ชีวิตนี้เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ เลือกให้ดี

กระทู้สนทนา
ผู้ปฏิบัติธรรมจนสามารถมีความรู้พิเศษ จะรู้ได้และบางทีก็ได้แสดงให้รู้ล่วงหน้า
เช่น พระอาจารย์องค์หนึ่งได้ปรารภเนืองๆว่า ในอดีตท่านเคยขับเกวียนทับเด็กตายโดยเจตนา ดังนั้นท่านจะต้องได้รับผลกรรมนั้น
วันหนึ่งท่านเตรียมตัวออกเดินทางจากวัด ทั้งๆที่ถูกทักท้วงว่า พรุ่งนี้จะถึงวันที่ท่านรับอาราธนาไปในการทำบุญที่บ้านหนึ่ง
ท่านก็ตอบง่ายๆ ตรงไปตรงมาว่า ถึงเวลาวันนั้นแหละถูกแล้ว  แต่ไม่มีผู้ใดเข้าใจความหมายของท่าน
และในวันนั้นเอง รถที่ท่านนั่งออกไปก็คว่ำ ทับร่างท่านมรณภาพทันที ส่วนคนอื่นๆปลอดภัย
หลังจากนั้นไม่นานก็มีการทำศพท่าน ปรากฏว่าอัฐิของท่านที่ยังไม่เย็นสนิทดี ได้กลายเป็นมณีสีสวยงามที่เรียกกันว่า “พระธาตุ”

ก่อนที่จะมาเป็นเราในชาตินี้ เราเคยเป็นอะไรมาแล้วมากมาย ทั้งเทวดา สัตว์เล็ก สัตว์ใหญ่ คนพิการ อายุสั้น อายุยาว
ผู้ที่ระลึกชาติได้ ก็จะสลดสังเวชยิ่งนัก และอาจสละละวางความโลภ ความโกรธ ความหลง
เมื่อเราเห็นสุนัขขี้เรื้อนสักตัว แล้วลองนึกว่าเราก็เคยเป็นเช่นเดียวกัน เคยกระเซอะเซิง ถูกคนตี ถูกสุนัขด้วยกันกัด
จะบอกกล่าวให้ผู้ใดเห็นใจก็ทำไม่ได้ ได้แต่เพียงเปล่งเสียงร้องโหยหวน
กรรมไม่ดีแน่แท้ที่ทำให้ชีวิตต้องเป็นเช่นนี้

ทุกคนเคยมีทั้งสุขและทุกข์ เคยเป็นทั้งผู้ร้ายและผู้ดี
น้ำตาเคยท่วมบ้านท่วมเมืองมาแล้ว กระดูกทับถมแผ่นดินนี้ หาที่ว่างสักเท่าปลายเข็มหมุดจะปักลงก็ไม่พบ
เปรียบกับชีวิตนี้เพียงชีวิตเดียว...ชีวิตนี้จึงน้อยนัก จะห่วงใยแสวงหาอะไรอีก
หยุดกรรมไม่ดีเสีย แล้วเริ่มต้นทำแต่กรรมดี

ชีวิตนี้จึงสำคัญนัก...จงเลือกให้ดีเถิด

               “ชีวิตนี้น้อยนัก
                แต่... ‘ชีวิตนี้สำคัญนัก’
                เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ  เป็นทางแยก
                จะไปสูงไปต่ำ จะไปดีไปร้าย
                เลือกได้ในชีวิตนี้เท่านั้น
                พึงสำนึกข้อนี้ให้จงดี
                แล้วจงเลือกเถิด...เลือกให้ดีเถิด”


ที่มา: ชีวิตนี้น้อยนัก  พระนิพนธ์ใน สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก

ข้าน้อยขออนุญาตฝากกระทู้นี้แก่นักการเมือง ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับนักการเมือง และผู้ที่สามารถให้คุณให้โทษ ทั้งแก่นักการเมือง
และบ้านเมืองไทย
และ ขอขอบคุณผู้ที่อ่านกระทู้นี้จนจบ

มิตรา    
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่