เรื่องของ อากิยาม่า ที่เบื่อกับการเป็นนักต้มตุ๋นและเบื่อหน่ายกับสาวโลกสวย นาโอะจัง  เลย แอบไปเป็นหมอแล้วเปลี่ยนชื่อเป็น โคตะ สมัครตัวเองเป็นแพทย์บนเรือ เพื่อไม่ให้นาโอะตามเจอ  แต่ขอโทษ นาโอะจัง เมื่ออากิยาม่า หนีไปดื้อๆ เลยเกิดความแค้น จากสาวโลกสวยเป็นสาวมองโลกในแง่ร้าย และตามหาอากิยาม่า ทั้งแต่นั้น จนมารู้ว่า เขาเปลี่ยนชื่อและเป็นหมอไปแล้ว   และสุดท้ายนาโอะจังก็รู้ว่า อากิยาม่าไปอยู่ที่ไหน  ติดตามต่อได้ใน Clinic on the sea ตอนที่ 7




ที่เขียนมาข้างต้น ผมมโนเอง ลืมๆไปอ่านข้ามไปก็ได้นะ 555

จริงๆแล้ว Clinic on the Sea เป็นเรื่องของแพทย์หนุ่ม เซซากิ โคตะ (โชตะ มัตสึดะ) ผู้ซึ่งตกหลุมรักสาวๆได้อย่างง่ายดาย และก็อกหักได้อย่างฉับพลัน ที่ต้องมาทำงานที่ เรือ "ไคชินมูระ" โรงพยาบาลบนเรือซึ่งแล่นทำการรักษาตามเกาะต่างๆ ในเขตทะเลเซะโตะ  โดยจะเทียบท่าตามเกาะต่างๆเป็นเวลา 1 วัน เพื่อเข้าไปเยี่ยมเยียนเหล่าผู้คนบนเกาะ แล้วก็ไปยังเกาะอื่นๆ  แพทย์หนุ่มโคตะ ก็มีโอกาสได้เจอสาวๆ ในแต่ละเกาะ และก็ตกหลุมรักทุกครั้งสิน่า  เรื่องราววุ่นๆชวนปวดหัว(ใจ) โดยมี  โทกามิ มาโกะ (เอมิ ทาเคอิ) พยาบาลสาวจอมบ ต้องคอยปรามและคอยคุม หมอหัวใจสะออนคนนี้  เรื่องราวทั้งคู่จะเป็นไง สำหรับ ละคร น่ารักๆ เกินคาดเรื่องนี้ Clinic on the Sea

ส่วนตัว มีไม่กี่เรื่อง ที่พอดู จบ แล้วรู้สึกอย่างจะเขียน Review ทันที เพราะความประทับใจที่ยังกรุ่นอยู่ ต้องรีบระบาย 555  ล่าสุดก็ Hanzawa ที่ดูจบในเวลาไม่กี่วันและพอจบ มันต้องเขียน  Clinic on the Sea ก็เหมือนกัน แต่มันคนละอารมณ์กับ Hanzawa อันนั้น มันจบแบบเนื้อเรื่องเข้มข้น เป็นละคร Action ในการชิงไหวชิงพริบในโลกธุรกิจ การทำงาน ยิ่งคนทำงานมนุษย์เงินเดือน ยิ่งอิน  แต่ใน Clinic on the Sea มันอารมณ์จิ้น น่ารัก ลุ้นความซึนของพยาบาลสาวและหมอหนุ่ม ที่ตัวละครค่อยๆแง้มความน่ารัก ความหวังให้คนดูทีละนิดๆในแต่ละตอน  ประมาณ พอผ่าน ตอนแรกๆไป เราจะรู้สึก เอ๊ะ ไงเนี่ย คู่นี้ ผ่านไปซักพัก จะมีเหตุการณ์หลายๆเหตุการณ์ที่ เราจะ นั่นแน่  มีใจกันล่ะสิ  แต่ก็สไตล์ญี่ปุ่น ไม่เยอะ แต่หนัก ตรงจุดตลอด

ส่วนตัว จะชอบตอนจบในแต่ละตอน หลังจากหมอหนุ่มอกหักกลับมาทุกครั้ง ก็จะยืนที่ดาดฟ้าเรือ พยาบาลมาโกะ ก็เหมือนจะเดินมาคุย มาปลอบ เหมือนจะมาซ้ำเติม แต่จริงๆแล้วก็แอบห่วง การพูดคุยที่หมอโคตะชอบกระเซ้า เกรียนใส่ มาโกะ ดูมันน่ารัก และเคมีที่เข้ากันอย่างมากระหว่างทั้งคู่  


สำหรับผมใครที่มองว่า เคมีระหว่างพระนางใน Buzzer Beat เข้ากันสุดๆ ผมว่า Clinic on the Sea ก็ไม่แพ้กัน แต่ต่างกันตรงเรื่องหลังจะออกแนว เกรียนๆนิดๆ โดยเฉพาะ ฉากประจำที่

พยาบาลมาโกะ เอารองเท้าแตะตบตัวหมอโคตะ แล้ว พูดว่า ทำตัวดีๆหน่อย แล้ว หมอโคตะ ก็ต้องตอบกลับมาตลอดว่า "ครับ รับทราบครับ"


*** ในตอนแรก มาโกะ จะค่อนข้างมองในแง่ลบกับ หมอโคตะ แต่พอผ่าตัดเคสแรกผ่านไป และหมอโคตะที่เผยความเป็นคนจิตใจดี และดูเท่มากช่วงรักษาคนไข้ มาโกะก็มองหมอโคตะใหม่


ในแต่ละตอนของละคร ก็จะมีสาวๆดารารับเชิญมาทำให้หมอหนุ่มหวั่นไหว  และก็เคสรักษาคนป่วย ซึ่ง หมอโคตะนอกจากจะรักษาร่างกายของคนป่วยในแต่ละตอน เขาก็ยังรักษาจิตใจของคนป่วยและคนใกล้ชิดด้วย  นั่นคือสิ่งที่ พยาบาลมาโกะ มองเห็นในทุกๆครั้ง  และทุกครั้งที่หมอหนุ่มตกหลุมรัก และประกาศว่า ผมจะลงจากเรือ เพราะ บลาๆๆ ( จนเพื่อนร่วมงานบนเรือ ช่วงหลังๆ เฉยๆไม่ตกใจซะแล้ว ) และชอบจะมีสิ่งของที่จะเตรียมให้สาวชาวเกาะ แต่ก็แห้วทุกครั้ง  ซึ่งของต่างๆเหล่านั้น สุดท้าย ก็ต้องให้ มาโกะ ช่วยรับเอาไว้หน่อยทุกทีสิน่า

สำหรับพระนาง มีฉากจี๊ดๆ แบบซึนๆ หลายฉาก ที่คนดูอย่างผม อดยิ้มและกรี๊ดในใจไม่ได้  ไม่ว่าจะ
- ฉากห้อยเปลือกหอยคู่ ที่เกิดจากการผิดพลาดที่ศาลเจ้า

- ฉาก หมอโคตะที่เฝ้าคอยดูแล มาโกะ ที่ป่วยเป็นหวัดแล้วเผลอหลับ ในจังหวะที่มาโกะตื่นขึ้นมา

- ในตอนเดียวกันที่ มาโกะป่วย ตอนท้ายที่หมอโคตะติดหวัดมาโกะแล้วป่วยตาม  แล้ว มาโกะมีเคล็ดการรักษาประจำตระกูล แต่ หมอคาโตะ ไม่ชอบ แต่สุดท้าย ก็แอบยอมทำตาม
- ฉาก หมอคาโตะ บอกว่า มาโกะ ให้ลองพูดคำว่า ชอบ  ( มีที่มาสำหรับตอนนี้ แต่น่ารักมาก )
- ฉาก ที่มาโกะ ลุ้นหมอโคตะที่เข้าไปช่วยคนในบ้านที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิง  แล้วพอรู้ว่า หมอโคตะปลอดภัย


- ฉาก ตอนสุดท้าย ที่ มาโกะ ไปตามหมอโคตะที่ฮอกไกโด เพื่อเอาโทรศัพท์ที่หมอโคตะลืมไปคืน ฉากนี้น่ารักมาก มีบทพูด แต่ละครทำให้เห็นว่า ทั้งสองพูดกันด้วยใจ

- และฉากสารภาพ ที่ยังคงซึน และเกรียนเหมือนเดิม




โชตะ ในบทหมอโคตะ  ปกติจะดูละครของโชตะ บุคลิกจะแนวๆ เท่ๆ เจ้าเล่ห์นิดๆ แต่เป็นคนดี อย่าง Liar Game , Flower shop without rose , Hanayori หรือจะแสนดี ดราม่าอย่างเจ้าหญิง อัตสึ  แต่สำหรับบทหมอ โคตะ แกแสดงได้น่ารัก เกรียนๆ ท่าทางการแสดงออกที่มองโลกในแง่ดี ดูแล้วไม่คิดว่า โชตะจะเล่นได้น่ารักขนาดนี้



ส่วนน้องเอมิ กับ บทพยาบาลจอมบ  อดีตนักเลงสาว ( น่ากลัวขนาดไหน ไม่รู้ รู้แต่ว่า ตอนนึงที่เพื่อนเป็นอดีตหัวหน้าแก๊งในวัยเรียน พอให้เล่าถึง มาโกะ ตอนนั้น ยังสั่น ) เป็นคนตรงๆ อะไรผิดก็พร้อมลุย แต่ลึกเป็นคนจิตใจดี เป็นที่รักของคนไข้  กับมาดนิ่งๆ ตาดุของเอมิ ทำให้เรารู้สึกว่าเธอสามารถจัดการได้ แต่ก็จะมีด้านอ่อนโยน ที่เอมิ ก็ทำให้เห็นว่า น่ารักมาก  รวมถึงน้ำเสียงของเอมิเอง ที่ชอบจริงๆ พับผ้าจริงๆ
สองเรื่องที่ดูละครของเอมิ จากเรื่องแรกชื่อยาวๆ Taisetsu na Koto wa Subete Kimi ga Oshiete Kurata ที่ขโมยความเด่น ไปจาก ฮารุมะ และ เอริกะ ได้เฉย  จนมาเรื่องนี้ ที่ เอมิ น่ารักมากๆ




บัลลังค์ดาราญี่ปุ่นในดวงใจของผมเอง  เอริกะ เรื่องสั่นคลอนแล้วสินะ

8.5/10 สำหรับ Clinic on the Sea
จริงๆแนวเรื่อง ดูไปได้เรื่อยๆ แต่ละตอนไม่เคร่งเครียดมาก  แต่ที่บวกคะแนนเพิ่ม  คือให้ความจิ้นสุดๆ ของหมอและพยาบาลทั้งคู่ , แฟนๆ AKB รุ่นแรกๆอย่างผม กับ มาริโกะซามะ ที่ออกมาในตอนสอง , รวมถึง เอริกะ โทดะ ที่กลับมาเจอ โชตะ อีกครั้ง  เหล่านี้ ยิ่งตอกย้ำความประทับใจมากขึ้นแล้ว รวมทั้งฉากในเกาะแต่ละเกาะที่ไปเยือน สวยงาม น่าไปเที่ยวมากจริง






รูปนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่อง แต่ นี่คือโอชิของผมใน AKB  โคจิม่า ฮารุนะ , จูรินะ , และ มาริโกะ ชิโนดะ (จบการศึกษาไปแล้ว)





สุดท้าย ชอบเพลงปิดในแต่ละตอนนะ ที่เป็นการ์ตูนบอกเรื่องราวของหมอโคตะ และ มาโกะ ก่อนที่จะมาที่เรือนี้

ส่วนสุดท้ายของท้ายสุด Emi Takei ตายไปเลยกับน้องคนนี้ จริงๆ


รูปภาพบางส่วนขอขอบคุณ Blog คุณ prysang และชอบที่คุณ prysang เขียน review เรื่องนี้ว่า มนต์รักรองเท้าแตะ (จริงๆ)