บวชพระ พอเรียนจบสึกออกมา พร้อมเงินกับหวานใจ โอกาสทางธรรม หรือโอกาสทางโลก ?

กระทู้สนทนา
ผมมีเพื่อนคนหนึ่งบ้านฐานนะปานกลางค่อนไปทางยากจน มีลูกชายสองคนพออายุได้ประมาณ 9-10 ขวบ บวชเณรทั้งคู่ ทั้งพี่ทั้งน้อง

จากนั้นก็ศึกษาเล่าเรียนทางธรรม และเรียนวิชาทางโลกจากโรงเรียนของสงฆ์มาตลอด เป็นเณรเรียนเก่ง รูปร่างหน้าตาดี มีความรู้ทั้งคู่

ต่อมาก็บวชเป็นพระต่อ เรียนที่ มหาวิทยาลัยสงฆ์ และรับกิจนิมนต์ มีรายได้จากทางพระ เหลือดำรงชีพ ทางสงฆ์ก็มาจุนเจือที่บ้านโยมพ่อโยมแม่ จนสร้างบ้านใหม่หลังพอประมาณได้สำเร็จ

จากนั้นก็มีข่าวว่ามีหญิงสาวสองคน มารักใคร่ชอบพอ พระพี่น้องคู่นี้ ในหลายๆ ครั้งผมเห็นพระกับผู้หญิงไปไหนมาไหนกันบ้างแบบเป็นหมู่คณะเช่น ยกกันไปทำอาหาร ถวายในป่าเวลาพระธุดงค์
หรือ นำอาหารไปถวายที่วัด จนเป็นที่รู้กันว่าหญิงสาวสองคนนี้ เป็นแฟนพระ รักใคร่ชอบพอพระสองรูปนี้

ผมเคยมีโอกาสคุยกับพระ ได้คำตอบว่า "ไปไหน มาไหนด้วยกันได้ แต่ก็ต้องสำรวม เรามาบวชเรียนคือบวชเพื่อเรียน เพราะโยมพ่อโยมแม่ยากจน ส่วนเรื่องหัวใจกับความรักก็อีกเรื่องหนึง"

จากนั้นพระสองรูปนี้ก็เล่าเรียนจนสำเร็จ ปริญญาตรี เกรดสูง ได้ปริญญาเสมือนคนทางโลกอย่างผม ที่ต้องทำงานพาร์ทไทม์ส่งตัวเองเรียน กู้ กยศ เรียน หนังสือได้อ่านบ้างไม่ได้อ่านบ้างเนื่องจากเหน็ดเหนื่อยกับปัญหาทางบ้าง หรือเรื่องงาน แถมพระสองรูปขยันรับกิจนิมนต์มากขึ้นมีชื่อเสียงในตำบล และหลังจากเวลาว่างจะเห็นพระอ่านหนังสือเตรียมสอบข้าราชการ

ไม่นานพอเรียนจบพระสองรูปนี้ที่เป็นเพื่อนวัยเดียวกับผมก็สึก พร้อมเงินก้อนจำนวนหนึ่งนำไปสู่ขอแต่งงาน ผู้หญิงที่ตนเองสนิทชิดเชื้อสมัยเป็นบวชเป็นพระ

แต่งกันไปไม่นาน 1 ปีซื้อบ้านหลังละล้านกว่าบาทอยู่ด้วยกัน(เงินสด) จากนั้นเพื่อนผมที่ึสึกออกมาก็ไปทำงานเอกชนอยู่อีกปีเศษ สอบได้ข้าราชการนักวิชาการทางรัฐศาสตร์  อีกคนสอบได้ข้าราชครูแถวสุโขทัย

จากนั้น เขาทั้งสองคนก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ปราศจากหนี้สินและหน้าที่การงานที่ดี

......................
ผมจึงเกิดข้องสัยว่า การบวชพระเพื่อเรียน มีประโยชน์และข้อดีกว่าเรียนในระบบด้วย ภาวะทุนนิยมที่แสนยากลำบากหรือไม่
เพื่อนผมที่เป็นอดีตพระ ใช้ช่องทางธรรมะเพื่อหาประโยชน์ให้ตนเอง เป็นการควรหรือไม่ แล้วแบบนี้เรียกว่าเบียดเบียนหรือเปล่า ...
ส่วน นศ. ทางโลกก็ลำบากหาเงินเรียนต่อไป เรียนจบก็ทำงานหาเงินส่งบ้าน กู้เงินแต่งงานต่อไป จะสอบราชการแต่ละทีก็ต้องลางานมานั่งอ่านหนังสือ ลางานไปสอบ มีค่าใช้จ่ายเสมอ

..... ผมจึงเกิดคำถามสั้นๆ ว่า "ทางธรรม ยุติธรรม หรือไม่"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่