สวัสดีชาวพันทิปอีกครั้งค่ะ จากที่เคยแชร์เรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างเราสามคน A B และเรา
http://ppantip.com/topic/31879651 ขอขอบพระคุณทุกความคิดเห็น กำลังใจ จากเพื่อนๆชาวพันทิปทุกท่าน ประสบการณ์ที่ได้แชร์ให้ทุกท่านฟัง ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ เปิดเข้ามาเห็นยอดแชร์ที่มากมาย
ก็แอบตกใจเล็กๆ ว่ามีการแชร์เรื่องราวนี้ขนาดนี้เลยเหรอ ยังไงก็ขอขอบพระคุณเพื่อนๆอีกครั้ง และก็มีคุณ Newari ที่มาคอมเม้นเอาไว้ว่าอยากจะให้ จขกท อัพเดทว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างหลังจากที่ ตัดขาดจากนายบี นั่งมองกระทู้นี้มาหลายวันแล้วค่ะ ว่าจะอัพเดทดีมั้ย แต่วันนี้รวบรวมความกล้าอีกครั้งหนึ่ง เรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากที่เราได้แชร์ประสบการณ์วันนั้น เราจะเล่าแล้วนะ
หลังจากวันนั้น เราเปลี่ยน Account Skype และตัดสินใจ Block นายบีจริงๆ เพราะว่า เค้าจะส่งข้อความมาสวัสดี ถามว่าสบายดีมั้ย อย่างงี้ทุกวัน เราก็ได้แต่ตอบว่า "งานยุ่ง เด่วค่อยคุยกันนะ" แทบจะทุกวัน จนเราทนไม่ได้เลยต้องทำการบล๊อกไป 5 วันผ่านไป ช่วงสงกรานต์เรามีโอกาสได้ไปเที่ยวกับเพื่อนสาว สนุกสนานกัน ไม่ได้เล่นสงกรานต์กันค่ะ พอดีแก๊งนี้อายุเยอะๆกันแล้ว ฮ่าๆๆๆ แล้วทีนี้ เรื่องมันเกิดขึ้นหลังจากที่เราและเพื่อนๆไปหาอะไรทานและดื่ม เราเมานั่นเอง เรา Unblock นายบีค่ะ .... ใช่ค่ะ เราพิมพ์ไม่ผิด เรา Unblock นายบี และก็ส่งข้อความหาเค้าทันที
เรา : How have you been? I miss you (0.0 ความเมาไม่ปราณีใครจริงๆ ค่ะเพื่อนๆ)
.
.
.(5 นาทีถัดมา)
นายบี : I'm doing great u? Skype with me please I want to see your face.
แค่นั้นแหล่ะ เราก็รีบกลับบ้าน เลยบอกเค้าไปว่า
"Let's Skype in 30 mn, i'm going back home now" ไม่ห่างจากบ้านเรามากค่ะ นั่งมอไซด์แว๊นกลับบ้าน 10 นาทีพอประมาณ
จากนั้นพอเราถึงบ้าน เราก็รีบมาเปิด Skype อย่างรวดเร็ว พอเราเริ่มคุยผ่านเวบแคมกัน ได้เห็นหน้าเค้า เรารู้สึกว่าเราคิดถึงคนคนนี้มากๆ จนไม่รู้จะพูดอะไร ทั้งสองคนนั่งมองหน้ากันโดยไม่พูดอะไรประมาณ 10 วินาที นายบีเลยเริ่มถามว่า เป็นอย่างไร งานยุ่งมากเหรอ น่าจะส่งข่าวบ้าง ไม่ใช่เงียบไปแบบนี้ เราก็เลยบอกว่านิดหน่อยนะ ประชุมเยอะมากๆ หลังจากกลับจากสิงคโปรงานก็กองเท่าภูเขา จากนั้นนายบีก็พูดออกมาว่า
"เราไม่รู้ว่าที่เธอไม่คุยกับเราก่อนหน้านี้ เพราะสิ่งที่เราตอบเธอไปว่าเราไม่พร้อมที่จะมีใครตอนนี้ ใช่หรือเปล่า ถ้าใช่เราเสียใจที่ทำให้เรื่องราวมันเป็นแบบนี้ แต่เธอรู้มั้ย เธอไม่น่าจะเงียบไปแบบนี้ เรายังเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ การที่เราไม่ได้เป็นแฟนกัน ไม่ได้หมายความว่าเราต้องไม่คุยกันแล้ว เรายังอยากคุยกับเธอ การที่เราได้รู้จักคนดีๆนั้นไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นบ่อยๆ มันคงจะเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากๆ ถ้าเราต้องเสียเพื่อนดีๆคนนี้ไป เพียงแค่เพราะเราสองคนไม่ใช่แฟนกัน จริงมั้ย"
เราไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เพราะนายบีรู้อยู่แล้วว่าเรารู้สึกอย่างไรกับเค้า จริงๆเราก็เสียดายมากที่จะต้องตัดขาดความสัมพันธ์กับคนคนนี้ เราก็เลยบอกเค้าไปว่าขอเราคิดก่อนนะ ว่าเราอยากจะเป็นเพื่อนกับเธอต่อไปหรือเปล่า ฮ่าๆๆๆ เค้ามาง้อขนาดนี้ เราก็หยิ่งแสนหยิ่ง ก็เลยแค่ถามสารทุกข์สุขดิบกันต่อ เลยคิดว่าโอเคเป็นเพื่อนก็เป็นเพื่อน ก็เลยตกลงและ say goodnight ร่ำลากันไปสำหรับค่ำคืนนี้ ตอนนี้เป็นหน้าที่ของเราล่ะที่ต้องมานั่งคิดว่าจะเอาอย่างไรต่อ เพราะระยะเวลาที่ผ่านมา เราเองก็คุยกับนายเอน้อยลง เรารู้สึกไม่เหมือนเดิมกับนายเอ นายเอคิดว่าเราเครียดเรื่องงาน เลยไม่ตอบโต้อะไรมากมาย เพราะจากที่คุยกันมาเยอะ เราสองคนจะเข้าใจกันว่าหากบอกว่างานยุ่ง ก็จะไม่พร่ำเพ้อกัน เข้าใจกันว่าหน้าที่ก็คือหน้าที่ เอาไว้ว่างจากหน้าที่แล้วค่อยคุยกันก็ได้ เค้าก็ยังส่งข้อความมา Goodnight อยู่เหมือนเดิมทุกวัน
วันรุ่งขึ้น นายบีส่งข้อความมาบอกว่า เค้าและครอบครัวจะมาเที่ยวเชียงใหม่ช่วงระหว่างวันที่ 16-18 เมษายน หากเราต้องการจะแจมหรือมาเจอครอบครัวก็มาเชียงใหม่จะได้เที่ยวด้วยกัน เราตัดสินใจไม่ไป แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าช่วงเวลาที่อยู่สิงคโปรนายบีดูแลเราดีแค่ใหนเทคแคร์ทุกอย่าง แต่ที่ไม่อยากไปคืออยากให้เค้าเที่ยวกันแค่ครอบครัว เราไปเดินด้วยจะกลายเป็นตัวประหลาด เลยตัดสินใจไม่ไปค่ะ
ระหว่างนายบีอยู่เชียงใหม่ เค้าก็จะส่งข้อความรูปภาพมาเสมอๆว่าเที่ยวเป็นอย่างไร เราก็คิดอยู่เสมอว่า มันจะส่งอะไรมานักหนาวะ ใหนว่าไม่รู้สึกไม่อยากเป็นแฟนเรา ทำไมยังส่งโน้นนี่นั่นมาให้เสมอ จริงๆเราก็ชอบนะ รู้สึกว่าเค้าคิดถึงเราเสมอ ฮ่าๆๆๆ เอาอีกล่ะ คิดเกินเลยไปอีกล่ะ มันเป็นไปไม่ได้ย่ะหล่อนนนนนน (อันนี้บอกกับตัวเองค่ะ) เลยส่งข้อความไปว่า "เป็นเพื่อนกันไม่จำเป็นที่จะต้องส่งข้อความมาบ่อยๆก็ได้ เด๋วฉันตกหลุมรักเธออีกรอบ" ฮาๆไปค่ะ เค้าก็เลยตอบกลับมาว่า จริงๆที่ส่งหาเพราะคิดถึงอยากเจอเธอก่อนกลับสิงคโปร์อีกซักครั้ง วินาทีนั้นใจหายแว๊บบบบ แล้วก็ตั้งสติ ไม่เอาไม่คิด ไม่คิด ไม่คิด ก็เลย 5555 กลับไปแค่นั้นพอ
เมื่อผู้ชายคนหนึ่งบังเอิญแค่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา เพื่อแค่ให้จำเท่านั้นหรือ? (ภาค 2)
ก็แอบตกใจเล็กๆ ว่ามีการแชร์เรื่องราวนี้ขนาดนี้เลยเหรอ ยังไงก็ขอขอบพระคุณเพื่อนๆอีกครั้ง และก็มีคุณ Newari ที่มาคอมเม้นเอาไว้ว่าอยากจะให้ จขกท อัพเดทว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างหลังจากที่ ตัดขาดจากนายบี นั่งมองกระทู้นี้มาหลายวันแล้วค่ะ ว่าจะอัพเดทดีมั้ย แต่วันนี้รวบรวมความกล้าอีกครั้งหนึ่ง เรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากที่เราได้แชร์ประสบการณ์วันนั้น เราจะเล่าแล้วนะ
หลังจากวันนั้น เราเปลี่ยน Account Skype และตัดสินใจ Block นายบีจริงๆ เพราะว่า เค้าจะส่งข้อความมาสวัสดี ถามว่าสบายดีมั้ย อย่างงี้ทุกวัน เราก็ได้แต่ตอบว่า "งานยุ่ง เด่วค่อยคุยกันนะ" แทบจะทุกวัน จนเราทนไม่ได้เลยต้องทำการบล๊อกไป 5 วันผ่านไป ช่วงสงกรานต์เรามีโอกาสได้ไปเที่ยวกับเพื่อนสาว สนุกสนานกัน ไม่ได้เล่นสงกรานต์กันค่ะ พอดีแก๊งนี้อายุเยอะๆกันแล้ว ฮ่าๆๆๆ แล้วทีนี้ เรื่องมันเกิดขึ้นหลังจากที่เราและเพื่อนๆไปหาอะไรทานและดื่ม เราเมานั่นเอง เรา Unblock นายบีค่ะ .... ใช่ค่ะ เราพิมพ์ไม่ผิด เรา Unblock นายบี และก็ส่งข้อความหาเค้าทันที
เรา : How have you been? I miss you (0.0 ความเมาไม่ปราณีใครจริงๆ ค่ะเพื่อนๆ)
.
.
.(5 นาทีถัดมา)
นายบี : I'm doing great u? Skype with me please I want to see your face.
แค่นั้นแหล่ะ เราก็รีบกลับบ้าน เลยบอกเค้าไปว่า
"Let's Skype in 30 mn, i'm going back home now" ไม่ห่างจากบ้านเรามากค่ะ นั่งมอไซด์แว๊นกลับบ้าน 10 นาทีพอประมาณ
จากนั้นพอเราถึงบ้าน เราก็รีบมาเปิด Skype อย่างรวดเร็ว พอเราเริ่มคุยผ่านเวบแคมกัน ได้เห็นหน้าเค้า เรารู้สึกว่าเราคิดถึงคนคนนี้มากๆ จนไม่รู้จะพูดอะไร ทั้งสองคนนั่งมองหน้ากันโดยไม่พูดอะไรประมาณ 10 วินาที นายบีเลยเริ่มถามว่า เป็นอย่างไร งานยุ่งมากเหรอ น่าจะส่งข่าวบ้าง ไม่ใช่เงียบไปแบบนี้ เราก็เลยบอกว่านิดหน่อยนะ ประชุมเยอะมากๆ หลังจากกลับจากสิงคโปรงานก็กองเท่าภูเขา จากนั้นนายบีก็พูดออกมาว่า
"เราไม่รู้ว่าที่เธอไม่คุยกับเราก่อนหน้านี้ เพราะสิ่งที่เราตอบเธอไปว่าเราไม่พร้อมที่จะมีใครตอนนี้ ใช่หรือเปล่า ถ้าใช่เราเสียใจที่ทำให้เรื่องราวมันเป็นแบบนี้ แต่เธอรู้มั้ย เธอไม่น่าจะเงียบไปแบบนี้ เรายังเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ การที่เราไม่ได้เป็นแฟนกัน ไม่ได้หมายความว่าเราต้องไม่คุยกันแล้ว เรายังอยากคุยกับเธอ การที่เราได้รู้จักคนดีๆนั้นไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นบ่อยๆ มันคงจะเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากๆ ถ้าเราต้องเสียเพื่อนดีๆคนนี้ไป เพียงแค่เพราะเราสองคนไม่ใช่แฟนกัน จริงมั้ย"
เราไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เพราะนายบีรู้อยู่แล้วว่าเรารู้สึกอย่างไรกับเค้า จริงๆเราก็เสียดายมากที่จะต้องตัดขาดความสัมพันธ์กับคนคนนี้ เราก็เลยบอกเค้าไปว่าขอเราคิดก่อนนะ ว่าเราอยากจะเป็นเพื่อนกับเธอต่อไปหรือเปล่า ฮ่าๆๆๆ เค้ามาง้อขนาดนี้ เราก็หยิ่งแสนหยิ่ง ก็เลยแค่ถามสารทุกข์สุขดิบกันต่อ เลยคิดว่าโอเคเป็นเพื่อนก็เป็นเพื่อน ก็เลยตกลงและ say goodnight ร่ำลากันไปสำหรับค่ำคืนนี้ ตอนนี้เป็นหน้าที่ของเราล่ะที่ต้องมานั่งคิดว่าจะเอาอย่างไรต่อ เพราะระยะเวลาที่ผ่านมา เราเองก็คุยกับนายเอน้อยลง เรารู้สึกไม่เหมือนเดิมกับนายเอ นายเอคิดว่าเราเครียดเรื่องงาน เลยไม่ตอบโต้อะไรมากมาย เพราะจากที่คุยกันมาเยอะ เราสองคนจะเข้าใจกันว่าหากบอกว่างานยุ่ง ก็จะไม่พร่ำเพ้อกัน เข้าใจกันว่าหน้าที่ก็คือหน้าที่ เอาไว้ว่างจากหน้าที่แล้วค่อยคุยกันก็ได้ เค้าก็ยังส่งข้อความมา Goodnight อยู่เหมือนเดิมทุกวัน
วันรุ่งขึ้น นายบีส่งข้อความมาบอกว่า เค้าและครอบครัวจะมาเที่ยวเชียงใหม่ช่วงระหว่างวันที่ 16-18 เมษายน หากเราต้องการจะแจมหรือมาเจอครอบครัวก็มาเชียงใหม่จะได้เที่ยวด้วยกัน เราตัดสินใจไม่ไป แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าช่วงเวลาที่อยู่สิงคโปรนายบีดูแลเราดีแค่ใหนเทคแคร์ทุกอย่าง แต่ที่ไม่อยากไปคืออยากให้เค้าเที่ยวกันแค่ครอบครัว เราไปเดินด้วยจะกลายเป็นตัวประหลาด เลยตัดสินใจไม่ไปค่ะ
ระหว่างนายบีอยู่เชียงใหม่ เค้าก็จะส่งข้อความรูปภาพมาเสมอๆว่าเที่ยวเป็นอย่างไร เราก็คิดอยู่เสมอว่า มันจะส่งอะไรมานักหนาวะ ใหนว่าไม่รู้สึกไม่อยากเป็นแฟนเรา ทำไมยังส่งโน้นนี่นั่นมาให้เสมอ จริงๆเราก็ชอบนะ รู้สึกว่าเค้าคิดถึงเราเสมอ ฮ่าๆๆๆ เอาอีกล่ะ คิดเกินเลยไปอีกล่ะ มันเป็นไปไม่ได้ย่ะหล่อนนนนนน (อันนี้บอกกับตัวเองค่ะ) เลยส่งข้อความไปว่า "เป็นเพื่อนกันไม่จำเป็นที่จะต้องส่งข้อความมาบ่อยๆก็ได้ เด๋วฉันตกหลุมรักเธออีกรอบ" ฮาๆไปค่ะ เค้าก็เลยตอบกลับมาว่า จริงๆที่ส่งหาเพราะคิดถึงอยากเจอเธอก่อนกลับสิงคโปร์อีกซักครั้ง วินาทีนั้นใจหายแว๊บบบบ แล้วก็ตั้งสติ ไม่เอาไม่คิด ไม่คิด ไม่คิด ก็เลย 5555 กลับไปแค่นั้นพอ