กรดไหลย้อน(ส่องกล้องทางเดินอาหารแล้ว) ผ่านมาได้รอดและเรา ^ ^

กระทู้สนทนา
เริ่มเลยคือเราเป็นกรดไหลย้อนเรื้อรังมาสี่ - ห้าปีแล้ว
และมีอาการทางกระเพาะอาหารด้วย คุณหมอเลยนัดส่องกล้องระบบทางเดินอาหาร
จากกระทู้นี้  http://ppantip.com/topic/31673621

แต่ขณะส่องกล้องอาการดีขึ้นมากแล้วครับ แต่เพื่อความชัวว์ + อยากรู้ด้วยว่ามีอะไรหรือเปล่าเลยตัดสินใจไปตามนัด

ระหว่างทางก็นั่งคิด เรื่องที่ค้นหาในเน็ต > ส่องกล้องอย่างทรมาน อาเจียนบ้าง พะอืดพะอมบ้าง แทบตาย ทรมาน - -"
ความกลัวเลยเข้าสิง - -"

พอเราไปถึงที่ รพ. รอคุณหมอ ระหว่างนั้นก็เห็นคนไข้อื่นมาส่องกล้องที่ทวารหนักบ้าง ที่ลำไล้บ้าง กระเพาะบ้าง
ทำให้คิด- -" อุปกรณ์ที่ส่องกล้องทวารหนักกับ ที่จะใส่ที่ปากเรา มันอันเดียวกันไหม

ระหว่างรอคุณหมอ พี่พยาบาลก็เรียกให้ไปเซ็นสัญญายินยอมอะไรสักอย่าง ผ่านตาแว็ปๆ คือถ้าเราเป็นอะไรไป รพ. ไม่มีความผิดนะ
(O__o)  , นั่งคิดในใจ มันเสี่ยงขนาดนี้หรือนี่

สังเกตรอบๆ คนสูงอายุที่ไปส่องกล้องเขาจะวางยาสลบด้วย อร๊ายย แล้วเราสดๆ เย้ย
คุณคะๆๆ (พี่พยาบาลเรียก) เราก็เดินตามไป ตอนนั้นกังวลมาก เลยถามพี่พยาบาล พี่เจ็บไหมครับ มีให้ยานอนหลับไหม
พี่เขาบอก ไม่เจ็บหรอกคะ จะพ่นยาชาให้ แต่พี่ก็ไม่เคยส่องกล้องนะคะ น้องไม่ต้องกังวลคะ ทำแป็บเดียว (O_o")

พอมาถึงในห้องส่องกล้อง มองดู มีคุณหมอ 1 พยาบาล 3 บรรยากาศหวิว ๆ ตื่นเต้นมากบอกตรงๆ  เราเลยขอตัวเข้าห้องน้ำก่อน
พี่พยาบาลถาม ปวดมากไหมคะ เราบอกไม่มากหรอกครับ แค่ตื่นเต้น พี่เค้าบอก งั้นไม่ต้องไป ทำเลย (- -")

นาทีชีวิต(รัดทดสุด ๆ ในชีวิตเกิดมาไม่เคยรันทดขนาดนี้)
พี่พยาบาลให้เราอ้าปาก จะพ่นยาชาให้   พร้อมกลั่นหายใจ พ่นมาสามปรืด - -" >>> จะสำลักให้ได้ มันขมสุดๆ แต่ก็ต้องกลืน
เราบอกพี่พยาบาล ผมหายใจไม่ออก TT  พี่พยาบาลดุ บอกหายใจทางจมูกสิคะ มันคนละทางกัน (แป่ว ..ตั้งสติหายใจกันใหม่)
สักพักพี่เขาบอกให้นอนตะแคงพร้อมเอาพลาสติกที่มีรูตรงกลางมาใส่ปาก สักพักคุณหมอคว้าสายกล้อง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเท่าๆ
กับปากกาเมจิกด้ามใหญ่ >>> เราเห็นก็ตกใจ มีแสงไฟที่ปลายด้วย เราพยายามบอกกับคุณหมอ ผมยังไม่ชาๆๆ  แต่มันพูดไม่ได้ติดพลาสติกที่ปาก

หลังจากนั้นคุณหมอก็เอาสายนั่นใส่เข้ามาในปาก (เคยได้อ่านในเน็ตปกติคุณหมอจะให้คนไข้ช่วยกลืนกล้อง จะได้ไม่เจ็บ)
แต่ของเราคุณหมอแกกระซวก (กระซวกจริงๆ ครับ) TT อ๊ากก รู้สึกได้เลย มันแทงไปถึงปอดแล้ว คุณหมอไม่ถามผมก่อนเลยนะ

ระหว่างนั้นเราก็คิดได้พยายามช่วยกลืนจะได้ไม่เจ็บ แต่คุณหมอไม่สนใจ ดันเข้าไปอย่างเร็ว (เร็วจริงๆครับ แป็บเดียวถึงกระเพาะแล้ว)
รู้สึกได้เลย ความรู้สึกก็เหมือนเสียวเสียด เหมือนมีใครเอาอะไรมาแยงท้องเรา ดันเข้าดันออกอยู่นั่นละ แปล็บๆนิดๆ ที่สำคัญมันขย้อน หายใจไม่ออก
อ๊อกๆ เป็นระยะๆ สุดๆ แล้ว ระหว่างนั้นทั้งน้ำตา และน้ำลายก็ไหลเป็นทาง
(ภาพพจน์ที่มีหายหมด เป็นภาพที่สุดรันทด เกิดมาท้องพ่อท้องแม่ไม่เคยอย่างนี้)

คุณหมอก็ดูกล้องเป็นระยะๆ พร้อมชักเข้าออก ระหว่างนี้คุณหมอจะอัดลมเข้าท้องเรา มันจะป่องขึ้น รู้สึกแน่นท้องนิดๆครับ
และก็คว้านกล้องไปเรื่อย ส่องหาสิ่งผิดปกติ สักสิบนาทีได้ครับ คุณหมอก็ดึงสายออกมานิดหน่อย
แต่ความรู้สึกมันนานเหมือนเป็นชั่วโมงเลยนะ   คุณหมอบอกจะตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจนะคะ แล้วก็ดึงสายข้างในออกมา
เอาสายคล้ายๆ ลวดสอดเข้าไป
(โห .. ในใจคิด นี่จะตัดชิ้นเนื้อกันสดๆ เลยหรอครับ TT) ระหว่างนั้นน้ำตาก็ไหลพรากออกมาเอง นี่เรากลายเป็นคนอ่อนแอตั้งแต่เมื่อไร
มันรู้สึกได้ถึงการตัดชิ้นเนื้อในร่างกายเราส่งตรวจ สุดๆ เลย

คุณหมอก็เอาสายออก เราขย้อนน้ำลายออกมาเต็มเลย พร้อมบอกพี่พยาบาล เรากลืนไม่ลงอ่ะ
(มันออกมาเยอะกว่าตอนแรกอีก หมดกันภาพพจน์ รัดทดสุดๆ กลายเป็นเด็กเอ่อ)

พอออกมาจากห้องนั่งรอพักฟื้น ลมที่คุณหมอใส่เข้าไป มันก็ต้องออกมาในรูปแบบของการผายลมใช่ไหมครับ
ถือโอกาสนี้ เราต้องขอโทษเพื่อนร่วมทางของวันนั้นด้วยครับ บอกได้คำเดียว ตดรัวเป็นปืนใหญ่ครับ
อ่อ ช่วงทำเสร็จสักสองชั่วโมงจะรู้สึกขมที่คอมากเลยครับ กินอาหารอะไรไม่รับรสเลย

สรุปคุณหมอบอกไม่พบอะไรผิดปกติ หรือน่ากังวล เพียงแค่มีรอยแดงๆ ที่กระเพาะอาหาร
แต่นี่ก็เป็นประสบการณ์ส่องกล้องที่ไม่ลืมเลือนกันเลยทีเดียว อยากแชร์ให้รู้ว่าอย่าตามใจปาก
ดูแลสุขภาพร่างกายให้ดีดีกันนะครับ

ด้วยความเคารพ
เรน 1980
(รักน้องซาปาว)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่