ในวันพรุ่งนี้ เป็นอีกครั้งที่จะมีการประมูลข้าวผ่าน AFET อีกครั้ง เป็นครั้งที่ 10 (หรือครั้งที่ 7 ของปีนี้)
ซึ่งที่ผ่านมา จากข่าวจะได้แต่ตัวเลขเสนอราคาส่วนต่าง ประมาณ 2 บาท และหลัง ๆ ส่วนต่างรู้สึกจะเพิ่มขึ้น
จริง ๆ ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจวิธีการอย่างแท้จริง แต่พอเข้าใจคร่าว ๆ ว่า สมมติว่าประมูลได้ในราคาส่วนต่าง 2 บาท/กก. ก็ไปทำการซื้อขายใน AFET ถ้าได้สัญญาในราคาเท่าไหร่ ก็เอาตัวนั้นไปแลกเปลี่ยนข้าวกับ อคส. โดยจ่ายราคาที่ประมูลได้ ลบด้วยส่วนต่างไป
ซึ่งถ้าหากราคาประมูลได้คือ 12 บาท หมายความว่า จะจ่ายในราคา 10 บาท หรือ ตันละ 10,000 บาท ซึ่งตรงนี้ไม่แน่ใจว่า จะเป็นราคาที่ต่ำเกินไปหรือไม่
วันนี้ ก็เลยลองทำความเข้าใจดูสักหน่อย ก็ไปหาข้อมูลได้แบบนี้
เริ่มจากแผ่นพับ (ตัวอาจจะเล็กไปหน่อย วางลิงก์ด้วยแล้วกันครับ
http://www.afet.or.th/download/brochure-basis.pdf )
ซึ่งจากในแผ่นพับ ก็พอเข้าใจหลักการซื้อขายได้ไม่ยาก ก็คงไม่ต่างจากที่ผมเข้าใจเท่าไหร่
แล้วหลังจากนั้น ก็ลองดูราคาที่มีการซื้อขายกันในตลาด AFET โดยเน้นดูเฉพาะราคาข้าวขาว 5%
แต่เนื่องจากข้อมูลที่มีในเวป AFET เป็นข้อมูลที่ไม่ค่อยสำเร็จรูปเท่าไหร่ คือมีแต่ข้อมูลสรุปรายวัน แล้วนำไปใส่ในตารางรวม ๆ กันไว้แค่นั้น เลยหาจุดสรุปได้ยาก
ผมก็เลยลองลดขนาดข้อมูล โดยขอมุ่งโฟกัสไปเฉพาะ ข้าวที่จะส่งมอบกันในเดือน พฤษภาคม 57
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1398061958
โดยข้าวที่ส่งมอบในเดือนพฤษภาคมนั้น จะมีการประมูลครั้งแรกในครั้งที่ 4 (หรือ 1/2557) โดยมีปริมาณ 19,394 ตัน คิดเป็นสัญญา 1,286 สัญญา
ไล่มาถึงครั้งล่าสุดที่อนุมัติ คือครั้งที่ 8 (5/2557) มีข้าวที่ต้องส่งมอบเดือน พฤษภาคม จำนวน 43,029 ตัน คิดเป็น 2,860 สัญญา
รวมแล้วตอนนี้ที่อนุมัติขายของงวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม มีจำนวน 146,183 ตัน หรือประมาณ 10,000 สัญญา
ซึ่งเมื่อลองไปดูข้อมูลการประมูลเป็นรายวัน ลองตัดแยกเฉพาะของงวดส่งมอบเดือน พฤษภาคมออกมา
ตามที่ไล่ดู เพิ่งมีการเกิดสัญญาครั้งแรกในวันที่ 31 มีนาคม
ซึ่งดูจากปริมาณสัญญาแล้ว น่าจะยังขาดอีกพอสมควร
ก็ไม่รู้ว่า จะต้องรอราคาลดลงกว่านี้ ถึงจะเข้าซื้อขายมากกว่านี้
มองทาง อคส.น่าจะอยากรีบขาย ถ้าหากลดราคาลงไปเรื่อย ๆ เมื่อบวกกับส่วนต่างที่ประมูลกันได้ไป ราคาสุทธิ อาจจะต่ำกว่า 10,000 บาท แบบนี้ควรขายหรือไม่
ถ้าไม่ควรขายในราคาต่ำขนาดนั้น (เพราะจะเกิดผลกระทบลูกโซ่ ถึงข้าวที่กำลังออกสู่ตลาดด้วย) อคส.ควรมีราคาขั้นต่ำ ที่จะเปิดสัญญาขายออกมาหรือไม่
หรือตอนนี้ อยู่ในสถานะหน้ามืด ต้องรีบ cut loss ขายทุกราคา
ถ้าแบบนี้ การประมูลผ่านตลาด AFET คงไม่ใช่วิธีที่ดีแน่ ๆ เพราะกลายเป็นตลาดของผู้ซื้อโดยสมบูรณ์ ผู้ขายไม่มีอำนาจต่อรองใด ๆ คนซื้อมีทางเลือกมาก คือ อคส.ไม่ขาย ในราคาที่เหมาะสม (ที่ต่ำมาก ๆ ) ก็ไม่ซื้อ
อย่างนี้ น่าจะชะลอ การประมูลแบบนี้ไปก่อนหรือไม่ รอสภาวะตลาด ปกติกว่านี้ การซื้อขายผ่าน AFET ถึงสะท้อนราคาที่แท้จริงได้
จริง ๆ ถ้าหากเริ่มต้นการขายผ่าน AFET ตั้งแต่วันแรกที่พูดว่าจะทำ ตอนนี้ ก็คงไม่โดนกดราคาทั้งราคาในกระดาน และส่วนลดที่ประมูลกันขนาดนี้
การประมูลข้าวผ่านตลาด AFET
ซึ่งที่ผ่านมา จากข่าวจะได้แต่ตัวเลขเสนอราคาส่วนต่าง ประมาณ 2 บาท และหลัง ๆ ส่วนต่างรู้สึกจะเพิ่มขึ้น
จริง ๆ ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจวิธีการอย่างแท้จริง แต่พอเข้าใจคร่าว ๆ ว่า สมมติว่าประมูลได้ในราคาส่วนต่าง 2 บาท/กก. ก็ไปทำการซื้อขายใน AFET ถ้าได้สัญญาในราคาเท่าไหร่ ก็เอาตัวนั้นไปแลกเปลี่ยนข้าวกับ อคส. โดยจ่ายราคาที่ประมูลได้ ลบด้วยส่วนต่างไป
ซึ่งถ้าหากราคาประมูลได้คือ 12 บาท หมายความว่า จะจ่ายในราคา 10 บาท หรือ ตันละ 10,000 บาท ซึ่งตรงนี้ไม่แน่ใจว่า จะเป็นราคาที่ต่ำเกินไปหรือไม่
วันนี้ ก็เลยลองทำความเข้าใจดูสักหน่อย ก็ไปหาข้อมูลได้แบบนี้
เริ่มจากแผ่นพับ (ตัวอาจจะเล็กไปหน่อย วางลิงก์ด้วยแล้วกันครับ http://www.afet.or.th/download/brochure-basis.pdf )
ซึ่งจากในแผ่นพับ ก็พอเข้าใจหลักการซื้อขายได้ไม่ยาก ก็คงไม่ต่างจากที่ผมเข้าใจเท่าไหร่
แล้วหลังจากนั้น ก็ลองดูราคาที่มีการซื้อขายกันในตลาด AFET โดยเน้นดูเฉพาะราคาข้าวขาว 5%
แต่เนื่องจากข้อมูลที่มีในเวป AFET เป็นข้อมูลที่ไม่ค่อยสำเร็จรูปเท่าไหร่ คือมีแต่ข้อมูลสรุปรายวัน แล้วนำไปใส่ในตารางรวม ๆ กันไว้แค่นั้น เลยหาจุดสรุปได้ยาก
ผมก็เลยลองลดขนาดข้อมูล โดยขอมุ่งโฟกัสไปเฉพาะ ข้าวที่จะส่งมอบกันในเดือน พฤษภาคม 57
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1398061958
โดยข้าวที่ส่งมอบในเดือนพฤษภาคมนั้น จะมีการประมูลครั้งแรกในครั้งที่ 4 (หรือ 1/2557) โดยมีปริมาณ 19,394 ตัน คิดเป็นสัญญา 1,286 สัญญา
ไล่มาถึงครั้งล่าสุดที่อนุมัติ คือครั้งที่ 8 (5/2557) มีข้าวที่ต้องส่งมอบเดือน พฤษภาคม จำนวน 43,029 ตัน คิดเป็น 2,860 สัญญา
รวมแล้วตอนนี้ที่อนุมัติขายของงวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม มีจำนวน 146,183 ตัน หรือประมาณ 10,000 สัญญา
ซึ่งเมื่อลองไปดูข้อมูลการประมูลเป็นรายวัน ลองตัดแยกเฉพาะของงวดส่งมอบเดือน พฤษภาคมออกมา
ตามที่ไล่ดู เพิ่งมีการเกิดสัญญาครั้งแรกในวันที่ 31 มีนาคม
ซึ่งดูจากปริมาณสัญญาแล้ว น่าจะยังขาดอีกพอสมควร
ก็ไม่รู้ว่า จะต้องรอราคาลดลงกว่านี้ ถึงจะเข้าซื้อขายมากกว่านี้
มองทาง อคส.น่าจะอยากรีบขาย ถ้าหากลดราคาลงไปเรื่อย ๆ เมื่อบวกกับส่วนต่างที่ประมูลกันได้ไป ราคาสุทธิ อาจจะต่ำกว่า 10,000 บาท แบบนี้ควรขายหรือไม่
ถ้าไม่ควรขายในราคาต่ำขนาดนั้น (เพราะจะเกิดผลกระทบลูกโซ่ ถึงข้าวที่กำลังออกสู่ตลาดด้วย) อคส.ควรมีราคาขั้นต่ำ ที่จะเปิดสัญญาขายออกมาหรือไม่
หรือตอนนี้ อยู่ในสถานะหน้ามืด ต้องรีบ cut loss ขายทุกราคา
ถ้าแบบนี้ การประมูลผ่านตลาด AFET คงไม่ใช่วิธีที่ดีแน่ ๆ เพราะกลายเป็นตลาดของผู้ซื้อโดยสมบูรณ์ ผู้ขายไม่มีอำนาจต่อรองใด ๆ คนซื้อมีทางเลือกมาก คือ อคส.ไม่ขาย ในราคาที่เหมาะสม (ที่ต่ำมาก ๆ ) ก็ไม่ซื้อ
อย่างนี้ น่าจะชะลอ การประมูลแบบนี้ไปก่อนหรือไม่ รอสภาวะตลาด ปกติกว่านี้ การซื้อขายผ่าน AFET ถึงสะท้อนราคาที่แท้จริงได้
จริง ๆ ถ้าหากเริ่มต้นการขายผ่าน AFET ตั้งแต่วันแรกที่พูดว่าจะทำ ตอนนี้ ก็คงไม่โดนกดราคาทั้งราคาในกระดาน และส่วนลดที่ประมูลกันขนาดนี้