ความเดิมตอนที่แล้ว ติดตามกันได้ที่
http://ppantip.com/topic/31991245
เงื่อนไข
1. เฉพาะสินค้าที่อยู่ในโบรชัวร์เท่านั้น
2. เฉพาะสินค้าที่มียี่ห้อ ขนาด แหล่งผลิตลักษณะโปรโมชั่นในรูปแบบเดียวกับที่ลงโฆษณา เฉพาะโบรชัวร์ของบิ๊กซี เท่านั้น เมื่อเทียบกับราคาโบรชัวร์ของห้างอื่น ในช่วงระยะเวลาที่ตรงกัน (ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ภายในรัศมี 5 กม.)
3. คืนส่วนต่าง 5 เท่า คำนวณจากมูลค่าส่วนต่างของใบเสร็จเมื่อเทียบกับราคาที่ลงโฆษณาโบรชัวร์ของห้างอื่น (โปรดนำใบเสร็จตัวจริงของบิ๊กซีมาพร้อมกับโบรชัวร์ฉบับจริงของห้างอื่น ภายใน 7 วัน จากวันที่ซื้อสินค้า โดยขอรับส่วนต่างได้จากสาขาที่ซื้อสินค้าเท่านั้น)
4. จำกัดการคืนส่วนต่าง 5 เท่า ไม่เกิน 6 ชิ้น/รายการสินค้า/ท่าน/ใบเสร็จ
ระหว่างที่มีเวลาอยู่กับโบรชัวร์ของ Tops บิ๊กซี และ โลตัส กับมันมากขึ้น ทำให้พบเจอสินค้าอีก 2-3 ชิ้น ที่ควรไปท้าทาย กับโปรโมชั่นนี้
ชิ้นที่ 1
ในรูปซ้ายมือ บิ๊กซี เขียนบอกว่า ซื้อ 1 ขวด 15 บาท ถ้าซื้อ 2 ก็ถูกลงอีก เหลือขวดละ 12 บาท
ในรูปขวามือ โลตัส เขียนบอกว่า ขวดละ 11 บาท
ทีนี้ ถ้าเราซื้อจากบิ๊กซี แค่ 1 ขวดละ ในราคา 15 บาท เพราะเราไม่ได้มีความจำเป็นต้องซื้อ 2 ขวดตามที่เขียนในโปรโมชั่นนิ
แล้วเทียบราคาจากโลตัส (15-11) x 5 = 20 บาท
แต่เมื่อผมไปเดินห้างบิ๊กซี ปรากฎว่า
ทางห้าง ไดทำการเปลี่ยนโปรโมชั่นจากในโบรชัวร์แล้ว
นั่นแน่! แสดงว่ายอมรับแล้วละซิ ว่าตัวเองขายแพงกว่าจริง ถึงต้องลดราคาลงมาให้เท่ากับห้างอื่น
พอดีรูปไม่ค่อยชัด ในโบรชัวร์ ลงวันที่ 30 เม.ย. ถึง 15 พ.ค. 57 นะ
แต่ในป้ายเขียน เริ่ม 1 พ.ค. ถึง 15 พ.ค. 57
แสดงว่า วันที่ 30 เม.ย. ทางบิ๊กซีเพิ่งเห็นโบรชัวร์ของ โลตัส วันที่ 29 เม.ย. ถึง 14 พ.ค. 57
ชิ้นที่ 2
ในรูปซ้ายมือ ของบิ๊กซี รูปกลาง โลตัส รูปขวา Tops
ทีนี้ ถ้าเราซื้อจากบิ๊กซี แค่ 1 ขวดละ ในราคา 135 บาท เพราะเราไม่ได้มีความจำเป็นต้องซื้อ 2 ขวดตามที่เขียนในโปรโมชั่นนิ
แล้วเทียบราคาจากโลตัส (135-109) x 5 = 130 บาท
แล้วเทียบราคาจากTops (135-99) x 5 = 180 บาท
แต่!!! เมื่อพบไปติดต่อขอคืน 5 เท่าปรากฎว่า ?????
ทางบิ๊กซี ให้เหตุผลว่า โปรโมช่ันไม่ตรงกัน เพราะบิ๊กซี เล่นโปรโมชั่นซื้อ 2 ชิ้นก็ถูกลงอีก
แต่ผมเองก็แย้งไปว่า ผมจำเป็นต้องซื้อ 2 ชิ้นด้วยไหม??? ในเมื่อผมต้องการเพียงชิ้นเดียว
ทางห้างก็เขียนในโบรชัวร์แล้วนิ ว่า 1 ชิ้น ราคาเท่าไหร่
บทสรุป!! เถียงไปเถียงมา ผู้บริโภคอย่างเรา ก็แพ้ อยู่ดี ทางห้างบอกว่า ห้างแนะนำให้ซื้อ 2 ชิ้น
แต่ถามว่า ผู้บริโภคจำเป็นต้องซื้อ 2 ชิ้นด้วยไหม???? ผมเองก็ซื้อ 1 ชิ้นตามโบรชัวร์ เดะๆ
ซึ่งผมว่า เราควรแยกออกเป็น 2 โปรโมชั่นไหม
ในเมื่อซื้อ 1 ชิ้น ราคา 135 บาท
แต่ถ้าซื้อ 2 ชิ้นก็ถูกลงเหลือชิ้นละ 99.50 บาท
แต่ก่อนที่คุณจะเดินผ่านไปถึงชิ้นที่ 2 เราต้องผ่านชิ้นแรกก่อนไหม???
เมื่อวานได้คุยกับผู้จัดการใหญ่ของสาขา และผู้จัดการใหญ่ได้ให้ข้อมูลอะไรๆมาเยอะมาก
แบบว่า ผู้บริโภคอย่างเราๆ แทบจะไม่รู้เรื่องเลย แต่ถ้าใครอยากรู้ ขอให้หลังไมค์มาถามได้เลยครับ
เพราะเรื่องบางเรื่อง น่าจะมีผลกระทบต่อ ซับพลายเออร์ ในการส่งสินค้า และธุรกิจค้าปลีก
บางเรื่องพอบอกได้ว่า สินค้าบางอย่างห้างไม่ได้เป็นผู้จัดโปรโมชั่น แต่ซับพลายเออร์เป็นผู้จัดต่างหาก
ดังนั้น ซับพลายเออร์ ก็จะมีการฮั้วอยู่แล้วว่า ทุกห้างต้องขายราคาเดียวกัน
มีกรณีที่ว่า ห้างฉันแพงกว่า แต่คุณต้องมีของแจกแถม หรือมีอะไรเพื่อให้แตกต่าง เมื่อห้างฉันได้ของแถมแล้ว
ฉันก็กล้าท้า 5 เท่า เพราะว่า อีกห้างถึงจะขายถูกกว่า แต่ก็ไม่มีของแถม
หรือในกรณีที่โปรเหมือนกัน เช่น โออิชิ อันนี้ทางบิ๊กซี จะไปขยี้ บี้ กับซับพลายเออร์ ว่าทำไมปล่อยให้ห้างอื่นขายถูกกว่า
และซับพลายเออร์ก็ต้องยอมลดราคาให้เ่ท่ากับโลตัส และซับพลายเออร์น่าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบส่วนต่าง
สิ่งที่พูดมาทั้งหมด เฉพาะสินค้าที่ลงโบรชัวร์เท่านั้น ถ้าสินค้านอกโบรชัวร์ขายไม่เท่ากัน ก็ขึ้นอยู่กับห้างแล้วละว่าจะจัดราคาแข่งอย่างไร
แต่ในสิ่งที่ห้างจัดโปรเองจริงๆ ก็จะเห็นได้ชัดเจนคือ คูปองส่วนลดท้ายใบเสร็จ หรือ คูปองส่วนลดเงินสด
บทสรุป++ แค่ทำให้สินค้าต่างห้าง มีความแตกต่างแค่นิดเดียว ใช้คำพูดไม่เหมือนกัน ก็ถือเป็นเล่ห์เหลี่ยมอีกอย่างนึง
ดังนั้น อยากให้มีหน่วยงาน เข้ามาตรวจสอบ ในส่วนนี้ แต่คิดว่า ชาตินี้คงไม่มีทาง
ต้องรอดูว่า เสียงเล็กๆอย่างพวกเรา จะทำให้วงการค้าปลีกสั่นสะเทือนได้เมื่อไหร่
ไม่นานมานี้ ผมเคยตั้งกระทู้เกี่ยวกับปริมาณสินค้า เห็นข่าวแว่วๆว่า กระทรงพาณิชย์ เหมือนจะเรียกผู้ประกอบการ
มาให้สินค้ามีปริมาณเท่ากัน แต่ผมว่าน่าจะล้มเหลว เพราะปริมาณไม่เท่ากัน มันเป็นการแข่งขัน ใครดีใครได้ ใครอ่านฉลาก สังเกต
ก็ไม่ถูกเอาเปรียบ แต่ใครเอาแต่ความเคยชิน ฉันเคยหยิบแต่อันนี้ ฉันไม่เคยเปรียบเทียบ ก็ต้องตกเป็นเหยื่อของผู้ประกอบการ ต่อไป
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ ^___^
เล่ห์เหลี่ยมในการเอาเปรียบผู้บริโภคของห้างบิ๊กซี กับโปรโมชั่นเช็คไพรซ์ ถูกชัวร์ ท้าคืน 5 เท่า (Part 2)
เงื่อนไข
1. เฉพาะสินค้าที่อยู่ในโบรชัวร์เท่านั้น
2. เฉพาะสินค้าที่มียี่ห้อ ขนาด แหล่งผลิตลักษณะโปรโมชั่นในรูปแบบเดียวกับที่ลงโฆษณา เฉพาะโบรชัวร์ของบิ๊กซี เท่านั้น เมื่อเทียบกับราคาโบรชัวร์ของห้างอื่น ในช่วงระยะเวลาที่ตรงกัน (ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ภายในรัศมี 5 กม.)
3. คืนส่วนต่าง 5 เท่า คำนวณจากมูลค่าส่วนต่างของใบเสร็จเมื่อเทียบกับราคาที่ลงโฆษณาโบรชัวร์ของห้างอื่น (โปรดนำใบเสร็จตัวจริงของบิ๊กซีมาพร้อมกับโบรชัวร์ฉบับจริงของห้างอื่น ภายใน 7 วัน จากวันที่ซื้อสินค้า โดยขอรับส่วนต่างได้จากสาขาที่ซื้อสินค้าเท่านั้น)
4. จำกัดการคืนส่วนต่าง 5 เท่า ไม่เกิน 6 ชิ้น/รายการสินค้า/ท่าน/ใบเสร็จ
ระหว่างที่มีเวลาอยู่กับโบรชัวร์ของ Tops บิ๊กซี และ โลตัส กับมันมากขึ้น ทำให้พบเจอสินค้าอีก 2-3 ชิ้น ที่ควรไปท้าทาย กับโปรโมชั่นนี้
ชิ้นที่ 1
ในรูปซ้ายมือ บิ๊กซี เขียนบอกว่า ซื้อ 1 ขวด 15 บาท ถ้าซื้อ 2 ก็ถูกลงอีก เหลือขวดละ 12 บาท
ในรูปขวามือ โลตัส เขียนบอกว่า ขวดละ 11 บาท
ทีนี้ ถ้าเราซื้อจากบิ๊กซี แค่ 1 ขวดละ ในราคา 15 บาท เพราะเราไม่ได้มีความจำเป็นต้องซื้อ 2 ขวดตามที่เขียนในโปรโมชั่นนิ
แล้วเทียบราคาจากโลตัส (15-11) x 5 = 20 บาท
แต่เมื่อผมไปเดินห้างบิ๊กซี ปรากฎว่า
ทางห้าง ไดทำการเปลี่ยนโปรโมชั่นจากในโบรชัวร์แล้ว
นั่นแน่! แสดงว่ายอมรับแล้วละซิ ว่าตัวเองขายแพงกว่าจริง ถึงต้องลดราคาลงมาให้เท่ากับห้างอื่น
พอดีรูปไม่ค่อยชัด ในโบรชัวร์ ลงวันที่ 30 เม.ย. ถึง 15 พ.ค. 57 นะ
แต่ในป้ายเขียน เริ่ม 1 พ.ค. ถึง 15 พ.ค. 57
แสดงว่า วันที่ 30 เม.ย. ทางบิ๊กซีเพิ่งเห็นโบรชัวร์ของ โลตัส วันที่ 29 เม.ย. ถึง 14 พ.ค. 57
ชิ้นที่ 2
ในรูปซ้ายมือ ของบิ๊กซี รูปกลาง โลตัส รูปขวา Tops
ทีนี้ ถ้าเราซื้อจากบิ๊กซี แค่ 1 ขวดละ ในราคา 135 บาท เพราะเราไม่ได้มีความจำเป็นต้องซื้อ 2 ขวดตามที่เขียนในโปรโมชั่นนิ
แล้วเทียบราคาจากโลตัส (135-109) x 5 = 130 บาท
แล้วเทียบราคาจากTops (135-99) x 5 = 180 บาท
แต่!!! เมื่อพบไปติดต่อขอคืน 5 เท่าปรากฎว่า ?????
ทางบิ๊กซี ให้เหตุผลว่า โปรโมช่ันไม่ตรงกัน เพราะบิ๊กซี เล่นโปรโมชั่นซื้อ 2 ชิ้นก็ถูกลงอีก
แต่ผมเองก็แย้งไปว่า ผมจำเป็นต้องซื้อ 2 ชิ้นด้วยไหม??? ในเมื่อผมต้องการเพียงชิ้นเดียว
ทางห้างก็เขียนในโบรชัวร์แล้วนิ ว่า 1 ชิ้น ราคาเท่าไหร่
บทสรุป!! เถียงไปเถียงมา ผู้บริโภคอย่างเรา ก็แพ้ อยู่ดี ทางห้างบอกว่า ห้างแนะนำให้ซื้อ 2 ชิ้น
แต่ถามว่า ผู้บริโภคจำเป็นต้องซื้อ 2 ชิ้นด้วยไหม???? ผมเองก็ซื้อ 1 ชิ้นตามโบรชัวร์ เดะๆ
ซึ่งผมว่า เราควรแยกออกเป็น 2 โปรโมชั่นไหม
ในเมื่อซื้อ 1 ชิ้น ราคา 135 บาท
แต่ถ้าซื้อ 2 ชิ้นก็ถูกลงเหลือชิ้นละ 99.50 บาท
แต่ก่อนที่คุณจะเดินผ่านไปถึงชิ้นที่ 2 เราต้องผ่านชิ้นแรกก่อนไหม???
เมื่อวานได้คุยกับผู้จัดการใหญ่ของสาขา และผู้จัดการใหญ่ได้ให้ข้อมูลอะไรๆมาเยอะมาก
แบบว่า ผู้บริโภคอย่างเราๆ แทบจะไม่รู้เรื่องเลย แต่ถ้าใครอยากรู้ ขอให้หลังไมค์มาถามได้เลยครับ
เพราะเรื่องบางเรื่อง น่าจะมีผลกระทบต่อ ซับพลายเออร์ ในการส่งสินค้า และธุรกิจค้าปลีก
บางเรื่องพอบอกได้ว่า สินค้าบางอย่างห้างไม่ได้เป็นผู้จัดโปรโมชั่น แต่ซับพลายเออร์เป็นผู้จัดต่างหาก
ดังนั้น ซับพลายเออร์ ก็จะมีการฮั้วอยู่แล้วว่า ทุกห้างต้องขายราคาเดียวกัน
มีกรณีที่ว่า ห้างฉันแพงกว่า แต่คุณต้องมีของแจกแถม หรือมีอะไรเพื่อให้แตกต่าง เมื่อห้างฉันได้ของแถมแล้ว
ฉันก็กล้าท้า 5 เท่า เพราะว่า อีกห้างถึงจะขายถูกกว่า แต่ก็ไม่มีของแถม
หรือในกรณีที่โปรเหมือนกัน เช่น โออิชิ อันนี้ทางบิ๊กซี จะไปขยี้ บี้ กับซับพลายเออร์ ว่าทำไมปล่อยให้ห้างอื่นขายถูกกว่า
และซับพลายเออร์ก็ต้องยอมลดราคาให้เ่ท่ากับโลตัส และซับพลายเออร์น่าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบส่วนต่าง
สิ่งที่พูดมาทั้งหมด เฉพาะสินค้าที่ลงโบรชัวร์เท่านั้น ถ้าสินค้านอกโบรชัวร์ขายไม่เท่ากัน ก็ขึ้นอยู่กับห้างแล้วละว่าจะจัดราคาแข่งอย่างไร
แต่ในสิ่งที่ห้างจัดโปรเองจริงๆ ก็จะเห็นได้ชัดเจนคือ คูปองส่วนลดท้ายใบเสร็จ หรือ คูปองส่วนลดเงินสด
บทสรุป++ แค่ทำให้สินค้าต่างห้าง มีความแตกต่างแค่นิดเดียว ใช้คำพูดไม่เหมือนกัน ก็ถือเป็นเล่ห์เหลี่ยมอีกอย่างนึง
ดังนั้น อยากให้มีหน่วยงาน เข้ามาตรวจสอบ ในส่วนนี้ แต่คิดว่า ชาตินี้คงไม่มีทาง
ต้องรอดูว่า เสียงเล็กๆอย่างพวกเรา จะทำให้วงการค้าปลีกสั่นสะเทือนได้เมื่อไหร่
ไม่นานมานี้ ผมเคยตั้งกระทู้เกี่ยวกับปริมาณสินค้า เห็นข่าวแว่วๆว่า กระทรงพาณิชย์ เหมือนจะเรียกผู้ประกอบการ
มาให้สินค้ามีปริมาณเท่ากัน แต่ผมว่าน่าจะล้มเหลว เพราะปริมาณไม่เท่ากัน มันเป็นการแข่งขัน ใครดีใครได้ ใครอ่านฉลาก สังเกต
ก็ไม่ถูกเอาเปรียบ แต่ใครเอาแต่ความเคยชิน ฉันเคยหยิบแต่อันนี้ ฉันไม่เคยเปรียบเทียบ ก็ต้องตกเป็นเหยื่อของผู้ประกอบการ ต่อไป
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ ^___^