ประวัติศาสตร์พม่าตอนที่ 6 พม่ายุคปัจจุบัน (ตอนจบ)

หลังการได้รับเอกราช พม่าเกิดการกบฏไปในทั่วประเทศทั้งกบฎคอมมิวนิสต์และกบฏเชื้อชาติต่างๆ หมายจะแบ่งแยกการปกครองกับพม่า ตัวอย่างเช่น กบฎธงแดง,กบฏธงขาว,สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง เป็นต้น

หลังจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนชนะสงครามกลางจีน ก็มีทหารก๊กมินตั๋ง นำโดยนายพลหลี่หมี่ ได้ยึดครองทางตอนเหนือของพม่าเป็นที่มั่นไว้ แต่ด้วยความที่ยุคนั้นพม่าได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา จึงยอมให้มีทหารจีน แต่ท้ายสุด พม่ากลับปฏิเสธที่จะติดต่อหรือทำสัญญาหรือขอความช่วยเหลือใดๆจากต่างชาติ และให้การยอมรับอิสราเอลกับสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นประเทศแรกๆของโลก

โดย 1958 เกิดการแบ่งแยกทางการเมือง 2 ฝ่ายของ AFPFL คือ ฝ่ายหนึ่งนำโดยตะขิ่นนูกับทิ่น อีกฝ่ายนำโดยบา ชเว กับ คเนียว เนียน ในที่สุดเมื่ออูนุขึ้นครองประเทศ กลับเชิญ "เนวิน" นายพลคนหนึ่งของพม่าช่วยปราบปรามคอมมิวนิสต์ในพม่าให้ แต่หลังจากนั้น 2 มีนาคม 1962 เนวินกลับทำรัฐประหารยึดอำนาจอูนุ จับอูนุและเจ้าฟ้าส่วยแต้กไปขังคุก

การประท้วงต้านอำนาจทหารครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 1962 โดยนักศึกษาในมหาวิทยาลัยย่างกุ้ง แน่นอนว่าต้องถูกทหารปราบปรามและฆ่าคนไปมากกว่า 100 คน และวันรุ่งขึ้น ทหารได้ระเบิดอาคารสมาคมนักศึกษาทิ้ง ช่วงเวลายุคเริ่มแรกของรัฐบาลทหารพม่าเต็มไปด้วยการประท้วงต่อต้านรัฐบาล การเจรจาของต่างชาติกับพม่า (ซึ่งแน่นอนว่าล้มเหลว) รวมไปถึงกบฏแบ่งแยกดินแดนซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ

เหตุการณ์ 8888 ได้ทำให้หลายประเทศพากันคว่ำบาตรรัฐบาลทหารพม่าและไม่ยอมรับสถานะหลายๆด้าน ทำให้พม่าเกิดความตกต่ำในการพัฒนาตนเอง จนกระทั่งเมื่อเกิดพายุไซโคลนนาร์กีส รัฐบาลทหารพม่าไม่ได้สนใจใดๆ แต่ยังคงยอมให้ต่างชาติให้การช่วยเหลือ

ปี 2005 รัฐบาลทหารพม่าได้ย้ายเมืองหลวงจากย่างกุ้งไปเนปีดอ เพื่อความสะดวกในการบริหารจัดการทางการเมือง

เมื่อตานฉ่วยสละตำแหน่งผู้นำ เต็งเส่งประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ส่งผลให้ระบอบประชาธิปไตยกลับมาอีกครั้ง และจัดการเลือกตั้งใหม่ขึ้น เป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของพม่า

การประท้วงในปี 2007

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่