[CR] เที่ยวพม่า ลั้นลาช่วงสงกรานต์

เที่ยวพม่า ลั้นลาช่วงสงกรานต์   PAGE 1 ตอน 1


ตัดสินใจอยู่นาน ว่าจะทำรีวิวดีไหม เพราะความขี้เกียจเข้าครอบงำ อีกอย่างตอนช่วงไปเที่ยวไม่ค่อยได้ถ่ายรูป เพราะไหนจะไม่สบายเอย และกลัวกล้องเปียกน้ำเอย อุปสรรค์นานัปการ แต่ก็มิหวั่น คลอดออกมาแล้วสำหรับรีวิว เที่ยวพม่า ลั้นลาช่วงสงกรานต์ พร้อมแล้ว ลุย

แต่ก่อนอื่นขอฝาก ทริป ตะวันลับฟ้าที่บาหลี ด้วยนะครับ ...http://ppantip.com/topic/31825661

ผมเดินทางกับเจ้าประจำของเรา หางแดง ช่วงปล่อยโปรโมชั่นมา มีหรือจะพลาดขนาดยังไม่ได้ทำวีซ่าก็ต้องจองไว้ก่อน เรื่องวีซ่าค่อยไปลุยดาบหน้าที่สถานทูตพม่าล่ะกัน รายละเอียดการทำวีซ่าขอข้ามนะครับ คนรีวิวเยอะมากแล้ว  


วันแรกของการเดินทาง 11 เมษายา 2557

ออกเดินทางในเช้าวันที่ 11 ด้วยเที่ยวบิน FD251 เวลา 0715 ถึงย่างกุ้งโดยประมาณ 0800 ซึ่งเวลาที่นั่นจะช้ากว่าไทยครึ่งชั่วโมง ครั้งนี้ไม้ได้สั่งจองอาหารออนไลน์ล่วงหน้า เพราะคิดว่าชั่วโมงบินแค่หนึ่งชั่วโมงกับสิบห้านาที คงไม่หิวมากนักแต่พอพนักงานสาวสวยเข็นรถอาหารออกมาขาย ได้กลิ่นอาหารเท่านั้นแหละน้ำย่อยทำงาน เลยต้องได้ลิ้มลองกับเมนูใหม่ที่ทางแอร์เอเชียทำขึ้นมาจำหน่ายนั่นคือ  ข้าวต้มยำทะเลซึ่งเซตนี้จัดคู่มากับโค้กกระป๋อง  รดชาติถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว


ใช้เวลาซักพัก เครื่องก็ลงจอดที่สนามบินนานาชาติย่างกุ้ง ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และรับกระเป๋าเรียบร้อย ออกมาแลกเงินพร้อมหาแท็กซี่เพื่อไปยังโรงแรม ส่วนโรงแรมที่จองไว้คือ Clover hotel city center  เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ กลางใจเมือง ซึ่งไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวมากนัก จากสนามบินมาถ้ารถไม่ติดใช้เวลาเดินทางประมาณ 35 นาที ถึงโรงแรม  

เช็คอินโรงแรม และเก็บกระเป๋าเสร็จเรียบร้อยก็ถึงเวลาออกเที่ยวครับ ที่แรกที่เราจะไป คือ เจดีย์สุเล ซึ่งสามารถเดินจากโรงแรมไปได้ไม่ไกล

เจดีย์สุเล ตั้งอยู่บริเวณใจกลางของเมือง  ซึ่งมีรูปทรง เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม เก็บค่าเข้าชมสำหรับนักท่องเที่ยว $3 ราคาขึ้นมา จากเมื่อก่อนเก็บแค่ $2  ราคาค่อนค้างจะแพง สำหรับผมแล้ว ถือว่าเฉยๆ ไม่มีที่เดินเที่ยวมากนัก
ไม่รอช้าที่จะไปอีกสถานที่ ที่คนไทยนิยมไปมากที่สุด คงหนีไม่พ้น เจดีย์โบตะตาว

เป็นการสร้างเจดีย์แบบเขาวงกต ข้างในสีทองอร่ามทั้งหลัง  และเป็นที่ประดิษฐานของพระเกศาธาตุ

และในวัดนี้ยังมีพระพุทธรูปปางมารวิชัย สมัยพระเจ้ามินดง ประดิษฐานอยู่ ซึ่งชาวพม่าเองยกย่องว่าเป็นพระพุทธรูปที่สวยที่สุดในพม่า อีกทั้งพระพุทธรูปองค์นี้เคยประดิษฐานอยู่ที่พระราชวังมัณเลย์มาก่อน

ส่วนตลอดทางเข้าวัด จะมีร้านขายของสักการะอยู่เต็มข้างทาง ซึ่งเป็นตะกร้าประกอบด้วย มะพร้าว กล้วย ใบชนะ ดอกไม้ ผ้าคล้องคอ และร่มฉัตรกระดาษ เพื่อบูชาเทพที่คนไทยรู้จักกันดี นั่นคือเทพทันใจ

“เทพทันใจ”  หรือ “นัตโบโบยี ”เชื่อกันว่า หากมาขอพรที่องค์เทพ ก็จะสมปรารถนาแบบทันใจ

การสักการะ นั้นจะมีพ่อหมอช่วยทำพิธีให้ คร่าวๆคือ ให้ยกของที่จะถวายขึ้นสามครั้งแล้วนำธนบัตรสองใบที่ม้วนแล้วสอดในมือ จากนั้นเอาหน้าผากแตะไปที่นิ้วชี้ พร้อมอธิฐาน จากนั้นเดินอ้อมไปด้านหลังเพื่อเอาผ้าไปคล้องคอ คนทำพิธีจะดึงธนบัตรออกมาหนึ่งใบแล้วเด็ดใบชนะแนบในธนบัตรคืนให้เราเก็บไว้หนึ่งใบ

ศาลาฝั่งตรงข้ามของวัด จะมีเทพอีกองค์ คือ เมี๊ยะนานหย่วย ซึ่งเป็นนัตอีกองค์เชื่อกันว่า หากขอพรด้วยการกระซิบ ก็จะได้ดังสมหวัง คนไทยเลยเรียกติดปากว่า เทพกระซิบ นั่นเอง
และไฮไลท์สำคัญสำหรับย่างกุ้ง คงจะหนีไม่พ้น มหาเจดย์ชเวดากอง


1 ใน 5 มหาบูชาสถานของพม่า เก็บค่าเข้าชมสำหรับนักท่องเที่ยวคนละ 8,000 จ๊าด แนะนำให้มาเวลาประมาณบ่ายสามโมง เพราะจะได้สัมผัสบรรยากาศ ทั้งตอนกลางวันที่เจดีย์กระทบแสงแดด และรอชมบรรยากาศกลางคืน ตอนเจดีย์กระทบแสงไฟ

ในวันที่มาเที่ยวนั้น เหมือนจะเป็นวันที่มีการบวช ปอยส่างลอง คนก็จะมาที่วัดเยอะมาก เรียกว่าได้ตื่นตากับ บรรยากาศอันน่าเลื่อมใส
ชื่อสินค้า:   รีวิวเที่ยวพม่า ด้วยตัวเอง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่