ราคาที่ดิน 4 เดือนแรกปี"57 เข้าสู่โหมดชะลอตัวจากปัจจัยลบรุมเร้าหนัก ทั้งเศรษฐกิจหดตัว-การเมืองอึมครึม-เก็งกำไร-ยกเลิกโครงการรถไฟความเร็วสูง ชี้แนวโน้มภายใน 2-3 ปี หากไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาเสริม ราคาซื้อขายที่ดินในหัวเมืองรองที่ขาดศักยภาพปรับตัวลดลง สวนทางกับหัวเมืองใหญ่ เมืองท่องเที่ยว เมืองชายแดนที่ยังไปต่อได้ เผยล่าสุดราคาที่ดินอำเภอขุนหาญ เมืองศรีสะเกษตกฮวบกว่า 40%
นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ภาพรวมการซื้อขายที่ดินในพื้นที่ต่างจังหวัดในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ (มกราคม-เมษายน 2557) ตกอยู่ในภาวะชะลอตัว หลังจากที่โครงการเมกะโปรเจ็กต์รถไฟความเร็วสูงของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องล้มเลิกไป โดยราคาที่ดินในหัวเมืองรองจะได้รับผลกระทบมากที่สุด ยกเว้นหัวเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยวที่ยังมีการซื้อขายที่ดินอย่างคึกคัก เนื่องจากเป็นเมืองที่มีศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง อาทิ พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย ฯลฯ
"สถานการณ์ราคาที่ดินในต่างจังหวัดตอนนี้ยังทรงตัว แต่การซื้อขายชะลอตัวไปอย่างมาก เพราะโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐไม่ผ่านการอนุมัติ ภายในระยะ 2-3 ปีจากนี้หากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาเสริมมีแนวโน้มว่าราคาที่จะลดลงอย่างแน่นอน" นายวสันต์กล่าวและว่า
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าราคาที่ดินในจังหวัดที่เป็นเมืองชายแดนยังมีการซื้อขายกันอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เนื่องจากเป็นประตูที่เชื่อมไปสู่ภูมิภาคอาเซียน ทำให้ความต้องการซื้อที่ดินเพื่อตั้งเป็นฐานธุรกิจยังมีอยู่ อีกทั้งเป็นเมืองที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจเป็นตัวรองรับ โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มมีกลุ่มทุนรายใหญ่จากส่วนกลางเข้าไปเจาะตลาดดักกำลังซื้อเมืองชายแดนและหัวเมืองรองในต่างจังหวัดกันบ้างแล้วในหลายพื้นที่
ไม่ว่าจะเป็นพิษณุโลก อุบลราชธานี มหาสารคาม หนองคาย ฯลฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อมองหาตลาดและโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ นอกเหนือการทำตลาดในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
สำหรับสถานการณ์ธุรกิจอสังหาฯ ไตรมาส 1/57 มีแนวโน้มหดตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา วัดได้จากยอดขายของบริษัทพัฒนาที่ดินทั้งขนาดใหญ่ กลาง และเล็กลดลง และจำนวนโครงการใหม่ที่เปิดตัวลดลงอย่างชัดเจน คาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะลากยาวไปถึงสิ้นไตรมาส 2/57 ซึ่งจะเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่นของการขาย และไม่มั่นใจว่าในช่วง 2 ไตรมาสสุดท้ายปีนี้สถานการณ์ขายที่อยู่อาศัยจะพลิกกลับมาฟื้นตัวได้หรือไม่ ซึ่งส่วนตัวประเมินว่าตลาดโดยรวมน่าจะติดลบประมาณ 5%
"ผมว่าคงต้องรอลุ้นยอดขายที่อยู่อาศัยในช่วงครึ่งปีหลังว่าจะทำได้เท่ากับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาหรือไม่ อีกตัวแปรที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดคือ หากมีการประกาศออกมาชัดเจนว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (จีดีพี) ปีนี้ติดลบ ธุรกิจอสังหาฯ ปีนี้จะแย่กว่าคาดการณ์ไว้แน่นอน นอกจากนี้ยังมีเรื่องสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไร้ทางยุติ หากจบเร็วจะทำให้เกิดการลงทุนใหม่ๆ เกิดขึ้นบ้าง" นายวสันต์กล่าว
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ กรรมการบริหาร บริษัท สิริมงคล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด บริษัทพัฒนาที่ดินรายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษและอุบลราชธานีกล่าวว่า การซื้อขายที่ดินในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงมาก โดยราคาในบางพื้นที่ที่ไม่ได้อยู่ในทำเลศักยภาพราคาลดลงสูงถึง 40% เมื่อเทียบกับช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาที่เกิดการเก็งกำไร และการตื่นตัวของการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ทำให้มีการตั้งราคาขายกันอย่างไม่เหมาะสม เช่น ที่ดินอำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ เนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เสนอราคาขายอยู่ที่ 60 ล้านบาท ปัจจุบันลดราคาเหลือ 34 ล้านบาท
ขณะที่ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีในเขตเทศบาลเมืองที่ผ่านมามีการซื้ออาคารพาณิชย์เพื่อเก็งกำไรกันอย่างคึกคัก แต่ปัจจุบันการซื้อขายซบเซาอย่างมาก ส่วนที่ดินที่อยู่ในย่านไพรมแอเรียใกล้กับห้างเซ็นทรัล ราคาซื้อขายยังทรงตัวอยู่ที่ไร่ละ 15 ล้านบาท
"โดยภาพรวมราคาซื้อขายที่ดินลดลง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีการเก็งกำไรกันมากเกินไป และมีการตั้งราคากันอย่างไม่สมเหตุสมผล ประกอบกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการชุมนุมทางการเมืองที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน" นายสิริพงศ์กล่าว
ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 22 เม.ย. 57
ติดตามข้อคิดการเงินได้ที่ Maibat Fanpage
https://www.facebook.com/maibat.thailand
ที่ดินตจว.4เดือนแรกชะลอตัว นักเก็งกำไรหัวทิ่ม ทำเลไร้ศักยภาพราคาฮวบ40%
นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ภาพรวมการซื้อขายที่ดินในพื้นที่ต่างจังหวัดในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ (มกราคม-เมษายน 2557) ตกอยู่ในภาวะชะลอตัว หลังจากที่โครงการเมกะโปรเจ็กต์รถไฟความเร็วสูงของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องล้มเลิกไป โดยราคาที่ดินในหัวเมืองรองจะได้รับผลกระทบมากที่สุด ยกเว้นหัวเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยวที่ยังมีการซื้อขายที่ดินอย่างคึกคัก เนื่องจากเป็นเมืองที่มีศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง อาทิ พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย ฯลฯ
"สถานการณ์ราคาที่ดินในต่างจังหวัดตอนนี้ยังทรงตัว แต่การซื้อขายชะลอตัวไปอย่างมาก เพราะโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐไม่ผ่านการอนุมัติ ภายในระยะ 2-3 ปีจากนี้หากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาเสริมมีแนวโน้มว่าราคาที่จะลดลงอย่างแน่นอน" นายวสันต์กล่าวและว่า
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าราคาที่ดินในจังหวัดที่เป็นเมืองชายแดนยังมีการซื้อขายกันอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เนื่องจากเป็นประตูที่เชื่อมไปสู่ภูมิภาคอาเซียน ทำให้ความต้องการซื้อที่ดินเพื่อตั้งเป็นฐานธุรกิจยังมีอยู่ อีกทั้งเป็นเมืองที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจเป็นตัวรองรับ โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มมีกลุ่มทุนรายใหญ่จากส่วนกลางเข้าไปเจาะตลาดดักกำลังซื้อเมืองชายแดนและหัวเมืองรองในต่างจังหวัดกันบ้างแล้วในหลายพื้นที่
ไม่ว่าจะเป็นพิษณุโลก อุบลราชธานี มหาสารคาม หนองคาย ฯลฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อมองหาตลาดและโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ นอกเหนือการทำตลาดในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
สำหรับสถานการณ์ธุรกิจอสังหาฯ ไตรมาส 1/57 มีแนวโน้มหดตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา วัดได้จากยอดขายของบริษัทพัฒนาที่ดินทั้งขนาดใหญ่ กลาง และเล็กลดลง และจำนวนโครงการใหม่ที่เปิดตัวลดลงอย่างชัดเจน คาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะลากยาวไปถึงสิ้นไตรมาส 2/57 ซึ่งจะเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่นของการขาย และไม่มั่นใจว่าในช่วง 2 ไตรมาสสุดท้ายปีนี้สถานการณ์ขายที่อยู่อาศัยจะพลิกกลับมาฟื้นตัวได้หรือไม่ ซึ่งส่วนตัวประเมินว่าตลาดโดยรวมน่าจะติดลบประมาณ 5%
"ผมว่าคงต้องรอลุ้นยอดขายที่อยู่อาศัยในช่วงครึ่งปีหลังว่าจะทำได้เท่ากับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาหรือไม่ อีกตัวแปรที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดคือ หากมีการประกาศออกมาชัดเจนว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (จีดีพี) ปีนี้ติดลบ ธุรกิจอสังหาฯ ปีนี้จะแย่กว่าคาดการณ์ไว้แน่นอน นอกจากนี้ยังมีเรื่องสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไร้ทางยุติ หากจบเร็วจะทำให้เกิดการลงทุนใหม่ๆ เกิดขึ้นบ้าง" นายวสันต์กล่าว
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ กรรมการบริหาร บริษัท สิริมงคล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด บริษัทพัฒนาที่ดินรายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษและอุบลราชธานีกล่าวว่า การซื้อขายที่ดินในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงมาก โดยราคาในบางพื้นที่ที่ไม่ได้อยู่ในทำเลศักยภาพราคาลดลงสูงถึง 40% เมื่อเทียบกับช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาที่เกิดการเก็งกำไร และการตื่นตัวของการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ทำให้มีการตั้งราคาขายกันอย่างไม่เหมาะสม เช่น ที่ดินอำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ เนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เสนอราคาขายอยู่ที่ 60 ล้านบาท ปัจจุบันลดราคาเหลือ 34 ล้านบาท
ขณะที่ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีในเขตเทศบาลเมืองที่ผ่านมามีการซื้ออาคารพาณิชย์เพื่อเก็งกำไรกันอย่างคึกคัก แต่ปัจจุบันการซื้อขายซบเซาอย่างมาก ส่วนที่ดินที่อยู่ในย่านไพรมแอเรียใกล้กับห้างเซ็นทรัล ราคาซื้อขายยังทรงตัวอยู่ที่ไร่ละ 15 ล้านบาท
"โดยภาพรวมราคาซื้อขายที่ดินลดลง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีการเก็งกำไรกันมากเกินไป และมีการตั้งราคากันอย่างไม่สมเหตุสมผล ประกอบกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการชุมนุมทางการเมืองที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน" นายสิริพงศ์กล่าว
ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 22 เม.ย. 57
ติดตามข้อคิดการเงินได้ที่ Maibat Fanpage
https://www.facebook.com/maibat.thailand