว ไกด์ก็พาเราไปแวะเยี่ยมชมสถานที่แห่งแรก ซึ่งก็คือ Istana Negara ซึ่งเป็นพระราชวังของสุลต่าน Yang di-Pertuan Agong (Supreme King) of Malaysia จริง ๆ สถานที่นี้ก็เป็นหนึ่งในสถานที่แนะนำ เป็นสถานที่ที่ต้องมาเมื่อมาเยือน KL แต่ความเห็นส่วนตัวคิดว่ามันไม่ค่อยมีอะไรเมื่อเทียบกับระยะทางและเวลาที่เสียไปกับการนั่งรถ อาจจะด้วยโดยส่วนตัวแล้วไม่ได้สนใจศิลปะแนวนี้มากนัก
หลังจากนั้นพวกเราก็เดินทางเข้าสู่ใจกลางเมือง KL เพื่อไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ Kuala Lumpur City Gallery ซึ่งอยู่บริเวณ จัตุรัสเมอร์เดกา หรือ Dataran Merdeka พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมของตึกต่าง ๆ ใน KL ลักษณะการจัดวาง และการแสดงของพิพิธภัณฑ์นั้นคล้าย ๆ กับ Museum Siam บ้านเรา ต่างกันแค่เนื้อหาที่นำเสนอ
สภาพถนนหนทางในใจกลางเมือง KL
ภายในพิพิธภัณฑ์ Kuala Lumpur City Gallery
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น