เป็นคนหนึ่งที่สนใจเรื่อง Lucid Dream มานาน เพราะมันคงจะสนุกไม่น้อยหากคุณสามารถทำอะไรก็ได้ ดังใจนึกในฝัน อยากจะบิน สร้างปราสาท วาดสายรุ้ง ก็ทำได้ในพริบตาเดียว แต่การจะควบคุมความฝันหรือ Lucid Dream ได้นั้น ต้องอาศัยการฝึกฝนและใช้เวลาพอสมควร ปัจจุบันด้วยความที่ผมไม่ค่อยจะกระตือรือร้นที่จะฝึกเท่าไหร่ จึงยังทำได้ไม่ดีนัก
ก่อนที่จะรู้จักกับลูซิด ดรีม เคยรู้ตัวว่าตัวเองฝันประมาณ 2 ครั้ง ครั้งแรก พอรู้ตัวเลยลองบินดู แต่บินไปชนต้นไม้ แล้วก็ตื่นสะดุ้ง ครั้งที่สอง ฝันว่าไปดูหนังกับเพื่อน พอเข้าไปในโรงหนัง เริ่มสงสัยว่าเรามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง เรานัดกับเพื่อนตั้งแต่เมื่อไหร่ พยายามนึกว่า นั่งรถกันมายังไง แต่ก็คิดไม่ออก จึงรู้ตัวว่า กำลังฝันอยู่นี่เอง ตอนนั้นจำได้จากการ์ตูนว่า ถ้าอยากรู้ว่าฝันหรือปล่าวให้หยิกแก้มตัวเอง ก็เลยทำตาม และก็ตื่นจริงๆ พร้อมกับพบว่ากำลังหยิกแก้มตัวเองอยู่ ตอนนั้นยังเด็กอยู่มาก เลยไม่ได้อะไรเท่าไหร่
โตขึ้นมาหน่อย โดนผีอำเป็นครั้งแรก อาการคล้ายกับคนอื่นที่โดนผีอำคือ ตื่นขึ้นมา พบว่านอนอยู่ในห้องของตัวเอง ขยับตัวไปไหนไม่ได้ ไม่ว่าจะออกแรงสักเท่าไหร่ แต่ที่แตกต่างก็คือ แทนที่จะเห็นผี ผมกลับเห็น “หุ่นยนต์” อยู่นอกหน้าต่าง ตอนแรกไม่แน่ใจว่ามันคือผีอำหรือปล่าว เพราะไม่เห็นมีผีเลย ก็เลยทำการหาข้อมูล พบว่ามันสามารถอธิบายได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ มันเป็นอาการที่สมองเราตื่น แต่ร่างกายไม่ตื่น สิ่งที่เราเห็น, ได้ยิน, หรือสัมผัสในช่วงโดนผีอำนั้น เราสร้างขึ้นมาในหัวทั้งสิ้น ตอนถูกผีอำ เราจะเห็นว่า เราอยู่ในห้องนอนที่เหมือนกับห้องเรา แต่จริงๆ แล้วห้องที่เห็นไม่ใช่สิ่งที่ตาเราเห็นจริงๆ แต่เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นในสมอง ถ้าเรารู้สึกกลัว แน่นอนว่าสมองก็จะสร้างภาพน่ากลัวขึ้นมา คนส่วนใหญ่พอเห็นว่าตัวเองขยับไม่ได้ เป็นเรื่องปกติที่จะกลัว แต่ความกลัวนั้นทำให้เราจินตนาการถึงสิ่งที่น่ากลัวด้วย สมัยนั้นรู้สึกกำลังบ้าพวกกันดั้มผมเลยเห็นเป็นหุ่นยนต์
ต่อมา โตขึ้นอีกหน่อย ได้ยินเพื่อนพูดถึงลูซิด ดรีมหรือการควบคุมความฝัน ก็เกิดสนใจขึ้นมา เพราะมันน่าสนุก ก็เลยลองค้นคว้าจากอินเตอร์เน็ตและลองฝึกดู แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า เป็นคนจำความฝันไม่ได้ (จริงๆ แล้วทุกคนฝันหมดนะครับ ฝันคืนหนึ่งหลายเรื่องด้วย แต่พวกที่คิดว่าไม่ฝัน ก็คือคุณจำฝันไม่ได้) เลยลองหาข้อมูลดู ซึ่งวิธีนั้นก็ไม่ยากครับ แค่ก่อนนอนตั้งใจ และบอกกับตัวเองว่า เราจะจำฝันของตัวเองให้ได้ ซึ่งผมก็จำได้จริงๆ พอพอจะจำความฝันได้เลย ก็เริ่มลองฝึก Lucid Dream
วิธีหนึ่งที่ลองก็คือ การบันทึกความฝัน หรือการเขียน Dream Journal จำได้เลยว่าครั้งแรกที่เริ่มเขียน ก่อนนอนเตรียมสมุดและปากกาไว้ข้างๆ เตียง ตามคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ ตื่นขึ้นมาปุ๊บให้เขียนเลย เพราะหลังจากนั้นแล้วเราจะอาจจะจำไม่ได้ ผมก็ทำตามครับ ฝันแรกตื่นขึ้นมา รีบเขียนเลยกลัวลืม แต่ยังรู้สึกง่วง เลยนอนต่อ ซึ่งก็ฝันอีก พอตื่นขึ้นก็เขียนอีก แล้วก็ยังรู้สึกอยากนอนต่อ เป็นอย่างนี้ประมาณ 7 ฝันอ่ะครับ โดยที่บันทึกไว้ทั้งหมด พอตื่นขึ้นมาจริงๆ ลองดูบันทึกความฝันของตัวเอง ปรากฏว่า ที่ได้บันทึกจริงๆ มีแค่ 3 ฝันครับ บันทึกที่เหลือคือเขียนในความฝัน ไม่ได้เขียนจริงๆ ตอนนั้นรู้สึกเหมือนอยู่ในหนังพวก Inception หรือ The Matrix มาก เพราะแยกความฝันกับความจริงไม่ออก ปะปนกันมั่วไปหมด
เขียนไปได้สักอาทิตย์หนึ่งก็ขี้เกลียด เหอๆ แต่ก็ได้พบวิธีที่ทำให้เราลูซิด ดรีมได้ ต้องขอบอกนะครับ วิธีทำให้เกิดลูซิดดรีม ที่ได้ผลของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกัน ของผมก็คือ ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ช่วง 6:30 ถึง 7:00 (เป็นคนนอนตื่นสายครับ แฮะๆ) พอตื่นขึ้นมาแล้ว รีบนอนต่อเลย แต่ตอนนอน พยายามควบคุมสติให้ดี ไม่ให้สมองหลับไปพร้อมกับร่างกาย เพราะตอนที่เราตื่นใหม่ๆ ร่างกายเราตื่นไม่เต็มที่ สามารถกลับไปสู่สภาพเป็นอัมภาสในตอนนอนได้ง่าย ก็คือเป็นวิธีที่ทำให้ร่างกายหลับแต่สมองตื่น ผมลองวิธีนี้ 7 วัน ทำลูซิดดรีมได้ 6 วัน บางวันได้มากกว่า 1 ครั้งด้วย
การทำลูซิดดรีมให้เกิดขึ้นนั้น ไม่ยากเท่ากับการรักษาความฝันให้คงอยู่ครับ เพราะถ้าเราตื่นเต้นเกินไป ก็จะทำให้ตื่นได้ ผมทำได้เฉลี่ยแล้วประมาณ 2-5 นาทีเท่านั้นเอง เป็นเพราะสมาธิยังไม่นิ่งพอ เลยไม่ได้ลองหรือสำรวจอะไรมาก คนที่เก่งๆ เขาทำได้ 1-2 ชั่วโมง ถ้าทำได้เป็นขนาดนั้นคงจะสนุกน่าดู
ลูซิดดรีมทั้งหมดของผม จะเริ่มที่ผมนอนอยู่บนเตียงในห้องนอน ช่วงเวลาเกือบๆ สว่าง แต่ตอนลุกขึ้นมาจากเตียงจะต่างกัน บางครั้ง ตอนแรกจะขยับไม่ได้ เหมือนโดนผีอำ แต่ลองตั้งสติให้ดี และจินตนาการให้ตัวเองยืนขึ้น ก็จะยืนได้เอง เมื่อเดินออกมาจากเตียง บางทีหันกลับไปก็จะเห็นร่างตัวเองนอนอยู่คล้ายๆ กับถอดจิต บางทีก็ไม่เห็น บางครั้ง ก็ลุกขึ้นมาจากเตียงเหมือนกับที่ร่างกายทำปกติเลย พอยืนขึ้นได้แล้ว ส่วนมากก็จะไม่แน่ใจว่าตัวเองฝันอยู่หรือปล่าว เพราะมันเหมือนจริงมาก วิธีหนึ่งที่จะพิสูจน์ก็คือบีบจมูกตัวเอง และลองหายใจดู ถ้ายังหายใจได้ แสดงว่าฝันอยู่
เมื่อออกจากห้องไป ก็เห็นเป็นบ้านของตัวเองนี่แหละครับ เหมือนกับของจริง ฝันทุกครั้งก็จะลองทำโน้นทำนี่ดู เราสามารถทำได้เหมือนชีวิตจริงเกือบทุกอย่าง ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ยังอยู่ครบ สามารถรับรู้ถึงความหนาวเย็น ความแข็งของกำแพง เคยกินช็อคโกแล๊ตในตู้เย็น ลองดื่มโค้กด้วย ก็สามารถรับรสชาติได้ รู้สึกถึงอาหารตกถึงท้องตามปกติ ครั้งหนึ่งเดินผ่านห้องนั่งเล่น เห็นแม่นั่งดูทีวีอยู่ เกือบเข้าไปคุย แต่ไม่เอาดีกว่า เคยลองบินด้วยครับ แต่บินไม่ได้ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร เคยลองกระโดดจากโต๊ะเพื่อบินดู ก็ไม่ได้ครับ สะดุ้งตื่น ข้อดีอย่างหนึ่งของการลูซิดดรีมก็คือจะหกขเมนตีลังกายังไง เราก็ไม่มีทางเจ็บ แต่เราจะตื่น
ออกมานอกบ้าน ก็เหมือนกันนอกบ้านเราปกติ มีคนเดินไปมาประปราย แตกต่างกันที่อากาศ ในความเป็นจริง ถึงแม้จะตอนเช้า ก็จะค่อนข้างร้อน แต่ในฝันจะเย็นสบายมาก อาจเป็นเพราะเป็นคนชอบอากาศแบบนี้ มีอยู่ครั้งหนึ่ง เบื่อเพราะไปๆ มาๆ ได้แต่แถวบ้าน อยากไปที่อื่นบ้าง เลยลองหลับตา และบอกกับตัวเองว่า ไปญี่ปุ่น รู้สึกมันกับวาร์ปไปอีกที่ เมื่อลืมตาขึ้น พบว่าตัวเองอยู่หน้าตึกอะไรบางอย่างที่ใหญ่มาก ลองเดินเข้าไปดู ไม่มีคนสักคน แต่ก็ไม่ได้สำรวจอะไรมาก เพราะตื่นก่อน
ไม่คิดว่าจะเขียนยาวขนาดนี้ โทษทีครับ แล้วเพื่อนๆ ชาวพันทิพล่ะครับ ถ้ามีประสบการณ์ลูซิดดรีม หรือเคยฝึกทำวิธีไหนได้ผล รบกวนเล่าสู่กันฟังด้วยนะครับ อาจจะได้ร่วมฝึกไปพร้อมๆ กัน
ร่วมแชร์ประสบการณ์ผู้ที่เคยควบคุบความฝันหรือ Lucid Dream ครับ
ก่อนที่จะรู้จักกับลูซิด ดรีม เคยรู้ตัวว่าตัวเองฝันประมาณ 2 ครั้ง ครั้งแรก พอรู้ตัวเลยลองบินดู แต่บินไปชนต้นไม้ แล้วก็ตื่นสะดุ้ง ครั้งที่สอง ฝันว่าไปดูหนังกับเพื่อน พอเข้าไปในโรงหนัง เริ่มสงสัยว่าเรามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง เรานัดกับเพื่อนตั้งแต่เมื่อไหร่ พยายามนึกว่า นั่งรถกันมายังไง แต่ก็คิดไม่ออก จึงรู้ตัวว่า กำลังฝันอยู่นี่เอง ตอนนั้นจำได้จากการ์ตูนว่า ถ้าอยากรู้ว่าฝันหรือปล่าวให้หยิกแก้มตัวเอง ก็เลยทำตาม และก็ตื่นจริงๆ พร้อมกับพบว่ากำลังหยิกแก้มตัวเองอยู่ ตอนนั้นยังเด็กอยู่มาก เลยไม่ได้อะไรเท่าไหร่
โตขึ้นมาหน่อย โดนผีอำเป็นครั้งแรก อาการคล้ายกับคนอื่นที่โดนผีอำคือ ตื่นขึ้นมา พบว่านอนอยู่ในห้องของตัวเอง ขยับตัวไปไหนไม่ได้ ไม่ว่าจะออกแรงสักเท่าไหร่ แต่ที่แตกต่างก็คือ แทนที่จะเห็นผี ผมกลับเห็น “หุ่นยนต์” อยู่นอกหน้าต่าง ตอนแรกไม่แน่ใจว่ามันคือผีอำหรือปล่าว เพราะไม่เห็นมีผีเลย ก็เลยทำการหาข้อมูล พบว่ามันสามารถอธิบายได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ มันเป็นอาการที่สมองเราตื่น แต่ร่างกายไม่ตื่น สิ่งที่เราเห็น, ได้ยิน, หรือสัมผัสในช่วงโดนผีอำนั้น เราสร้างขึ้นมาในหัวทั้งสิ้น ตอนถูกผีอำ เราจะเห็นว่า เราอยู่ในห้องนอนที่เหมือนกับห้องเรา แต่จริงๆ แล้วห้องที่เห็นไม่ใช่สิ่งที่ตาเราเห็นจริงๆ แต่เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นในสมอง ถ้าเรารู้สึกกลัว แน่นอนว่าสมองก็จะสร้างภาพน่ากลัวขึ้นมา คนส่วนใหญ่พอเห็นว่าตัวเองขยับไม่ได้ เป็นเรื่องปกติที่จะกลัว แต่ความกลัวนั้นทำให้เราจินตนาการถึงสิ่งที่น่ากลัวด้วย สมัยนั้นรู้สึกกำลังบ้าพวกกันดั้มผมเลยเห็นเป็นหุ่นยนต์
ต่อมา โตขึ้นอีกหน่อย ได้ยินเพื่อนพูดถึงลูซิด ดรีมหรือการควบคุมความฝัน ก็เกิดสนใจขึ้นมา เพราะมันน่าสนุก ก็เลยลองค้นคว้าจากอินเตอร์เน็ตและลองฝึกดู แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า เป็นคนจำความฝันไม่ได้ (จริงๆ แล้วทุกคนฝันหมดนะครับ ฝันคืนหนึ่งหลายเรื่องด้วย แต่พวกที่คิดว่าไม่ฝัน ก็คือคุณจำฝันไม่ได้) เลยลองหาข้อมูลดู ซึ่งวิธีนั้นก็ไม่ยากครับ แค่ก่อนนอนตั้งใจ และบอกกับตัวเองว่า เราจะจำฝันของตัวเองให้ได้ ซึ่งผมก็จำได้จริงๆ พอพอจะจำความฝันได้เลย ก็เริ่มลองฝึก Lucid Dream
วิธีหนึ่งที่ลองก็คือ การบันทึกความฝัน หรือการเขียน Dream Journal จำได้เลยว่าครั้งแรกที่เริ่มเขียน ก่อนนอนเตรียมสมุดและปากกาไว้ข้างๆ เตียง ตามคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ ตื่นขึ้นมาปุ๊บให้เขียนเลย เพราะหลังจากนั้นแล้วเราจะอาจจะจำไม่ได้ ผมก็ทำตามครับ ฝันแรกตื่นขึ้นมา รีบเขียนเลยกลัวลืม แต่ยังรู้สึกง่วง เลยนอนต่อ ซึ่งก็ฝันอีก พอตื่นขึ้นก็เขียนอีก แล้วก็ยังรู้สึกอยากนอนต่อ เป็นอย่างนี้ประมาณ 7 ฝันอ่ะครับ โดยที่บันทึกไว้ทั้งหมด พอตื่นขึ้นมาจริงๆ ลองดูบันทึกความฝันของตัวเอง ปรากฏว่า ที่ได้บันทึกจริงๆ มีแค่ 3 ฝันครับ บันทึกที่เหลือคือเขียนในความฝัน ไม่ได้เขียนจริงๆ ตอนนั้นรู้สึกเหมือนอยู่ในหนังพวก Inception หรือ The Matrix มาก เพราะแยกความฝันกับความจริงไม่ออก ปะปนกันมั่วไปหมด
เขียนไปได้สักอาทิตย์หนึ่งก็ขี้เกลียด เหอๆ แต่ก็ได้พบวิธีที่ทำให้เราลูซิด ดรีมได้ ต้องขอบอกนะครับ วิธีทำให้เกิดลูซิดดรีม ที่ได้ผลของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกัน ของผมก็คือ ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ช่วง 6:30 ถึง 7:00 (เป็นคนนอนตื่นสายครับ แฮะๆ) พอตื่นขึ้นมาแล้ว รีบนอนต่อเลย แต่ตอนนอน พยายามควบคุมสติให้ดี ไม่ให้สมองหลับไปพร้อมกับร่างกาย เพราะตอนที่เราตื่นใหม่ๆ ร่างกายเราตื่นไม่เต็มที่ สามารถกลับไปสู่สภาพเป็นอัมภาสในตอนนอนได้ง่าย ก็คือเป็นวิธีที่ทำให้ร่างกายหลับแต่สมองตื่น ผมลองวิธีนี้ 7 วัน ทำลูซิดดรีมได้ 6 วัน บางวันได้มากกว่า 1 ครั้งด้วย
การทำลูซิดดรีมให้เกิดขึ้นนั้น ไม่ยากเท่ากับการรักษาความฝันให้คงอยู่ครับ เพราะถ้าเราตื่นเต้นเกินไป ก็จะทำให้ตื่นได้ ผมทำได้เฉลี่ยแล้วประมาณ 2-5 นาทีเท่านั้นเอง เป็นเพราะสมาธิยังไม่นิ่งพอ เลยไม่ได้ลองหรือสำรวจอะไรมาก คนที่เก่งๆ เขาทำได้ 1-2 ชั่วโมง ถ้าทำได้เป็นขนาดนั้นคงจะสนุกน่าดู
ลูซิดดรีมทั้งหมดของผม จะเริ่มที่ผมนอนอยู่บนเตียงในห้องนอน ช่วงเวลาเกือบๆ สว่าง แต่ตอนลุกขึ้นมาจากเตียงจะต่างกัน บางครั้ง ตอนแรกจะขยับไม่ได้ เหมือนโดนผีอำ แต่ลองตั้งสติให้ดี และจินตนาการให้ตัวเองยืนขึ้น ก็จะยืนได้เอง เมื่อเดินออกมาจากเตียง บางทีหันกลับไปก็จะเห็นร่างตัวเองนอนอยู่คล้ายๆ กับถอดจิต บางทีก็ไม่เห็น บางครั้ง ก็ลุกขึ้นมาจากเตียงเหมือนกับที่ร่างกายทำปกติเลย พอยืนขึ้นได้แล้ว ส่วนมากก็จะไม่แน่ใจว่าตัวเองฝันอยู่หรือปล่าว เพราะมันเหมือนจริงมาก วิธีหนึ่งที่จะพิสูจน์ก็คือบีบจมูกตัวเอง และลองหายใจดู ถ้ายังหายใจได้ แสดงว่าฝันอยู่
เมื่อออกจากห้องไป ก็เห็นเป็นบ้านของตัวเองนี่แหละครับ เหมือนกับของจริง ฝันทุกครั้งก็จะลองทำโน้นทำนี่ดู เราสามารถทำได้เหมือนชีวิตจริงเกือบทุกอย่าง ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ยังอยู่ครบ สามารถรับรู้ถึงความหนาวเย็น ความแข็งของกำแพง เคยกินช็อคโกแล๊ตในตู้เย็น ลองดื่มโค้กด้วย ก็สามารถรับรสชาติได้ รู้สึกถึงอาหารตกถึงท้องตามปกติ ครั้งหนึ่งเดินผ่านห้องนั่งเล่น เห็นแม่นั่งดูทีวีอยู่ เกือบเข้าไปคุย แต่ไม่เอาดีกว่า เคยลองบินด้วยครับ แต่บินไม่ได้ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร เคยลองกระโดดจากโต๊ะเพื่อบินดู ก็ไม่ได้ครับ สะดุ้งตื่น ข้อดีอย่างหนึ่งของการลูซิดดรีมก็คือจะหกขเมนตีลังกายังไง เราก็ไม่มีทางเจ็บ แต่เราจะตื่น
ออกมานอกบ้าน ก็เหมือนกันนอกบ้านเราปกติ มีคนเดินไปมาประปราย แตกต่างกันที่อากาศ ในความเป็นจริง ถึงแม้จะตอนเช้า ก็จะค่อนข้างร้อน แต่ในฝันจะเย็นสบายมาก อาจเป็นเพราะเป็นคนชอบอากาศแบบนี้ มีอยู่ครั้งหนึ่ง เบื่อเพราะไปๆ มาๆ ได้แต่แถวบ้าน อยากไปที่อื่นบ้าง เลยลองหลับตา และบอกกับตัวเองว่า ไปญี่ปุ่น รู้สึกมันกับวาร์ปไปอีกที่ เมื่อลืมตาขึ้น พบว่าตัวเองอยู่หน้าตึกอะไรบางอย่างที่ใหญ่มาก ลองเดินเข้าไปดู ไม่มีคนสักคน แต่ก็ไม่ได้สำรวจอะไรมาก เพราะตื่นก่อน
ไม่คิดว่าจะเขียนยาวขนาดนี้ โทษทีครับ แล้วเพื่อนๆ ชาวพันทิพล่ะครับ ถ้ามีประสบการณ์ลูซิดดรีม หรือเคยฝึกทำวิธีไหนได้ผล รบกวนเล่าสู่กันฟังด้วยนะครับ อาจจะได้ร่วมฝึกไปพร้อมๆ กัน