อันนี้เรื่องของญาตินะคะ
ญาติฉันได้ทำประกันเอาไว้กับบริษัทหนึ่ง ตั้งแต่ปี 2533 แล้วจ่าย มาแล้ว 11 ปี กว่าๆ เดือนละ 1 พันบาท รวมแสนกว่าบาท เขาได้ทำการกู้ยืมเงินตัวเองจากประกัน 5 หมื่นบาท แล้ว เขาไม่ได้จ่ายเงินประกันต่อ เขาต้องการให้ประกันขาด แล้วให้ทางบริษัทมาทวงหนี้ตามกฎหมาย แต่พอปี 2553 ตัวแทนขายประกันที่ทำด้วยบอกว่า ให้ไปเซนรับเงินปันผล จำนวน 7 หมื่นบาท แล้วเงิน 7 หมื่นบาทนี้ต้องเป็นเป็นเงินของตัวแทนประกัน เขาบอก เขาจ่ายเงินที่เราขาดส่งที่เหลือให้จนครบสัญญา หักลบหนี้แล้ว เหลือ 7 หมื่น ลุงคนนั้นแกก็ไปธนาคาร ตัวแทนประกันไปด้วยนะคะ พอได้เงินมาแกก็ให้เงินไปด้วยความที่ไม่รู้อะไร เพราะตัวแทนขายประกันคนนี้พูดแต่ว่าเงินนี้ต้องเป็นของเขา เพราะเขาจ่ายให้จนครบสัญญา หลังจากนั้น ปี พ.ศ. 2556 ปีที่แล้ว ตัวแทนคนนี้มาพูดกับลุงคนนี้ว่า คุณยังเป็นหนี้ผม เป็นแสนนะ เพราะคุณได้ยืมเงินไปตอนนั้น 5 หมื่น รวมดอกเบี้ยแล้วเป็นแสน ผมจ่ายแทนให้จนครบสัญญา เขาบอกกับลุงว่า หนี้เป็นแสน ผมลดให้หลือ 7 หมื่น ณ ปัจจุบันตอนนี้ ตัวแทนมาเก็บเงินกับลุงคนนี้ เดือนละ 2 พัน ตอนนี้แกจ่ายไป 5 เดือนรวม หมื่นนึงพอดี แกมาเล่าให้ดิฉันฟัง ดิฉันไปปรึกษา ตัวแทนประกัน คนนึง เขาบอกว่า นายประกันคนนี้อาจจะใช้วิธีหยุด กรมธรรม์ หรือป่าว เราเลยเอ๊ะใจ ไปที่บริษัท ของตัวแทนที่มาทวงเงินคนนี้ ไปขอดูข้อมูลประกันของ ลุงคนนี้ สรุป เบี้ยประกันจ่ายครั้งสุดท้ายเมื่อ เดือน 7 ปี 45 ทางพนักงานที่เปิดข้อมูลให้ดู เขาบอกว่าเป็นการหยุดกรมธรรม์ รอจนครบสัญญา เอาเงินคืนแต่ไม่ครบจำนวนสัญญา ดิฉันอยากถามผู้รู้หน่อยค่ะ ว่าการที่ลุงยืมเงินตัวเองมาแบบนั้น แล้วตัวแทนไปหยุดกรมธรรม์โดนที่ลุงไม่รู้เรื่อง พอครบสัญญา บอกให้ไปเซนรับเงินออกมา เงิน 70,000 ต้องได้ ตัวแทน ตอนที่ไปเอาเงินออกมา ตัวแทนไม่ได้พูดถึง ว่ายังมีหนี้สินที่ค้างเขาอยู่ เลยอยากรู้ว่า การที่เขาไปหยุด กรมธรรม์ โดยที่ลุงไม่รู้ เขามีความผิดมั้ยค่ะ แล้วเขามาทวงเงินอีกครั้งโดยอ้างว่าเราเป็นหนี้เขาเพราะเขาจ่ายเงินค่าประกันให้เราเขาผิดมั้ยค่ะ
1. ลุงทำประกัน ปี 2533 จ่ายมา 11 ปีกว่า ได้ทำการยืมเงินมา 5 หมื่น
2. ลุงหยุดการส่งเงินประกัน ต้องการให้บริษัทประกันมาทวงนี้ตามกฏหมาย
3. พอครบสัญญา 20 ปี ปี 2553เงินสัญญาที่ต้องได้จริงๆ คือ 2 แสนกว่าบาท ตท. ประกัน มาบอกให้ลุงเซนรับเงินออก 7 หมื่น ตท.ประกันบอกว่าที่จริงต้องได้เงิน 2 แสนกว่าบาท แต่ลุง ยืมเงิน ประกันตัวเอง รวมดอกเบี้ยแล้วเป็นแสน หักลบเหลือเงินปันผลที่ออกมา 7 หมื่น
4. ตท. บอกเงิน 7 หมื่นนั้นต้องเป็นของเขานะ เพราะเขาจ่ายเงินส่วนที่เหลือ ที่ลุงขาดส่งให้นะ
5. พอปี 2556 ตท.ประกันคนนี้มาทวงเงินอีกเป็นแสน บอกว่าลุงเป็นหนี้เขา แสนกว่าบาท เพราะลุงไม่ได้จ่ายเงินที่ยืมมาในกรมธรรม์ตัวเอง เลยสักบาท เขาต้องจ่ายให้ ส่งเงินให้จนครบสัญญาในกรมธรรม์
6. ลุงจ่ายไป 5 เดือน รวม หมื่น พอดี ลุงมาปรึกษาฉัน ฉันเลยไปปรึกษากับคนขายประกันอีกคนที่อยุ่ละบริษัท
7. คนขายประกันที่ดิฉันปรึกษา เขาบอกให้ไปเช็คข้อมูลที่บริษัทนั้นที่ทำประกัน
8. พอเช็คข้อมูล ทำประกันเมื่อปี 2533 จ่ายถึงเดือน 7 ปี 45 พนักงานที่เปิดข้อมูลให้ดูบอกว่า เป็นการขอหยุดกรมธรรม์ รอเงินจนครบสัญญา แทนที่จะได้เงิน 2 แสนกว่าบาท อาจจะเหลือแสนกว่าบาท
9. สรุป ตท. ที่มาทวงเงินลุง โกหก ว่าจ่ายให้จนครบสัญญา จึงเป็นหนี้เขา
10. อยากทราบว่าการกู้เงินตัวเองใน กรมธรรม์ แล้วไปขอหยุดกรมธรรม์ เงินต้องได้แสนกว่า แล้วได้มา 7 หมื่น คือ เขาหักลบหนี้เรียบร้อยแล้วใช่มั้ยค่ะ
ปล. ที่ลุงยอมจ่ายเงิน 7 หมื่นที่ได้มาจากเงินปันผล ที่เขาขอ เพราะ คิดว่าเขาจ่ายเงินให้ลุงจนครบสัญญา แต่ที่จริงเขาขอหยุดกรมธรรม์ แถมุลงยังไปยืมเงินในกรมธรรม์ตัวเอง แบบไม่ได้จ่ายสักบาท เลยรู้สึกผิด จึงให้เขาไปเพราะเขาบอกว่าเขาต้องได้เงินส่วนนี้
ปล.2 อยากทราบถ้ามีการยืมเงินในกรมธรรม์ตัวเอง แล้วขอหยุดกรมธรรม์ ก่อนที่จะได้เงินปันผล ทางบริษัท ต้องหักลบหนี้แล้วใช่มั้ยค่ะ
พิมทางมือถือ อาจจะมั่วๆหน่อยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
เรื่องยืมเงินประกัน
ญาติฉันได้ทำประกันเอาไว้กับบริษัทหนึ่ง ตั้งแต่ปี 2533 แล้วจ่าย มาแล้ว 11 ปี กว่าๆ เดือนละ 1 พันบาท รวมแสนกว่าบาท เขาได้ทำการกู้ยืมเงินตัวเองจากประกัน 5 หมื่นบาท แล้ว เขาไม่ได้จ่ายเงินประกันต่อ เขาต้องการให้ประกันขาด แล้วให้ทางบริษัทมาทวงหนี้ตามกฎหมาย แต่พอปี 2553 ตัวแทนขายประกันที่ทำด้วยบอกว่า ให้ไปเซนรับเงินปันผล จำนวน 7 หมื่นบาท แล้วเงิน 7 หมื่นบาทนี้ต้องเป็นเป็นเงินของตัวแทนประกัน เขาบอก เขาจ่ายเงินที่เราขาดส่งที่เหลือให้จนครบสัญญา หักลบหนี้แล้ว เหลือ 7 หมื่น ลุงคนนั้นแกก็ไปธนาคาร ตัวแทนประกันไปด้วยนะคะ พอได้เงินมาแกก็ให้เงินไปด้วยความที่ไม่รู้อะไร เพราะตัวแทนขายประกันคนนี้พูดแต่ว่าเงินนี้ต้องเป็นของเขา เพราะเขาจ่ายให้จนครบสัญญา หลังจากนั้น ปี พ.ศ. 2556 ปีที่แล้ว ตัวแทนคนนี้มาพูดกับลุงคนนี้ว่า คุณยังเป็นหนี้ผม เป็นแสนนะ เพราะคุณได้ยืมเงินไปตอนนั้น 5 หมื่น รวมดอกเบี้ยแล้วเป็นแสน ผมจ่ายแทนให้จนครบสัญญา เขาบอกกับลุงว่า หนี้เป็นแสน ผมลดให้หลือ 7 หมื่น ณ ปัจจุบันตอนนี้ ตัวแทนมาเก็บเงินกับลุงคนนี้ เดือนละ 2 พัน ตอนนี้แกจ่ายไป 5 เดือนรวม หมื่นนึงพอดี แกมาเล่าให้ดิฉันฟัง ดิฉันไปปรึกษา ตัวแทนประกัน คนนึง เขาบอกว่า นายประกันคนนี้อาจจะใช้วิธีหยุด กรมธรรม์ หรือป่าว เราเลยเอ๊ะใจ ไปที่บริษัท ของตัวแทนที่มาทวงเงินคนนี้ ไปขอดูข้อมูลประกันของ ลุงคนนี้ สรุป เบี้ยประกันจ่ายครั้งสุดท้ายเมื่อ เดือน 7 ปี 45 ทางพนักงานที่เปิดข้อมูลให้ดู เขาบอกว่าเป็นการหยุดกรมธรรม์ รอจนครบสัญญา เอาเงินคืนแต่ไม่ครบจำนวนสัญญา ดิฉันอยากถามผู้รู้หน่อยค่ะ ว่าการที่ลุงยืมเงินตัวเองมาแบบนั้น แล้วตัวแทนไปหยุดกรมธรรม์โดนที่ลุงไม่รู้เรื่อง พอครบสัญญา บอกให้ไปเซนรับเงินออกมา เงิน 70,000 ต้องได้ ตัวแทน ตอนที่ไปเอาเงินออกมา ตัวแทนไม่ได้พูดถึง ว่ายังมีหนี้สินที่ค้างเขาอยู่ เลยอยากรู้ว่า การที่เขาไปหยุด กรมธรรม์ โดยที่ลุงไม่รู้ เขามีความผิดมั้ยค่ะ แล้วเขามาทวงเงินอีกครั้งโดยอ้างว่าเราเป็นหนี้เขาเพราะเขาจ่ายเงินค่าประกันให้เราเขาผิดมั้ยค่ะ
1. ลุงทำประกัน ปี 2533 จ่ายมา 11 ปีกว่า ได้ทำการยืมเงินมา 5 หมื่น
2. ลุงหยุดการส่งเงินประกัน ต้องการให้บริษัทประกันมาทวงนี้ตามกฏหมาย
3. พอครบสัญญา 20 ปี ปี 2553เงินสัญญาที่ต้องได้จริงๆ คือ 2 แสนกว่าบาท ตท. ประกัน มาบอกให้ลุงเซนรับเงินออก 7 หมื่น ตท.ประกันบอกว่าที่จริงต้องได้เงิน 2 แสนกว่าบาท แต่ลุง ยืมเงิน ประกันตัวเอง รวมดอกเบี้ยแล้วเป็นแสน หักลบเหลือเงินปันผลที่ออกมา 7 หมื่น
4. ตท. บอกเงิน 7 หมื่นนั้นต้องเป็นของเขานะ เพราะเขาจ่ายเงินส่วนที่เหลือ ที่ลุงขาดส่งให้นะ
5. พอปี 2556 ตท.ประกันคนนี้มาทวงเงินอีกเป็นแสน บอกว่าลุงเป็นหนี้เขา แสนกว่าบาท เพราะลุงไม่ได้จ่ายเงินที่ยืมมาในกรมธรรม์ตัวเอง เลยสักบาท เขาต้องจ่ายให้ ส่งเงินให้จนครบสัญญาในกรมธรรม์
6. ลุงจ่ายไป 5 เดือน รวม หมื่น พอดี ลุงมาปรึกษาฉัน ฉันเลยไปปรึกษากับคนขายประกันอีกคนที่อยุ่ละบริษัท
7. คนขายประกันที่ดิฉันปรึกษา เขาบอกให้ไปเช็คข้อมูลที่บริษัทนั้นที่ทำประกัน
8. พอเช็คข้อมูล ทำประกันเมื่อปี 2533 จ่ายถึงเดือน 7 ปี 45 พนักงานที่เปิดข้อมูลให้ดูบอกว่า เป็นการขอหยุดกรมธรรม์ รอเงินจนครบสัญญา แทนที่จะได้เงิน 2 แสนกว่าบาท อาจจะเหลือแสนกว่าบาท
9. สรุป ตท. ที่มาทวงเงินลุง โกหก ว่าจ่ายให้จนครบสัญญา จึงเป็นหนี้เขา
10. อยากทราบว่าการกู้เงินตัวเองใน กรมธรรม์ แล้วไปขอหยุดกรมธรรม์ เงินต้องได้แสนกว่า แล้วได้มา 7 หมื่น คือ เขาหักลบหนี้เรียบร้อยแล้วใช่มั้ยค่ะ
ปล. ที่ลุงยอมจ่ายเงิน 7 หมื่นที่ได้มาจากเงินปันผล ที่เขาขอ เพราะ คิดว่าเขาจ่ายเงินให้ลุงจนครบสัญญา แต่ที่จริงเขาขอหยุดกรมธรรม์ แถมุลงยังไปยืมเงินในกรมธรรม์ตัวเอง แบบไม่ได้จ่ายสักบาท เลยรู้สึกผิด จึงให้เขาไปเพราะเขาบอกว่าเขาต้องได้เงินส่วนนี้
ปล.2 อยากทราบถ้ามีการยืมเงินในกรมธรรม์ตัวเอง แล้วขอหยุดกรมธรรม์ ก่อนที่จะได้เงินปันผล ทางบริษัท ต้องหักลบหนี้แล้วใช่มั้ยค่ะ
พิมทางมือถือ อาจจะมั่วๆหน่อยนะคะ
ขอบคุณค่ะ