จากที่เคยตั้งกระทู้ลองปลูกต้นอ่อนทานตะวันไปเมื่อครั้งที่แล้ว
http://ppantip.com/topic/31910202
รอบนี้เป็นรอบที่ 3 ที่ได้ทดลองปลูก รอบที่ 2 ไม่ประสบผลสำเร็จด้วยเหตุปัจจัยส่วนตัวของเราเอง และผลการทดลองปลูกต้นอ่อนแบบไม่ใช้ดินก็ล้มเหลว
เนื่องจากรอบที่ 2 เราต้องฝากต้นอ่อนให้เพื่อนดูแล เธอจึงยกไปบ้านของเธอทั้งลัง ทำให้พอเราแช่เมล็ดรอบที่ 3 ได้ที่ กวาดตาไปรอบบ้านก็ไม่พบภาชนะที่น่าพอใจ กระจาดพลาสติกที่มีก็เล็กเกินไป เราไม่อยากจะแยกปลูกหลายๆกระจาด ... พลันสายตาเหลือบไปเห็นกล่องกระดาษลูกฟูกที่เราเตรียมเอาไว้ให้น้องส้ม (แมวจรที่มากินข้าวบ้านเราทุกวัน ... บอกทำไม?) ที่เราคิดว่าเธอท้อง แต่เธอดันไม่ท้อง ทำให้กล่องกระดาษของเราเป็นหมัน ... เล็งจากขนาดแล้วเหมาะมาก แต่กล่องเดียวคงไม่พอ ไปค้นในห้องเก็บของได้มาอีก 1 กล่อง ... น่าจะเวิร์กแหละ
การเตรียมดินก็อย่างที่เคยปลูกในตอนแรก แต่รอบนี้เราร่อนดินและขุยมะพร้าวเสียก่อน ทำให้ดินออกมาร่วนสวยงาม (เพื่ออะไรไม่รู้ แต่ดูแล้วสบายตา
)
ร่อนดินลงกล่อง เกลี่ยให้เรียบเนียน รดน้ำด้วยฝักบัว แล้วโรยเมล็ดที่ผ่านการแช่ครึ่งวัน เทน้ำออก แล้วโปะด้วยผ้าเปียกอีกครึ่งวัน (แช่เช้าโปะเย็นปลูกเช้า / แช่เย็นโปะเช้าปลูกเย็น) ... การแช่อยู่ในกระทู้แรก
เมื่อโรยเมล็ดบนดินเปียกเรียบร้อย ให้รดน้ำด้วยฝักบัวอีกรอบเพื่อให้เมล็ดจมลงดินเล็กน้อย จากนั้นก็ปิดฝากล่อง ... ข้อดีของกล่องคือมีฝาปิดในตัวเพื่อการพรางแสงในช่วง 3 วันแรก
เปิดรดน้ำด้วยกระบอกฉีดน้ำ (ฟ็อกกี้) เช้า-เย็น หรือวันละ 3 รอบก็ได้ ช่วงแรกต้องให้น้ำวิธีเบาๆ เพื่อไม่ให้รากลอยจากดิน ข้อดีของกล่องกระดาษคือจะซับน้ำ ทำให้ดินชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา ทำให้ต้นอ่อนไม่ขาดน้ำ
พอวันที่ 4 ก็เปิดฝากล่องแล้วนำมาวางในที่มีแสงแดดรำไร จากวันนี้เปลี่ยนวิธีรดน้ำเป็นฝักบัวได้แล้ว เพราะรากเกาะยึดแน่นหนา น้ำแรงก็ไม่ทำให้รากลอย
เราตั้งใจว่าวันที่ 7 (นับจากวันลงดิน) ถึงจะเก็บเกี่ยวผลผลิต แต่พอถึงวันที่ 5 ต้นอ่อนก็งามจนต้องตัดสินใจตัดกันวันนี้เลย
ผลผลิตรอบนี้เป็นที่น่าพอใจมากสำหรับมือใหม่หัดงอกอย่างเรา นี่คือต้นอ่อนที่เราสุ่มดึงขึ้นมาตัด ทั้งใหญ่ทั้งยาว ทั้งขาวทั้งอวบ
ด้านซ้ายคือขนาดโดยเฉลี่ยของทั้งหมดค่ะ
สรุปผลการปลูกทานตะวันงอกในกล่องลังกระดาษ
1. เราว่ากลองอุ้มน้ำทำให้ดินชุ่มชื้นตลอดเวลา แต่ก็ไม่เฉอะแฉะจนเกินไป เพราะกระดาษระบายน้ำได้
2. การให้น้ำด้วยฝักบัวในวันหลังๆ ทำให้ต้นอ่อนได้น้ำเต็มที่
3. ดินถุงและขุยมะพร้าวยังทำหน้าที่ได้ดี
4. ข้อเสียของภาชนะคือ ใช้ได้อย่างมากที่สุดก็คงปลูกได้สัก 2 รอบเท่านั้น แต่ก็ยังดีกว่าทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ค่ะ
เราว่าเหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากจะลองงอก แล้วไม่มีกระจาดกระบุง ลองหยิบกล่องกระดาษใช้แล้วมาปลูกได้ค่ะ
แถมท้ายด้วยเมนูง่ายๆค่ะ
เราชอบทานซุปไก่ แต่วันนี้ไม่มีไก่ เราใช้ไข่แทน (อีกหน่อยก็เป็นไก่แหละน่า) ส่วนประกอบง่ายๆค่ะ ปรุงรสด้วยเกลือเท่านั้น แต่ถ้าใครอยากได้รสอูมาหมิก็โยนซุปก้อนลงไปสักก้อน แค่นี้ก็อร่อยและมากด้วยคุณค่าทางโภชนาการแล้วค่ะ ... ต้นอ่อนทานตะวันรุ่นนี้เป็นรุ่นเก็บตกที่โตไม่ทันเพื่อนแล้วตกค้างอยู่ในดิน เราก็รดน้ำไปเรื่อยๆทุกวัน ก็พอได้เก็บมาทานได้อีกรอบค่ะ ส่วนมะเขือเทศที่กระจุ๋มกระจิ๋มนั่นก็ฝีมือเราปลูกเอง
ซุปพรีไก่ (ไข่) ซดร้อนๆสบายท้องดีจัง
ส่วนนี่เป็นเมนูกลางวัน ... ขนมจีนน้ำยาป่าร้านหน้าหมู่บ้าน แม่ค้ามีผักเคียงมาให้ เราก็ไปตัดทานตะวันอ่อนมาแนมด้วย เป็นการทานแบบสดๆครั้งแรก ไม่เหม็นเขียวเลยค่ะ รสชาติและกลิ่นดีมากๆ
ขอบคุณที่แวะมาชมนะคะ
แก้ไขเพิ่มเติม ...
วันนี้เราซื้อเมล็ดพันธุ์ลายๆและขนาดใหญ่มาลองค่ะ กิโลละ 75 บาท (ส่วนเมล็ดสีดำราคาขึ้นเป็น 55 บาทแล้ว) เมล็ดใหญ่กว่าแบบสีดำเท่าตัว และเราก็ได้เคล็ดลับมาเพิ่มเติมว่าหลังจากแช่เมล็ดแล้ว 1 คืน ให้เทน้ำออกแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นสัก 1-2 วัน แล้วนำออกมาแช่ให้คลายความเย็นค่อยปลูกลงดิน จะทำให้เมล็ดงอกอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและได้ต้นที่โตเสมอกัน ... ขอบคุณเคล็ดลับดีๆที่เราได้จากอินเตอร์เน็ตค่ะ
แก้ไขเพิ่มเติม ...
เราอาจมีการเพิ่มเติมเรื่อยๆ เพราะดูเหมือนกระทู้นี้จะมีคนเข้ามาชมเรื่อยๆ ถ้าเรามีอะไรใหม่ๆมาแชร์ เราก็จะมาอัพเดตนะคะ
เราลองปลูกเมล็ดพันธุ์ลายขนาดใหญ่ดูแล้ว เปอร์เซ็นต์การงอกต่ำ แต่ลำต้นอวบ ยาว ใบใหญ่มาก ส่วนกลิ่นและรสชาติไม่แตกต่างค่ะ ใครชอบขนาดบิ๊กไซส์ก็ลองได้นะคะ
นี่คือขนาดที่แตกต่างกันค่ะ ส่วนต้นอ่อนที่ได้ก็โตเป็น 2 เท่าอย่างเมล็ดนี่แหละค่ะ
ส่วนนี่คือรอบปัจจุบัน (11 พ.ค. 57) ต้นอ่อนอายุ 4 วัน เพิ่งนำออกมารับแสงค่ะ (หากล่องลังกระดาษไม่ได้แล้ว จึงต้องถอยตะกร้าพลาสติกมาปลูกค่ะ)
และการนำไปแช่ตู้เย็นสำหรับเรานั้น เราว่าได้ผลเท่าเดิม เราจึงตัดขั้นตอนนี้ไปค่ะ
ทานตะวันงอกในกล่องลังกระดาษ
http://ppantip.com/topic/31910202
รอบนี้เป็นรอบที่ 3 ที่ได้ทดลองปลูก รอบที่ 2 ไม่ประสบผลสำเร็จด้วยเหตุปัจจัยส่วนตัวของเราเอง และผลการทดลองปลูกต้นอ่อนแบบไม่ใช้ดินก็ล้มเหลว
เนื่องจากรอบที่ 2 เราต้องฝากต้นอ่อนให้เพื่อนดูแล เธอจึงยกไปบ้านของเธอทั้งลัง ทำให้พอเราแช่เมล็ดรอบที่ 3 ได้ที่ กวาดตาไปรอบบ้านก็ไม่พบภาชนะที่น่าพอใจ กระจาดพลาสติกที่มีก็เล็กเกินไป เราไม่อยากจะแยกปลูกหลายๆกระจาด ... พลันสายตาเหลือบไปเห็นกล่องกระดาษลูกฟูกที่เราเตรียมเอาไว้ให้น้องส้ม (แมวจรที่มากินข้าวบ้านเราทุกวัน ... บอกทำไม?) ที่เราคิดว่าเธอท้อง แต่เธอดันไม่ท้อง ทำให้กล่องกระดาษของเราเป็นหมัน ... เล็งจากขนาดแล้วเหมาะมาก แต่กล่องเดียวคงไม่พอ ไปค้นในห้องเก็บของได้มาอีก 1 กล่อง ... น่าจะเวิร์กแหละ
การเตรียมดินก็อย่างที่เคยปลูกในตอนแรก แต่รอบนี้เราร่อนดินและขุยมะพร้าวเสียก่อน ทำให้ดินออกมาร่วนสวยงาม (เพื่ออะไรไม่รู้ แต่ดูแล้วสบายตา
ร่อนดินลงกล่อง เกลี่ยให้เรียบเนียน รดน้ำด้วยฝักบัว แล้วโรยเมล็ดที่ผ่านการแช่ครึ่งวัน เทน้ำออก แล้วโปะด้วยผ้าเปียกอีกครึ่งวัน (แช่เช้าโปะเย็นปลูกเช้า / แช่เย็นโปะเช้าปลูกเย็น) ... การแช่อยู่ในกระทู้แรก
เมื่อโรยเมล็ดบนดินเปียกเรียบร้อย ให้รดน้ำด้วยฝักบัวอีกรอบเพื่อให้เมล็ดจมลงดินเล็กน้อย จากนั้นก็ปิดฝากล่อง ... ข้อดีของกล่องคือมีฝาปิดในตัวเพื่อการพรางแสงในช่วง 3 วันแรก
เปิดรดน้ำด้วยกระบอกฉีดน้ำ (ฟ็อกกี้) เช้า-เย็น หรือวันละ 3 รอบก็ได้ ช่วงแรกต้องให้น้ำวิธีเบาๆ เพื่อไม่ให้รากลอยจากดิน ข้อดีของกล่องกระดาษคือจะซับน้ำ ทำให้ดินชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา ทำให้ต้นอ่อนไม่ขาดน้ำ
พอวันที่ 4 ก็เปิดฝากล่องแล้วนำมาวางในที่มีแสงแดดรำไร จากวันนี้เปลี่ยนวิธีรดน้ำเป็นฝักบัวได้แล้ว เพราะรากเกาะยึดแน่นหนา น้ำแรงก็ไม่ทำให้รากลอย
เราตั้งใจว่าวันที่ 7 (นับจากวันลงดิน) ถึงจะเก็บเกี่ยวผลผลิต แต่พอถึงวันที่ 5 ต้นอ่อนก็งามจนต้องตัดสินใจตัดกันวันนี้เลย
ผลผลิตรอบนี้เป็นที่น่าพอใจมากสำหรับมือใหม่หัดงอกอย่างเรา นี่คือต้นอ่อนที่เราสุ่มดึงขึ้นมาตัด ทั้งใหญ่ทั้งยาว ทั้งขาวทั้งอวบ
สรุปผลการปลูกทานตะวันงอกในกล่องลังกระดาษ
1. เราว่ากลองอุ้มน้ำทำให้ดินชุ่มชื้นตลอดเวลา แต่ก็ไม่เฉอะแฉะจนเกินไป เพราะกระดาษระบายน้ำได้
2. การให้น้ำด้วยฝักบัวในวันหลังๆ ทำให้ต้นอ่อนได้น้ำเต็มที่
3. ดินถุงและขุยมะพร้าวยังทำหน้าที่ได้ดี
4. ข้อเสียของภาชนะคือ ใช้ได้อย่างมากที่สุดก็คงปลูกได้สัก 2 รอบเท่านั้น แต่ก็ยังดีกว่าทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ค่ะ
เราว่าเหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากจะลองงอก แล้วไม่มีกระจาดกระบุง ลองหยิบกล่องกระดาษใช้แล้วมาปลูกได้ค่ะ
แถมท้ายด้วยเมนูง่ายๆค่ะ
เราชอบทานซุปไก่ แต่วันนี้ไม่มีไก่ เราใช้ไข่แทน (อีกหน่อยก็เป็นไก่แหละน่า) ส่วนประกอบง่ายๆค่ะ ปรุงรสด้วยเกลือเท่านั้น แต่ถ้าใครอยากได้รสอูมาหมิก็โยนซุปก้อนลงไปสักก้อน แค่นี้ก็อร่อยและมากด้วยคุณค่าทางโภชนาการแล้วค่ะ ... ต้นอ่อนทานตะวันรุ่นนี้เป็นรุ่นเก็บตกที่โตไม่ทันเพื่อนแล้วตกค้างอยู่ในดิน เราก็รดน้ำไปเรื่อยๆทุกวัน ก็พอได้เก็บมาทานได้อีกรอบค่ะ ส่วนมะเขือเทศที่กระจุ๋มกระจิ๋มนั่นก็ฝีมือเราปลูกเอง
ซุปพรีไก่ (ไข่) ซดร้อนๆสบายท้องดีจัง
ส่วนนี่เป็นเมนูกลางวัน ... ขนมจีนน้ำยาป่าร้านหน้าหมู่บ้าน แม่ค้ามีผักเคียงมาให้ เราก็ไปตัดทานตะวันอ่อนมาแนมด้วย เป็นการทานแบบสดๆครั้งแรก ไม่เหม็นเขียวเลยค่ะ รสชาติและกลิ่นดีมากๆ
ขอบคุณที่แวะมาชมนะคะ
แก้ไขเพิ่มเติม ...
วันนี้เราซื้อเมล็ดพันธุ์ลายๆและขนาดใหญ่มาลองค่ะ กิโลละ 75 บาท (ส่วนเมล็ดสีดำราคาขึ้นเป็น 55 บาทแล้ว) เมล็ดใหญ่กว่าแบบสีดำเท่าตัว และเราก็ได้เคล็ดลับมาเพิ่มเติมว่าหลังจากแช่เมล็ดแล้ว 1 คืน ให้เทน้ำออกแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นสัก 1-2 วัน แล้วนำออกมาแช่ให้คลายความเย็นค่อยปลูกลงดิน จะทำให้เมล็ดงอกอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและได้ต้นที่โตเสมอกัน ... ขอบคุณเคล็ดลับดีๆที่เราได้จากอินเตอร์เน็ตค่ะ
แก้ไขเพิ่มเติม ...
เราอาจมีการเพิ่มเติมเรื่อยๆ เพราะดูเหมือนกระทู้นี้จะมีคนเข้ามาชมเรื่อยๆ ถ้าเรามีอะไรใหม่ๆมาแชร์ เราก็จะมาอัพเดตนะคะ
เราลองปลูกเมล็ดพันธุ์ลายขนาดใหญ่ดูแล้ว เปอร์เซ็นต์การงอกต่ำ แต่ลำต้นอวบ ยาว ใบใหญ่มาก ส่วนกลิ่นและรสชาติไม่แตกต่างค่ะ ใครชอบขนาดบิ๊กไซส์ก็ลองได้นะคะ
นี่คือขนาดที่แตกต่างกันค่ะ ส่วนต้นอ่อนที่ได้ก็โตเป็น 2 เท่าอย่างเมล็ดนี่แหละค่ะ
ส่วนนี่คือรอบปัจจุบัน (11 พ.ค. 57) ต้นอ่อนอายุ 4 วัน เพิ่งนำออกมารับแสงค่ะ (หากล่องลังกระดาษไม่ได้แล้ว จึงต้องถอยตะกร้าพลาสติกมาปลูกค่ะ)
และการนำไปแช่ตู้เย็นสำหรับเรานั้น เราว่าได้ผลเท่าเดิม เราจึงตัดขั้นตอนนี้ไปค่ะ