พักนี้ มีเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับศาสนาพุทธมากมาย ทั้งเรื่อง เณรคำ ระเบิดที่ พุทธคยา
และเรื่องเกี่ยวกับพระสงฆ์อีกหลายเรื่อง ดูคล้ายกับว่า จะมาถึงยุคสิ้นสุดของศาสนาพุทธ
ความจริงเราก็นับถือศาสนาพุทธ เคยบวชที่วัดสระเกศ โดยสมเด็จ เกี่ยว เป็นพระอุปัชฌาชย์
แต่ระยะ 10 ปีหลัง เราเลิกทำบุญให้กับวัดโดยเด็ดขาด ถ้าใครมาเเจกซองผ้าป่า หรือซองกฐิน
โดยเฉพาะพวกแบงค์ที่เราใช้บริการ (มีบัญชีหลายแบงค์) ถ้าขืนมาแจกซอง รับรองโดนด่ากระเจิง
อ่านเนื้อข่าวไทยรัฐวันนี้แล้วติดใจตรงที่ นางที่ทำเงินหาย แสนกว่าบาท และบอกว่าเป็นเงินของ
สงฆ์ หนำซ้ำยังบอกว่า หายมาหลายครั้ง ประเด็นอยู่ที่ว่า เงินของวัดทำไมมาอยู่ที่ผู้หญิง และเป็น
เงินส่วนไหนของวัด และที่บอกว่าหายหลายครั้งแล้วไม่ได้คืน ใช่เงินของวัดหรือไม่ ?
ปัจจุบันต้องยอมรับว่าศาสนาที่รักของพวกเราเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว โดยมีปัจจัยต่างๆดังนี้
1 ตัวพระสงฆ์เองไม่สำรวม จะสังเกตุเห็นว่า พระสงฆ์สมัยนี้โดยเฉพาะพระดังๆ พระเถระชั้นผู้ใหญ่
มีความเป็นอยู่เทียบกับหรือดีกว่าคนชั้นกลางทั่วไป แถมมีเงินฝากระดับหลายสิบล้านอยู่เป็นจำนวนมาก
ใช้ของแต่ละอย่างล้วนแล้วแต่เป็นของแบรนด์เนม จริงอยู่ จะบอกว่าญาติโยมบริจาค แต่ถ้าท่านตัดแล้ว
ซึ่งกิเลสก็ต้องปฏิเสธไป แต่นี่รับไว้แสดงว่ายังตัดกิเลสไม่ขาด ก็ไม่ควรนับถือกันต่อไป
2 ตัวญาติโยม บางคนมีมากเกินกว่าศรัทธา เข้าข่ายงมงาย บริจาคจนเกินกำลังก็มี คนพวกนี้ถึงแม้น่าตำหนิ
แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ถ้าวันหนึ่งดวงตาเห็นธรรมก็จะเลิกบริจาคไปเอง
3 พวกมิจฉาชีพ คนพวกนี้ รัฐบาลต้องรีบปราบให้เด็ดขาด คนพวกนี้ใช้เล่ห์เหลี่ยมหากินกับศาสนา มาหลายรูปแบบ
ทั้งพวกพุทธพาณิชย์ พวกลูกศิษย์ต่างๆ รวมทั้งพวกหญิงโฉดที่ชอบจับพระรวย จนพระต้องสึก ต้องยอมรับว่า
พระที่บวชมานาน เรื่องทางโลกีย์ไม่มีทางสู้ผู้หญิงพวกนี้ได้ พระท่านนั่งภาวนากรรมฐานหลายปี มาเจอสีกาให้
พระกำถันครั้งเดียว ตะบะที่บำเพ็ญมาก็จบแล้ว
ถ้าท่านที่อ่านบทความนี้ มีความรู้สึกอยากปกป้องศาสนาแล้ว จะทำบุญครั้งต่อไปขอให้คิดดีๆว่า
ท่านกำลังทำนุบำรุงศาสนา หรือ กำลังทำลายศาสนากันแน่ ถ้าอยากทำบุญสร้างกุศล เปลี่ยนเป็น
ให้ทุนการศึกษาเด็กยากจนดีกว่าหรือไม่
ขอเป็น"มารศาสนา"สักวัน
พักนี้ มีเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับศาสนาพุทธมากมาย ทั้งเรื่อง เณรคำ ระเบิดที่ พุทธคยา
และเรื่องเกี่ยวกับพระสงฆ์อีกหลายเรื่อง ดูคล้ายกับว่า จะมาถึงยุคสิ้นสุดของศาสนาพุทธ
ความจริงเราก็นับถือศาสนาพุทธ เคยบวชที่วัดสระเกศ โดยสมเด็จ เกี่ยว เป็นพระอุปัชฌาชย์
แต่ระยะ 10 ปีหลัง เราเลิกทำบุญให้กับวัดโดยเด็ดขาด ถ้าใครมาเเจกซองผ้าป่า หรือซองกฐิน
โดยเฉพาะพวกแบงค์ที่เราใช้บริการ (มีบัญชีหลายแบงค์) ถ้าขืนมาแจกซอง รับรองโดนด่ากระเจิง
อ่านเนื้อข่าวไทยรัฐวันนี้แล้วติดใจตรงที่ นางที่ทำเงินหาย แสนกว่าบาท และบอกว่าเป็นเงินของ
สงฆ์ หนำซ้ำยังบอกว่า หายมาหลายครั้ง ประเด็นอยู่ที่ว่า เงินของวัดทำไมมาอยู่ที่ผู้หญิง และเป็น
เงินส่วนไหนของวัด และที่บอกว่าหายหลายครั้งแล้วไม่ได้คืน ใช่เงินของวัดหรือไม่ ?
ปัจจุบันต้องยอมรับว่าศาสนาที่รักของพวกเราเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว โดยมีปัจจัยต่างๆดังนี้
1 ตัวพระสงฆ์เองไม่สำรวม จะสังเกตุเห็นว่า พระสงฆ์สมัยนี้โดยเฉพาะพระดังๆ พระเถระชั้นผู้ใหญ่
มีความเป็นอยู่เทียบกับหรือดีกว่าคนชั้นกลางทั่วไป แถมมีเงินฝากระดับหลายสิบล้านอยู่เป็นจำนวนมาก
ใช้ของแต่ละอย่างล้วนแล้วแต่เป็นของแบรนด์เนม จริงอยู่ จะบอกว่าญาติโยมบริจาค แต่ถ้าท่านตัดแล้ว
ซึ่งกิเลสก็ต้องปฏิเสธไป แต่นี่รับไว้แสดงว่ายังตัดกิเลสไม่ขาด ก็ไม่ควรนับถือกันต่อไป
2 ตัวญาติโยม บางคนมีมากเกินกว่าศรัทธา เข้าข่ายงมงาย บริจาคจนเกินกำลังก็มี คนพวกนี้ถึงแม้น่าตำหนิ
แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ถ้าวันหนึ่งดวงตาเห็นธรรมก็จะเลิกบริจาคไปเอง
3 พวกมิจฉาชีพ คนพวกนี้ รัฐบาลต้องรีบปราบให้เด็ดขาด คนพวกนี้ใช้เล่ห์เหลี่ยมหากินกับศาสนา มาหลายรูปแบบ
ทั้งพวกพุทธพาณิชย์ พวกลูกศิษย์ต่างๆ รวมทั้งพวกหญิงโฉดที่ชอบจับพระรวย จนพระต้องสึก ต้องยอมรับว่า
พระที่บวชมานาน เรื่องทางโลกีย์ไม่มีทางสู้ผู้หญิงพวกนี้ได้ พระท่านนั่งภาวนากรรมฐานหลายปี มาเจอสีกาให้
พระกำถันครั้งเดียว ตะบะที่บำเพ็ญมาก็จบแล้ว
ถ้าท่านที่อ่านบทความนี้ มีความรู้สึกอยากปกป้องศาสนาแล้ว จะทำบุญครั้งต่อไปขอให้คิดดีๆว่า
ท่านกำลังทำนุบำรุงศาสนา หรือ กำลังทำลายศาสนากันแน่ ถ้าอยากทำบุญสร้างกุศล เปลี่ยนเป็น
ให้ทุนการศึกษาเด็กยากจนดีกว่าหรือไม่