อรุณสวัสดิ์ท่าน นักลงทุนผู้มั่งคั่งทุกท่านครับ
เครดิตบทความ....
หาบทความดีๆอ่านตามที่ หัวใจตั้งข้อสงสัย ระหว่างมุมของ รายย่อย กับรายใหญ่ ในหุ้นครับ ผมสงสัยว่า รายย่อยมักเลือกลงทุนในหุ้น พื้นฐาน ปันผลดี ราคาถูก แต่มี หุ้นบางตัวที่ ปันผลน้อย ราคาแพง แต่มีรายใหญ่คอยคุม แบบไหนดีกว่ากันที่จะสร้างกำไรในบางโอกาส พอเจอบทความนี้ จากบางพลัด มาถึงบางอ้อทันที ว่าหุ้นนั้น บางครั้งมันเป็นอะไรมากกว่าการลงทุนเพื่อหาผลประโยชน์เล็กๆ แต่มันมีกลยุทธทางธุรกิจซ่อนอยู่ ซึ่งรายย่อยแบบเราๆ สามารถครับที่จะหาประโยชน์จากตรงนั้น ....บทความนี้ไม่มีชื่อผู้เขียน แต่ผมจำฟอร์ม ได้ว่าน่าจะเป็นบทความของเสี่ยยักษ์ ......ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะครับ
$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$
ผมมองว่าคนที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น ผมชอบที่จะไปยืนอยู่ฝั่งที่เรียกว่า"รายย่อย"มากกว่านะ ผมมองว่าโอกาสในตลาดหุ้นไทย รายย่อยมีโอกาสมากกว่า ไม่ต้องมาเครียดกับการทำราคาหุ้น ไม่ต้องมาคอยหลบหรือวางกลยุทธการทำราคาหรือไม่ต้องมาคอยกลัวว่าจะโดนหักหลังกันเองในกลุ่มคนทำราคาด้วยกัน เรารายย่อยเป็นพวกตามน้ำ หากเปรียบง่ายๆผมว่าพวกเราคือพวกนักฉกฉวยโอกาสที่เรียกว่ากองทัพแบบกองโจร ด้วยสภาพคล่องของตลาดสามารถที่เล็ดลอดเข้าออกไวปานกามนิตหนุ่ม แอบเข้าไปในยุ้งฉางรายใหญ่ที่หมายถึงเจ้าของหุ้น กองทุนดูแลหุ้น ผู้รับจ้างทำราคาหุ้น หรือกลุ่มนักลงทุนที่สุมหัวกันทำราคาหุ้น แอบเข้าไปแล้วแอบขนข้าวออกมาจากยุ้งฉาง อย่าไปขนมาก ใส่ขนมาทีละถุงปุ๋ยเล็กๆก็พอ ขืนแอบขนมาเยอะๆรับรองว่าต้องเผลอโดนจับได้ (หมายถึงโดนจับลากขึ้นไปติดดอยแน่ๆ) ผมหมายถึงการเล่นสั้นๆ ไม่ได้หวังร่ำหวังรวยอะไรนะ เป็นเพียงการสะสมกำลังเท่านั้น สะสมเสบียง(พอร์ต) ซึ่งการจะทำแบบนี้ได้ ผมเชื่อเลยว่ามีเพียง Technical เท่านั้นที่จะทำได้ หมายถึงทำได้ในเวลาที่ไม่นานเกินไปนะ หากไม่มีเครื่องมือช่วย..กว่าที่ขุมกำลังแบบกองโจรจะโต มันอาจจะนานเกินไป แต่เราอย่าไปเสียเวลากับการเก็งกำไรมากเกินไป อย่ามีความสุขกับการหลบๆคอยดักชิงกำไรแบบอยู่ไปวันๆจนกลายเป็นนิสัยของการลงทุนไปโดยไม่รู้ตัว เพราะการกินเล็กกินน้อยมันก็เป็นเพียงการประทังชีวิตไปแบบงั้นๆ เหนื่อยเปล่าแต่มันสิ่งจำเป็นต้องทำสำหรับรายย่อยอย่างเราๆที่ต้องผ่านการลงทุนลักษณะนี้ไปให้ได้ ผมไม่ได้เกิดมาแบบขนเงินล้านเข้ามาลงทุนนะ ก็แค่เงินหลักแสนธรรมดา ผมเลยชอบมองอะไรที่มันเริ่มจากอะไรที่น้อยๆแล้วทำให้มันใหญ่ ส่วนใครที่เดินเข้ามาในตลาดแล้วขนเงินเป็นล้านเข้ามาเลย ก็มองข้ามการเล่นสไตล์กองโจรแบบนี้ไปเลยนะ เพราะสำหรับผมแล้วผมผ่านแบบนี้มาเพื่อหวังว่าจะมีกำลังมากพอที่จะมองเป้าหมายที่ไกลกว่านั้นได้ง่ายและในเวลาสั้นๆ การเก็งกำไรต้องยอมรับว่าเราต้องใช้ทุกโอกาสที่เห็น ย้ำว่าทุกโอกาสที่เห็นจริงๆ ผมเคยเทรดหุ้นวันนึงเกิน 10 ตัว รายการซื้อขายยาวเป็นหางว่าวก็เคยมาแล้ว เงินไม่มากหรอกแต่อาศัยเล่น Daytrade ผสมเข้าไปด้วย เทรดหุ้นตาม Technical ทุกครั้งที่เจอสัญญานเข้าไปเล่น ซึ่งอย่าคาดหวังกำไรมากนัก เพียงแค่ 5-10 % เต็มที่ก็พอแล้ว มากหน่อยก็อาจจะ 10-20% แต่ต้องตั้งเป้าหมายว่าให้โอกาสที่จะพลาดให้มีเหลือน้อยที่สุด ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาแห่งโชคอีกนั่นแหละที่ช่วงที่ผมเล่นใหม่ๆนักปั่นหุ้นในช่วงเวลานั้นไม่ได้ปั่นสั้นๆเหมือนสมัยนี้ สมัยก่อนปั่นยาว ปั่นนาน ปั่นทน ซึ่งผมมองว่าการไล่ Strp 1-5-30 นาที ช่วงเวลานี้แหละที่เหมาะกับการเล่นแบบกองโจรและมีโอกาสพลาดน้อยที่สุด พยายามลงไปเล่นในจุด Stop Loss คือหากซื้อแล้วไม่ขึ้น ต้องยอมขายในราคาที่ซื้อเลย ซึ่งโอกาสขาดทุนไม่ใช่ไม่มีแต่มันมีน้อยมากจนกล้าที่จะใช้ในทุกๆโอกาสและทุกๆครั้งที่เห็น รายละเอียดเรื่องการใช้ Technical แบบนี้ไว้จะลองเอากลับมาเขียนใหม่ วันนี้ขอคุยแบบ "โครงร่าง" ไปก่อนแล้วกันว่าเรามี "รูปแบบ" กลยุทธการ "จัดทัพแบบกองโจร" อย่างไรเท่านั้น ต่องยอมรับว่ากว่าจะลุกขึ้นยืน หมายถึงเริ่มที่พอร์ตจะเป็นรูปเป็นร่างมันต้องสะสมหยอดกระปุกทีละเล็กละน้อยบ่อยและนานมาก มันเหนื่อยเพราะต้องคอยส่ายตาหาโอกาสเล็กๆน้อยๆแทบจะตลอดทั้งวัน แต่ก็จำเป็นต้องทำ หากใครผ่านช่วงเวลานี้มาได้ กำลังใจมันมาเลยนะ วันที่ผมลุกขึ้นยืนครั้งแรก อยากบอกว่า..หัวใจมันมาเลย หุ้น 3 ตัวที่ทำให้ผมลุกขึ้นมายืนได้ต้องยกให้ TPI HEMRAJ และ SATTEL เมื่อเกือบ 5 ปีก่อน ต้องขอขอบคุณในโอกาสและจังหวะที่ตลาดเป็นใจให้จริงๆ จากการเล่นสั้นๆแบบฉกฉวยทุกโอกาสก็เปลี่ยนมาเป็นมองอะไรที่กลางๆขึ้นมาหน่อย เหตุเพราะมันสามารถใช้เงินซื้อได้มากกว่า พอร์ตเริ่มใหญ่ เงินหน้าตักเริ่มหนักขึ้น ใจก็มาแถมโอกาสตลาดเป็นใจอีกกำไรก็เลยเพิ่มตามสัดส่วนของเงิน ไม่ใช่สัดส่วนของราคาหุ้นนะ แต่ก็ยังไม่ได้ทอดทิ้งกับการลงทุนเก็งกำไรสั้นๆ หากจะจับปลาใหญ่ ช่วงที่รอคอยก็ปักเบ็ดคันเล็กๆจับปลาตัวเล็กๆประทังชีวิตและเป็นการติดตามตลาดไปด้วย...ก็ดีเหมือนกันนะ ทุกวันนี้เห็นผมเล่นเก็งกำไรแต่อยากบอกว่าสัดส่วนที่เล่นมันน้อยมาก เล่นเพื่อไม่ให้เซ็งเวลาเข้าไปดูหุ้น ให้มันมีสีสรรประทังชีวิตสนุกๆไปในแต่ละวันบ้าง โดยเฝ้ารอดูว่าปลาใหญ่เมื่อไหร่จะมาเท่านั้น อย่าลืมว่าหากใครพอร์ตใหญ่มองข้ามสิ่งที่ผมเขียนตรงนี้ไปเลยนะ แต่ทุกวันนี้มันแปลก คนที่พอร์ตใหญ่ๆกลับมาเล่นเก็งกำไรสั้นๆ คนที่พอร์ตเล็กๆกลับไปเล่นลงทุนยาวๆ คนนึงกำไรไม่เยอะเพราะต้องใช้เงินเยอะ..ในเวลาสั้นๆ ส่วนอีกคนกำไรไม่มาก แต่ใช้เงินน้อย..ในเวลายาวๆ ดูมันเป็นสมการคณิตศาสตร์ที่เพี้ยนๆยังไงไม่รู้นะ
ต้องเป็นนักลงทุนรายย่อยที่ไม่ย่อย
เครดิตบทความ....
หาบทความดีๆอ่านตามที่ หัวใจตั้งข้อสงสัย ระหว่างมุมของ รายย่อย กับรายใหญ่ ในหุ้นครับ ผมสงสัยว่า รายย่อยมักเลือกลงทุนในหุ้น พื้นฐาน ปันผลดี ราคาถูก แต่มี หุ้นบางตัวที่ ปันผลน้อย ราคาแพง แต่มีรายใหญ่คอยคุม แบบไหนดีกว่ากันที่จะสร้างกำไรในบางโอกาส พอเจอบทความนี้ จากบางพลัด มาถึงบางอ้อทันที ว่าหุ้นนั้น บางครั้งมันเป็นอะไรมากกว่าการลงทุนเพื่อหาผลประโยชน์เล็กๆ แต่มันมีกลยุทธทางธุรกิจซ่อนอยู่ ซึ่งรายย่อยแบบเราๆ สามารถครับที่จะหาประโยชน์จากตรงนั้น ....บทความนี้ไม่มีชื่อผู้เขียน แต่ผมจำฟอร์ม ได้ว่าน่าจะเป็นบทความของเสี่ยยักษ์ ......ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะครับ
$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$
ผมมองว่าคนที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น ผมชอบที่จะไปยืนอยู่ฝั่งที่เรียกว่า"รายย่อย"มากกว่านะ ผมมองว่าโอกาสในตลาดหุ้นไทย รายย่อยมีโอกาสมากกว่า ไม่ต้องมาเครียดกับการทำราคาหุ้น ไม่ต้องมาคอยหลบหรือวางกลยุทธการทำราคาหรือไม่ต้องมาคอยกลัวว่าจะโดนหักหลังกันเองในกลุ่มคนทำราคาด้วยกัน เรารายย่อยเป็นพวกตามน้ำ หากเปรียบง่ายๆผมว่าพวกเราคือพวกนักฉกฉวยโอกาสที่เรียกว่ากองทัพแบบกองโจร ด้วยสภาพคล่องของตลาดสามารถที่เล็ดลอดเข้าออกไวปานกามนิตหนุ่ม แอบเข้าไปในยุ้งฉางรายใหญ่ที่หมายถึงเจ้าของหุ้น กองทุนดูแลหุ้น ผู้รับจ้างทำราคาหุ้น หรือกลุ่มนักลงทุนที่สุมหัวกันทำราคาหุ้น แอบเข้าไปแล้วแอบขนข้าวออกมาจากยุ้งฉาง อย่าไปขนมาก ใส่ขนมาทีละถุงปุ๋ยเล็กๆก็พอ ขืนแอบขนมาเยอะๆรับรองว่าต้องเผลอโดนจับได้ (หมายถึงโดนจับลากขึ้นไปติดดอยแน่ๆ) ผมหมายถึงการเล่นสั้นๆ ไม่ได้หวังร่ำหวังรวยอะไรนะ เป็นเพียงการสะสมกำลังเท่านั้น สะสมเสบียง(พอร์ต) ซึ่งการจะทำแบบนี้ได้ ผมเชื่อเลยว่ามีเพียง Technical เท่านั้นที่จะทำได้ หมายถึงทำได้ในเวลาที่ไม่นานเกินไปนะ หากไม่มีเครื่องมือช่วย..กว่าที่ขุมกำลังแบบกองโจรจะโต มันอาจจะนานเกินไป แต่เราอย่าไปเสียเวลากับการเก็งกำไรมากเกินไป อย่ามีความสุขกับการหลบๆคอยดักชิงกำไรแบบอยู่ไปวันๆจนกลายเป็นนิสัยของการลงทุนไปโดยไม่รู้ตัว เพราะการกินเล็กกินน้อยมันก็เป็นเพียงการประทังชีวิตไปแบบงั้นๆ เหนื่อยเปล่าแต่มันสิ่งจำเป็นต้องทำสำหรับรายย่อยอย่างเราๆที่ต้องผ่านการลงทุนลักษณะนี้ไปให้ได้ ผมไม่ได้เกิดมาแบบขนเงินล้านเข้ามาลงทุนนะ ก็แค่เงินหลักแสนธรรมดา ผมเลยชอบมองอะไรที่มันเริ่มจากอะไรที่น้อยๆแล้วทำให้มันใหญ่ ส่วนใครที่เดินเข้ามาในตลาดแล้วขนเงินเป็นล้านเข้ามาเลย ก็มองข้ามการเล่นสไตล์กองโจรแบบนี้ไปเลยนะ เพราะสำหรับผมแล้วผมผ่านแบบนี้มาเพื่อหวังว่าจะมีกำลังมากพอที่จะมองเป้าหมายที่ไกลกว่านั้นได้ง่ายและในเวลาสั้นๆ การเก็งกำไรต้องยอมรับว่าเราต้องใช้ทุกโอกาสที่เห็น ย้ำว่าทุกโอกาสที่เห็นจริงๆ ผมเคยเทรดหุ้นวันนึงเกิน 10 ตัว รายการซื้อขายยาวเป็นหางว่าวก็เคยมาแล้ว เงินไม่มากหรอกแต่อาศัยเล่น Daytrade ผสมเข้าไปด้วย เทรดหุ้นตาม Technical ทุกครั้งที่เจอสัญญานเข้าไปเล่น ซึ่งอย่าคาดหวังกำไรมากนัก เพียงแค่ 5-10 % เต็มที่ก็พอแล้ว มากหน่อยก็อาจจะ 10-20% แต่ต้องตั้งเป้าหมายว่าให้โอกาสที่จะพลาดให้มีเหลือน้อยที่สุด ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาแห่งโชคอีกนั่นแหละที่ช่วงที่ผมเล่นใหม่ๆนักปั่นหุ้นในช่วงเวลานั้นไม่ได้ปั่นสั้นๆเหมือนสมัยนี้ สมัยก่อนปั่นยาว ปั่นนาน ปั่นทน ซึ่งผมมองว่าการไล่ Strp 1-5-30 นาที ช่วงเวลานี้แหละที่เหมาะกับการเล่นแบบกองโจรและมีโอกาสพลาดน้อยที่สุด พยายามลงไปเล่นในจุด Stop Loss คือหากซื้อแล้วไม่ขึ้น ต้องยอมขายในราคาที่ซื้อเลย ซึ่งโอกาสขาดทุนไม่ใช่ไม่มีแต่มันมีน้อยมากจนกล้าที่จะใช้ในทุกๆโอกาสและทุกๆครั้งที่เห็น รายละเอียดเรื่องการใช้ Technical แบบนี้ไว้จะลองเอากลับมาเขียนใหม่ วันนี้ขอคุยแบบ "โครงร่าง" ไปก่อนแล้วกันว่าเรามี "รูปแบบ" กลยุทธการ "จัดทัพแบบกองโจร" อย่างไรเท่านั้น ต่องยอมรับว่ากว่าจะลุกขึ้นยืน หมายถึงเริ่มที่พอร์ตจะเป็นรูปเป็นร่างมันต้องสะสมหยอดกระปุกทีละเล็กละน้อยบ่อยและนานมาก มันเหนื่อยเพราะต้องคอยส่ายตาหาโอกาสเล็กๆน้อยๆแทบจะตลอดทั้งวัน แต่ก็จำเป็นต้องทำ หากใครผ่านช่วงเวลานี้มาได้ กำลังใจมันมาเลยนะ วันที่ผมลุกขึ้นยืนครั้งแรก อยากบอกว่า..หัวใจมันมาเลย หุ้น 3 ตัวที่ทำให้ผมลุกขึ้นมายืนได้ต้องยกให้ TPI HEMRAJ และ SATTEL เมื่อเกือบ 5 ปีก่อน ต้องขอขอบคุณในโอกาสและจังหวะที่ตลาดเป็นใจให้จริงๆ จากการเล่นสั้นๆแบบฉกฉวยทุกโอกาสก็เปลี่ยนมาเป็นมองอะไรที่กลางๆขึ้นมาหน่อย เหตุเพราะมันสามารถใช้เงินซื้อได้มากกว่า พอร์ตเริ่มใหญ่ เงินหน้าตักเริ่มหนักขึ้น ใจก็มาแถมโอกาสตลาดเป็นใจอีกกำไรก็เลยเพิ่มตามสัดส่วนของเงิน ไม่ใช่สัดส่วนของราคาหุ้นนะ แต่ก็ยังไม่ได้ทอดทิ้งกับการลงทุนเก็งกำไรสั้นๆ หากจะจับปลาใหญ่ ช่วงที่รอคอยก็ปักเบ็ดคันเล็กๆจับปลาตัวเล็กๆประทังชีวิตและเป็นการติดตามตลาดไปด้วย...ก็ดีเหมือนกันนะ ทุกวันนี้เห็นผมเล่นเก็งกำไรแต่อยากบอกว่าสัดส่วนที่เล่นมันน้อยมาก เล่นเพื่อไม่ให้เซ็งเวลาเข้าไปดูหุ้น ให้มันมีสีสรรประทังชีวิตสนุกๆไปในแต่ละวันบ้าง โดยเฝ้ารอดูว่าปลาใหญ่เมื่อไหร่จะมาเท่านั้น อย่าลืมว่าหากใครพอร์ตใหญ่มองข้ามสิ่งที่ผมเขียนตรงนี้ไปเลยนะ แต่ทุกวันนี้มันแปลก คนที่พอร์ตใหญ่ๆกลับมาเล่นเก็งกำไรสั้นๆ คนที่พอร์ตเล็กๆกลับไปเล่นลงทุนยาวๆ คนนึงกำไรไม่เยอะเพราะต้องใช้เงินเยอะ..ในเวลาสั้นๆ ส่วนอีกคนกำไรไม่มาก แต่ใช้เงินน้อย..ในเวลายาวๆ ดูมันเป็นสมการคณิตศาสตร์ที่เพี้ยนๆยังไงไม่รู้นะ