Step 2 นี้จะมารีวิวเกี่ยวกับการเดินทางไปสนามบิน สายการบิน การเช็คอิน และ การเขียนใบ ตม. รวมถึงแอบบอกราคาสินค้าในสนามบินเล็กน้อย มาเปรียบเทียบราคากัน 3 สนามบินแล้วปรากฎว่าที่ไทยถูกกว่านะคะ
ส่วน Step1 เป็นการจองเที่ยวบิน+โรงแรมใน expedia BKK-HKG-TOKYO >>
http://ppantip.com/topic/31988899
เจ้าของกระทู้อยู่ย่าน รังสิต ซึ่งในการเดินทางทุกครั้ง เน้นความประหยัดเป็นหลัก จึงไปขึ้นรถตู้ที่ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต ไปสนามบินสุวรรณภูมิ เที่ยวละ 50 บาทเท่านั้น (อยู่ตรงวินรถตู้ในบริเวณฟิวเจอร์ฯ โซนทางโรบินสัน เลยคะ) ส่วนการเดินทาง ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงถึงคะ
ในการไปครั้งนี้ เจ้าของกระทู้ไม่ได้วางแผนอะไรเลยคะ ไปแบบมั่วๆ แต่ก็ไปถูกไม่มีหลงนะ อิอิ
ก็มาดูๆว่าจะไปไหนบ้างก่อนบินไม่กี่ชั่วโมงเลยจ้า
ภาพนี้เป็นภาพที่ ศูนย์อาหาร สนามบินสุวรรณภูมิ อยากจะบอกว่ามาทานอาหารที่นี่ทุกครั้ง ไม่ใช่แค่ถูก แต่อร่อย!ทุกอย่าง!คอนเฟริม!!
อยู่ชั้นล่างสุดฝั่งขวา (หันหน้าเข้าสนามบิน)
เราไปแบบ Backpack ตอนแรกก็จะเอาไปแต่เป้ แต่ดูจากสภาพแล้วไม่พอคะ ขอยืมกระเป๋าคุณพ่อมา
กระเป๋าของ american tourister ไซส์ใหญ่สุด ซึ่งเป็นแบรนด์ลูกของ samsonite แต่ราคาถูกกว่าครึ่งๆเลยคะ
รับประกันการใช้งานทั่วโลก ไม่แน่ใจว่ากี่ปีคะ
จากการใช้งานก็ขออนุญาติรีวิวว่า โอเครคะ ใส่ของได้เยอะพอสมควร ขยายกระเป๋าได้อีก ตัวกระเป๋าเบามาก ที่หนักๆคือของเราเอง
และกระเป๋าสามารถยืดหยุ่นได้ด้วย รองรับแรงกระแทก ตัวซิปไม่สามารถนำปากกาเจาะได้ เพราะเป็นระบบแบบดีอะคะ เรียกไม่ถูก
ส่วน
ข้อเสีย เมื่อน้ำหนักกระเป๋าหนักๆ 15 กิโลขึ้นไป ค่อนข้างลากยาก จะลากแบบ 4 ล้อก็ไม่สะดวกคะ ตัวกระเป๋ามีรอยชำรุดเล็กน้อย และตอนขากลับ ดีนะคะที่เราไม่เอาของไว้ด้านนอกกระเป๋าที่ไม่ได้ล็อค เพราะมีรอยเปิดซิปแบบสุดๆทางซิปเลยคะ (โทษพนักงานที่สนามบิน)
มา Check-in กันคะ เราบินสายการบิน CAETHEY PACIFIC สัญชาติฮ่องกง ที่สุวรรณภูมิอยู่ที่เค้าเตอร์ M คะ (ทางเข้า 6)
(ขอบคุณภาพจาก HKFC คะ)
จากการจองจาก Expedia มาจาก Step 1 >>
ttp://ppantip.com/topic/31988899
เวลาเครื่องออกคือ 01:20 เราสามารถเช็ตอินได้ตอน 22:00 คะ ยื่น Passport ได้เลย ไม่ต้องใช้รหัสที่จองมาจาก expedia เลยคะ
น้ำหนักกระเป๋าได้สูงสุด 23 กิโลกรัม ต่อ 1 คน และสามารถแชร์น้ำหนักกับผู้ร่วมเดินทางได้คะ แต่ถ้าน้ำหนักเกิน คิดกิโลกรัมละ 3XX บาท
เมื่อเช็คอินเสร็จแล้วก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปผ่านการตรวจสัมภาระที่ใช้ขั้นเครื่อง เป้ไม่เกิน 7 กิโลกรัม รวมถึงถ้าใส่รองเท้าบู๊ท ผ้าใบก็ต้องถอดสแกนด้วยคะ
(น้ำต่างๆ สเปย์ ของมีคม กรรไกร กรรไกรตัดเล็บ ห้าม ถ้าจำเป็นต้องมีอุปกรณ์เกี่ยวกับน้ำ ต้องไม่เกิน 100 ml. ต่อ1ชิ้น ตัวที่บรรจุนะคะ ถ้ามีขวดขนาด 500 ml. แต่มีน้ำอยู่ 50 ml. ก็ไม่สามารถผ่านได้คะ 100 ml. รวมกันในแต่ละชิ้นห้ามเกิน 1000 ml. คะ )
เขียนใบ ตม.
การเข้า-ออก จากประเทศไทย ต้องมีเอกสารเพิ่มเติมอีกนิดนึงค่ะ
ใบ Thai Immigration Bureau กรอกข้อมูลเตรียมไว้ทั้งขาเข้า และขาออกเลยค่ะ
ตัวอย่าง บัตรขาออก
ตัวอย่าง บัตรขาเข้า
จากนั้นก็ไปผ่านตม.ขาเข้าของไทย ซึ่งคนไทยใช้ระบบสแกนนิ้วมองกล้อง เร็วมาก (จากการที่เคยทำรีเซิทในส่วนตรงนี้ โดยเฉลี่ยด้วยตาแล้ว คนนึงไม่ถึง 1 นาทีเลยคะ พร้อมยื่นใบ Immigation ให้เจ้าหน้าที่ด้วยคะ
พอผ่าน ตม. เสร็จแล้ว ก็ไปลุยกับการช๊อปท King Power กันเลยจ้าาา
ปล.ควรมีเงินไทยติดตัวมาจำหนึ่งเพื่อนช๊อปในนี้ เพราะว่าตู้ ATM หลังจากผ่าน ตม. มาแล้วไม่สามารถกดเงินไทยออกมาได้ มีแต่เงินดอลลาร์ คะ
ก่อนตรวจสัมภาระ บริเวณเค้าเตอร์เช็คอินสนามบินสามารถกดเงินไทยได้คะ
ไปช๊อปกันคะ (ไม่ทราบว่าลงรูปพวกนี้ได้รึเปล่านะคะ ถ้าไม่ได้ขอโทษด้วยคะ)
กระเป๋า Longchamp ถูกนะคะ !!
อยากจะบอกว่าแป้ง CC อันนี้ถูกที่สุด ฮ่องกง และ ญี่ปุ่น 2,xxx.- ไทยขาย 1,6xx.-
หลังจากช๊อปเพลินๆแล้ว เราก็มาพักทานขนม นม เนย สักหน่อยคะ
ที่ KING POWER LOUNGE อยู่ทางโซน GATE A พอเจอเรือนไทยแล้วเลี้ยวซ้าย เจอเลยคะ
ขนมก็มีเค้ก...น่ารักๆ นิดหน่อยคะ สีเขียวอร่อย !
มีเครื่องดื่มร้อนให้เลือก
มีน้ำเย็นให้ทาน มีน้ำแข็ง มีน้ำอัดลมประป๋องด้านล่าง(เป็นตู้เย็น)
สภาพ..พุงกาง ตาปรืออออ
และก็ได้เวลามาที่ GATE เพราะมันไกลจาก LOUNGE มาก
ขาไป BKK-HongKong เป็นเครื่องที่นั่งแบบ 2-3-2 มีหน้าจอ หูฟัง ผ้าห่ม หมอน นอนฟิน มีอาหาร เครื่องดื่ม ฟินสุดๆคะ ยาวปายยยยย
โดยรวม อร่อย ผ่าน โดยเฉพาะ ผลไม้อร่อยทุกเที่ยว (ตอนี้เรากำลังเดินทางจาก BKK ไป Hongkok คะ)
เนื่องจากมีการ tranferเครื่องที่ฮ่องกงเป็นเวลา 3 ชม. นิดๆ เราจึงวนเวียนอยู่ภายในสนามบินฮ่องกง Chek Leb kok ไม่ออกไปไหน
จึงไม่ต้องกรอกใบ ตม. (Immigeation) แต่ถ้าใครมีเวลาออกไปเที่ยวฮ่องกง ก็กรอกเลยคะ
ลักษณะถึงที่ฮ่องกงตอนเช้า ไม่มีอะไรเปิดเลย ได้แต่ส่อง แอบเช็คราคา (ราคา เหรดอยู่ที่ 4.xx กว่าคะ)
ฝนตกด้วยแหะ บินไป ฮาเนดะ เครื่องใหญ่ๆๆ
เป็นที่นั่งแบบ 3-4-3 กว้างสบายยยยย
และก็มีอาหารอีกแล้ว...
ตอนนี้เราต้องเขียนใบ ตม. ขาเข้าญี่ปุ่นคะ
ใบ Disembarkation card for foreigner กรอกข้อมูลเตรียมไว้ทั้งขาเข้า-ขาออกเช่นเดียวกันค่ะ
ตัวอย่าง ใบเข้า-ออกประเทศญี่ปุ่น (ด้านหน้า)
ตัวอย่าง ใบเข้า-ออกประเทศญี่ปุ่น (ด้านหลัง)
(ขอบคุณข้อมูลจาก คุณ Beller
http://bellerinjapan.blogspot.com/2011_10_01_archive.html)
2. วิธีการกรอกแบบฟอร์ม Custom เข้าประเทศญีปุ่น (ขอบคุณข้อมูลจาก marumaru.com คะ)
เพื่อนๆ ก็กรอกแบบฟอร์มเป็นภาษาอังกฤษเหมือนเดิม ซึ่ง Customs Declaration Form จะมีทั้งหมด 2 หน้า
A : ฟอร์ม Custom ส่วนแรก
Flight No./Name of vesel: ให้เพื่อนๆ สายการบินและหมายเลขเที่ยวบินที่เพื่อนๆ เดินทางมาถึงญี่ปุ่น เช่น DL 284 เป็นต้น Point of embarkation: ให้เพื่อนๆ กรอกสนามบินที่เเพื่อนๆ เดินทางมา เช่น BKK, HKG ฯ Date of Arrival in Japan: ให้เพื่อนๆ กรอกวันเดือนปีที่มาถึงญี่ปุ่นName: ให้เพื่อนๆ กรอกนามสกุลและชื่อเรียงกันไป Address in Japan: ให้เพื่อนๆ กรอกชื่อโรงแรม ที่อยู่ และเบอร์โทรNationality: ให้เพื่อนๆ กรอกสัญชาติของตน Occupation: ให้เพื่อนๆ กรอกอาชีพของตนDate of Birth: ให้เพื่อนๆ กรอก วันเดือนปีเกิด *** เป็นค.ศ.Passport No.: ให้เพื่อนๆ กรอกหมายเลข PassportNumber of Dependents: ให้เพื่อนๆ กรอกจำนวนคนที่มากันเป็นครอบครัวของเพื่อนๆ ส่วนมากันเอง หรือมากับเพื่อน ไม่ต้องกรอก
B: ฟอร์ม Custom ส่วนที่สอง
สำหรับส่วนนี้ให้เพื่อนๆ เลือกตอบ Yes หรือ No
เพื่อนๆ ได้นำวัตถุต้องห้ามเข้ามาญี่ปุ่นหรือไม่?เพื่อนๆ ได้นำสินค้าปลอดภาษีเข้ามาหรือไม่?เพื่อนๆ ได้นำสินค้าตัวอย่างเข้ามาหรือไม่?เพื่อนๆ ได้รับฝากหิ้วสินค้าจากผู้อื่นหรือไม่?
ถ้ามีข้อใดที่เพื่อนๆ ตอบ Yes เพื่อนๆ ต้องไปกรอกรายละเอียดของสินค้านั้นๆ ในแบบฟอร์มด้านหลัง
C: ฟอร์ม Custom ส่วนที่สาม
เพื่อนๆ ได้พกเงินสด หรือเช็ค หรืออื่นๆ เกินกว่า 1,000,000 เยน หรือไม่?
D : ฟอร์ม Custom ส่วนที่สี่
เพื่อนๆ มีสินค้าหรือ หรือสิ่งของอื่นๆ ที่จะส่งตามามาในภายหลังหรือไม่?
ถ้าเพื่อนๆ กรอกข้อมูลในส่วนที่สองเป็น No หมด ก็ลงลายเซ็นแล้วยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ได้เลย ..ส่วนจะโดนตรวจและค้นกระเป๋าหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการสุ่มหรือความน่าสงสัยของคนนั้นๆ จร้า
(ขอบคุณข้อมูลจากติวเตอร์ตู่คะ
http://www.marumura.com/talkative/?id=4254)
เมื่อถึงสนามบินฮาเนดะแล้ว เราก็มุ่งไปยัง Immigration เลยคะ ตม.ใจดีมาก น่ารักมาก
ไม่ถามอะไรเลย ให้แตะนิ้ว มองกล้อง แล้วก็บอกรายละเอียดเล็กน้อย แล้วก็ยิ้มให้ Welcome สุดๆๆคะ
จากนั้นไปเอากระเป๋า และนั่งรถไฟไปโรงแรม ชิซันน์ อินน์ ย่าน อาซากุสะ ตอนนั้นเวลาเกือบบ่าย 3 (ที่ญี่ปุ่นละคะ)
เด๋วจะรีวิว กระทู้ต่อไปคะ...
[CR] รีวิวเกี่ยวกับการเดินทางไปสนามบิน สายการบิน การเช็คอิน และ การเขียนใบ ตม. BKK-HKD-HND Tokyo
Step 2 นี้จะมารีวิวเกี่ยวกับการเดินทางไปสนามบิน สายการบิน การเช็คอิน และ การเขียนใบ ตม. รวมถึงแอบบอกราคาสินค้าในสนามบินเล็กน้อย มาเปรียบเทียบราคากัน 3 สนามบินแล้วปรากฎว่าที่ไทยถูกกว่านะคะ
ส่วน Step1 เป็นการจองเที่ยวบิน+โรงแรมใน expedia BKK-HKG-TOKYO >> http://ppantip.com/topic/31988899
เจ้าของกระทู้อยู่ย่าน รังสิต ซึ่งในการเดินทางทุกครั้ง เน้นความประหยัดเป็นหลัก จึงไปขึ้นรถตู้ที่ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต ไปสนามบินสุวรรณภูมิ เที่ยวละ 50 บาทเท่านั้น (อยู่ตรงวินรถตู้ในบริเวณฟิวเจอร์ฯ โซนทางโรบินสัน เลยคะ) ส่วนการเดินทาง ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงถึงคะ
ในการไปครั้งนี้ เจ้าของกระทู้ไม่ได้วางแผนอะไรเลยคะ ไปแบบมั่วๆ แต่ก็ไปถูกไม่มีหลงนะ อิอิ
ก็มาดูๆว่าจะไปไหนบ้างก่อนบินไม่กี่ชั่วโมงเลยจ้า
ภาพนี้เป็นภาพที่ ศูนย์อาหาร สนามบินสุวรรณภูมิ อยากจะบอกว่ามาทานอาหารที่นี่ทุกครั้ง ไม่ใช่แค่ถูก แต่อร่อย!ทุกอย่าง!คอนเฟริม!!
อยู่ชั้นล่างสุดฝั่งขวา (หันหน้าเข้าสนามบิน)
เราไปแบบ Backpack ตอนแรกก็จะเอาไปแต่เป้ แต่ดูจากสภาพแล้วไม่พอคะ ขอยืมกระเป๋าคุณพ่อมา
กระเป๋าของ american tourister ไซส์ใหญ่สุด ซึ่งเป็นแบรนด์ลูกของ samsonite แต่ราคาถูกกว่าครึ่งๆเลยคะ
รับประกันการใช้งานทั่วโลก ไม่แน่ใจว่ากี่ปีคะ
จากการใช้งานก็ขออนุญาติรีวิวว่า โอเครคะ ใส่ของได้เยอะพอสมควร ขยายกระเป๋าได้อีก ตัวกระเป๋าเบามาก ที่หนักๆคือของเราเอง
และกระเป๋าสามารถยืดหยุ่นได้ด้วย รองรับแรงกระแทก ตัวซิปไม่สามารถนำปากกาเจาะได้ เพราะเป็นระบบแบบดีอะคะ เรียกไม่ถูก
ส่วนข้อเสีย เมื่อน้ำหนักกระเป๋าหนักๆ 15 กิโลขึ้นไป ค่อนข้างลากยาก จะลากแบบ 4 ล้อก็ไม่สะดวกคะ ตัวกระเป๋ามีรอยชำรุดเล็กน้อย และตอนขากลับ ดีนะคะที่เราไม่เอาของไว้ด้านนอกกระเป๋าที่ไม่ได้ล็อค เพราะมีรอยเปิดซิปแบบสุดๆทางซิปเลยคะ (โทษพนักงานที่สนามบิน)
มา Check-in กันคะ เราบินสายการบิน CAETHEY PACIFIC สัญชาติฮ่องกง ที่สุวรรณภูมิอยู่ที่เค้าเตอร์ M คะ (ทางเข้า 6)
(ขอบคุณภาพจาก HKFC คะ)
จากการจองจาก Expedia มาจาก Step 1 >> ttp://ppantip.com/topic/31988899
เวลาเครื่องออกคือ 01:20 เราสามารถเช็ตอินได้ตอน 22:00 คะ ยื่น Passport ได้เลย ไม่ต้องใช้รหัสที่จองมาจาก expedia เลยคะ
น้ำหนักกระเป๋าได้สูงสุด 23 กิโลกรัม ต่อ 1 คน และสามารถแชร์น้ำหนักกับผู้ร่วมเดินทางได้คะ แต่ถ้าน้ำหนักเกิน คิดกิโลกรัมละ 3XX บาท
เมื่อเช็คอินเสร็จแล้วก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปผ่านการตรวจสัมภาระที่ใช้ขั้นเครื่อง เป้ไม่เกิน 7 กิโลกรัม รวมถึงถ้าใส่รองเท้าบู๊ท ผ้าใบก็ต้องถอดสแกนด้วยคะ
(น้ำต่างๆ สเปย์ ของมีคม กรรไกร กรรไกรตัดเล็บ ห้าม ถ้าจำเป็นต้องมีอุปกรณ์เกี่ยวกับน้ำ ต้องไม่เกิน 100 ml. ต่อ1ชิ้น ตัวที่บรรจุนะคะ ถ้ามีขวดขนาด 500 ml. แต่มีน้ำอยู่ 50 ml. ก็ไม่สามารถผ่านได้คะ 100 ml. รวมกันในแต่ละชิ้นห้ามเกิน 1000 ml. คะ )
เขียนใบ ตม.
การเข้า-ออก จากประเทศไทย ต้องมีเอกสารเพิ่มเติมอีกนิดนึงค่ะ
ใบ Thai Immigration Bureau กรอกข้อมูลเตรียมไว้ทั้งขาเข้า และขาออกเลยค่ะ
ตัวอย่าง บัตรขาออก
ตัวอย่าง บัตรขาเข้า
จากนั้นก็ไปผ่านตม.ขาเข้าของไทย ซึ่งคนไทยใช้ระบบสแกนนิ้วมองกล้อง เร็วมาก (จากการที่เคยทำรีเซิทในส่วนตรงนี้ โดยเฉลี่ยด้วยตาแล้ว คนนึงไม่ถึง 1 นาทีเลยคะ พร้อมยื่นใบ Immigation ให้เจ้าหน้าที่ด้วยคะ
พอผ่าน ตม. เสร็จแล้ว ก็ไปลุยกับการช๊อปท King Power กันเลยจ้าาา
ปล.ควรมีเงินไทยติดตัวมาจำหนึ่งเพื่อนช๊อปในนี้ เพราะว่าตู้ ATM หลังจากผ่าน ตม. มาแล้วไม่สามารถกดเงินไทยออกมาได้ มีแต่เงินดอลลาร์ คะ
ก่อนตรวจสัมภาระ บริเวณเค้าเตอร์เช็คอินสนามบินสามารถกดเงินไทยได้คะ
ไปช๊อปกันคะ (ไม่ทราบว่าลงรูปพวกนี้ได้รึเปล่านะคะ ถ้าไม่ได้ขอโทษด้วยคะ)
กระเป๋า Longchamp ถูกนะคะ !!
อยากจะบอกว่าแป้ง CC อันนี้ถูกที่สุด ฮ่องกง และ ญี่ปุ่น 2,xxx.- ไทยขาย 1,6xx.-
หลังจากช๊อปเพลินๆแล้ว เราก็มาพักทานขนม นม เนย สักหน่อยคะ
ที่ KING POWER LOUNGE อยู่ทางโซน GATE A พอเจอเรือนไทยแล้วเลี้ยวซ้าย เจอเลยคะ
ขนมก็มีเค้ก...น่ารักๆ นิดหน่อยคะ สีเขียวอร่อย !
มีเครื่องดื่มร้อนให้เลือก
มีน้ำเย็นให้ทาน มีน้ำแข็ง มีน้ำอัดลมประป๋องด้านล่าง(เป็นตู้เย็น)
สภาพ..พุงกาง ตาปรืออออ
และก็ได้เวลามาที่ GATE เพราะมันไกลจาก LOUNGE มาก
ขาไป BKK-HongKong เป็นเครื่องที่นั่งแบบ 2-3-2 มีหน้าจอ หูฟัง ผ้าห่ม หมอน นอนฟิน มีอาหาร เครื่องดื่ม ฟินสุดๆคะ ยาวปายยยยย
โดยรวม อร่อย ผ่าน โดยเฉพาะ ผลไม้อร่อยทุกเที่ยว (ตอนี้เรากำลังเดินทางจาก BKK ไป Hongkok คะ)
เนื่องจากมีการ tranferเครื่องที่ฮ่องกงเป็นเวลา 3 ชม. นิดๆ เราจึงวนเวียนอยู่ภายในสนามบินฮ่องกง Chek Leb kok ไม่ออกไปไหน
จึงไม่ต้องกรอกใบ ตม. (Immigeation) แต่ถ้าใครมีเวลาออกไปเที่ยวฮ่องกง ก็กรอกเลยคะ
ลักษณะถึงที่ฮ่องกงตอนเช้า ไม่มีอะไรเปิดเลย ได้แต่ส่อง แอบเช็คราคา (ราคา เหรดอยู่ที่ 4.xx กว่าคะ)
ฝนตกด้วยแหะ บินไป ฮาเนดะ เครื่องใหญ่ๆๆ
เป็นที่นั่งแบบ 3-4-3 กว้างสบายยยยย
และก็มีอาหารอีกแล้ว...
ตอนนี้เราต้องเขียนใบ ตม. ขาเข้าญี่ปุ่นคะ
ใบ Disembarkation card for foreigner กรอกข้อมูลเตรียมไว้ทั้งขาเข้า-ขาออกเช่นเดียวกันค่ะ
ตัวอย่าง ใบเข้า-ออกประเทศญี่ปุ่น (ด้านหน้า)
ตัวอย่าง ใบเข้า-ออกประเทศญี่ปุ่น (ด้านหลัง)
(ขอบคุณข้อมูลจาก คุณ Beller http://bellerinjapan.blogspot.com/2011_10_01_archive.html)
2. วิธีการกรอกแบบฟอร์ม Custom เข้าประเทศญีปุ่น (ขอบคุณข้อมูลจาก marumaru.com คะ)
เพื่อนๆ ก็กรอกแบบฟอร์มเป็นภาษาอังกฤษเหมือนเดิม ซึ่ง Customs Declaration Form จะมีทั้งหมด 2 หน้า
A : ฟอร์ม Custom ส่วนแรก
Flight No./Name of vesel: ให้เพื่อนๆ สายการบินและหมายเลขเที่ยวบินที่เพื่อนๆ เดินทางมาถึงญี่ปุ่น เช่น DL 284 เป็นต้น Point of embarkation: ให้เพื่อนๆ กรอกสนามบินที่เเพื่อนๆ เดินทางมา เช่น BKK, HKG ฯ Date of Arrival in Japan: ให้เพื่อนๆ กรอกวันเดือนปีที่มาถึงญี่ปุ่นName: ให้เพื่อนๆ กรอกนามสกุลและชื่อเรียงกันไป Address in Japan: ให้เพื่อนๆ กรอกชื่อโรงแรม ที่อยู่ และเบอร์โทรNationality: ให้เพื่อนๆ กรอกสัญชาติของตน Occupation: ให้เพื่อนๆ กรอกอาชีพของตนDate of Birth: ให้เพื่อนๆ กรอก วันเดือนปีเกิด *** เป็นค.ศ.Passport No.: ให้เพื่อนๆ กรอกหมายเลข PassportNumber of Dependents: ให้เพื่อนๆ กรอกจำนวนคนที่มากันเป็นครอบครัวของเพื่อนๆ ส่วนมากันเอง หรือมากับเพื่อน ไม่ต้องกรอก
B: ฟอร์ม Custom ส่วนที่สอง
สำหรับส่วนนี้ให้เพื่อนๆ เลือกตอบ Yes หรือ No
เพื่อนๆ ได้นำวัตถุต้องห้ามเข้ามาญี่ปุ่นหรือไม่?เพื่อนๆ ได้นำสินค้าปลอดภาษีเข้ามาหรือไม่?เพื่อนๆ ได้นำสินค้าตัวอย่างเข้ามาหรือไม่?เพื่อนๆ ได้รับฝากหิ้วสินค้าจากผู้อื่นหรือไม่?
ถ้ามีข้อใดที่เพื่อนๆ ตอบ Yes เพื่อนๆ ต้องไปกรอกรายละเอียดของสินค้านั้นๆ ในแบบฟอร์มด้านหลัง
C: ฟอร์ม Custom ส่วนที่สาม
เพื่อนๆ ได้พกเงินสด หรือเช็ค หรืออื่นๆ เกินกว่า 1,000,000 เยน หรือไม่?
D : ฟอร์ม Custom ส่วนที่สี่
เพื่อนๆ มีสินค้าหรือ หรือสิ่งของอื่นๆ ที่จะส่งตามามาในภายหลังหรือไม่?
ถ้าเพื่อนๆ กรอกข้อมูลในส่วนที่สองเป็น No หมด ก็ลงลายเซ็นแล้วยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ได้เลย ..ส่วนจะโดนตรวจและค้นกระเป๋าหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการสุ่มหรือความน่าสงสัยของคนนั้นๆ จร้า
(ขอบคุณข้อมูลจากติวเตอร์ตู่คะ http://www.marumura.com/talkative/?id=4254)
เมื่อถึงสนามบินฮาเนดะแล้ว เราก็มุ่งไปยัง Immigration เลยคะ ตม.ใจดีมาก น่ารักมาก
ไม่ถามอะไรเลย ให้แตะนิ้ว มองกล้อง แล้วก็บอกรายละเอียดเล็กน้อย แล้วก็ยิ้มให้ Welcome สุดๆๆคะ
จากนั้นไปเอากระเป๋า และนั่งรถไฟไปโรงแรม ชิซันน์ อินน์ ย่าน อาซากุสะ ตอนนั้นเวลาเกือบบ่าย 3 (ที่ญี่ปุ่นละคะ)
เด๋วจะรีวิว กระทู้ต่อไปคะ...