สวัสดีค่ะชาวพันทิป ตอนนี้เป็นตอนสุดท้ายของมาเลเซียแล้ว อิอิ ความเดิมจากตอนที่ 4 เราไป Cameron Highlands มา ได้ของฝากมากมาย ได้ดื่มชาชิคๆแล้ว เราก็จำใจกลับมาเรียนต่อในเมืองร้อนๆเช่น KL (ขออยู่อีกสัปดาห์ได้ไหม เย็นดี) แต่ถึงกระนั้นแล้ว เราก็ยังไม่หมดความชิคเพียงเท่านั้นนะ
กาลครั้งหนึ่งในมาเลเซีย ตอนที่ 1
http://ppantip.com/topic/32957115
กาลครั้งหนึ่งในมาเลเซีย ตอนที่ 2
http://ppantip.com/topic/32965519
กาลครั้งหนึ่งในมาเลเซีย ตอนที่ 3
http://ppantip.com/topic/32970455
กาลครั้งหนึ่งในมาเลเซีย ตอนที่ 4
http://ppantip.com/topic/32978659
มีที่ที่ที่ยังไม่ได้ไป ก็คือ วัดถ้ำบาตู (Batu Caves) และยังไม่ได้ไปถ่ายรูปกับ Historical sites เลย จัดไปๆ
บ่ายแก่ๆของวันหนึ่ง (ร้อนมากกกก
) เราเดินทางมาที่ LRT สถานี Masjid Jamek ซึ่งเป็นย่านที่รถติดมากสุดๆใน KL และเป็นจุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าหลายเส้นด้วยค่ะ เราเดินมาที่ Kuala Lumpur City Gallery กัน ค่าเข้าชมฟรีจ้า แถมมีพาทัวร์ฟรีด้วยนะคะ เหมือนจะเป็นวันเสาร์ตอนเช้า (ถ้าใครอยากมาแบบมีคนนำต้องศึกษาข้อมูลนะจ๊ะ)
ข้างใน Kuala Lumpur City Gallery ก็เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรื่องราวต่างๆของประเทศมาเลเซียและเมือง KL ค่ะ
(ใครเป็นพวกบ้าสถาปัตยกรรมกับพิพิธภัณฑ์คงชอบพอสมควร)
อันนี้เป็นสถานที่ที่สำคัญ เก่าแก่ใน KL จ้า
เราขึ้นไปดูนิทรรศการชั้น 2 กันดีกว่า ตื่นเต้นๆ
เป็นผังเมืองของ KL ค่ะ เขาทำเป็น Display เล่นไฟด้วย แต่เขาห้ามถ่ายฮะ
หลังจากชมนิทรรศการเสร็จ ก็เป็นที่ขายของที่ระลึกแล้วจ้า มีคนนั่งต่อ Model จิ๋วอยู่ ใครอยากได้ก็ซื้อกลับบ้านได้เลย (คือ ชิคอะ)
หลังจากชมพิพิธภัณฑ์เสร็จ เราก็เดินถ่ายรูปตามตึกเก่าๆที่สำคัญๆนี้เลย
Perpustakaan Kuala Lumpur/ KL City Library สร้างในปี 1989
Victoria Fountain
ตึกนี้ชื่อว่า Kementerian Pelancongan dan Kebudayaan Malaysia อะ งงละสิ
คือ ตึก Ministry of Tourism ค่ะ
ตึกนี้คือ Sultan Abdul Sahmad Building สร้างเสร็จในปี 1987
ซูมไปที่นาฬิกาชัดๆ คือ สวยค่ะ
ขอเมาท์นิดนึง ตอนไป มีคู่รักไปถ่ายรูป Prewedding ที่ตึกนี้ด้วย อิอิ คงอยากได้รูปอารมณ์ Contemporary สินะ อิจฉาจัง
Dataran Merdeka / Merdeka Square จตุรัสเมเดอร์ก้า เป็นสถานที่สำคัญของคนมาเลเซียเลยค่ะ เพราะเป็นที่เฉลิมฉลองการได้รับเอกราชจากประเทศอังกฤษ มีการฉลอง Independence Day ทุกวันที่ 31 สิงหาคม
ตอนไป เขาปิด renovate อยู่ เลยไม่เห็นสนามเลย ส่วนด้านหลังเป็น Royal Selangor Club จ้า
เสาธงที่สูงที่สู๊ดดดด คนมาเลเซียชอบอะไร High High เนาะ
Textile Museum อุตส่าห์มา ต้องเข้าไปชมสักหน่อย
เป็นพวกนิทรรศการสิ่งทอและผ้าบาติก รวมไปถึงการแต่งกายของคนมาเลเซียด้วย จัด Display สวยดีค่ะ เสียดายที่ไม่มี AudioGuide ภาษาอังกฤษเลย
หลังจากนั้นเราก็เดินทางมาที่ Central Market กัน (เป็นอีกหนึ่งตึกที่เก่าแก่ สร้างตั้งแต่ 1888 เดิมเป็นตลาดสด ปัจจุบันเป็นที่ขายของที่ระลึกค่ะ)
ระหว่างเดิน เราเจอตึกเก่าๆแบบ Sino-Portugeuse เลยต้องถ่ายรูปไว้ (แสงไม่สวยเลย T T) ดีจังที่ตึกเหล่านี้ยังไม่สูญหายไปจากเมืองหลวง
เข้ามาแล้วของกิน ของฝากเต็มเลย และของ Copy ก็เต็มเลย
จริงๆเราก็ไม่ได้ว่าอะไรก็ของ Copy นะ แต่แค่รู้สึกว่า มันทำลายบรรยากาศสถานที่เก่าๆแบบนี้จัง ของ Copy ก็ควรไปอยู่ในห้างสิ มาอยู่ในตึกอนุรักษ์ชักยังไงๆ ใน Chinatown ก็เช่นกัน(ตั้งแต่ศีรษะยัน กกน.) เอาเถอะ กินข้าวกันดีกว่า เดินมาทั้งบ่าย วันนี้เรามากินอาหารกันที่ Old Town White Coffee จ้า (เป็นร้านในดวงใจของเราเอง มากินหลายรอบแล้ว และคนไทยอีกหลายคนที่มาที่มาเลเซีย รสชาติถูกปากคนไทยอยู่) แต่ร้าน Old Town ที่สาขานี้ ดูคล้ายๆร้านกาแฟโบราณเก่าๆมากกว่าร้านอื่นนะคะ บรรยากาศชิคดี
กาแฟเย็น Nanyang
ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่อง Kaya Toast จ้า ที่นี่อร่อยที่สุดแล้ว
Old Town Steamed Salted Fish and Chicken Rice เป็นเมนูโปรดของเราเลย
จริงๆร้าน Old Town เปิดตั้งแต่เช้าเลย มีเป็นพวก Set อาหารเช้าด้วย เป็น Kaya Toast กับไข่ลวก มีพวกกาแฟปั่นก็อร่อย มีอีก 2 เมนูที่อยากแนะนำคือ Asam Laksa (อร่อยมากๆ ไม่ได้ถ่ายรูปมา
) และ Beef Rendang with Rice ซึ่งเป็นเมนูที่แอบหาทานได้ยาก ที่นี่ก็ทำอร่อยมากเช่นกัน
Set อาหารเช้า
Signature Beef Rendang
หลังจากนั้นเราก็กลับกัน
วันเสาร์สุดท้ายที่เหลืออยู่ใน KL เราแพลนว่าจะไปวัดถ้ำบาตู (เป็นวัดฮินดูนะ) กัน เริ่มกันที่สถานี KL Sentral เราต้องนั่ง KTM Komuter ไปลงที่สถานี Batu Caves ค่าตั๋วแค่ 2 RM จ้า ถูกแสนถูก
เข้าให้ถูก Platform น้าาาาา
ถึงแล้ว เย้ๆๆๆ
ถ้ำอันสูงใหญ่
OMG บันไดกี่ขั้นกันเนี่ย
แดดร้อนๆ แต่กายพร้อมใจพร้อม เราทำได้ ฮึบ
เดินขึ้นบันไดไป พักไป Selfie ไป
ขั้นที่ 200 เริ่ดฮะ
แสงทองอยู่ปลายทาง
อยู่ในถ้ำแล้วจ้า
แม่ลิงกับลูกลิง อิอิ น่ารักอะ
คำเตือนคือ ลิงที่นี่ซนมาก ชอบแย่งน้ำขวด เช่นนั้นแล้ว อย่าถือน้ำขวดให้ลิงเห็นนะ (เพื่อนโดนขโมยขวดน้ำไป + ถุงราคา 0.5 RM หรือ 1 RM เนี่ยแหละ จำไม่ได้แล้ว)
ชอบตรงที่มาเลเซียมีนโยบายลดโลกร้อน ที่ใครเอาถุงเพิ่มต้องเสียตัง (เมืองไทยน่าจะทำบ้างนะ) หลังจากนั้นเราก็เดินมาพักสักหน่อยที่ร้านคาเฟ่ใกล้ๆกับวัดค่ะ ที่ Dhivya's Cafe เป็นร้านอาหาร Vegetarian เราสั่ง Samosa มากิน และนั่งพักขาก่อนกลับ
จบท้ายของการเดินทาง Malaysia ด้วยการไปชม Traditional Dance Show ชื่อการแสดงว่า Krishna, Love Re-invented (Odissi) โดย Artistic Director Ramli Ibrahim ที่ Kuala Lumpur Performing Arts Center (KLPac)
ต้องขอบคุณเพื่อนชาวมาเลเซียของเราจริงๆ ที่ดูแลเรามาตั้งแต่รับเราจากสนามบินมาจนเราจาก Malaysia ไป ถ้าไม่มีเพื่อนทั้งสอง ฉันคงลำบากมากๆฮะ เลิฟๆ ขอขอบคุณเพื่อนผู้ร่วมเดินทางทุกท่าน ขอขอบอาจารย์ที่ดูแลเราที่มาเลเซีย ขอบคุณ University of Malaya ขอบคุณอาจารย์และคณะของเราที่มีโครงการแลกเปลี่ยนนี้ ที่ทำให้เราได้มาเปิดหูเปิดตาในโลกกว้างค่ะ ขอขอบคุณบุพพการี ผู้ support เรามาตลอด ทริปนี้ทำให้เรากลายเป็นคนอยู่ง่ายกินง่าย (เกินไป) กินได้ทุกอย่างตั้งแต่อาหารจีน มาเลย์ อินเดีย International ลุยๆแมนๆเลยฮะ ยังมีอีกหลายมุมและเมืองในมาเลเซียที่เรายังไม่ได้ไปเยือน ขออนุญาตเก็บไว้เป็นลิสต์ในใจ ถ้ามีเวลาจะกลับมาอีก
งานมหากรรมของฝากค่ะ เหอะๆ
บายๆ มาเลเซีย เพราะเรากำลังจะเดินทางไปสิงคโปร์แล้ว เย้ๆ
กาลครั้งหนึ่งในมาเลเซียตอนที่ 5 จบแล้วค่ะ
กาลครั้งหนึ่งในมาเลเซีย ตอนที่ 1 http://ppantip.com/topic/32957115
กาลครั้งหนึ่งในมาเลเซีย ตอนที่ 2 http://ppantip.com/topic/32965519
กาลครั้งหนึ่งในมาเลเซีย ตอนที่ 3 http://ppantip.com/topic/32970455
กาลครั้งหนึ่งในมาเลเซีย ตอนที่ 4 http://ppantip.com/topic/32978659
มีที่ที่ที่ยังไม่ได้ไป ก็คือ วัดถ้ำบาตู (Batu Caves) และยังไม่ได้ไปถ่ายรูปกับ Historical sites เลย จัดไปๆ
บ่ายแก่ๆของวันหนึ่ง (ร้อนมากกกก ) เราเดินทางมาที่ LRT สถานี Masjid Jamek ซึ่งเป็นย่านที่รถติดมากสุดๆใน KL และเป็นจุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าหลายเส้นด้วยค่ะ เราเดินมาที่ Kuala Lumpur City Gallery กัน ค่าเข้าชมฟรีจ้า แถมมีพาทัวร์ฟรีด้วยนะคะ เหมือนจะเป็นวันเสาร์ตอนเช้า (ถ้าใครอยากมาแบบมีคนนำต้องศึกษาข้อมูลนะจ๊ะ)
ข้างใน Kuala Lumpur City Gallery ก็เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรื่องราวต่างๆของประเทศมาเลเซียและเมือง KL ค่ะ
(ใครเป็นพวกบ้าสถาปัตยกรรมกับพิพิธภัณฑ์คงชอบพอสมควร)
เราขึ้นไปดูนิทรรศการชั้น 2 กันดีกว่า ตื่นเต้นๆ
หลังจากชมนิทรรศการเสร็จ ก็เป็นที่ขายของที่ระลึกแล้วจ้า มีคนนั่งต่อ Model จิ๋วอยู่ ใครอยากได้ก็ซื้อกลับบ้านได้เลย (คือ ชิคอะ)
หลังจากชมพิพิธภัณฑ์เสร็จ เราก็เดินถ่ายรูปตามตึกเก่าๆที่สำคัญๆนี้เลย
หลังจากนั้นเราก็เดินทางมาที่ Central Market กัน (เป็นอีกหนึ่งตึกที่เก่าแก่ สร้างตั้งแต่ 1888 เดิมเป็นตลาดสด ปัจจุบันเป็นที่ขายของที่ระลึกค่ะ) ระหว่างเดิน เราเจอตึกเก่าๆแบบ Sino-Portugeuse เลยต้องถ่ายรูปไว้ (แสงไม่สวยเลย T T) ดีจังที่ตึกเหล่านี้ยังไม่สูญหายไปจากเมืองหลวง
จริงๆเราก็ไม่ได้ว่าอะไรก็ของ Copy นะ แต่แค่รู้สึกว่า มันทำลายบรรยากาศสถานที่เก่าๆแบบนี้จัง ของ Copy ก็ควรไปอยู่ในห้างสิ มาอยู่ในตึกอนุรักษ์ชักยังไงๆ ใน Chinatown ก็เช่นกัน(ตั้งแต่ศีรษะยัน กกน.) เอาเถอะ กินข้าวกันดีกว่า เดินมาทั้งบ่าย วันนี้เรามากินอาหารกันที่ Old Town White Coffee จ้า (เป็นร้านในดวงใจของเราเอง มากินหลายรอบแล้ว และคนไทยอีกหลายคนที่มาที่มาเลเซีย รสชาติถูกปากคนไทยอยู่) แต่ร้าน Old Town ที่สาขานี้ ดูคล้ายๆร้านกาแฟโบราณเก่าๆมากกว่าร้านอื่นนะคะ บรรยากาศชิคดี
จริงๆร้าน Old Town เปิดตั้งแต่เช้าเลย มีเป็นพวก Set อาหารเช้าด้วย เป็น Kaya Toast กับไข่ลวก มีพวกกาแฟปั่นก็อร่อย มีอีก 2 เมนูที่อยากแนะนำคือ Asam Laksa (อร่อยมากๆ ไม่ได้ถ่ายรูปมา ) และ Beef Rendang with Rice ซึ่งเป็นเมนูที่แอบหาทานได้ยาก ที่นี่ก็ทำอร่อยมากเช่นกัน
หลังจากนั้นเราก็กลับกัน
วันเสาร์สุดท้ายที่เหลืออยู่ใน KL เราแพลนว่าจะไปวัดถ้ำบาตู (เป็นวัดฮินดูนะ) กัน เริ่มกันที่สถานี KL Sentral เราต้องนั่ง KTM Komuter ไปลงที่สถานี Batu Caves ค่าตั๋วแค่ 2 RM จ้า ถูกแสนถูก
เดินขึ้นบันไดไป พักไป Selfie ไป
ชอบตรงที่มาเลเซียมีนโยบายลดโลกร้อน ที่ใครเอาถุงเพิ่มต้องเสียตัง (เมืองไทยน่าจะทำบ้างนะ) หลังจากนั้นเราก็เดินมาพักสักหน่อยที่ร้านคาเฟ่ใกล้ๆกับวัดค่ะ ที่ Dhivya's Cafe เป็นร้านอาหาร Vegetarian เราสั่ง Samosa มากิน และนั่งพักขาก่อนกลับ
จบท้ายของการเดินทาง Malaysia ด้วยการไปชม Traditional Dance Show ชื่อการแสดงว่า Krishna, Love Re-invented (Odissi) โดย Artistic Director Ramli Ibrahim ที่ Kuala Lumpur Performing Arts Center (KLPac)
ต้องขอบคุณเพื่อนชาวมาเลเซียของเราจริงๆ ที่ดูแลเรามาตั้งแต่รับเราจากสนามบินมาจนเราจาก Malaysia ไป ถ้าไม่มีเพื่อนทั้งสอง ฉันคงลำบากมากๆฮะ เลิฟๆ ขอขอบคุณเพื่อนผู้ร่วมเดินทางทุกท่าน ขอขอบอาจารย์ที่ดูแลเราที่มาเลเซีย ขอบคุณ University of Malaya ขอบคุณอาจารย์และคณะของเราที่มีโครงการแลกเปลี่ยนนี้ ที่ทำให้เราได้มาเปิดหูเปิดตาในโลกกว้างค่ะ ขอขอบคุณบุพพการี ผู้ support เรามาตลอด ทริปนี้ทำให้เรากลายเป็นคนอยู่ง่ายกินง่าย (เกินไป) กินได้ทุกอย่างตั้งแต่อาหารจีน มาเลย์ อินเดีย International ลุยๆแมนๆเลยฮะ ยังมีอีกหลายมุมและเมืองในมาเลเซียที่เรายังไม่ได้ไปเยือน ขออนุญาตเก็บไว้เป็นลิสต์ในใจ ถ้ามีเวลาจะกลับมาอีก
บายๆ มาเลเซีย เพราะเรากำลังจะเดินทางไปสิงคโปร์แล้ว เย้ๆ