ถ้าเทียบปริมาณยาคูลท์เท่านมสด ดื่มยาคูลท์ได้โปรตีนน้อยกว่าดื่มนมสด เพราะยาคูลท์คือโยเกิร์ตผสมน้ำ น้ำตาล และรสส้ม (น้ำตาลถึง 18% สูงที่สุดในบรรดานมเปรี้ยวเท่าที่เรารู้จัก) แต่โยเกิร์ตได้เปรียบนมสดตรงที่แบคทีเรียที่เติมลงไปจะย่อยน้ำตาลในนม (lactose) ไปแล้ว ทำให้คนที่ไม่มีเอนไซม์ย่อยน้ำตาลแลกโตสในนม (lactase) สามารถดื่มได้โดยไม่ท้องเสีย
บางคนดื่มนมแล้วท้องจะเสียเพราะไม่ค่อยได้ดื่ม ยีนส์ที่ผลิตเอนไซม์แลกเตสจะผลิตเมื่อถูกกระตุ้นระยะหนึ่ง นั่นคือใครไม่ได้ดื่มนมนานๆ พอมาดื่มอีกจะท้องเสีย แต่ทนดื่มไประยะหนึ่งก็จะมีเอนไซม์ จึงดื่มนมได้ท้องไม่เสีย แต่ก็มีบางคนที่ไม่มีเอนไซม์นี้เลยจริงๆ ก็ต้องดื่มนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตแทนนมสดค่ะ

กระบวนการหมักโยเกิร์ตโดยแบคทีเรียจะทำให้เกิดกรดขึ้น กรดนี้จะทำให้โปรตีนของนมเสียสภาพ (denature) ทำให้น้ำนมเกิดเป็นลิ่ม (curd) และมีรสเปรี้ยว ในขั้นตอนนี้สารอาหารในนมยังมีเท่าตอนก่อนหมัก เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบจากน้ำตาลแลกโตสเป็น กลูโคส+ กาแลคโตส  น้ำนมเป็นลิ่ม มีรสเปรี้ยว หลังจากนี้ผู้ผลิตจะนำไปปรับปรุงรสชาติก่อนออกจำหน่าย

การทำนมเปรี้ยวที่คล้ายๆโยเกิร์ตง่ายๆ เลย คือการเติมกรดลงในนม ถ้าปรับสูตรดีผลภายนอกจะออกมาคล้ายโยเกิร์ตเลยค่ะ แต่ที่ต่างคือน้ำตาลแลกโตสไม่ถูกย่อย คนที่ไม่มีเอนไซม์แลกเตสก็จะยังท้องเสียเมื่อดื่มอยู่ดี

นมเปรี้ยวและโยเกิร์ตส่วนใหญ่ในท้องตลาดใช้แบคทีเรียสองสายพันธุ์เหมือนกันคือ Lactobacillus sp. และ Streptococcus thermophillus แต่ได้รับการปรับปรุงพันธุ์โดยนักวิทยาศาสตร์ของแต่ละบริษัท ซึ่งแต่ละบริษัทจะหวงแบคทีเรียนี้มากกกก
ผลการทดสอบเมื่อนานมาแล้วพบว่ามีแต่ยี่ห้อยาคูลท์เท่านั้นที่มีจุลินทรีย์ที่มีชีวิตอยู่ในจำนวนที่มากพอที่จะส่งผลดีต่อสุขภาพ (เดี๋ยวนี้ของยี่ห้อใหม่ๆ อาจจะมีแต่เราไม่รู้ การทดสอบที่เราว่านั่นตั้งเป็นสิบปีมาแล้ว)

จุลินทรีย์ที่มีชีวิตเป็นโพรไบโอติกส์ (probiotics) มีส่วนช่วยในการสร้างภุมิคุ้มกันและดูแลสุขภาพลำไส้ให้เรา หลังๆ มานี้จะมีแบคทีเรีย Bifidobacterium sp. ที่เก่งในด้านการเป็นโพรไบโอติกส์ แต่ไม่ทราบว่าทางยาคูลท์ได้ใช้ด้วยรึเปล่าเพราะได้ยินมาว่ามันหมักโเกิร์ตได้ไม่อร่อยเท่าแลคโตบาซิลลัส แล้วเรากินยาคูลท์มานานแต่ไม่รู้สึกว่ารสชาติเปลี่ยน


พิมพ์เสร็จพบว่ายาวมาก จะมีใครอ่านมั้ยเนี่ย แต่เสียดายเนื้อหาที่พิมพ์ ขอไม่ตัดออกนะคะ      
ี
ิ