ตั้งแต่เปิดตลาดเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2557 มีหุ้นน้องใหม่เข้ามาคือ ICHI เปิดราคา IPO ที่ 13 บาท เปิดตลาดหลักทรัพย์ราคาพุ่งไปที่ 16.40 คิดว่าจะมีคนพาลากหุ้นตัวนี้กันไปถึงที่เท่าไหร่ ในใจเราคิดว่าตอนแรกคงลากสัก 17-18 แล้วก็ลงกลับมาที่ 16 หรืออาจจะต่ำกว่า แต่มันอาจจะ ไม่ใชแบบนั้นแล้วก็เป็นได้ เนื่องจาก
ข้อดีของหุ้นตัวนี้
1. มี "ตัน" เป็นคนผลักดันแบรนด์นี้ด้วยความเก่งกาจ และสุดยอดความเป็นผู้นำวิธีการทางด้านการตลาดของเขาจากการดัน "โออิชิ" เข้าตลาดหลักทรัพย์มาแล้ว และสามารถดัน อิชิตัน เข้าตลาดได้ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปี
2. งบการเงินของบริษัทนี้ดูแล้วอยู่ในขั้นน่าลงทุน
3. นโยบายของการระดมทุนครั้งนี้คือ การเพิ่มพลังในการผลิต และ จ่ายหนี้สินที่คงเหลืออยู่
นี่คือข้อดีคร่าวๆ หลักๆ ที่เห็นๆกันอยู่ผมมองว่าหุ้นตัวนี้ดี สวย เก่ง ตรงสเปคใจของใครหลายๆคน แต่ผมว่ามันยังไม่น่าจะใช่หุ้นที่จะถูกเรียกว่า "บลูชิพ" ได้นะ เพราะอะไรนะหรอ..... ? เราไปดูข้อเสียกันดีกว่า
1. บริษัทนี้ดำเนินธุรกิจชาเขียว ซึ่งตลาดชาเขียวตอนนี้จะเรียกว่าอิ่มตัวแล้วหรือเปล่าก็ยังไม่แน่ใจ แต่ถ้าเทียบกับคู่แข่งถึงแม้ว่าจะมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่อย่างน้อยก็ไม่ใช่ อิชิตัน เจ้าเดียวในตลาดไทยสักหน่อย ที่ผลิตชาเขียวพร้อมดื่ม ยังไงเสียก็ต้องมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ดี
2. อย่ามองว่าอิชิตันแซงหน้าโออิชิได้แล้ว อิชิตันจะเป็นที่หนึ่งในเรื่องชาเขียว (ถ้าคุณยังไม่เคยศึกษาโออิชิอย่างแท้จริง!! เพราะเท่าที่ผมได้ศึกษามาตลาดโออิชิก็ไม่ใช่ ขี้ๆ นะครับ การันตีภายใต้ชื่อ "ไทยเบฟ")
3. บริษัทนี้ถูกสร้างแบรนด์ขึ้นด้วยตัวเองนั่นคือ "ตัน ภาสกร" แล้วจะเกิดอะไรขึ้นหากวันนึงไม่มีคนที่ชื่อ "ตัน" อยู่ในบริษัท
4. อย่ามองที่ยอดขายที่ได้สูงเพียงอย่างเดียว เพราะคนที่ซื้อกินส่วนใหญ่(และผมคิดว่าอย่างงั้น) กินเพื่อ Campaign กินเพื่อเอาเงิน 1 ล้าน กินเพื่อปอเช่ ไม่ใช่กินเพื่อสุขภาพแน่นอน ที่ผมรู้เพราะมีคนรู้จักคนหนึ่งถึงขนาดซื้อมากินกันเป็นลังๆ กันเลยทีเดียว เพียงเพราะเงิน 1 ล้าน ซึ่งมันทำให้ยอดขายลวงตานี้มันเพิ่มขึ้นเยอะเลยนะครับ แต่พวกเราไม่เคยมองว่าการอัดแคมเปญแบบนี้บริษัทต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่สำหรับการผลักดันยอดขาย มันก็เหมือนกับค่ายรถยนต์ที่สามารถขายรถได้เยอะขึ้นภายใต้นโยบาย "รถคันแรก" ที่คนแห่กันมาซื้อโดยที่ไม่ได้เลือกอะไรเลย ขอแค่ได้เงินภาษีคืนก็เท่านั้น
**สรุป**
หุ้นอิชิตันเป้นหุ้นที่น่าเล่น น่าลงทุน น่าเข้ามาจับ เข้ามาจอง แต่เล่นในระยะกลางเท่านั้นยังไม่ถึงขั้นที่จะอยู่เป็นหุ้นบลูชิพได้ อันนี้เป็นเพียงแค่การประเมิณคร่าวๆ ส่วนบุคคลเท่านั้นก็อย่างที่บอก ถ้าคุณตันอยู่คู่กับบริษัทนี้ตลอดไปอีก 10 20 30 ปี หุ้นนี้อาจจะกลายเป็นบลูชิพก็ได้ ..... ซึ่งมันคงเป็นไปไม่ได้
หากท่านใดที่มีมุมมองที่แปลกแหวกแนวมากกว่านี้รบกวนนำเสนอ หรือแย้งด้วยครับ เผื่อว่า จขกท. จะได้มองมุมอื่นบ้างเพราะตอนนี้มองได้แค่นี้จริงๆ
[Update] แก้ไขเนื้อหาบางส่วน ให้ถูกต้องและอ่านง่ายขึ้น
มาวิเคราะห์ อิชิตัน ที่กำลังร้อนแรงกันดีกว่า
ข้อดีของหุ้นตัวนี้
1. มี "ตัน" เป็นคนผลักดันแบรนด์นี้ด้วยความเก่งกาจ และสุดยอดความเป็นผู้นำวิธีการทางด้านการตลาดของเขาจากการดัน "โออิชิ" เข้าตลาดหลักทรัพย์มาแล้ว และสามารถดัน อิชิตัน เข้าตลาดได้ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปี
2. งบการเงินของบริษัทนี้ดูแล้วอยู่ในขั้นน่าลงทุน
3. นโยบายของการระดมทุนครั้งนี้คือ การเพิ่มพลังในการผลิต และ จ่ายหนี้สินที่คงเหลืออยู่
นี่คือข้อดีคร่าวๆ หลักๆ ที่เห็นๆกันอยู่ผมมองว่าหุ้นตัวนี้ดี สวย เก่ง ตรงสเปคใจของใครหลายๆคน แต่ผมว่ามันยังไม่น่าจะใช่หุ้นที่จะถูกเรียกว่า "บลูชิพ" ได้นะ เพราะอะไรนะหรอ..... ? เราไปดูข้อเสียกันดีกว่า
1. บริษัทนี้ดำเนินธุรกิจชาเขียว ซึ่งตลาดชาเขียวตอนนี้จะเรียกว่าอิ่มตัวแล้วหรือเปล่าก็ยังไม่แน่ใจ แต่ถ้าเทียบกับคู่แข่งถึงแม้ว่าจะมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่อย่างน้อยก็ไม่ใช่ อิชิตัน เจ้าเดียวในตลาดไทยสักหน่อย ที่ผลิตชาเขียวพร้อมดื่ม ยังไงเสียก็ต้องมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ดี
2. อย่ามองว่าอิชิตันแซงหน้าโออิชิได้แล้ว อิชิตันจะเป็นที่หนึ่งในเรื่องชาเขียว (ถ้าคุณยังไม่เคยศึกษาโออิชิอย่างแท้จริง!! เพราะเท่าที่ผมได้ศึกษามาตลาดโออิชิก็ไม่ใช่ ขี้ๆ นะครับ การันตีภายใต้ชื่อ "ไทยเบฟ")
3. บริษัทนี้ถูกสร้างแบรนด์ขึ้นด้วยตัวเองนั่นคือ "ตัน ภาสกร" แล้วจะเกิดอะไรขึ้นหากวันนึงไม่มีคนที่ชื่อ "ตัน" อยู่ในบริษัท
4. อย่ามองที่ยอดขายที่ได้สูงเพียงอย่างเดียว เพราะคนที่ซื้อกินส่วนใหญ่(และผมคิดว่าอย่างงั้น) กินเพื่อ Campaign กินเพื่อเอาเงิน 1 ล้าน กินเพื่อปอเช่ ไม่ใช่กินเพื่อสุขภาพแน่นอน ที่ผมรู้เพราะมีคนรู้จักคนหนึ่งถึงขนาดซื้อมากินกันเป็นลังๆ กันเลยทีเดียว เพียงเพราะเงิน 1 ล้าน ซึ่งมันทำให้ยอดขายลวงตานี้มันเพิ่มขึ้นเยอะเลยนะครับ แต่พวกเราไม่เคยมองว่าการอัดแคมเปญแบบนี้บริษัทต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่สำหรับการผลักดันยอดขาย มันก็เหมือนกับค่ายรถยนต์ที่สามารถขายรถได้เยอะขึ้นภายใต้นโยบาย "รถคันแรก" ที่คนแห่กันมาซื้อโดยที่ไม่ได้เลือกอะไรเลย ขอแค่ได้เงินภาษีคืนก็เท่านั้น
**สรุป**
หุ้นอิชิตันเป้นหุ้นที่น่าเล่น น่าลงทุน น่าเข้ามาจับ เข้ามาจอง แต่เล่นในระยะกลางเท่านั้นยังไม่ถึงขั้นที่จะอยู่เป็นหุ้นบลูชิพได้ อันนี้เป็นเพียงแค่การประเมิณคร่าวๆ ส่วนบุคคลเท่านั้นก็อย่างที่บอก ถ้าคุณตันอยู่คู่กับบริษัทนี้ตลอดไปอีก 10 20 30 ปี หุ้นนี้อาจจะกลายเป็นบลูชิพก็ได้ ..... ซึ่งมันคงเป็นไปไม่ได้
หากท่านใดที่มีมุมมองที่แปลกแหวกแนวมากกว่านี้รบกวนนำเสนอ หรือแย้งด้วยครับ เผื่อว่า จขกท. จะได้มองมุมอื่นบ้างเพราะตอนนี้มองได้แค่นี้จริงๆ
[Update] แก้ไขเนื้อหาบางส่วน ให้ถูกต้องและอ่านง่ายขึ้น