ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าอยู่ในพันทิปมาระยะหนึ่งแล้ว มี ไอดีที่ยืนยันผ่านบัตรเรียบร้อย แต่เรารู้ว่าในนี้มีเพื่อนที่เรารู้จักในชีวิตจริงอยู่ไม่น้อย เลยขอใช้ไอดีใหม่ในการเล่าเรื่องดีกว่า เพราะเรื่องนี้ยังไม่เคยเล่าให้ใครฟัง ตั้งใจจะมาประจานกันที่นี่เป็นที่แรกก็ว่าได้ มันอึดอัดมากตลอดเวลาที่ผ่านมาหนึ่งเดือน ที่เราหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้จนต้องเที่ยวสำมะเลเทเมาไปบ้างในบางที (ทั้งๆที่ไม่ใช่ทางออกที่ดี แต่ไม่รู้จะทำยังไง) วันนี้ก็เป็นอีกวันที่นอนไม่หลับ ทั้งๆที่ปิดคอมพิวเตอร์ไปแล้ว นอนอยู่ที่เตียงแล้ว แต่ก็ต้องลุกขึ้นมาเปิดคอมเพื่อแชร์เรื่องนี้กับเพื่อนๆชาวพันทิป เพราะคิดว่าน่าจะนอนดึกกัน เราเริ่มเลยแล้วกัน
อย่างแรกต้องขอแนะนำตัวเองก่อนว่า จขกท เป็นคนอย่างไร เราเป็นนักเรียนนอก จบมาจากประเทศแถบยุโรป ไปเรียนที่โน้นตั้งแต่อายุ 18 กลับมาหลังจากเรียนจบก็อายุอานามน่าจะอยู่ที่ 24 มั้ง ถ้าจำไม่ผิด 555+ ก็เรียกว่าเป็นสาวมั่นคนหนึ่ง ที่แกร่งมาตั้งแต่เรื่องเรียน เพราะรู้ว่าตัวเองต้องการอะไรมาตั้งแต่มัธยม จนกระทั่งเข้าเรียนในมหาลัยในสิ่งที่ตัวเองชอบ พร้อมทั้งจบออกมาทำงานที่ตัวเองรัก แถมเงินเดือนระดับ 100K ขึ้น (อายุยังไม่ขึ้นเลข 3 ทีค่ะ แต่ใกล้ๆล่ะ) เรียกว่า จะทำอะไรก็มีแบบแผนมาโดยตลอด รู้ว่าต้องทำอะไรเพื่อให้ชีวิตดีขึ้น เพื่อนๆหลายๆคนน่าจะพอเดาออกว่าบุคลิกเป็นอย่างไร เน๊อะ 555+
เรื่องหน้าตา จขกท ไม่ได้จัดอยู่ในหมวดหมู่ที่เรียกว่าสวยแอ๊ปแบ๊ว แต่เรียกว่าสวยปกติ 555 (เอินตัวเองไปม๊ะ) จัดว่าอยู่ในหมวดหมู่คนหน้าตาดีแล้วกัน แต่ไม่ได้สวยมากเลิศเลอเป็นพริตตี้มอเตอร์โชว์นะคะ แต่ถ้าแต่งองค์ทรงเครื่องแบบเค้าก็อาจจะพอสู้ได้นะ คิคิ เอาล่ะ หน้าตาพอไปวัดไปวาได้แล้วกัน
เรื่องมันมีอยู่ว่าเราได้รู้จักผู้ชายสิงคโปร์คนหนึ่ง เป็นเพื่อนของเพื่อนเราอีกที เรียกเค้าว่านาย เอ แล้วกัน เพราะมันจะมีสองคน 555+ นาย เอ เป็นผู้ชายที่อบอุ่น เริ่มต้นรู้จักกันด้วยคำว่าเพื่อน เจอหน้ากันเพราะเพื่อนแนะนำให้รู้จักที่ RCA จากนั้นก็ได้ทำการแลก line กัน หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอหน้ากันอีก จนกระทั่งเค้ากลับไปสิงคโปร ก็ได้แค่แชตคุยกันในไลน์ นายเอ เรียนภาษาไทยมาค่ะ เรียนที่มหาวิทยาลัยที่สิงคโปร เรียกว่าอ่าน พูด เขียน ภาษาไทยได้ ไม่ได้คล่องปรืออย่างคนไทย แต่จัดได้ว่าอยู่ในขั้นที่ เข้าใจ อิอิ คิคิ แล้วกัน อิอิ แต่ไม่ได้พิมพ์ในไลน์เป็นภาษาไทย เพราะเค้าจะพิมพ์ช้ามากๆ เลยต้อง english กันทั้งดุ้น อาจจะมี lor na mai หรือ la la ของทางสิงคโปร เข้ามาบ้างเพื่อเป็นสีสันในการสนทนา
จขกท ค่อนข้างที่จะมีงานล้นตัว ไม่ค่อยมีเวลาไปเที่ยวเล่นอะไรมาก วันๆจะอยู่หน้าคอมพิวเตอร์และออกไปประชุม เท่านั้นจริงๆ แต่รู้มั้ย เราอ่ะ แบ่งเวลาแชตกับนายได้ เพราะนายคือคนสำคัญของเราไปแล้ว ห้า ห้า ห้า
แต่ทุกอย่างยังอยู่ในฐานะเพื่อน แต่นายเอคิดยังไงกับเรา เราก็ไม่ทราบ ไม่กล้าเดา แต่ที่ผ่านมา 3 เดือนที่คุยกัน ทุกๆวันจะมี Good morning และ Goodnight and Sweet dreams ขอย้ำตรงนี้เลยว่า "ทุกวันจริงๆ" ก็มาแบบนี้จะไม่ให้เราคิดกับนายพิเศษได้ยังไง จริงมั้ยคะเพื่อนๆ
นายเอเป็นคนที่เข้าใจในศาสนาพุทธ เพราะเค้าก็นับถือศาสนาพุทธ เป็นนักสะสมพระตัวยง เรียกว่า พระอะไรดังๆ เพ่รู้หมด ขึ้นอยู่กับว่าเงินหนาพอหรือเปล่า ที่จะเช่าพระงามๆมาครอบครอง คนเราเวลาอยากให้เค้ามีความสุขเวลาคุยกับเรา เราก็ต้องสนทนาในสิ่งที่เค้าชอบและสนใจ จริงมั้ยคะเพื่อนๆ เราไม่ได้เป็นคนชอบพระเลยนะ เอาจริงๆเลย แต่กราบไหว้อ่ะแน่นอนเพราะเราเองก็ชาวพุทธ ก็ต้องเริ่มมาสนใจเรื่องพระเรื่องธรรมะมากขึ้น ต้องบอกว่าเค้าคนนี้เป็นแรงบันดาลใจให้เราอ่านหนังสือธรรมะ หลายๆครั้งที่เราจิตใจว้าวุ่นเพราะเรื่องงานที่รุมเร้า เราก็ได้หนังสือธรรมะเป็นที่พึ่งมาโดยตลอด นายมีประโยชน์กับเราก็ตรงนี้แหล่ะ 5555+
ผ่านมาทุกๆวันแบบนี้ จนเรารู้สึกว่าเราอยากรู้ใจตัวเองแล้ว ว่าจริงๆเราคิดกับนาย หรือ นาย คิดกับเราแบบใหน สิ่งที่ต้องทำคือเราสองคนต้องเจอกันอีกครั้งแบบตัวเป็นๆ ไม่ใช่ skype คุยกันเน้อ ดังนั้นทางออกมันมีแค่สองทางคือ นายมาเมืองไทย หรือ เราไปสิงคโปร์?
สรุปคือเราต้องไปสิงคโปร์ 5555+ เพราะว่านายเอ ที่บ้านทำธุรกิจค่อนข้างใหญ่โต นายเอเองก็มีอำนาจบาดใหญ่ ถึงขั้นมีชื่ออยู่ในบอร์ดของผู้บริหาร เป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลอ่ะนะ จะไม่ให้มีอำนาจได้ไงเนอะ แล้วนายเอก็ปลีกตัวออกจากธุรกิจอันแสนวุ่นวายของที่บ้านไม่ได้ซะที จนต้องบอกกับเราว่า "เราคงไม่มีเวลาไปหาที่ไทยหรอก มาหาเราที่สิงคโปรดีกว่า เราน่าจะมีเวลาออกมาหาเธอได้บ้าง" อ่าว
"เราน่าจะมีเวลา" ????? คำนี้บ่งบอกถึงความไม่แน่นอนว่ากรูจะได้เจอมั้ย ถึงแม้ว่ากรูจะ fly ไปหาที่นั่น ใช่มั้ย??????ด๊วก ด่าๆไปหน่อย งอลๆไปหน่อย ง้อกันไปมา ดิฉันก็ต้องเข้าเวบไซท์ แอร์เอเชีย เพื่อทำการจองตั๋วเครื่องบินไปสิงคโปร ตามคาดหมาย ฮ่าๆๆๆๆๆ
อ่ะๆจองก็จอง จ่ายเงินเรียบร้อยเสร็จสรรพ เพื่อความชัวร์ ว่าจะต้องได้เจอกันแน่นอน ไปอยู่แมร่ง 3 วันเลยอ่ะ มันต้องมีซักวันที่มาเจอกันได้ โอ้โห นี่ไปประเคนให้ถึงที่นะ ถ้าไม่มาจัดการก็เรียกตัวเองว่าเป็น ค--- ได้นะคะ 55555+ (จริงๆแล้วเค้าเป็นสุภาพบุรุษมากๆ คงไม่เกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นหรอก ถ้าไม่ turn him on นะ 555)
เมื่อผู้ชายคนหนึ่งบังเอิญแค่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา เพื่อแค่ให้จำเท่านั้นหรือ? (มีเนื้อหาค่อนข้างตรง 18+ ละกัน)
อย่างแรกต้องขอแนะนำตัวเองก่อนว่า จขกท เป็นคนอย่างไร เราเป็นนักเรียนนอก จบมาจากประเทศแถบยุโรป ไปเรียนที่โน้นตั้งแต่อายุ 18 กลับมาหลังจากเรียนจบก็อายุอานามน่าจะอยู่ที่ 24 มั้ง ถ้าจำไม่ผิด 555+ ก็เรียกว่าเป็นสาวมั่นคนหนึ่ง ที่แกร่งมาตั้งแต่เรื่องเรียน เพราะรู้ว่าตัวเองต้องการอะไรมาตั้งแต่มัธยม จนกระทั่งเข้าเรียนในมหาลัยในสิ่งที่ตัวเองชอบ พร้อมทั้งจบออกมาทำงานที่ตัวเองรัก แถมเงินเดือนระดับ 100K ขึ้น (อายุยังไม่ขึ้นเลข 3 ทีค่ะ แต่ใกล้ๆล่ะ) เรียกว่า จะทำอะไรก็มีแบบแผนมาโดยตลอด รู้ว่าต้องทำอะไรเพื่อให้ชีวิตดีขึ้น เพื่อนๆหลายๆคนน่าจะพอเดาออกว่าบุคลิกเป็นอย่างไร เน๊อะ 555+
เรื่องหน้าตา จขกท ไม่ได้จัดอยู่ในหมวดหมู่ที่เรียกว่าสวยแอ๊ปแบ๊ว แต่เรียกว่าสวยปกติ 555 (เอินตัวเองไปม๊ะ) จัดว่าอยู่ในหมวดหมู่คนหน้าตาดีแล้วกัน แต่ไม่ได้สวยมากเลิศเลอเป็นพริตตี้มอเตอร์โชว์นะคะ แต่ถ้าแต่งองค์ทรงเครื่องแบบเค้าก็อาจจะพอสู้ได้นะ คิคิ เอาล่ะ หน้าตาพอไปวัดไปวาได้แล้วกัน
เรื่องมันมีอยู่ว่าเราได้รู้จักผู้ชายสิงคโปร์คนหนึ่ง เป็นเพื่อนของเพื่อนเราอีกที เรียกเค้าว่านาย เอ แล้วกัน เพราะมันจะมีสองคน 555+ นาย เอ เป็นผู้ชายที่อบอุ่น เริ่มต้นรู้จักกันด้วยคำว่าเพื่อน เจอหน้ากันเพราะเพื่อนแนะนำให้รู้จักที่ RCA จากนั้นก็ได้ทำการแลก line กัน หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอหน้ากันอีก จนกระทั่งเค้ากลับไปสิงคโปร ก็ได้แค่แชตคุยกันในไลน์ นายเอ เรียนภาษาไทยมาค่ะ เรียนที่มหาวิทยาลัยที่สิงคโปร เรียกว่าอ่าน พูด เขียน ภาษาไทยได้ ไม่ได้คล่องปรืออย่างคนไทย แต่จัดได้ว่าอยู่ในขั้นที่ เข้าใจ อิอิ คิคิ แล้วกัน อิอิ แต่ไม่ได้พิมพ์ในไลน์เป็นภาษาไทย เพราะเค้าจะพิมพ์ช้ามากๆ เลยต้อง english กันทั้งดุ้น อาจจะมี lor na mai หรือ la la ของทางสิงคโปร เข้ามาบ้างเพื่อเป็นสีสันในการสนทนา
จขกท ค่อนข้างที่จะมีงานล้นตัว ไม่ค่อยมีเวลาไปเที่ยวเล่นอะไรมาก วันๆจะอยู่หน้าคอมพิวเตอร์และออกไปประชุม เท่านั้นจริงๆ แต่รู้มั้ย เราอ่ะ แบ่งเวลาแชตกับนายได้ เพราะนายคือคนสำคัญของเราไปแล้ว ห้า ห้า ห้า แต่ทุกอย่างยังอยู่ในฐานะเพื่อน แต่นายเอคิดยังไงกับเรา เราก็ไม่ทราบ ไม่กล้าเดา แต่ที่ผ่านมา 3 เดือนที่คุยกัน ทุกๆวันจะมี Good morning และ Goodnight and Sweet dreams ขอย้ำตรงนี้เลยว่า "ทุกวันจริงๆ" ก็มาแบบนี้จะไม่ให้เราคิดกับนายพิเศษได้ยังไง จริงมั้ยคะเพื่อนๆ
นายเอเป็นคนที่เข้าใจในศาสนาพุทธ เพราะเค้าก็นับถือศาสนาพุทธ เป็นนักสะสมพระตัวยง เรียกว่า พระอะไรดังๆ เพ่รู้หมด ขึ้นอยู่กับว่าเงินหนาพอหรือเปล่า ที่จะเช่าพระงามๆมาครอบครอง คนเราเวลาอยากให้เค้ามีความสุขเวลาคุยกับเรา เราก็ต้องสนทนาในสิ่งที่เค้าชอบและสนใจ จริงมั้ยคะเพื่อนๆ เราไม่ได้เป็นคนชอบพระเลยนะ เอาจริงๆเลย แต่กราบไหว้อ่ะแน่นอนเพราะเราเองก็ชาวพุทธ ก็ต้องเริ่มมาสนใจเรื่องพระเรื่องธรรมะมากขึ้น ต้องบอกว่าเค้าคนนี้เป็นแรงบันดาลใจให้เราอ่านหนังสือธรรมะ หลายๆครั้งที่เราจิตใจว้าวุ่นเพราะเรื่องงานที่รุมเร้า เราก็ได้หนังสือธรรมะเป็นที่พึ่งมาโดยตลอด นายมีประโยชน์กับเราก็ตรงนี้แหล่ะ 5555+
ผ่านมาทุกๆวันแบบนี้ จนเรารู้สึกว่าเราอยากรู้ใจตัวเองแล้ว ว่าจริงๆเราคิดกับนาย หรือ นาย คิดกับเราแบบใหน สิ่งที่ต้องทำคือเราสองคนต้องเจอกันอีกครั้งแบบตัวเป็นๆ ไม่ใช่ skype คุยกันเน้อ ดังนั้นทางออกมันมีแค่สองทางคือ นายมาเมืองไทย หรือ เราไปสิงคโปร์?
สรุปคือเราต้องไปสิงคโปร์ 5555+ เพราะว่านายเอ ที่บ้านทำธุรกิจค่อนข้างใหญ่โต นายเอเองก็มีอำนาจบาดใหญ่ ถึงขั้นมีชื่ออยู่ในบอร์ดของผู้บริหาร เป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลอ่ะนะ จะไม่ให้มีอำนาจได้ไงเนอะ แล้วนายเอก็ปลีกตัวออกจากธุรกิจอันแสนวุ่นวายของที่บ้านไม่ได้ซะที จนต้องบอกกับเราว่า "เราคงไม่มีเวลาไปหาที่ไทยหรอก มาหาเราที่สิงคโปรดีกว่า เราน่าจะมีเวลาออกมาหาเธอได้บ้าง" อ่าว "เราน่าจะมีเวลา" ????? คำนี้บ่งบอกถึงความไม่แน่นอนว่ากรูจะได้เจอมั้ย ถึงแม้ว่ากรูจะ fly ไปหาที่นั่น ใช่มั้ย??????ด๊วก ด่าๆไปหน่อย งอลๆไปหน่อย ง้อกันไปมา ดิฉันก็ต้องเข้าเวบไซท์ แอร์เอเชีย เพื่อทำการจองตั๋วเครื่องบินไปสิงคโปร ตามคาดหมาย ฮ่าๆๆๆๆๆ
อ่ะๆจองก็จอง จ่ายเงินเรียบร้อยเสร็จสรรพ เพื่อความชัวร์ ว่าจะต้องได้เจอกันแน่นอน ไปอยู่แมร่ง 3 วันเลยอ่ะ มันต้องมีซักวันที่มาเจอกันได้ โอ้โห นี่ไปประเคนให้ถึงที่นะ ถ้าไม่มาจัดการก็เรียกตัวเองว่าเป็น ค--- ได้นะคะ 55555+ (จริงๆแล้วเค้าเป็นสุภาพบุรุษมากๆ คงไม่เกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นหรอก ถ้าไม่ turn him on นะ 555)