1) ก่อนอื่นต้องบอกว่า หนังสนุกลึกซึ้งคุ้มค่าตั๋วใช้ได้เลยนะครับ ไม่ได้เน้นแค่เรื่อง "แค้น" อะไรเท่าไหร แต่กลิ่นหนักไปทางหนังรักโรแมนติกซะมากกว่าด้วยซ้ำ
2) แต่ตัวอย่างหนังเพลงประกอบมันทำให้ดูแล้วน่าจะดราม่าจัดแน่ๆ แต่ในเรื่องจริงๆ มันก็ดราม่าเหมือนกัน แต่ไม่จัดจ้านเท่าไหร่ แต่ก็อยู่ในระดับที่กลมกล่อมใช้ได้เลยนะ อาจเพราะไม่ได้มีเพลงประกอบเครียดๆเหมือนในตัวอย่างหนังก็ได้
3) ชอบฉากรักโรแมนติกตอนต้นเรื่องมากๆ ยิ่งคนไม่มีแฟนแบบผม ดูแล้วก็แอบคิดว่าสักวัน จะเจอใครหนอที่คุยแล้วปิ๊งรักได้ขนาดนี้
4) การถ่ายทำ ก็ปราณีตดี ถ่ายวิวสวยใช้ได้ (แม้ภาพจะสีซีดไปหน่อยเพราะเจอแดดจัดๆในเมืองไทยก็ตาม) ส่วนฉากการพูดคุยระหว่างตัวละคร แบบว่าซูมใกล้มากๆๆ หัวล้นขอบจอกันเลยทีเดียว ประหนึ่งภาพในละครน้ำเน่ายามบ่าย แต่เรื่องนี้เน้นอารมณ์แบบผู้ดีนะครับ เลยอาจจะนิ่งๆไปหน่อย ไม่ฟูมฟายเยอะแยะมากมายนัก
5) ชอบนักแสดงชาวญี่ปุ่น Hiroyuki Sanada เก่งมากๆ แสดงได้ดีมากเลย (ไปค้นดูผลงาน โห..เล่นหลายเรื่องดังๆเยอะแยะเชียว) เลยเป็นสีสันของเรื่องนี้ให้ท้ายเรื่องดราม่าได้เต็มอารมณ์สมบูรณ์มากขึ้น
6) เรื่องนี้แต่ละคนจะผอมไปไหน...นิโคล เธอผอมมากๆ ขนาดออกจอยังผอมขนาดนี้ จริงๆนักแสดงที่เล่นเป็นพระเอกในอดีตก็อุตสาห์ลดน้ำหนักซะผอมบักโกรกซีกโครงบานซะขนาดนั้น แต่ทำไมไม่เห็นมีใครออกมาโปรโมทซะหน่อย ว่าลดน้ำหนักเพื่อความสมจริงอะไรแบบนี้เลยนะ
7) ฉากทรมาน ก็ดีนะ แต่ทรมานยังไม่สะใจเท่าไหร่ เลยยังไม่อินเท่าไหร่นะ (อ้าว ซาดิสต์จังเราเนี่ย) (เอ..หรือเป็นที่มุมกล้องการถ่ายทำก็ไม่รู้ ทีทำให้เราไม่คล้อยตามเท่าไหร่) และตกลงที่พระเอกรอดมาได้เนี่ย เพราะโชคดีที่เผอิญญี่ปุ่นพึ่งยอมแพ้สงครามเหรอ ไม่งั้นคงเน่าตายในค่ายกักกันไปแล้ว
8) สรุป หนังเล่าเรื่องใช้ได้เลยนะครับ การแสดงก็ดีมากเลยแหละ งานสร้างละเอียดใช้ได้เลย...แต่อย่าคาดหวังจะเจอฉากโหดเวอร์ๆ หรือปะทะอารมณ์ทะลักจุดเดือดอะไรเหมือนที่ตัวอย่างหนังวาดฝันเอาไว้ครับ
9) สรรสาระ... แม้จะผิดจริง แต่อย่าทำเป็น hero ไปเสนอหน้ายอมรับผิดง่ายๆ จะดีกว่านะ
จริงอยู่ว่าความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่ถ้าอยู่ในสภาวะที่เราด้อยอำนาจ ชีวิตอยู่ในกำมือคนอื่นแล้ว ช่วยเจียมเนื้อเจียมตัวหน่อยก็ดีนะ เพราะ hero แม้จะถูกพูดถึงคิดถึงในภายหลังว่า เป็นคนดี แต่ก็เป็นคนดีที่มักจะตายไปแล้ว ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้แก่มนุษย์ชาติได้อีกแล้ว แล้วจะมีประโยชน์อะไรหรือ...
นึกถึงตอนสมัยเด็กๆ ตอนเรียนมัธยมต้น ก็ต้องตัดทรงนักเรียนกันใช่ไหมทุกต้นเดือน คราวนี้อาจารย์มีมุขใหม่ ประกาศว่า วันนี้ใครไม่ได้ตัดผม ให้กล้าหาญออกมายืนหน้าเสาธง ผมก็แบบเชียร์ให้เพื่อนข้างๆว่า ออกไปเลยสิ กล้าดีแมนๆเลย เผอิญเพื่อนยอมออกไป...แล้วไงหละ เพื่อนผมก็โดนจัดหนักซะเลย รู้สึกเสียใจไม่หาย ว่าไม่น่าไปเชียร์เพื่อนเราเลยนะ สู้อยู่สงบๆ เฉลี่ยโทษกันยังดีซะกว่า
อันนี้ผมแนะนำรวมถึงสังคมการทำงานด้วย บางครั้งเราอาจจะทำพลาดอะไรไปบางอย่าง แต่การที่ทำเป็นกล้าออกไปรับผิด มันคงไม่เหมือนในละครหรอกที่ว่าเจ้านายจะเข้าใจเรา แต่กลายเป็นเหยี่อให้มะรุมมะตุ้มรุมฟัดแมรี่แทนซะเนี่ย จะยิ่งซวยกว่าปกติเยอะเลยครับ
*******************
10) ต่อไปมีพูดถึงเนื้อเรื่องนิดๆ แต่อ่านแล้วคงไม่เสียอรรถรสหรอกครับ เพราะยังไงก็รู้อยู่แล้วนี่นาว่าตอนจบมัน feelgood แค่ไหน
สนใจคลิกอ่านได้ที่ลิงค์นี้ได้เลยครับ (เลื่อนไปล่างๆหน่อยครับ)
https://www.facebook.com/notes/tomyum-tum-noir/the-railway-man-มามองในอีกมุมมองบ้างดีกว่า/249441018573100
**************
สงสัยหรืออยากพูดคุยทักทาย เจอะกันได้ที่นี่เลยครับ
https://www.facebook.com/choord.k
อันนี้เป็นเฟชบุ๊ครวมข่าวหนัง โปรโมชั่น รีวิวต่างๆ ที่ผมทำเองครับ
https://www.facebook.com/tomyumtumnoir
[SR] The Railway Man แค้น สะพานข้ามแม่น้ำแคว - มามองในอีกมุมมองบ้างดีกว่า
2) แต่ตัวอย่างหนังเพลงประกอบมันทำให้ดูแล้วน่าจะดราม่าจัดแน่ๆ แต่ในเรื่องจริงๆ มันก็ดราม่าเหมือนกัน แต่ไม่จัดจ้านเท่าไหร่ แต่ก็อยู่ในระดับที่กลมกล่อมใช้ได้เลยนะ อาจเพราะไม่ได้มีเพลงประกอบเครียดๆเหมือนในตัวอย่างหนังก็ได้
3) ชอบฉากรักโรแมนติกตอนต้นเรื่องมากๆ ยิ่งคนไม่มีแฟนแบบผม ดูแล้วก็แอบคิดว่าสักวัน จะเจอใครหนอที่คุยแล้วปิ๊งรักได้ขนาดนี้
4) การถ่ายทำ ก็ปราณีตดี ถ่ายวิวสวยใช้ได้ (แม้ภาพจะสีซีดไปหน่อยเพราะเจอแดดจัดๆในเมืองไทยก็ตาม) ส่วนฉากการพูดคุยระหว่างตัวละคร แบบว่าซูมใกล้มากๆๆ หัวล้นขอบจอกันเลยทีเดียว ประหนึ่งภาพในละครน้ำเน่ายามบ่าย แต่เรื่องนี้เน้นอารมณ์แบบผู้ดีนะครับ เลยอาจจะนิ่งๆไปหน่อย ไม่ฟูมฟายเยอะแยะมากมายนัก
5) ชอบนักแสดงชาวญี่ปุ่น Hiroyuki Sanada เก่งมากๆ แสดงได้ดีมากเลย (ไปค้นดูผลงาน โห..เล่นหลายเรื่องดังๆเยอะแยะเชียว) เลยเป็นสีสันของเรื่องนี้ให้ท้ายเรื่องดราม่าได้เต็มอารมณ์สมบูรณ์มากขึ้น
6) เรื่องนี้แต่ละคนจะผอมไปไหน...นิโคล เธอผอมมากๆ ขนาดออกจอยังผอมขนาดนี้ จริงๆนักแสดงที่เล่นเป็นพระเอกในอดีตก็อุตสาห์ลดน้ำหนักซะผอมบักโกรกซีกโครงบานซะขนาดนั้น แต่ทำไมไม่เห็นมีใครออกมาโปรโมทซะหน่อย ว่าลดน้ำหนักเพื่อความสมจริงอะไรแบบนี้เลยนะ
7) ฉากทรมาน ก็ดีนะ แต่ทรมานยังไม่สะใจเท่าไหร่ เลยยังไม่อินเท่าไหร่นะ (อ้าว ซาดิสต์จังเราเนี่ย) (เอ..หรือเป็นที่มุมกล้องการถ่ายทำก็ไม่รู้ ทีทำให้เราไม่คล้อยตามเท่าไหร่) และตกลงที่พระเอกรอดมาได้เนี่ย เพราะโชคดีที่เผอิญญี่ปุ่นพึ่งยอมแพ้สงครามเหรอ ไม่งั้นคงเน่าตายในค่ายกักกันไปแล้ว
8) สรุป หนังเล่าเรื่องใช้ได้เลยนะครับ การแสดงก็ดีมากเลยแหละ งานสร้างละเอียดใช้ได้เลย...แต่อย่าคาดหวังจะเจอฉากโหดเวอร์ๆ หรือปะทะอารมณ์ทะลักจุดเดือดอะไรเหมือนที่ตัวอย่างหนังวาดฝันเอาไว้ครับ
9) สรรสาระ... แม้จะผิดจริง แต่อย่าทำเป็น hero ไปเสนอหน้ายอมรับผิดง่ายๆ จะดีกว่านะ
จริงอยู่ว่าความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่ถ้าอยู่ในสภาวะที่เราด้อยอำนาจ ชีวิตอยู่ในกำมือคนอื่นแล้ว ช่วยเจียมเนื้อเจียมตัวหน่อยก็ดีนะ เพราะ hero แม้จะถูกพูดถึงคิดถึงในภายหลังว่า เป็นคนดี แต่ก็เป็นคนดีที่มักจะตายไปแล้ว ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้แก่มนุษย์ชาติได้อีกแล้ว แล้วจะมีประโยชน์อะไรหรือ...
นึกถึงตอนสมัยเด็กๆ ตอนเรียนมัธยมต้น ก็ต้องตัดทรงนักเรียนกันใช่ไหมทุกต้นเดือน คราวนี้อาจารย์มีมุขใหม่ ประกาศว่า วันนี้ใครไม่ได้ตัดผม ให้กล้าหาญออกมายืนหน้าเสาธง ผมก็แบบเชียร์ให้เพื่อนข้างๆว่า ออกไปเลยสิ กล้าดีแมนๆเลย เผอิญเพื่อนยอมออกไป...แล้วไงหละ เพื่อนผมก็โดนจัดหนักซะเลย รู้สึกเสียใจไม่หาย ว่าไม่น่าไปเชียร์เพื่อนเราเลยนะ สู้อยู่สงบๆ เฉลี่ยโทษกันยังดีซะกว่า
อันนี้ผมแนะนำรวมถึงสังคมการทำงานด้วย บางครั้งเราอาจจะทำพลาดอะไรไปบางอย่าง แต่การที่ทำเป็นกล้าออกไปรับผิด มันคงไม่เหมือนในละครหรอกที่ว่าเจ้านายจะเข้าใจเรา แต่กลายเป็นเหยี่อให้มะรุมมะตุ้มรุมฟัดแมรี่แทนซะเนี่ย จะยิ่งซวยกว่าปกติเยอะเลยครับ
*******************
10) ต่อไปมีพูดถึงเนื้อเรื่องนิดๆ แต่อ่านแล้วคงไม่เสียอรรถรสหรอกครับ เพราะยังไงก็รู้อยู่แล้วนี่นาว่าตอนจบมัน feelgood แค่ไหน
สนใจคลิกอ่านได้ที่ลิงค์นี้ได้เลยครับ (เลื่อนไปล่างๆหน่อยครับ)
https://www.facebook.com/notes/tomyum-tum-noir/the-railway-man-มามองในอีกมุมมองบ้างดีกว่า/249441018573100
**************
สงสัยหรืออยากพูดคุยทักทาย เจอะกันได้ที่นี่เลยครับ
https://www.facebook.com/choord.k
อันนี้เป็นเฟชบุ๊ครวมข่าวหนัง โปรโมชั่น รีวิวต่างๆ ที่ผมทำเองครับ
https://www.facebook.com/tomyumtumnoir