สอบถามเรื่อง โรคตาขี้เกียจ ค่ะ

กระทู้คำถาม
ตอนนี้ จขกท. อายุ 18 ปี แล้วโรคนี้เห็นว่ารักษาได้ทันก็ตอนอายุ 9 ปีใช่มั้ยคะ
ทีนี้มันไม่ทันแล้วอ่า หลังจากนั้นมันก็จะมัวๆ ไปตลอดชีวิต (ทำไมจขกท. ยิ่งโตยิ่งเบลอ)
เห็นบางคนบ้างก็ว่าถ้าไม่ทำอะไรเลย ตาที่ไม่ได้ใช้งานอาจจะเข หรือเหล่
บางก็ว่าอาจจะถึงขั้นตาบอดเลยก็ได้ (จริงป่าวเนี่ยยย..??)

ก็เลยอยากจะทราบว่าควรจะทำยังไงดีคะ? ใส่แว่นดีมั้ย? หรือปรึกษาคุณหมอ..จักษุแพทย์โดยตรงเลยดีกว่า?
แล้วใครเป็นบ้างอะค่ะ ช่วยแนะนำหน่อยนา..ว่าควรทำยังไงดี

เม่าเหม่อเม่าเหม่อเม่าเหม่อ

ปล. เพิ่งตั้งกระทู้ครั้งแรกค่ะ แท็กห้องผิดก็ขอออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาช่วยแนะนำ และแสดงความคิดเห็นล่วงหน้า ขอบคุณค่ะ ^^
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ต้องแน่ใจก่อนนะครับว่ามีภาวะตาขี้เกียจจริงๆ

คำนิยามของตาขี้เกียจคือ    การมองเห็นของตาสองข้างเมื่อแก้ไขด้วยวิธีต่างๆจนเต็มที่แล้ว  เมื่ออ่านแผ่น Snellen chart (ป้ายตัวเลขที่เขาให้อ่านเป็นแถวๆนั่นแหละครับ) แล้ว    ตาข้างใดข้างหนึ่งอ่านได้น้อยกว่าตาอีกข้างหนึ่ง 2 แถวขึ้นไป


โดยทั่วไปถ้าไม่ได้รักษาตั้งแต่ก่อนอายุ 6 ปี (อนุโลมให้ถึง 9 ปี)  ก็จะไม้ได้ผล    แต่ไม่ได้ทำให้ตาบอด     เพียงแต่ไม่ว่าจะแก้ด้วยวิธีไหน  แว่นตา คอนแทคเลนส์ ผ่าตัด เลเซอร์ก็ไม่สามารถทำให้ตาข้างนั้นกลับมาเห็นได้ 100% เหมือนตาปกติ

ที่ว่ามัวมากขึ้นอาจเป็นเพราะสายตาเพิ่มขึ้น หรือมีโรคอื่นที่ทำให้การมองเห็นแย่ลง (ซึ่งก็ต้องตรวจก่อน)      หากจะตาบอดจริงๆ มันจะไม่ได้บอดจากตาขี้เกียจ     แต่จะบอดจากสาเหตุอื่นๆมากกว่า    เช่นตาข้างที่เป็นตาขี้เกียจมีสายตาสั้นมาก  ซึ่งจะเสี่ยงต่อภาวะจอประสาทตาหลุดลอกจนเป็นสาเหตุทำให้ตาบอดได้  เนื่องจากในคนที่สายตาสั้นมากๆ จะมีกระบอกตาที่ยาวกว่าปกติ  จอประสาทตาจะถูกดึงยืด ทำให้มีความบางกว่าปกติ    เกิดภาวะฉีกขาดได้ง่าย

นอกนั้นก็ขึ้นกับโรคที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดตาขี้เกียจครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่