http://www.dailynews.co.th/Content/education/234653
อ่านข่าวนี้ ก็สงสัยว่า นายกฯ เป็นลูกเสือสามัญหรือยังไง ถึงได้เน้นการมองไกล ขนาดนั้น
จัดซื้อแท็บเล็ตมาสามปีการศึกษา ปีแรกกว่าจะได้ ก็ต้องรอเปิดเทอมสอง
ปีที่สองกว่าจะได้ TOR ที่พร้อมประมูล ก็ใกล้เปิดเทอม เปิดประมูลแบ่งเป็น 4 โซน ปรากฎว่า มีปัญหาทุกโซน จนถึงวันนี้ มีเพียงโซนเดียว ที่มีการเริ่มส่งมอบเครื่อง ส่วนอีกสามโซน ยังไม่มีการเซ็นสัญญา ตอนนี้อีกไม่กี่วัน ก็จะเปิดเทอมแล้ว ก็หวังว่าจะเซ็นกันก่อนเปิดเทอมได้
ส่วนของปีนี้ (เด็กที่จะขึ้น ป.1 ม.1 ปีการศึกษานี้) TOR ยังไม่เสร็จเรียบร้อยดี ซึ่งก็ช้ากว่าของปีการศึกษาก่อน ประมาณ 2 เดือนแล้ว แต่ยังกล้าที่จะหวังว่า จะได้เครื่องครบก่อนหมดเทอมแรก (อีกประมาณ 4 เดือนนิดหน่อย) ก็ไม่รู้ว่าใช้อะไรเป็นตัวอ้างอิง ว่าจะได้ตามนั้น เพราะที่ผ่านมา สามรอบ ผมยังไม่เห็นว่า จะมีครั้งไหน ที่ทำได้ตามแผนการ ที่คาดเอาไว้เลย
เมื่อนายกฯ ห่วงปัญหานี้ ก็เป็นเรื่องดี แต่นอกจากจะพูดไปไกล ถึงปีการศึกษาหน้า ก็ควรจะห่วงของปีการศึกษานี้เสียก่อน เพราะยังไม่เริ่มประมูลเลย ดังนั้น ถ้าหากห่วงจริง ก็ควรจะเก็บบทเรียน ที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อนำไปปรับใช้ของปีการศึกษาหน้า
และที่ผมไม่แน่ใจว่า นายกฯ เข้าใจถึงปัญหาขนาดไหน เพราะเท่าที่ติดตามข่าวมา ปัญหาของการจัดหาแท็บเล็ตนั้น ไม่ใช่ปัญหาเรื่องสเปค แต่เป็นปัญหาเรื่องกระบวนการจัดหา ที่ไร้ประสิทธิภาพโดยสิ้นเชิง
ดังนั้น ไม่ใช่ว่าปีหน้าถ้าตั้งสเปคให้สูงแล้ว จะไม่มีปัญหาในกระบวนการจัดหาอีก
เรื่องประเด็นควรกำหนดสเปคให้สูงขึ้นหรือไม่นั้น มันควรจะเป็นประเด็นมาจาก Content ที่สร้างขึ้นมา ต้องการ hardware ที่มีความสามารถระดับไหน ถึงจะเหมาะสม ไม่ใช่เอาความก้าวหน้าของเทคโนโลยี มากำหนดสเปค ควบคู่ไปกับการเลือกราคาถูกที่สุด เพราะสุดท้าย ก็เดาได้ว่า จะได้เครื่องสเปคสูง แต่คุณภาพไม่ค่อยดี
ซึ่งจริง ๆ แล้ว ถ้าหากสเปคต่ำ แต่หากรองรับการใช้งานได้ดีอยู่แล้ว แทนที่จะตั้งงบประมาณเพิ่มสเปค ก็น่าจะเอางบประมาณนั้น ไปจัดหาเครื่องที่มีคุณภาพดีมากขึ้น น่าจะดีกว่า
ส่วนประเด็นที่ว่า ไม่จำเป็นต้องจัดซื้อแจกนักเรียนทุกคน ก็คงต้องแก้ไขนโยบายให้แตกต่างจากครั้งก่อน เพราะโครงการนี้เป็นโครงการ 1 แท็บเล็ต ต่อนักเรียน 1 คน เพราะถ้าใช้นโยบายเดิม ก็คงแก้ไขไม่แจกทุกคนไม่ได้ เพราะตอนจำนำข้าว ก็ยังบอกว่า เลิกไม่ได้ เพราะเป็นนโยบายที่แถลงต่อสภา
ดังนั้น ถ้าเลือกตั้งรอบใหม่เสร็จแล้ว ก่อนแถลงนโยบาย ก็คิดให้ดีว่า จะเอาแบบไหน แจกทุกคนหรือไม่ เพราะถ้าแถลงนโยบายว่าจะแจกทุกคน แล้วตอนหลังกลับลำ มันจะทำไม่ได้ (เพราะคุณยิ่งลักษณ์บอกว่า ต้องทำตามแถลงฯ)
"ปู" ห่วงปัญหาแท็บเล็ตล่าช้า
อ่านข่าวนี้ ก็สงสัยว่า นายกฯ เป็นลูกเสือสามัญหรือยังไง ถึงได้เน้นการมองไกล ขนาดนั้น
จัดซื้อแท็บเล็ตมาสามปีการศึกษา ปีแรกกว่าจะได้ ก็ต้องรอเปิดเทอมสอง
ปีที่สองกว่าจะได้ TOR ที่พร้อมประมูล ก็ใกล้เปิดเทอม เปิดประมูลแบ่งเป็น 4 โซน ปรากฎว่า มีปัญหาทุกโซน จนถึงวันนี้ มีเพียงโซนเดียว ที่มีการเริ่มส่งมอบเครื่อง ส่วนอีกสามโซน ยังไม่มีการเซ็นสัญญา ตอนนี้อีกไม่กี่วัน ก็จะเปิดเทอมแล้ว ก็หวังว่าจะเซ็นกันก่อนเปิดเทอมได้
ส่วนของปีนี้ (เด็กที่จะขึ้น ป.1 ม.1 ปีการศึกษานี้) TOR ยังไม่เสร็จเรียบร้อยดี ซึ่งก็ช้ากว่าของปีการศึกษาก่อน ประมาณ 2 เดือนแล้ว แต่ยังกล้าที่จะหวังว่า จะได้เครื่องครบก่อนหมดเทอมแรก (อีกประมาณ 4 เดือนนิดหน่อย) ก็ไม่รู้ว่าใช้อะไรเป็นตัวอ้างอิง ว่าจะได้ตามนั้น เพราะที่ผ่านมา สามรอบ ผมยังไม่เห็นว่า จะมีครั้งไหน ที่ทำได้ตามแผนการ ที่คาดเอาไว้เลย
เมื่อนายกฯ ห่วงปัญหานี้ ก็เป็นเรื่องดี แต่นอกจากจะพูดไปไกล ถึงปีการศึกษาหน้า ก็ควรจะห่วงของปีการศึกษานี้เสียก่อน เพราะยังไม่เริ่มประมูลเลย ดังนั้น ถ้าหากห่วงจริง ก็ควรจะเก็บบทเรียน ที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อนำไปปรับใช้ของปีการศึกษาหน้า
และที่ผมไม่แน่ใจว่า นายกฯ เข้าใจถึงปัญหาขนาดไหน เพราะเท่าที่ติดตามข่าวมา ปัญหาของการจัดหาแท็บเล็ตนั้น ไม่ใช่ปัญหาเรื่องสเปค แต่เป็นปัญหาเรื่องกระบวนการจัดหา ที่ไร้ประสิทธิภาพโดยสิ้นเชิง
ดังนั้น ไม่ใช่ว่าปีหน้าถ้าตั้งสเปคให้สูงแล้ว จะไม่มีปัญหาในกระบวนการจัดหาอีก
เรื่องประเด็นควรกำหนดสเปคให้สูงขึ้นหรือไม่นั้น มันควรจะเป็นประเด็นมาจาก Content ที่สร้างขึ้นมา ต้องการ hardware ที่มีความสามารถระดับไหน ถึงจะเหมาะสม ไม่ใช่เอาความก้าวหน้าของเทคโนโลยี มากำหนดสเปค ควบคู่ไปกับการเลือกราคาถูกที่สุด เพราะสุดท้าย ก็เดาได้ว่า จะได้เครื่องสเปคสูง แต่คุณภาพไม่ค่อยดี
ซึ่งจริง ๆ แล้ว ถ้าหากสเปคต่ำ แต่หากรองรับการใช้งานได้ดีอยู่แล้ว แทนที่จะตั้งงบประมาณเพิ่มสเปค ก็น่าจะเอางบประมาณนั้น ไปจัดหาเครื่องที่มีคุณภาพดีมากขึ้น น่าจะดีกว่า
ส่วนประเด็นที่ว่า ไม่จำเป็นต้องจัดซื้อแจกนักเรียนทุกคน ก็คงต้องแก้ไขนโยบายให้แตกต่างจากครั้งก่อน เพราะโครงการนี้เป็นโครงการ 1 แท็บเล็ต ต่อนักเรียน 1 คน เพราะถ้าใช้นโยบายเดิม ก็คงแก้ไขไม่แจกทุกคนไม่ได้ เพราะตอนจำนำข้าว ก็ยังบอกว่า เลิกไม่ได้ เพราะเป็นนโยบายที่แถลงต่อสภา
ดังนั้น ถ้าเลือกตั้งรอบใหม่เสร็จแล้ว ก่อนแถลงนโยบาย ก็คิดให้ดีว่า จะเอาแบบไหน แจกทุกคนหรือไม่ เพราะถ้าแถลงนโยบายว่าจะแจกทุกคน แล้วตอนหลังกลับลำ มันจะทำไม่ได้ (เพราะคุณยิ่งลักษณ์บอกว่า ต้องทำตามแถลงฯ)